หน้าแรก
คอมมูนิตี้
ห้อง
แท็ก
คลับ
ห้อง
แก้ไขปักหมุด
ดูทั้งหมด
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
แท็ก
แก้ไขปักหมุด
ดูเพิ่มเติม
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
{room_name}
{name}
{description}
กิจกรรม
แลกพอยต์
อื่นๆ
ตั้งกระทู้
เข้าสู่ระบบ / สมัครสมาชิก
เว็บไซต์ในเครือ
Bloggang
Pantown
PantipMarket
Maggang
ติดตามพันทิป
ดาวน์โหลดได้แล้ววันนี้
เกี่ยวกับเรา
กฎ กติกา และมารยาท
คำแนะนำการโพสต์แสดงความเห็น
นโยบายเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล
สิทธิ์การใช้งานของสมาชิก
ติดต่อทีมงาน Pantip
ติดต่อลงโฆษณา
ร่วมงานกับ Pantip
Download App Pantip
Pantip Certified Developer
[CR] เชียงใหม่....ทริปล่ม!!!!
กระทู้รีวิว
รถไฟ
เที่ยวไทย
บันทึกนักเดินทาง
จังหวัดเชียงใหม่
รถโดยสาร
เมื่อมีกระทู้แรกแล้วอันที่สองจึงตามมา เหตุเกิดจากน้องสาวเราอยากไปเที่ยว....ส่วนเราก็อยากลองของใหม่ เลยชวนกันไปเชียงใหม่ รอบที่แปดแสนล้าน....นี่ก็เวอร์ไปอีก ครั้งนี้เราอยากลองนั่งรถไฟสายอุตราวิถีดูบ้าง (ปกติมิวชอบนั่งรถไฟมากกว่าเครื่องบินนะคะ สมัยก่อนอาศัยชั้น 3 เป็นหลัก เพราะทรัพย์จาง) อยากรู้ว่าที่เค้าเห่อกันมันเป็นยังไงบ้าง ออกตัวก่อนว่ารูปกระทู้นี้สู้อันเก่าไม่ได้นะคะ กรุณาอย่าประนาม >.<
ก่อนจะไปไหนได้จองตั๋วเลยจ้า มิวจองผ่านทางโทรศัพท์ 1690 โดยโทรไปและพนักงานรับสายเพียงอึดใจ ไม่ต้องนานจนหนังยานติดพื้นเหมือนโทรหา call center บางสิ่ง จองง่ายดีค่ะแค่มีชื่อ – นามสกุล และเลขบัตรประชาชน แต่ที่ไม่ค่อยชอบคือต้องพร้อมรับตั๋วในวันรุ่งขึ้นทันที รับที่หัวลำโพงถึง 4 ทุ่มส่วนสถานีอื่นรับได้ถึง 16.00 น. หน้าตาตั๋วก็ตามนี้ค่ะ
ผู้ร่วมชะตากรรมทริปนี้
พอถึงวันเดินทางเรามาถึงสถานีรถไฟประมาณ 17.30 น. รถไฟออก 18.15 น.ก็นั่งอยู่ตรงข้างรถไฟรอไปเรื่อยๆคือไม่รู้ว่าเค้าให้ขึ้นได้เลย 555 ลืมบอกว่าราคาค่าตั๋วเตียงล่าง 881 บาท เตียงบน 791 บาทนะคะ มิวใช้สิทธิ์อาวุโสยึดเตียงล่างเพราะขี้เกียจปีนบันได
