สวัสดีครับเพื่อนๆพี่ๆน้องทุกคนกระทู้นี้คงน่าจะเป็นกระทู้แรกที่มีสาระมากที่สุดสำหรับผมตั้งแต่ที่เล่นพันทิพมา ผมจะมาเล่าเรื่องราวประสบการณ์ความเสียว...ความกลัวความหวาดระแวงให้ฟังครับ สุดท้ายบทสรุปการตรวจเลือดครั้งนี้จะเป็นอย่างไรขอเป็นกำลังใจให้ทุกๆคนนะครับ
เรื่มกันเลยดีกว่า..ก่อนอื่นผมขอถ้าวความก่อนดีกว่าว่าทำไมผมถึงต้องไปตรวจเลือดที่คลินิกแห่งนี้ คือผมเคยมีประสบการณ์เสี่ยงหลายครั้งในช่วง 2-3 ปีก่อนหน้านี้แต่ทุกครั้งก็ใช้ถุงยางอนามัยป้องกันทุกครั้ง แต่ด้วยช่วงนั้นผมจัดฟัน ก็ไม่รู้ว่าการจัดฟันจะมีผลมากหรือน้อยกับโรคติดต่อนี้ อาศัยแต่ความสนุกและความมันส์เพียงชั่วคราว หลังจากที่เริ่มสำนึกตัวได้ ผมก็เลิกพฤติกรรมเสี่ยงทางเพศ และใช้วิธีการช่วยตัวเองมาตลอดระยะเวลา 2-3 ปีให้หลังมานี้ ผมก็ใช้ร่างกายปกติเหมือนคนทั่วไป ไม่ได้มีอาการใดๆ จนมาช่วงสัปดาห์ก่อน ผมมีอาการตุ่มแดงๆขึ้นที่บริเวณหน้าขาทั้ง 2 ข้าง ผมใจเสียมาก จิตตกขั้นสุดเลยก็ว่าได้ ผมคิดในใจว่าความสนุกไม่กี่ครั้งนั้นมันคงย้อนกลับมาทำร้ายตัวผมแล้ว ผมนึกถึงหน้าแม่ ผมก็จะรัองไห้ทุกครั้ง เวลาที่แม่ฟูมฟักเลี้ยงดูผมมาทั้งชีวิต ต้องมาพังเพราะความบ้า ไม่รู้จักถูกผิดของตัวเอง ผมไม่อยากเห็นแม่ร้องไห้ ผมไม่อยากทำให้พ่อกับแม่เสียใจ ผมเป็นลูกชายคนเดียวของบ้าน เพศสภาพกับเพศกำเนิดก็ไม่ตรงกันแล้ว ยังต้องมีโรคร้ายติดตัวไปให้พ่อแม่อับอายอีกหรือนี่ ..
ผมไม่รอช้าหลังจากรู้ว่าตัวเองเป็นตุ่มที่ขาอย่างแรกที่ทำได้ก็คือไปหาร้านยาเภสัชใกล้บ้านเพื่อนำมาทาเผื่อจะบรรเทาอาการ รู้ไหมครับ!!..อาการที่ผมได้รับจากคนขายยาคนนั้น มันยิ่งทำให้ผมแย่เข้าไปใหญ่ เขาทำท่ารังเกียจผม ผมถามว่าผมเป็นอะไรพอจะบอกได้ไหม เขาบ่ายเบี่ยงที่จะไม่ตอบ และพยายามยัดเยียดขายยาให้ผมอย่างเดียว ประมารว่ารีบๆออกไปจากร้านของเขาได้แล้ว ผมรู้สึกแย่มากแต่ก็ยังหวังในใจว่า ไม่ใช่!! ผมไม่ได้เป็น!! ผมทายาหลอดนั้นเกือบอาทิตย์แต่อาการก็ไม่ได้มีท่าทีว่าจะดีขึ้น ทุกครั้งที่ทายาผมจะใช้น้ำเกลือเช็ดทำความสะอาดก่อนทุกครั้ง และก็คิดอยู่ในใจเสมอว่าทำไมต้องมาตกอยู่ในสภาพนี้ ทำไมต้องเกิดมาทำให้พ่อแม่เสียใจ ผมท้อใจและยอมรับชะตากรรมว่าคนเป็นโรคติดต่อแล้วแน่นอน รู้ไหมครับ!!..