หรือรักแท้ในเกย์ไม่มีจริง

สวัสดีครับ ไม่รู้จะเริ่มยังงัย เพราะ เราก็ไม่เคยเขียนกระทู้อะไรแบบนี้ เราไม่ขอออกชื่อนะ (ชื่อที่ใช้ทั้งหมดเป็นชื่อสมมุตินะเพื่อไม่ให้งงกับเรื่องที่จะเล่า เพราะมีหลายคน )แต่จะพยายามเล่าให้ไม่งงนะ ^^
มันเป็นคำถาของความรักของ(เกย์) ใช่เราเป็นเกย์ ขอเล่าเนื้อๆเลยนะ เราใช้ชื่อแทนตัวเองว่า นัด
เริ่มต้นเรื่องราวความรัก ย้อนกลับไปเมื่อ 4ปีกว่าที่แล้ว ใช่ ความรักของผมมันยาวนานมาถึง4ปี ผมไม่เคยรักใครนานมากขนาดนี้ หลายคนคงรู้แหละความรักของเกย์ส่วนใหญ่มันเป็นยังงัย
มันเริ่มจากเราเลิกกับคนๆหนึ่ง(ชื่อตาม) เมื่อช่วงเมษาปี56 (ถ้าจำไม่ผิด) เลิกด้วยเหตุผลอันดับต้นๆของความรักเกย์ คือการมีคนใหม่ แน่นอนเราเสียใจ เพราะทุกครั้งที่เราคบใครคือเราจิงจังนะ จิงจังมาก แต่สุดท้ายเกือบทุกคนจะจบด้วยเหตุผลนี้ หลังจากเลิกกับตามได้ ประมาณอาทิตย์กว่า เราก็ตามดูเฟสตามว่าเค้าเป็นยังงัย คบกับคนนั้นเป็นยังงัย (ออลืมบอกอย่างหนึ่งเรามีรหัสเฟสบุคเค้า เค้าไม่น่าจะรู้ว่าเรารู้)
เราก็เลื่อนอ่านดูข้อความเก่าๆของเฟสบุคเค้า(นิสัยไม่ดีเลย55.) เราเลื่อไปเจอข้อความข้อความหนึ่ง เป็นบทสนทนาเก่าของตามกับแฟนเก่าเค้า  
เป็นข้อความสุดท้ายที่แฟนเก่าส่งหาตาม เนื้อหาประมาณแบบ หายไปไหนทิ้งเราทำไมเราทำอะไรผิด (ซึ่งมันยาวกว่านี้อันนี้ที่จำได้)
นัดก็เลยเข้าไปดูโปรไฟล์เค้าในเฟสบุค สิ่งแรกที่คิดเมื่อเปิดไป
"เห้ยย!!!เค้าหล่อขนาดนี้ตามทิ้งลงได้งัย" หลังจากนั้นเราก็ดูมาเรื่อยๆ จนวันหนึ่งเราได้ตัดสินใจ อยากคุยกับแฟนเก่าตามว่า
"ทำไมถึงเลิกกัน อยากรู้ว่าเลิกเพราะอะไรเหมือนเราไหม" (ไม่มีอะไรในก่อไผ่ อยากรู้จิงๆว่าเลิกเพราะอะไร) เราตัดสินใจทักกัสผ่านเฟสบุคไป ใช่เค้าชื่อกัสแฟนเก่าตาม มันเริ่มคำทักไปว่า "เราชื่อนัดนะ เป็นแฟนเก่าตาม" หลังจากนั้นเราก็ถามกัสเกี่ยวกับสาเหตุที่เลิกกับตาม (ซึ่งเป็นเหตุผลคล้ายๆกัน) เราเริ่มทักกัสไปบ่อยขึ้น จากสามวันครั้ง เป็นทุกวัน(คิดว่ารักกัสแล้วใช่ไหม "ยังครับ") เราคุยเป็นเพื่อนกันมาเดือนกว่า
จนมาวันหนึ่งวันที่เราทั้งสองคนเผลอใจ เราได้นัดเจอกันที่โรงหนังแห่งหนึ่งแถวฝั่งธน
ความรู้สึกตอนเจอกัสครั้งแรก ก็ไม่ได้พิเศษอะไรก็เป็นเกย์คนหนึ่ง แต่ตอนนั้นคือเค้าก็หล่ออะนะ เราสองคนตัดสินใจดูหนัง ละก็ไปเที่ยวผับต่อด้วยกัน
ข้ามเรื่องคืนวันนั้นไป(ตัดภาพมา)ห้องนอนบ้านกัส เราถามกัสว่า ตอนนี้เราเป็นอะไรกัน "ก็ป็นแฟนกันงัย" ผมได้แต่ยิ้ม และก็บอกกับตัวเองว่า
"รักครั้งนี้ต้องดีกว่า" ใช่ครับเราสองคนเป็นแฟนกัน เราเคยมีแฟนคนเดียวกัน (อดีตก็ปล่อยผ่านไป) ตอนนั้นทำไมผมถึงรักกัส ผมว่าเราคุยกันถูกคอทุกเรื่อง เข้ากันได้เกือบทุกเรื่อง อาจจะเป็นเพราะรักช่วงโปรโมชั่นด้วยแหละ 55555
...............................................................................................................................................................................................