หน้าตารถไฟส่วนตัวคิดว่ามันดูไม่ใหม่ แต่ข้างในก็ถือว่าเอี่ยมค่ะ มีน้ำให้ฟรีเตียงละ 1 ขวด ปลั๊กไฟ 1 จุดและไฟที่สามารถปรับได้สองระดับ ห้องน้ำไม่ได้ถ่ายมาให้ดูเพราะคิดว่าหลายคนคงได้เห็นจากกระทู้อื่นไปเยอะแล้วเนอะ
เจ้าหน้าที่จะมาปูที่นอนให้ช่วงประมาณทุ่มนึงนะคะ
ตู้เสบียงสะอาดดีค่ะ ที่นั่งน้อยไปนิด ส่วนอาหารก็เป็นอารมณ์เดินในเซเว่นหน้าบ้าน อดกินข้าวผัดรถไฟ
วันที่เราไปต่างชาติค่อนข้างเยอะค่ะ และคนไทยก็มีพอประมาณ ขาไปนี่ออกแนวหงุดหงิดเนื่องจากมีคนไทยกลุ่มนึงขึ้นมาละเสียงดังแบบไม่เกรงใจใครเหมือนเหมาโบกี้มา เช้าก็ยังเสียงดังทั้งที่หลายคนยังนอนอยู่เลยค่ะ กว่าจะสงบลงได้ต้องมีคุณป้าท่านหนึ่งออกปากว่า ไม่มีมารยาท....เสียงถึงได้เงียบลง ขาไประบุเวลาถึงในตั๋ว 07.15 น.แต่ถึงจริงเกือบแปดโมงเช้า
ทริปนี้มิวไม่ได้เช่ารถเพราะอยากลองรถคิวที่เชียงใหม่ว่าจะเป็นไงบ้าง พอแค่เรียกรถแดงที่สถานีรถไฟไปโรงแรมก็โดนไปคนละ 50 บาทแล้วค่ะ ครั้งนี้มิวเลือกพักที่เฮือนดิน กลิ่นไม้ พอดีมาพักครั้งสองแล้วค่ะ พี่ทอยและคุณแม่เจ้าของโรงแรมน่ารักค่ะ ขากลับคุณแม่เอาพวงมาลัยดอกมะลิมาให้ด้วย ห้องมีไม่เยอะมากและไม่วุ่นวายค่ะ ใครสนใจสอบถามไปทาง facebook ได้ค่ะ
วันแรกเราตั้งใจจะไปดอยสุเทพกับขุนช่างเคี่ยนกัน ก่อนอื่นก็ต้องกินข้าวมื้อแรกของวันที่ร้านก๋วยเตี๋ยว 3 บาทซึ่งอยู่ในซอยเดียวกับโรงแรมที่เราพัก โดยก๋วยเตี๋ยวมีทั้งหมูและเนื้อ แนะนำให้สั่งเนื้อดีกว่าค่ะได้ลูกชิ้นด้วย ส่วนหมูสะเต๊ะส่วนตัวคิดว่าพอกินได้ไม่ได้ตื่นเต้น และข้าวซอยก็โอเค คิดเงินออกมา 87 บาท
เดินทางไปดอยสุเทพโดยการเดินไปเรื่อยๆรอรถประจำทางไปขึ้นรถคิว สรุปเดินจนถึงกาดหลวงรถก็ไม่มาเลยขึ้นรถแดงไปลงที่หน้ามช.โดนไปอีกคนละ 30 บาท รถคิวขึ้นดอยสุเทพ 40 บาท/คน/เที่ยว ถ้าขึ้นขุนช่างเคี่ยน 200 บาท/คน/เที่ยว โดยขาลงถ้ามีเวลารถจะแวะที่บ้านม้งดอยปุย พระตำหนัก และพระธาตุดอยสุเทพให้ เราตัดสินใจเพื่อขึ้นไปดอยสุเทพอย่างเดียวค่ะ
คนเยอะจนตัดสินใจไหว้พระ แล้วมานั่งเม้าท์ที่ร้านกาแฟ พอลงมาก็เดินซื้อของกินด้านล่าง สตรอเบอร์รี่เป็นแก้วอร่อยดีค่ะ(ปกติไม่ชอบกินเท่าไหร่)
