เหตุใด ในอดีตคนไทยนิยมไปเรียนที่สหรัฐฯมากกว่าฝั่งอังกฤษครับ ในขณะที่แนวโน้มยุคปัจจุบันผันแปรไปทางตรงกันข้าม?

ตามหัวข้อเลยนะครับ

คือ ผมสังเกตมาสักระยะ โดยเฉพาะข้าราชการ บรรดาอาจารย์ ที่ในอดีต ก.พ. มักจะนิยมส่งข้าราชการไปเรียนต่อที่สหรัฐอเมริกากัน หรือในขณะเดียวกัน เทรนด์ ของคนไทยที่มีฐานะในยุคราวๆ 2500-2540s ก็มักจะไปเรียนต่อป.โทที่สหรัฐฯ ซึ่งใช้เวลาเรียน 2 ปีมากกว่า UK ซึ่งเรียนเพียงปีเดียว หรือไปเรียนป.ตรีที่นั่นเลย แม้ว่าจะเป็นสถาบันที่ไม่มีชื่อเสียงโดดเด่นมากเท่ากับฝั่งอังกฤษก็ตาม (อย่างในอดีต เมื่อ 20 ปีก่อนนี่ หาคนที่รู้จักชื่อ UCL, King's College London, Imperial, CASS, Warwick, Edinburgh, Glasgow, Aberdeen, Durham etc แทบไม่เจอ (แต่ก็ใช่ว่าไม่มีนะครับ) ผู้ใหญ่ที่เป็นข้าราชการระดับสูงๆที่สนิทกับญาติผมท่านยังไม่รู้จักบางสถาบันที่กล่าวมา...? หาข้าราชการไทยระดับสูง C9-11 ที่จบจากสถาบันดังกล่าวได้ค่อนข้างน้อย ขณะที่ฝั่ง นักการเมืองหลายๆท่าน เท่าที่ผมไปสืบประวัติมา ก็จบจากฝั่งอเมริกา "มากกว่า" ฝั่งอังกฤษเสียทั้งสิ้น จะมีฝั่งอังกฤษก็ระดับ Top อย่างคุณกร จาติกรวณิช คุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นพดล ปัทมะ แต่ถ้าระดับยูกลางๆ ก็ค่อนข้างน้อยครับ)

คนที่เกิดสัก พ.ศ. 2500-2520s กว่าๆ น่าจะพอเห็นภาพนะครับ ว่าสมัยนั้น การไปเรียนต่อป.โทที่อเมริกานั้น "บูม" กว่าการเรียนต่ออังกฤษ

เป็นไปได้ไหมว่า มหาวิทยาลัยฝั่งอังกฤษเข้ามาทำ "ตลาด" หานักเรียนต่างชาติในเอเชียมากขึ้น และในขณะเดียวกัน ชนชั้นกลางในสังคมไทยเราขยายตัวสูงขึ้น และมีศักยภาพในการส่งเสียบุตรหลานไปเรียนยังอังกฤษมากขึ้น? หรือในอดีต อเมริกามีนโยบายส่งเสริมให้นักเรียนต่างชาติเข้าไปศึกษาในสหรัฐฯ หรือรัฐบาลไทยสนับสนุนงบประมาณในการส่งเสริมเรื่องนี้เสียเอง หรือเพราะ "ค่าเงิน" หรือเพราะเป็น "ค่านิยม" ในสมัยนั้น
แก้ไขข้อความเมื่อ

คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 18
ปี 2560
http://www.ocsc.go.th/sites/default/files/document/600131-total_0.pdf

ปี 2551
http://www.ocsc.go.th/sites/default/files/document/510101-total51.pdf

สถิติของภาครัฐ (ทุน)

ระยะเวลาเพียง 9ปี (เปรียบเทียบระหว่างปี 2551 และ 2560) เทรนด์ เริ่มเปลี่ยน ตอนนี้ทางฝั่ง UK รู้สึกว่า จำนวนนักเรียนไทยที่ไปศึกษาต่อมีจำนวนมากขึ้นเมื่อเทียบกับฝั่ง US ยกเว้นทุนบางหน่วยงานที่ยังคงเทรนด์เดิมอยู่ เช่น ทุนคิง (ทุนเล่าเรียนหลวง) ที่นักเรียน/ผู้รับทุนยังนิยมเลือกไปศึกษาต่อที่สหรัฐฯมากกว่า

ผมมีข้อสังเกตว่า ใน US นั้นสายวิทยาศาสตร์ (น่าจะ) โดดเด่น เพราะบรรดาทุนจากสายวิทยาศาสตร์ ต่างส่งไปเรียนที่ US หรือนักเรียนผู้รับทุนนิยมเลือกไป US กันเป็นจำนวนมาก ในขณะที่สายสังคมศาสตร์ (อาทิ กฎหมาย รัฐศาสตร์ เศรษฐศาสตร์) ผมกลับคิดว่า ระหว่าง UK และ US ไม่ได้ต่างกันมากอย่างมีนัยยะ แต่ก็ยอมรับว่า โรงเรียน/มหาวิทยาลัยทางฝั่ง US ที่มีชื่อเสียงทางสายสังคมศาสตร์มีจำนวนที่มากกว่าฝั่ง UK (ดังนั้นผมก็คิดว่า การเรียนในฝั่ง UK ในสถาบันชั้นนำก็มีมาตรฐานเพียงพอไม่น่าแตกต่างกันกับฝั่ง US เท่าไรนักในสายสังคมศาสตร์)

ปล. การตั้งกระทู้ของผมไม่ได้มีเจตนาล่อเป้านะครับ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 5
ช่วงยุคสงครามเย็นทำให้อเมริกาเข้ามามีบทบาทในไทยอย่างมาก    ส่งผลให้ค่านิยมของคนไทยหันเหไปทางอเมริกาเป็นหลักครับ     การไปเรียนต่อก็เหมือนกันจากที่แต่เดิมคนไทยนิยมส่งลูกหลานไปเรียนในยุโรปก็หันมาเป็นส่งไปเรียนที่อเมริกาแทน    อย่างน้อยๆที่สุดส่งไปเรียนที่อเมริกากลับมาแค่บอกว่าจบจากอเมริกาก็มีความรู้สึกว่าโก้หรูกว่าจบจากอังกฤษมากแล้ว

ถ้าสังเกตดูคนไทยที่ไปเรียนในยุโรปมักจะได้แนวคิดแบบสังคมนิยมกลับมาพอสมควรเลย     แต่พอคนไทยไปเรียนที่อเมริกาก็จะได้แนวคิดแบบทุนนิยมกลับมาเต็มที่เหมือนกัน     คนที่ไปเรียนอเมริกามีน้อยมากที่จะได้แนวคิดสังคมนิยมกลับมา
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่