ทุกอย่างช่วงนั้นดีทุกอย่าง ก็เหมือนความรักของคนอื่นทั่วไปช่วงนั้นผมไปนอนบ้านกัสทุกวัน จะกลับบ้านตัวเองช่วงเสาอาทิต ตอนนั้นผมยังเรียนและก็ทำงานไปด้วย กัสก็ยังเรียนอยู่ ความรักตอนนั้นคือเป็นอะไรที่ดีมากหวานกันแบบหวานมาก ผมใช้ชีวิตอย่างนี้มาประมานปีกว่า จ-ศ เรียน ทำงาน นอนบ้านกัส เสา-อา กลับบ้าน เราคบกันมาปีกว่า จนมาวันหนึ่งถ้าจะไม่ผิดเป็ช่วงกลางปี(มั้งนะ) เรากลับมานอนบ้าน เราได้ขอความจากกัส "เธอแบตโทรศัพท์เค้าใกล้หมดเค้าปิดเครื่องนะ กำลังจะขึ้นรถตู้กลับบ้าน เดียวถึงแล้วจะไลน์บอกนะ" เราก็ไม่ได้อะไร (ก็มันเป็นชีวิตประจำวันคุยทุกวัน)
แต่ ด้วยบุญกรรมที่ทำมาหรืออะไรไม่รู้นะ ช่วงนั้นไลน์บนคอมกำลังเข้ามา(ถ้าจำไม่ผิด) เราก็ออนไลน์บนคอมปกตินี่แหละ นันเกิดความคิดมา1แวบ
คือ "ลองออนไลน์ของกัสดูไหม " เราก็ลองซุ่มรหัสดูนี้แหละ ครั้งที่3 ดันเข้าได้(ช่วงนั้นระบบไลน์ยังไม่มีการป้องกันอะไรมาก) เราก็แอบกลัวนะ
ถ้าเปิดเจออะไรที่ไม่ควรเจอ แต่สุดท้ายเหมือน ฟ้าต้องการพิสูจน์ เราเห็นข้อความ ข้อความหนึ่ง เป็นการนัดเจอของอีกฝ่ายกับกัส ข้อความเป็นการ
หยอก หยอด กันไปมา สุดท้ายของข้อความนั้นคือ การนัดเจอที่ห้อง ของอีกฝ่าย ..................................................................................
สิ่งที่ผมทำได้คือ ร้องไห้ ใช่ ผมร้องไห้อยู่หน้าคอม ทำอะไรไม่ถูก ทิ้งระยะเวลาไม่นาน กัสไลน์มา บอกว่าถึงบ้านแล้ว บลาๆๆ ผมก็ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทุกอย่างปกติ  ผมนอนร้องไห้จนเช้า ผมตัดสินใจว่า ผมต้องไปเจอและบอกเลิกเค้า ผมตัดสินใจ ไปที่ทำงานเค้า (เค้าทำงานพาทไทม์และก้อเรียนไปด้วย) โดยที่เค้าก็ไม่รู้ว่าผมจะไปหาเค้า ผมนั่งแอบอยู่ข้างที่ทำงานเค้า ผมส่งข้อความไปหาเค้า "ขอบคุณสำหรับของขวัญ"พร้อมแนบภาพที่แคปมาจากคอม เค้าพยายามโทหาผม ผมตัดสายทิ้ง ผมเดินเข้าไปหาเค้า ปาแหวนคู่ที่ใส่ด้วยกัน ให้เค้า(ดูจากละครมา55) เค้าพยามวิ่งเข้ามาจับผม แล้วบอกให้ผมตั้งสติ(ตอนนั้นผมโวยวายมาก) เดียวมาเล่าต่อนะ อันนี้แค่ 1ใน4 เท่านั้น ยังอีกยาว
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่