***ผมใช้ล็อกอินภรรยามาโพสนะครับ****
สวัสดีครับวันนี้ผมอยากมาแชร์ประสบการณ์บรรเทาอาการภูมิแพ้ ภูมิแพ้ขึ้นตา ปวดร้อน คันตา
ไม่หายขาดแต่ช่วยให้มีชีวิตปกติสุขขึ้นได้ การรักษาของผมจะไม่เน้นที่การทานยาจะให้รักษาสุขภาพและออกกำลังกายเป็นหลัก
เพราะการทานและหยอดยาบ่อยๆจะมีผลต่อร่างกายของเราในระยะยาวเช่น มีผลต่อ ตับ และไต รวมถึงกระจกตาบาง
และเป็นต้อในอนาคตด้วย ก่อนอื่นขอเริ่มเล่าเรื่องจากประสบการณ์ของผมก่อนนะครับ ตัวผมเองตอนนี้
อายุได้ 38 ปีต้องทนทุกข์กับการเป็นภูมิแพ้มาประมาณ 30 ปีได้โดยอาการแพ้ที่รุนแรงมีอยู่ 2 ครั้งต้องนอนห้อง ICU ทั้ง 2
ครั้งจะมีอาการหายใจไม่ออกและใบหน้าจะบวม ก็รักษาตามอาการมาเรื่อยๆ จนมารักษาจริงจังตอนอายุเริ่มขึ้น 30 นี่แหละครับ
เพราะอาการภูมิแพ้จะทวีเลเวลความรุนแรงขึ้นตามอายุของเราที่มากขึ้น ได้แก่ ภูมิแพ้ พอเป็นหนักๆโพลงไซนัสก็อักเสบ
ต่อจากนั้นก็เริ่มขึ้นมาที่ตา ปวดร้อนที่ตา คันตา ตาแห้ง และไม่มีวันรักษาให้หายขาดได้นอกรักษาสุขภาพให้กดอาการเอาไว้
อาการภูมิแพ้จะแสดงออกได้ 3 ทางคือ 1.ทางเดินหายใจ 2.ทางผิวหนัง และ 3.ทางเดินอาหาร ส่วนการออกอาการมีทั้งแบบ
ฉับพลันและแบบสะสม ของผมเป็นอย่างหลังซึ่งจะค่อนข้างอันตรายเพราะจะแสดงอาการหลังรับสิ่งเร้าภูมิแพ้เข้าไป 2 ชั่วโมง
4 ชั่วโมง 8 ชั่วโมง ก็ไม่อาจรู้ได้
1. สิ่งแรกที่ผมอยากให้ทำก่อนเมื่อรู้ว่าตัวเองเป็นภูมิแพ้คือ skin test ครับจะทำให้เรารู้ได้ว่าต้องหลีกเลี่ยงอะไรบ้าง
คนที่มีอาการเป็นหวัดบ่อยๆจมูกชื้นๆ ท้องเสียบ่อยๆ ตลอดจนอาการของสิว ผื่น ที่ขึ้นตามใบหน้าและลำตัวที่รักษาเท่าไรก็ไม่หาย
ลองไปทำ skin test ดูก่อนครับ การทำ skin test มีตั้งแต่หลักพัน หลักหมื่น ก็เลือกกันเองเลยครับส่วนที่ผม
ทำเป็น test เล็กมี 24 อย่างที่คลินิกภูมิแพ้ทั่วไป 2000 กว่าบาทส่วนใครที่อยากได้แบบละเอียดก็ test 200
กว่าอย่างแต่ก็หลักหมื่นเลยครับการหลีกเลี่ยงของที่แพ้ก็ลดอาการได้ในระดับหนึ่ง
2. การออกกำลังกายและการพักผ่อนให้เพียงพอ การออกกำลังกายของผมคือการ โยคะ ส่วนใครอยากออกแบบอื่นก็ตามสะดวกครับ
แต่ผมจะเน้นที่โยคะเพราะมีหลายท่าที่ช่วยด้านโรคภูมิแพ้โดยตรงแต่การเล่นโยคะแนะนำให้หาครูดีๆสอนในช่วงแรกครับเพราะผม
เคยทำตามคลิป Utube แล้วเกิดอาการปวดหลังก็แต่พอดีคนรู้จักสอนโยคะเลยให้มาสอนตอนนี้หายปวดแล้ว ส่วนใครที่สนใจ
ก็ลองไปเรียนดูครับสัก 2-3 เดือนพอจำท่าได้แล้วก็กลับมาทำที่บ้านหรือถ้าติดใจจะเรียนต่อก็ตามสะดวกครับ
3. อันนี้สำคัญสำหรับผู้ที่ภูมิแพ้ขึ้นตาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ผมใช้ทั้งยาพ่น ยาหยอด ยาป้าย ยาทาน กลับเป็นมากขึ้นเรื่อยๆ
จนได้มาดูคลิปทาง Utube คลิปหนึ่งคือสิ่งที่เรียกว่า ชลเนติ หรือ ธาราเนติแล้วแต่จะเรียก เป็นการล้างด้วยของเหลวหลาย
