เราขอเดินออกมาเพราะคิดว่าเค้าไม่เคารพพ่อแม่เราที่บอกให้มาคุยเรื่องแต่งเพราะแม่เจอยาคุม (ต้องบอกก่อนว่าเราอายุ 28 ) แม่เลยเร่งให้แต่ง
ขอระบายก่อน
ที่เลือกจากไปครั้งนี้ไม่ใช่เพียงเพราะว่าเค้ามาแต่งเราช้าหรืออะไร แต่เพราะกลัวว่าไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ที่เค้าจะปล่อยมือเราไปอีกถ้าถึงวันที่แต่งงานรึแต่งงานกันไปแล้วเค้าปล่อยมือเราอย่างที่ผ่านมา คงเจ็บกว่าแน่ๆ ทุกครั้งที่เกิดปัญหามันจบด้วยการยอมแพ้ของเค้าทุกครั้งนี่แหละคือสิ่งที่กลัวยิ่งกว่าการไม่มีกำหนดแต่งงานอีก คนคนนึงจะสู้เพื่อคนคนนึงได้ก็ต้องมั่นใจว่าเค้าจะก้าวไปพร้อมกับเรา ไม่ทิ้งเรา แต่ทุกครั้งที่เกิดปัญหาที่เราทะเลาะมันเป็นแบบนั้นทุกคนั้ง เรารู้ว่าตัวเองมีส่วนผิดที่ชอบใจร้อน เมื่อใจเยนลงแล้วคุยกันรู้สึกผิดแต่อีกใจนึงรู้สึกว่ามันเกิดอะไรขึ้นเค้าเห็นเราสำคัญบ้างมั้ย จนมาเรื่องแต่งงานมันทำให้เราคิดว่าจะทำให้มีเค้าไปตลอดและแล้วเค้าก็บอกเลิกหลังจากที่คุยเรื่องแต่งไม่กี่วัน ใจสลายเลยความหวังว่าจะมีเค้าไปตลอดมันพัง..หลังจากนั้นบอกตัวเองมาเสมอว่าอย่าเอาชีวิตเราไปฝากไว้กับใครทั้งชีวิต เพราะวันที่เค้าจากไปเหมือนใจจะขาด แต่มันก็ไม่เป็นแบบนั้น เมื่อมีความหวังขึ้นมาอีกครั้ง และ....มันก็พังอีกครั้ง....
.......สุดทางแล้วหมดแล้วที่หวังไว้ ในใจคิดนะว่าเราบังคับให้เค้ามาอยู่กับเรามากไปทั้งๆที่เค้าบอกว่าไม่พร้อม แม่ซึ่งรักลูกสาวก็ยอมไม่ได้ที่เป็นแบบนี้อยากให้แต่งไวๆถึงกับยื่นขอเสนอว่าถ้าไม่เข้ามาคุยกับที่บ้านก็ไม่ต้องเจอ แต่แม่รู้มั้ย มันจบแล้ว....เค้าพูดว่าเค้าไม่พร้อมคุยเรื่องแต่งจะให้หนูทำยังไง ไม่อยากโทษว่าเป็นความผิดใคร อาจผิดที่เค้าไม่พูดและคุยกับเราให้เราสบายใจเลยเรื่องแต่งงานรึทำให้พ่อแม่เราสบายใจ อาจผิดที่เราไม่มั่นใจในตัวเค้าและกดดันเค้ามากไปเหมือนเราไม่เข้าใจเค้า เมื่อหาตรงกลางไม่ได้ ความรักก็ต้องจบ เพราะล้มแล้วไม่มีใครลุก หรือแม้แต่ฉุดมืออีกคนให้กลับมา... ความรักครั้งนี้ต้องจบ
แอบเสียดาย เราอยากได้อะไรเค้าหาให้ได้หมดแม้แต่เดินไปเลือกซื้อเสื้อผ้าผู้หญิงให้เราในห้างน่ารักมาก แต่สิ่งที่เค้าให้เราไม่ได้คือความสบายใจเค้าไม่เจ้าชู้เลยแต่ขี้น้อยใจ ง้อไม่ค่อยเป็น