น้องก็เริ่มบ่นว่ามันเวียนหัว ดีที่ไม่ไปขุนช่างเคี่ยน (ส่วนตัวมิวเคยไปแล้วเลยไม่ตื่นเต้น) จากที่ตั้งใจว่ารุ่งขึ้นจะไปสะเมิงเลยต้องหยุดและเปลี่ยนแผนทุกอย่าง ลงมาจากดอยสุเทพโดยคิดว่าจะไป Art in paradise สุดท้ายคือหิวและมาจบที่ร้านส้มตำอุดร....ของกินต้องมาก่อน555
ร้านนี้ไม่มีอะไรจะพูดมากค่ะ อร่อยให้ตำหอยแครงชนะไปเลย ปลาร้าดีมากและไก่ย่างก็อร่อย ใครจะไปหาร้านใน google map เจอเลยนะคะอยู่ซ.ทานตะวัน
จากนั้นก็หมดวันไปเฉยๆโดยไม่ได้เที่ยวที่ไหนเลย 555 เหมือนเปลี่ยนที่นั่งเม้าท์มอยตามประสาสาวๆมากกว่า วันที่สองทริปล่มของเราจึงเกิดขึ้น จากที่จะไปดอยนั้นนี้ก็ต้องเปลี่ยนทางแทน วันนี้ด้วยความโมโหรถแดงที่แพงมหาศาล เลยใช้บริการ Grab Car แทน เรียกง่ายเรียกไวไม่มีค่าเรียกเพิ่ม เราเรียกรถไปที่ Art in paradise ใส่ code promotion จ่ายค่ารถเพียง 10 บาทเท่านั้น (ตอนแรกมีคนบอก uber ที่เชียงใหม่ถูกมาก สรุปคือมิวสมัครยากเลยหันมาซบ Grab แทน) หลังจากนั้นการเดินทางทั้งหมดใช้บริการ Grab ล้วนๆค่ะ #พูดเลยว่าเชียร์มาก
มาถึง Art in paradise ค่าเข้าคนละ 200 บาท ถ้าคนชอบถ่ายรูปมากๆน่ามา แต่ก็คิดว่าไม่ได้ตื่นเต้นอะไรมากมาย
จากนั้นเราก็เข้าสู่ทางที่เราถนัด เรื่องกินเรื่องใหญ่เลยไปตามหาของกินในเมืองกัน ร้านแรกคือ The Volcano อยู่หลังมช.นี่คือตามมาลอง Pocket Cheese Toast ซึ่งมิวว่าอร่อยดีค่ะ ส่วนอื่นๆก็อร่อย ยกเว้นชาแอปเปิ้ลโซดาไม่ค่อยชอบ คิดเงินมา 204 บาทราคาดีงาม
หลังจากกินขนมเสร็จ ด้วยความอยากกินขนมจีนลองถามน้องที่เชียงใหม่ได้คำตอบว่าใกล้มีร้านขนมจีนหล่มเก่า ห่างจากร้านที่เราอยู่ 500 เมตรเดินเข้าซ.บ้านใหม่หลังมอ ซอย7 ชอบเส้นขนมจีนที่นี่ ผักก็ให้ตักเองได้เลยค่ะ เราว่าแกงเขียวหวานกับน้ำยาอร่อยใช้ได้ แต่ไม่ค่อยชอบน้ำเงี้ยวเคยกินอร่อยกว่านี้ ส่วนส้มตำแนะนำว่าอย่าสั่ง มิวชิมคำเดียวแล้ววางเลย
ก็คิดว่าอิ่มแล้วแต่คือไหนๆก็ไหนๆเราต้องไปให้สุด ตรงซ.บ้านใหม่หลังมอ ซอย 4 มีร้านชื่อดงมาดาม ขายขนมหน้าตาน่ารัก รสชาติอร่อยและราคากันเอง แต่ส่วนตัวไม่ค่อยชอบที่นอกร้านต้นไม้เค้าปล่อยให้เหี่ยว และในร้านก็แอบมีฝุ่น แต่ถ้าคนชอบฟังเพลงยุด 50's มาที่นี่ไม่ผิดหวังค่ะ คือพอได้ยินเพลงในร้านมิวให้คะแนนทุกอย่างเต็ม