ผมเป็นคนที่อยากผอมมาก (ผมน้ำหนักประมาณ80กก.) แต่ผมก็ผอมยาก จนในช่วงสัปดาห์นั้นวันเดียวมีคนทักผมถึง 4 คน ว่าทำไมผอมจัง ผอมลงไหม เป็นครั้งแรกเลยครับที่ผมไม่ได้รู้สึกดีใจกับคำทักทายเช่นนี้เลย และแล้วผมก็ลองชั่งน้ำหนักดู ผลปรากฏว่าผมน้ำหนักลงมาเหลือประมาณ 77-78 ผมใจเสียมาก ได้แต่ปลอบใจตัวเองว่าไม่เป็น!! กูไม่ได้เป็น!!! ด้วยความที่ตรอมใจ ผมหน้าดำ ขอบตาคล้ำมาก สภาพร่างกายและจิตใจแย่มาก คิดว่าไม่ดอเคแล้ว ไปตรวจเลือดให้มันรู้ๆกันไป แต่ครั้นจะตรวจโรงพยาบาลแถวบ้านก็อายพนักงาน อายพยาบาล อายผู้ป่วยที่ต่อคิวรออยู่ข้างหลัง ผมจึงตัดสินใจลางาน และไปคลินิกนิรนาม กรุงเทพมหานคร
TO be continue !!! ถึงตอนนี้ถ้าใครที่ได้อ่านมาผมอยากให้ทุกคนมีความกล้าที่จะไปตรวจไม่ว่าจะสถานพยาบาลใกล้บ้าน หรือถ้ากล้าน้อยหน่อยเหมือนผมก็ลงทุนเดินทางมากทม. (หลายท่านอาจจะมองว่าเป็นการชี้นำที่สิ้นเปลืองโดยใช่เหตุ แต่สำหรับผมการที่จะไปหาที่พึ่งให้ร่างกาย และเรารู้สึกปลอดภัยทั้งความรุ้สึกต่อตัวเองและสภาพแวดล้อมรอบข้างก็พร้อมที่จะเสียค่าใช้จ่ายในส่วนนี้)
เรื่องราวประสบกาณ์ที่คลินิกนิรนามจะเป็นอย่างไร ผมจะมาต่อให้ในคอมเมนต์ด้านล่างนะครับ เนื่องจากตอนนี้พิมพ์สดในโทรศัพท์ทำให้ค้างเป็นอย่างมาก
ถึงคนที่ไม่กล้าไปตรวจเลือด คนที่กลัวเอดส์ ผมขอมาเล่าประสบการณ์ไปตรวจเลือดที่คลินิกนิรนาม กรุงเทพมหานคร
เรื่มกันเลยดีกว่า..ก่อนอื่นผมขอถ้าวความก่อนดีกว่าว่าทำไมผมถึงต้องไปตรวจเลือดที่คลินิกแห่งนี้ คือผมเคยมีประสบการณ์เสี่ยงหลายครั้งในช่วง 2-3 ปีก่อนหน้านี้แต่ทุกครั้งก็ใช้ถุงยางอนามัยป้องกันทุกครั้ง แต่ด้วยช่วงนั้นผมจัดฟัน ก็ไม่รู้ว่าการจัดฟันจะมีผลมากหรือน้อยกับโรคติดต่อนี้ อาศัยแต่ความสนุกและความมันส์เพียงชั่วคราว หลังจากที่เริ่มสำนึกตัวได้ ผมก็เลิกพฤติกรรมเสี่ยงทางเพศ และใช้วิธีการช่วยตัวเองมาตลอดระยะเวลา 2-3 ปีให้หลังมานี้ ผมก็ใช้ร่างกายปกติเหมือนคนทั่วไป ไม่ได้มีอาการใดๆ จนมาช่วงสัปดาห์ก่อน ผมมีอาการตุ่มแดงๆขึ้นที่บริเวณหน้าขาทั้ง 2 ข้าง ผมใจเสียมาก จิตตกขั้นสุดเลยก็ว่าได้ ผมคิดในใจว่าความสนุกไม่กี่ครั้งนั้นมันคงย้อนกลับมาทำร้ายตัวผมแล้ว ผมนึกถึงหน้าแม่ ผมก็จะรัองไห้ทุกครั้ง เวลาที่แม่ฟูมฟักเลี้ยงดูผมมาทั้งชีวิต ต้องมาพังเพราะความบ้า ไม่รู้จักถูกผิดของตัวเอง ผมไม่อยากเห็นแม่ร้องไห้ ผมไม่อยากทำให้พ่อกับแม่เสียใจ ผมเป็นลูกชายคนเดียวของบ้าน เพศสภาพกับเพศกำเนิดก็ไม่ตรงกันแล้ว ยังต้องมีโรคร้ายติดตัวไปให้พ่อแม่อับอายอีกหรือนี่ ..