**อยากถามทุกคนว่าเค้ารักเราจริงรึป่าว ทำไมเค้าไม่สู้เพื่อเราแต่ยอมแพ้ทุกครั้งที่เกิดปัญหา
แม่เร่งให้แต่งงานผู้ ชายไม่พร้อม แต่ไม่เข้ามาคุยให้ที่บ้านเราสบายใจได้แต่ฝากบอกเรามา
ขอระบายก่อน
ที่เลือกจากไปครั้งนี้ไม่ใช่เพียงเพราะว่าเค้ามาแต่งเราช้าหรืออะไร แต่เพราะกลัวว่าไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ที่เค้าจะปล่อยมือเราไปอีกถ้าถึงวันที่แต่งงานรึแต่งงานกันไปแล้วเค้าปล่อยมือเราอย่างที่ผ่านมา คงเจ็บกว่าแน่ๆ ทุกครั้งที่เกิดปัญหามันจบด้วยการยอมแพ้ของเค้าทุกครั้งนี่แหละคือสิ่งที่กลัวยิ่งกว่าการไม่มีกำหนดแต่งงานอีก คนคนนึงจะสู้เพื่อคนคนนึงได้ก็ต้องมั่นใจว่าเค้าจะก้าวไปพร้อมกับเรา ไม่ทิ้งเรา แต่ทุกครั้งที่เกิดปัญหาที่เราทะเลาะมันเป็นแบบนั้นทุกคนั้ง เรารู้ว่าตัวเองมีส่วนผิดที่ชอบใจร้อน เมื่อใจเยนลงแล้วคุยกันรู้สึกผิดแต่อีกใจนึงรู้สึกว่ามันเกิดอะไรขึ้นเค้าเห็นเราสำคัญบ้างมั้ย จนมาเรื่องแต่งงานมันทำให้เราคิดว่าจะทำให้มีเค้าไปตลอดและแล้วเค้าก็บอกเลิกหลังจากที่คุยเรื่องแต่งไม่กี่วัน ใจสลายเลยความหวังว่าจะมีเค้าไปตลอดมันพัง..หลังจากนั้นบอกตัวเองมาเสมอว่าอย่าเอาชีวิตเราไปฝากไว้กับใครทั้งชีวิต เพราะวันที่เค้าจากไปเหมือนใจจะขาด แต่มันก็ไม่เป็นแบบนั้น เมื่อมีความหวังขึ้นมาอีกครั้ง และ....มันก็พังอีกครั้ง....
.......สุดทางแล้วหมดแล้วที่หวังไว้ ในใจคิดนะว่าเราบังคับให้เค้ามาอยู่กับเรามากไปทั้งๆที่เค้าบอกว่าไม่พร้อม แม่ซึ่งรักลูกสาวก็ยอมไม่ได้ที่เป็นแบบนี้อยากให้แต่งไวๆถึงกับยื่นขอเสนอว่าถ้าไม่เข้ามาคุยกับที่บ้านก็ไม่ต้องเจอ แต่แม่รู้มั้ย มันจบแล้ว....เค้าพูดว่าเค้าไม่พร้อมคุยเรื่องแต่งจะให้หนูทำยังไง ไม่อยากโทษว่าเป็นความผิดใคร อาจผิดที่เค้าไม่พูดและคุยกับเราให้เราสบายใจเลยเรื่องแต่งงานรึทำให้พ่อแม่เราสบายใจ อาจผิดที่เราไม่มั่นใจในตัวเค้าและกดดันเค้ามากไปเหมือนเราไม่เข้าใจเค้า เมื่อหาตรงกลางไม่ได้ ความรักก็ต้องจบ เพราะล้มแล้วไม่มีใครลุก หรือแม้แต่ฉุดมืออีกคนให้กลับมา... ความรักครั้งนี้ต้องจบ
แอบเสียดาย เราอยากได้อะไรเค้าหาให้ได้หมดแม้แต่เดินไปเลือกซื้อเสื้อผ้าผู้หญิงให้เราในห้างน่ารักมาก แต่สิ่งที่เค้าให้เราไม่ได้คือความสบายใจเค้าไม่เจ้าชู้เลยแต่ขี้น้อยใจ ง้อไม่ค่อยเป็น
**อยากถามทุกคนว่าเค้ารักเราจริงรึป่าว ทำไมเค้าไม่สู้เพื่อเราแต่ยอมแพ้ทุกครั้งที่เกิดปัญหา