พออิ่มก็คิดว่าเราควรพักการกิน เดินทางกลับโรงแรมแล้วทิ้งตัว สุดท้ายมื้อคลาสสิคก็เกิดขึ้นปิดท้ายวันที่สอง นี่คือกินแค่สามคนจริงๆ
วันสุดท้ายเราตั้งเป้าว่าจะปั่นจักรยานไปไหว้พระ วันนี้จะกินให้น้อย....เลยยืมจักรยานที่โรงแรมมาปั่นเพื่อไปที่วัดเกตุการามกันค่ะ
บรรยากาศภายในวัดสงบ ร่มรื่น ข้างในวัดมีพิพิธภัณฑ์ของเก่าอยู่นะคะ ใครสนใจลองไปดูได้ผู้คนไม่พลุกพล่าน
สุดท้ายก็มาจบที่ Woo Cafe อยู่ดีส่วนตัวคิดว่าชากับ hot chocolate รสดีค่ะแต่ไม่ประทับใจเค้ก บรรยากาศร้านดีมาก
และเราก็ปั่นจักรยานไม่รอดเพราะรถเยอะ เลยต้องกลับมาคืนจักรยานแล้วเรียกรถไปกินก๋วยเตี๋ยวตำลึงที่นิมมาน ซ.1 ถูกและอร่อยค่ะแนะนำแห้งต้มยำ
เดินไปอีกนิดเพื่อชิมโรตีทิชชู่นิมมานซ.3 จะบอกว่าไม่อร่อยเท่าไหร่ ชอบโรตีใส่ไข่ในร้านมากกว่า แต่ราคาก็รับได้ค่ะ คิดเงินมา 185 บาทลด 10%
ถัดเข้ามาที่นิมมานซ.5 มาครั้งก่อนร้านปิดวันนี้เลยตามมาชิมไอศกรีมกดกริ่ง เป็นไอศกรีมผลไม้ถ้วยละ 25 บาทเลือกรสชาติแล้วหยอดเงินที่กล่องได้เลย แนะนำว่าลิ้นจี่อร่อยดีค่ะ
มีเวลาหลืออีกหน่อยก็เลยเดินไปร้านไปยาลใหญ่ อยู่ระหว่างนิมมานซ.13-15 เพื่อมาดูว่ามีขนมอะไรน่าสนใจ....ไหนว่าจะไม่กิน!!!! ที่นี่กาแฟอร่อยเลยค่ะเป็นแบบเอาน้ำกาแฟไปทำน้ำแข็งแล้วมีนมให้เทใส่ นมรสโยเกิร์ตก็แนะนำอร่อยดี ราคาน่าคบหา
แล้วเราก็หาซื้อสตรอเบอร์รี่ที่กาดหลวง พอดีเลยได้รถด่วนติดกลับมา ไม่ตั้งใจจะกิน --"
จากนั้นก็เรียก Grab ไปสถานีรถไฟ โดยไม่ต้องจ่ายค่าโดยสารซักบาทเพราะใช้โปรโมชั่นเหมือนเดิมค่ะ รถไฟออกเวลาเดิมค่ะ 6 โมงเย็นจากนั้นก็กลับมาตื่นเช้าอีกทีที่สถานีหัวลำโพง
กระทู้ยาวอีกแล้ว555 รูปทั้งหมดถ่ายโดย Samsung Note5 +สกิลการถือที่ติดลบนะคะ ยังไงไว้ไปเที่ยวแล้วมาเล่าให้ฟังใหม่เนอะ
ชื่อสินค้า:
เชียงใหม่
คะแนน:
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น
▼
กำลังโหลดข้อมูล...