อย่างแต่กรณีของผมจะพูดคือน้ำเกลือ น้ำเกลือจะมาจากน้ำต้มสุกผสมเกลือบริโภคเอง หรือถ้าซื้อน้ำเกลือตามร้านขายยา
ก็ควรจะเพิ่มเกลือลงไปสักหน่อยเพราะผมเคยใช้แล้วไม่ได้ผลเท่าไรเพราะน้ำเกลือตามร้านจะทำให้มีความเข้มข้นให้เท่าของเหลว
ในร่างกายคน การเพิ่มปริมาณเกลือต้องกะเอาเองครับตามสภาพของร่างกายแต่ละคนให้ฆ่าเชื้อหรืออะไรสักอย่างที่ทำให้เราแพ้ใน
โพรงจมูกได้แต่ก็ไม่ให้เกิดการละคายเคืองจนเกินไปการล้างจมูกด้วยชลเนติมีอยู่ 3 อย่างผมใช้วิธีที่ง่ายที่สุดคือการใช้กาเนติส่วน
วิธีอื่นผมไม่ขอพูดถึงนะครับ เมื่อล้างจมูกเสร็จผมจะเอาน้ำออกด้วยท่า ลุกขึ้นยืนเข้าท่าพับตัว หรือ ท่ายืนก้ม Uttanasana
หรือท่านใดมีท่าอื่นก็ตามสะดวกเพราะท่านี้สำหรับผู้มีความชำนาญบ้างแล้ว ส่วนเรื่องความถี่ของการล้างก็ตามแต่ความหนักเบาของ
แต่ละท่านของผมช่วงแรกๆประมาณ 3 ครั้งต่อวันตอนนี้ลดลงเหลือ 1-2 ครั้งต่อวันครับ
ขออณุญาติแปะคลิปนะครับมี 2 คลิปนะครับ
https://www.youtube.com/watch?v=oV8-64h7eXY
https://www.youtube.com/watch?v=W1CkNIfz46Y
ปล. ผลการรักษาจะมากจะน้อยก็แล้วแต่สภาวะร่างกายของแต่ละท่านครับนี่เป็นแค่ทางเลือกในหลายๆวิธีในการบรรเทาอาการเจ็บป่วยจากภูมิแพ้ที่ผมพบเจอมาหลายสิบปีหวังว่าคงจะมีประโยชน์กับหลายๆท่านไม่มากก็น้อยนะครับนะครับ
การบรรเทาอาการภูมิแพ้ ภูมิแพ้ขึ้นตา ปวดร้อน คันตา ไม่หายขาดแต่ช่วยให้มีชีวิตปกติสุขขึ้นได้
สวัสดีครับวันนี้ผมอยากมาแชร์ประสบการณ์บรรเทาอาการภูมิแพ้ ภูมิแพ้ขึ้นตา ปวดร้อน คันตา
ไม่หายขาดแต่ช่วยให้มีชีวิตปกติสุขขึ้นได้ การรักษาของผมจะไม่เน้นที่การทานยาจะให้รักษาสุขภาพและออกกำลังกายเป็นหลัก
เพราะการทานและหยอดยาบ่อยๆจะมีผลต่อร่างกายของเราในระยะยาวเช่น มีผลต่อ ตับ และไต รวมถึงกระจกตาบาง
และเป็นต้อในอนาคตด้วย ก่อนอื่นขอเริ่มเล่าเรื่องจากประสบการณ์ของผมก่อนนะครับ ตัวผมเองตอนนี้
อายุได้ 38 ปีต้องทนทุกข์กับการเป็นภูมิแพ้มาประมาณ 30 ปีได้โดยอาการแพ้ที่รุนแรงมีอยู่ 2 ครั้งต้องนอนห้อง ICU ทั้ง 2
ครั้งจะมีอาการหายใจไม่ออกและใบหน้าจะบวม ก็รักษาตามอาการมาเรื่อยๆ จนมารักษาจริงจังตอนอายุเริ่มขึ้น 30 นี่แหละครับ
เพราะอาการภูมิแพ้จะทวีเลเวลความรุนแรงขึ้นตามอายุของเราที่มากขึ้น ได้แก่ ภูมิแพ้ พอเป็นหนักๆโพลงไซนัสก็อักเสบ
ต่อจากนั้นก็เริ่มขึ้นมาที่ตา ปวดร้อนที่ตา คันตา ตาแห้ง และไม่มีวันรักษาให้หายขาดได้นอกรักษาสุขภาพให้กดอาการเอาไว้
อาการภูมิแพ้จะแสดงออกได้ 3 ทางคือ 1.ทางเดินหายใจ 2.ทางผิวหนัง และ 3.ทางเดินอาหาร ส่วนการออกอาการมีทั้งแบบ
ฉับพลันและแบบสะสม ของผมเป็นอย่างหลังซึ่งจะค่อนข้างอันตรายเพราะจะแสดงอาการหลังรับสิ่งเร้าภูมิแพ้เข้าไป 2 ชั่วโมง
4 ชั่วโมง 8 ชั่วโมง ก็ไม่อาจรู้ได้