ผมไม่รอช้าหลังจากรู้ว่าตัวเองเป็นตุ่มที่ขาอย่างแรกที่ทำได้ก็คือไปหาร้านยาเภสัชใกล้บ้านเพื่อนำมาทาเผื่อจะบรรเทาอาการ รู้ไหมครับ!!..อาการที่ผมได้รับจากคนขายยาคนนั้น มันยิ่งทำให้ผมแย่เข้าไปใหญ่ เขาทำท่ารังเกียจผม ผมถามว่าผมเป็นอะไรพอจะบอกได้ไหม เขาบ่ายเบี่ยงที่จะไม่ตอบ และพยายามยัดเยียดขายยาให้ผมอย่างเดียว ประมารว่ารีบๆออกไปจากร้านของเขาได้แล้ว ผมรู้สึกแย่มากแต่ก็ยังหวังในใจว่า ไม่ใช่!! ผมไม่ได้เป็น!! ผมทายาหลอดนั้นเกือบอาทิตย์แต่อาการก็ไม่ได้มีท่าทีว่าจะดีขึ้น ทุกครั้งที่ทายาผมจะใช้น้ำเกลือเช็ดทำความสะอาดก่อนทุกครั้ง และก็คิดอยู่ในใจเสมอว่าทำไมต้องมาตกอยู่ในสภาพนี้ ทำไมต้องเกิดมาทำให้พ่อแม่เสียใจ ผมท้อใจและยอมรับชะตากรรมว่าคนเป็นโรคติดต่อแล้วแน่นอน รู้ไหมครับ!!..ผมเป็นคนที่อยากผอมมาก (ผมน้ำหนักประมาณ80กก.) แต่ผมก็ผอมยาก จนในช่วงสัปดาห์นั้นวันเดียวมีคนทักผมถึง 4 คน ว่าทำไมผอมจัง ผอมลงไหม เป็นครั้งแรกเลยครับที่ผมไม่ได้รู้สึกดีใจกับคำทักทายเช่นนี้เลย และแล้วผมก็ลองชั่งน้ำหนักดู ผลปรากฏว่าผมน้ำหนักลงมาเหลือประมาณ 77-78 ผมใจเสียมาก ได้แต่ปลอบใจตัวเองว่าไม่เป็น!! กูไม่ได้เป็น!!! ด้วยความที่ตรอมใจ ผมหน้าดำ ขอบตาคล้ำมาก สภาพร่างกายและจิตใจแย่มาก คิดว่าไม่ดอเคแล้ว ไปตรวจเลือดให้มันรู้ๆกันไป แต่ครั้นจะตรวจโรงพยาบาลแถวบ้านก็อายพนักงาน อายพยาบาล อายผู้ป่วยที่ต่อคิวรออยู่ข้างหลัง ผมจึงตัดสินใจลางาน และไปคลินิกนิรนาม กรุงเทพมหานคร
TO be continue !!! ถึงตอนนี้ถ้าใครที่ได้อ่านมาผมอยากให้ทุกคนมีความกล้าที่จะไปตรวจไม่ว่าจะสถานพยาบาลใกล้บ้าน หรือถ้ากล้าน้อยหน่อยเหมือนผมก็ลงทุนเดินทางมากทม. (หลายท่านอาจจะมองว่าเป็นการชี้นำที่สิ้นเปลืองโดยใช่เหตุ แต่สำหรับผมการที่จะไปหาที่พึ่งให้ร่างกาย และเรารู้สึกปลอดภัยทั้งความรุ้สึกต่อตัวเองและสภาพแวดล้อมรอบข้างก็พร้อมที่จะเสียค่าใช้จ่ายในส่วนนี้)
เรื่องราวประสบกาณ์ที่คลินิกนิรนามจะเป็นอย่างไร ผมจะมาต่อให้ในคอมเมนต์ด้านล่างนะครับ เนื่องจากตอนนี้พิมพ์สดในโทรศัพท์ทำให้ค้างเป็นอย่างมาก