▼
แสดงความคิดเห็น
กระทู้ที่คุณอาจสนใจ
ข่วยแนะนำที่ท่องเที่ยวเชียงใหม่3วัน2คืนหน่อยจ้าา
พอดีจะไปเชียงใหม่เสาร์หน้ากลับวันจันทร์ ขาไปได้ไฟท์เย็น 3โมงเลย ขากลับกลับไฟท์สุดท้าย แพลนคร่าวๆ วันเสาร์ - ถึง ชม. เชคอินโรงแรม art in paradise ถนนคนเดินวัวลาย วันอาทิตย์ - ดอยสุเทพ ดอยปุย พระตำหนั
สมาชิกหมายเลข 723973
เที่ยวเชียงใหม่
รบกวนสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับการไปเที่ยวเชียงใหม่ครั้งแรก 1. ถ้าเดินทางจากกรุงเทพ-เชียงใหม่โดย รถไฟไปถึงประมาณตี4-5 ควรจะไปที่ไหนดี (โรงแรมเช็คอินบ่าย2) พักย่านนิมมาน ควรจะไปไหนก่อนดีคะ 2. นั่งรถอะไรไปพ
สมาชิกหมายเลข 2808506
ช่วยจัดโปรแกรมทริป เชียงใหม่ ให้หน่อยคะ
เราจองตั๋ว โปร แอร์เอเซียได้ 5 คน 1,200 รวมค่าธรรมเนียม แล้วจองเพิ่มให้แม่อีก 1 คน รวมทริปนี้ 6 คน เดินทาง 16-18 สิงหาคม ตอนจองรีบมากเพราะกลัวเว็ปล่ม เจอวันไหนได้ไปก่อน 555555 เราได้ไฟร์ท 3 ทุ่ม กลั
สมาชิกหมายเลข 1055356
เที่ยวตัวเมืองเชียงใหม่มีเวลา 3 วันไปไหนดี
เนื่องจากโปรการบินไทยบินเดือนกันยา ได้มีโอกาสไปเชียงใหม่หน้าฝน สมาชิก 4 คน ไม่เช่ารถนะคะ อาศัยรถแดงอย่างเดียว ตอนนี้จองที่พักไว้แถวนิมมาน สถานที่คิดว่าจะไป 1.หาของกินแถวนิมมาน 2. art in paradise 3.
nuengcpe
รบกวนช่วยจัดทริปเที่ยงเชียงใหม่ 3 วัน 3 คืน ให้หน่อยครับ
พอดีจะไปเที่ยวเชียงใหม่ จองตั๋วเครื่องบินไว้เดือนหน้า เดินทางวันพฤหัสถึงเชียงใหม่ 7.40 น. กลับเช้าวันอาทิตย์ ผมว่าจะเช่ามอเตอร์ไซค์แต่ยังไม่รู้ว่าจะเช่าที่ไหน จองโรงแรมไว้ที่นิมมานครับ สถานที่จะไปก็
สมาชิกหมายเลข 910734
ยอดดอยอินทนนท์ 10 องศา สัญญาณเริ่มเข้าสู่ฤดูหนาว หมอกปกคลุม-สัมผัสไอเย็นสบาย
เชียงใหม่ สัญญาณเริ่มเข้าสู่ฤดูหนาว ยอดดอยอินทนนท์ 10 องศา หมอกลงปกคลุม อากาศปิด ชาวบ้านสัมผัสถึงไอเย็น สบายๆ 8 ก.ย. 68 – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศที่จังหวัดเชียงใหม่ หลายคนสัมผัสถึงไอเย็น
สมาชิกหมายเลข 6652492
ขอคำแนะนำทริปเชียงใหม่ 3 วัน 2 คืน เชียงดาว ดอยอินทนนท์ เมืองเชียงใหม่
ทริปเชียงใหม่ 3 วัน 2 คืน เชียงดาว ดอยอินทนนท์ เมืองเชียงใหม่ วันที่ 1 กรุงเทพ - เชียงใหม่ - เชียงดาว นั่งเครื่องบินจากดอนเมืองไปลงเชียงใหม่ จะไปไฟล์ทเช้าสุด 5.30 ไม่ก็ 7.30 ครับ จากนั้นจะหาอะไรกินนิด