1. สิ่งแรกที่ผมอยากให้ทำก่อนเมื่อรู้ว่าตัวเองเป็นภูมิแพ้คือ skin test ครับจะทำให้เรารู้ได้ว่าต้องหลีกเลี่ยงอะไรบ้าง
คนที่มีอาการเป็นหวัดบ่อยๆจมูกชื้นๆ ท้องเสียบ่อยๆ ตลอดจนอาการของสิว ผื่น ที่ขึ้นตามใบหน้าและลำตัวที่รักษาเท่าไรก็ไม่หาย
ลองไปทำ skin test ดูก่อนครับ การทำ skin test มีตั้งแต่หลักพัน หลักหมื่น ก็เลือกกันเองเลยครับส่วนที่ผม
ทำเป็น test เล็กมี 24 อย่างที่คลินิกภูมิแพ้ทั่วไป 2000 กว่าบาทส่วนใครที่อยากได้แบบละเอียดก็ test 200
กว่าอย่างแต่ก็หลักหมื่นเลยครับการหลีกเลี่ยงของที่แพ้ก็ลดอาการได้ในระดับหนึ่ง
2. การออกกำลังกายและการพักผ่อนให้เพียงพอ การออกกำลังกายของผมคือการ โยคะ ส่วนใครอยากออกแบบอื่นก็ตามสะดวกครับ
แต่ผมจะเน้นที่โยคะเพราะมีหลายท่าที่ช่วยด้านโรคภูมิแพ้โดยตรงแต่การเล่นโยคะแนะนำให้หาครูดีๆสอนในช่วงแรกครับเพราะผม
เคยทำตามคลิป Utube แล้วเกิดอาการปวดหลังก็แต่พอดีคนรู้จักสอนโยคะเลยให้มาสอนตอนนี้หายปวดแล้ว ส่วนใครที่สนใจ
ก็ลองไปเรียนดูครับสัก 2-3 เดือนพอจำท่าได้แล้วก็กลับมาทำที่บ้านหรือถ้าติดใจจะเรียนต่อก็ตามสะดวกครับ
3. อันนี้สำคัญสำหรับผู้ที่ภูมิแพ้ขึ้นตาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ผมใช้ทั้งยาพ่น ยาหยอด ยาป้าย ยาทาน กลับเป็นมากขึ้นเรื่อยๆ
จนได้มาดูคลิปทาง Utube คลิปหนึ่งคือสิ่งที่เรียกว่า ชลเนติ หรือ ธาราเนติแล้วแต่จะเรียก เป็นการล้างด้วยของเหลวหลาย
อย่างแต่กรณีของผมจะพูดคือน้ำเกลือ น้ำเกลือจะมาจากน้ำต้มสุกผสมเกลือบริโภคเอง หรือถ้าซื้อน้ำเกลือตามร้านขายยา
ก็ควรจะเพิ่มเกลือลงไปสักหน่อยเพราะผมเคยใช้แล้วไม่ได้ผลเท่าไรเพราะน้ำเกลือตามร้านจะทำให้มีความเข้มข้นให้เท่าของเหลว
ในร่างกายคน การเพิ่มปริมาณเกลือต้องกะเอาเองครับตามสภาพของร่างกายแต่ละคนให้ฆ่าเชื้อหรืออะไรสักอย่างที่ทำให้เราแพ้ใน
โพรงจมูกได้แต่ก็ไม่ให้เกิดการละคายเคืองจนเกินไปการล้างจมูกด้วยชลเนติมีอยู่ 3 อย่างผมใช้วิธีที่ง่ายที่สุดคือการใช้กาเนติส่วน
วิธีอื่นผมไม่ขอพูดถึงนะครับ เมื่อล้างจมูกเสร็จผมจะเอาน้ำออกด้วยท่า ลุกขึ้นยืนเข้าท่าพับตัว หรือ ท่ายืนก้ม Uttanasana
หรือท่านใดมีท่าอื่นก็ตามสะดวกเพราะท่านี้สำหรับผู้มีความชำนาญบ้างแล้ว ส่วนเรื่องความถี่ของการล้างก็ตามแต่ความหนักเบาของ
แต่ละท่านของผมช่วงแรกๆประมาณ 3 ครั้งต่อวันตอนนี้ลดลงเหลือ 1-2 ครั้งต่อวันครับ
ขออณุญาติแปะคลิปนะครับมี 2 คลิปนะครับ
https://www.youtube.com/watch?v=oV8-64h7eXY
https://www.youtube.com/watch?v=W1CkNIfz46Y
ปล. ผลการรักษาจะมากจะน้อยก็แล้วแต่สภาวะร่างกายของแต่ละท่านครับนี่เป็นแค่ทางเลือกในหลายๆวิธีในการบรรเทาอาการเจ็บป่วยจากภูมิแพ้ที่ผมพบเจอมาหลายสิบปีหวังว่าคงจะมีประโยชน์กับหลายๆท่านไม่มากก็น้อยนะครับนะครับ