((มาลาริน)) คิดก่อนแชร์กันบ้างนะคะ..แชร์มั่วภาพถูกขโมยในญี่ปุ่น แท้จริงคือภาพทิวทัศน์ทั้ง 3 ภาพ ไม่ใช่ภาพนางเอกเอวี

เมื่อเราอยากได้ความจริง..ก็ควรพูดเรื่องจริงที่มีหลักฐาน
การแชร์เรื่องมั่ว...ทำให้ความหมายของแรงจูงใจในการทำผิดเปลี่ยนไป  และไม่เป็นผลดีต่อใคร
ถึงแม้เขาทำผิด..เราก็ไม่มีสิทธิแชร์มั่วค่ะ
เราควรจะคิดก่อนแชร์นะคะ.....นานาโอเคนานาโอเคนานาโอเค

แชร์มั่วภาพถูกขโมยในญี่ปุ่น

แชร์สนั่นภาพที่รองอธิบดีขโมยในญี่ญี่ปุ่น ยืนยันไม่ใช่จริง ไม่ใช่ภาพวางนางเอกเอวี แต่เป็นภาพวิว ขณะที่ด้านคดีตำรวจญี่ปุ่นส่งฟ้องศาลข้อหาลักทรัพย์ เผยรองอธิบดีปฎิเสธให้กงสุลไทยเยี่ยม 

หลังจากที่ เว็บไซต์ สำนักข่าว ซัน เค เวสต์ ของสถานีฟูจิ ญี่ปุ่น รายงานว่า ตำรวจญี่ปุ่นได้จับกุมข้าราชการไทยระดับสูงขโมยภาพวาด 3 ภาพ ที่ติดตั้งอยู่ในโรงแรมแห่งหนึ่งในเกียวโต และมีการเปิดเผยชื่อในเวลาต่อมาว่าคือข้าราชการคนดังกล่าวถึง นายสุภัฒ สงวนดีกุล รองอธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา 

ต่อมาเมื่อวานนี้ นายทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ แถลงว่าได้ประสานสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครโอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น และทำงานร่วมกับสถานกงสุลใหญ่ ณ นครโอซาก้า และสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงโตเกียว อย่างใกล้ชิดเพื่อประสานกับทางญี่ปุ่นในคดีนี้ 

ขณะที่ในวันนี้มีการแชร์ภาพในโซเชียลอย่างแพร่หลาย ว่า 1 ใน 3 ภาพที่ถูกขโมยนั้น เป็นภาพวาดรูปดารา AV ญี่ปุ่น ชื่อ saori hara แต่แหล่งข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ยืนยันว่า ภาพที่ถูกขโมยนั้นเป็นภาพวิวทิวทัศน์ โดยภาพวาดจำนวน 3 ภาพ ที่ถูกขโมยนั้นคิดเป็นมูลค่าประมาณ 15,000 เยน หรือประมาณ 4,635 บาท 

รองอธิบดีปฎิเสธไม่ให้กงสุลไทยเข้าเยี่ยม 

ด้านความคืบหน้าในการดำเนินคดีนั้น มีรายงานจากกระทรวงการต่างประเทศ ว่าในวันนี้ (26 ม.ค. 60) สถานกงสุลใหญ่ไทย ณ นครโอซากา ได้รับแจ้งจากสถานีตำรวจเมืองเกียวโต ว่า จะดำเนินการนำตัวนายสุภัฒ ส่งฟ้องศาลในวันนี้ ในข้อหาลักทรัพย์ และจะอนุญาตให้เจ้าหน้าที่ของสถานกงสุลใหญ่ไทย เข้าเยี่ยมตามคำร้องขอกับทางการญี่ปุ่น เพื่อเข้าเยี่ยมนายสุภัฒได้ที่สถานีตำรวจเมืองเกียวโต 

อย่างไรก็ตามล่าสุดช่วงประมาณ 16.00 น.ที่ผ่านมา ทีมพิกัดข่าว Now 26 ได้รับการเปิดเผยจาก แหล่งข่าวกจากกระทรวงพาณิชย์ ว่า แม้ทางญี่ปุ่นจะเปิดโอกาสให้เจ้าหน้าที่ไทยเข้าพบรองอธิบดีได้ แต่รองอธิบดีสุภัฒปฎิเสธที่จะให้ใครเข้าพบ โดยเจ้าหน้าที่ญี่ปุ่นได้สอบถามรองอธิบดีว่า จะให้กงสุลไทยหรือใครเข้าเยี่ยมหรือไม่ แต่เจ้าตัวบอกว่า“ไม่ต้องการ” ซึ่งทางการญี่ปุ่นต้องดำเนินการตามความต้องการของผู้ต้องหา ตามกฎหมายคุ้มครองสิทธิส่วนบุคคล คุ้มครองผู้ต้องหา ขณะนี้จึงยังไม่มีใครได้พบรองอธิบดีสุภัฒ สวนเรื่องการดำเนินคดีนั้น ยังไม่ได้รับรายงาน 

นางสาววิบูลย์ลักษณ์ ร่วมรักษ์ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ ระบุว่า กระบวนทางกฎหมายของประเทศญี่ปุ่น อาจใช้เวลา 21 วันกว่าจะแจ้งข้อหา ซึ่งขณะนี้รองอธิบดียังอยู่ระหว่างการปฏิบัติงานและสามารถใช้สิทธิลางานต่อได้ โดยกระทรวงพาณิชย์จะตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง และพร้อมให้รองอธิบดีได้ชี้แจงรายละเอียดทั้งหมด เพื่อให้ความเป็นธรรม ซึ่งโทษทางวินัยหากพบว่ามีการกระทำผิดวินัยร้ายแรง มีโทษสูงสุดคือให้ออกจากราชการ

http://www.now26.tv/view/98544
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่