สมาชิกหมายเลข 9001295
คุณชอบอะไรในย่าน "นิมมาน" เชียงใหม่ บ้างคะ
พอดีดูรายการ เดอะ สปูน แล้วแม่ชวนไปตามรอยข้าวซอยนิมมาน น่ะค่ะ ที่นั่นมีขายข้าวซอยกันหลายร้าน เรียกว่าขายของกินเยอะ และเป็นร้านนวดก็หลายร้าน มีโรงเรียนสอนภาษาบ้าง ที่เหลือน่าจะเป็นแนว ๆ โรงแรมหรือเกสต
อวัยวะชิ้นนั้น
รบกวนช่วยตรวจทริปเชียงใหม่-ดอยอินทนนท์หน่อยค่ะ
สวัสดีค่ะ พอดีเรากำลังแพลนจะไปเชียงใหม่ช่วงปลายปี กะว่าจะไป 4 คืน 5 วัน โจทย์คือ อยากนอนดอยอินทนนท์ 1 คืน ไปลำพูนแบบเช้าเย็นกลับ และพักตัวเมืองที่แถวนิมมานสัก 2 คืน ก่อนหน้านี้เคยไปแม่กำปองและพักตัวเม
แป้งทอด
ซื้อของฝาก(ของกิน)อะไรที่ร้านไหนดี
ถ้าเราไปเที่ยวเชียงใหม่ มีของกินอะไรอร่อยๆที่น่าซื้อกลับมาบ้าง อยากได้พิกัดแถวในเมืองหรือทางไปดอยสุเทพ ขอคำแนะนำจากเพื่อนๆหน่อยนะคะ
สมาชิกหมายเลข 8532283
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
รถไฟ
เที่ยวไทย
บันทึกนักเดินทาง
จังหวัดเชียงใหม่
รถโดยสาร
บนสุด
ล่างสุด
อ่านเฉพาะข้อความเจ้าของกระทู้
หน้า:
หน้า
จาก
แชร์ : 59
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน
อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่
ยอมรับ
[CR] เชียงใหม่....ทริปล่ม!!!!
ก่อนจะไปไหนได้จองตั๋วเลยจ้า มิวจองผ่านทางโทรศัพท์ 1690 โดยโทรไปและพนักงานรับสายเพียงอึดใจ ไม่ต้องนานจนหนังยานติดพื้นเหมือนโทรหา call center บางสิ่ง จองง่ายดีค่ะแค่มีชื่อ – นามสกุล และเลขบัตรประชาชน แต่ที่ไม่ค่อยชอบคือต้องพร้อมรับตั๋วในวันรุ่งขึ้นทันที รับที่หัวลำโพงถึง 4 ทุ่มส่วนสถานีอื่นรับได้ถึง 16.00 น. หน้าตาตั๋วก็ตามนี้ค่ะ
หน้าตารถไฟส่วนตัวคิดว่ามันดูไม่ใหม่ แต่ข้างในก็ถือว่าเอี่ยมค่ะ มีน้ำให้ฟรีเตียงละ 1 ขวด ปลั๊กไฟ 1 จุดและไฟที่สามารถปรับได้สองระดับ ห้องน้ำไม่ได้ถ่ายมาให้ดูเพราะคิดว่าหลายคนคงได้เห็นจากกระทู้อื่นไปเยอะแล้วเนอะ
วันแรกเราตั้งใจจะไปดอยสุเทพกับขุนช่างเคี่ยนกัน ก่อนอื่นก็ต้องกินข้าวมื้อแรกของวันที่ร้านก๋วยเตี๋ยว 3 บาทซึ่งอยู่ในซอยเดียวกับโรงแรมที่เราพัก โดยก๋วยเตี๋ยวมีทั้งหมูและเนื้อ แนะนำให้สั่งเนื้อดีกว่าค่ะได้ลูกชิ้นด้วย ส่วนหมูสะเต๊ะส่วนตัวคิดว่าพอกินได้ไม่ได้ตื่นเต้น และข้าวซอยก็โอเค คิดเงินออกมา 87 บาท
เดินทางไปดอยสุเทพโดยการเดินไปเรื่อยๆรอรถประจำทางไปขึ้นรถคิว สรุปเดินจนถึงกาดหลวงรถก็ไม่มาเลยขึ้นรถแดงไปลงที่หน้ามช.โดนไปอีกคนละ 30 บาท รถคิวขึ้นดอยสุเทพ 40 บาท/คน/เที่ยว ถ้าขึ้นขุนช่างเคี่ยน 200 บาท/คน/เที่ยว โดยขาลงถ้ามีเวลารถจะแวะที่บ้านม้งดอยปุย พระตำหนัก และพระธาตุดอยสุเทพให้ เราตัดสินใจเพื่อขึ้นไปดอยสุเทพอย่างเดียวค่ะ
คนเยอะจนตัดสินใจไหว้พระ แล้วมานั่งเม้าท์ที่ร้านกาแฟ พอลงมาก็เดินซื้อของกินด้านล่าง สตรอเบอร์รี่เป็นแก้วอร่อยดีค่ะ(ปกติไม่ชอบกินเท่าไหร่)
น้องก็เริ่มบ่นว่ามันเวียนหัว ดีที่ไม่ไปขุนช่างเคี่ยน (ส่วนตัวมิวเคยไปแล้วเลยไม่ตื่นเต้น) จากที่ตั้งใจว่ารุ่งขึ้นจะไปสะเมิงเลยต้องหยุดและเปลี่ยนแผนทุกอย่าง ลงมาจากดอยสุเทพโดยคิดว่าจะไป Art in paradise สุดท้ายคือหิวและมาจบที่ร้านส้มตำอุดร....ของกินต้องมาก่อน555
ร้านนี้ไม่มีอะไรจะพูดมากค่ะ อร่อยให้ตำหอยแครงชนะไปเลย ปลาร้าดีมากและไก่ย่างก็อร่อย ใครจะไปหาร้านใน google map เจอเลยนะคะอยู่ซ.ทานตะวัน
จากนั้นก็หมดวันไปเฉยๆโดยไม่ได้เที่ยวที่ไหนเลย 555 เหมือนเปลี่ยนที่นั่งเม้าท์มอยตามประสาสาวๆมากกว่า วันที่สองทริปล่มของเราจึงเกิดขึ้น จากที่จะไปดอยนั้นนี้ก็ต้องเปลี่ยนทางแทน วันนี้ด้วยความโมโหรถแดงที่แพงมหาศาล เลยใช้บริการ Grab Car แทน เรียกง่ายเรียกไวไม่มีค่าเรียกเพิ่ม เราเรียกรถไปที่ Art in paradise ใส่ code promotion จ่ายค่ารถเพียง 10 บาทเท่านั้น (ตอนแรกมีคนบอก uber ที่เชียงใหม่ถูกมาก สรุปคือมิวสมัครยากเลยหันมาซบ Grab แทน) หลังจากนั้นการเดินทางทั้งหมดใช้บริการ Grab ล้วนๆค่ะ #พูดเลยว่าเชียร์มาก
มาถึง Art in paradise ค่าเข้าคนละ 200 บาท ถ้าคนชอบถ่ายรูปมากๆน่ามา แต่ก็คิดว่าไม่ได้ตื่นเต้นอะไรมากมาย
จากนั้นเราก็เข้าสู่ทางที่เราถนัด เรื่องกินเรื่องใหญ่เลยไปตามหาของกินในเมืองกัน ร้านแรกคือ The Volcano อยู่หลังมช.นี่คือตามมาลอง Pocket Cheese Toast ซึ่งมิวว่าอร่อยดีค่ะ ส่วนอื่นๆก็อร่อย ยกเว้นชาแอปเปิ้ลโซดาไม่ค่อยชอบ คิดเงินมา 204 บาทราคาดีงาม
หลังจากกินขนมเสร็จ ด้วยความอยากกินขนมจีนลองถามน้องที่เชียงใหม่ได้คำตอบว่าใกล้มีร้านขนมจีนหล่มเก่า ห่างจากร้านที่เราอยู่ 500 เมตรเดินเข้าซ.บ้านใหม่หลังมอ ซอย7 ชอบเส้นขนมจีนที่นี่ ผักก็ให้ตักเองได้เลยค่ะ เราว่าแกงเขียวหวานกับน้ำยาอร่อยใช้ได้ แต่ไม่ค่อยชอบน้ำเงี้ยวเคยกินอร่อยกว่านี้ ส่วนส้มตำแนะนำว่าอย่าสั่ง มิวชิมคำเดียวแล้ววางเลย
ก็คิดว่าอิ่มแล้วแต่คือไหนๆก็ไหนๆเราต้องไปให้สุด ตรงซ.บ้านใหม่หลังมอ ซอย 4 มีร้านชื่อดงมาดาม ขายขนมหน้าตาน่ารัก รสชาติอร่อยและราคากันเอง แต่ส่วนตัวไม่ค่อยชอบที่นอกร้านต้นไม้เค้าปล่อยให้เหี่ยว และในร้านก็แอบมีฝุ่น แต่ถ้าคนชอบฟังเพลงยุด 50's มาที่นี่ไม่ผิดหวังค่ะ คือพอได้ยินเพลงในร้านมิวให้คะแนนทุกอย่างเต็ม
พออิ่มก็คิดว่าเราควรพักการกิน เดินทางกลับโรงแรมแล้วทิ้งตัว สุดท้ายมื้อคลาสสิคก็เกิดขึ้นปิดท้ายวันที่สอง นี่คือกินแค่สามคนจริงๆ
วันสุดท้ายเราตั้งเป้าว่าจะปั่นจักรยานไปไหว้พระ วันนี้จะกินให้น้อย....เลยยืมจักรยานที่โรงแรมมาปั่นเพื่อไปที่วัดเกตุการามกันค่ะ
บรรยากาศภายในวัดสงบ ร่มรื่น ข้างในวัดมีพิพิธภัณฑ์ของเก่าอยู่นะคะ ใครสนใจลองไปดูได้ผู้คนไม่พลุกพล่าน
สุดท้ายก็มาจบที่ Woo Cafe อยู่ดีส่วนตัวคิดว่าชากับ hot chocolate รสดีค่ะแต่ไม่ประทับใจเค้ก บรรยากาศร้านดีมาก
และเราก็ปั่นจักรยานไม่รอดเพราะรถเยอะ เลยต้องกลับมาคืนจักรยานแล้วเรียกรถไปกินก๋วยเตี๋ยวตำลึงที่นิมมาน ซ.1 ถูกและอร่อยค่ะแนะนำแห้งต้มยำ
เดินไปอีกนิดเพื่อชิมโรตีทิชชู่นิมมานซ.3 จะบอกว่าไม่อร่อยเท่าไหร่ ชอบโรตีใส่ไข่ในร้านมากกว่า แต่ราคาก็รับได้ค่ะ คิดเงินมา 185 บาทลด 10%
ถัดเข้ามาที่นิมมานซ.5 มาครั้งก่อนร้านปิดวันนี้เลยตามมาชิมไอศกรีมกดกริ่ง เป็นไอศกรีมผลไม้ถ้วยละ 25 บาทเลือกรสชาติแล้วหยอดเงินที่กล่องได้เลย แนะนำว่าลิ้นจี่อร่อยดีค่ะ
มีเวลาหลืออีกหน่อยก็เลยเดินไปร้านไปยาลใหญ่ อยู่ระหว่างนิมมานซ.13-15 เพื่อมาดูว่ามีขนมอะไรน่าสนใจ....ไหนว่าจะไม่กิน!!!! ที่นี่กาแฟอร่อยเลยค่ะเป็นแบบเอาน้ำกาแฟไปทำน้ำแข็งแล้วมีนมให้เทใส่ นมรสโยเกิร์ตก็แนะนำอร่อยดี ราคาน่าคบหา
แล้วเราก็หาซื้อสตรอเบอร์รี่ที่กาดหลวง พอดีเลยได้รถด่วนติดกลับมา ไม่ตั้งใจจะกิน --"
จากนั้นก็เรียก Grab ไปสถานีรถไฟ โดยไม่ต้องจ่ายค่าโดยสารซักบาทเพราะใช้โปรโมชั่นเหมือนเดิมค่ะ รถไฟออกเวลาเดิมค่ะ 6 โมงเย็นจากนั้นก็กลับมาตื่นเช้าอีกทีที่สถานีหัวลำโพง
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น