จากการที่อังกฤษประกาศจะแยกตัวออกจากสหภาพยุโรปทำให้หลายคนเกิดความสงสัยว่าจะเกิดขึ้นได้จริงหรือ แล้วการแยกตัวครั้งนี้จะส่งผลกระทบอย่างไร เพื่อทำความเข้าใจสภาพในปัจจุบันจึงขอนำเสนอประวัติศาสตร์อันยาวนานของทวีปยุโรป




ทวีปยุโรปเป็นภูมิภาคที่เจริญรุ่งเรืองที่สุดแห่งหนึ่งบนโลกมาอย่างยาวนาน แต่ความเจริญรุ่งเรืองนั้นก็กระจายกันออกไปในแต่ละพื้นที่ และนี่คือแผนที่พร้อมประวัติศาสตร์ความเจริญรุ่งเรืองและความเสื่อมสลายของยุโรป



จักรวรรดิโรมัน


                                            

จักรวรรดิโรมันแผ่ขยายอำนาจจากทางตอนเหนือของอังกฤษไปยังทะเลทรายที่ว่างเปล่าในซีเรีย ในสมัยสันติภาพโรมัน (Pax Romana) พื้นที่ต่างๆ ในทวีปยุโรปเชื่อมโยงและมีความสัมพันธ์กันด้วยถนน ระบบการปกครอง และการเมือง ภาษาหลักที่ใช้คือภาษาละติน อำนาจของจักรวรรดิโรมันรุ่งเรืองอย่างยาวนานจนกระทั่งสิ้นสุดลงในคริสต์ศตวรรษที่ 5


                                            

รัชสมัยของชาร์เลอมาญ


                                            

จักรพรรดิชาร์เลอมาญหรือชาร์ลมหาราช เป็นเป็นจักรพรรดิฝรั่งเศสองค์แรก ในนาม “จักรพรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์” มีฐานะเทียบเท่าจักรพรรดิแห่งจักรวรรดิโรมันโบราณ ชาร์เลอมาญได้ขยายดินแดนไปทางตะวันตกเฉียงใต้และสเปนและยึดครองเยอรมันใต้หรือบาวาเรีย นอกจากนี้ยังเป็นผู้ส่งเสริมการศึกษา การเมือง และศาสนา ทำให้ฝรั่งเศสเริ่มก้าวขึ้นเป็นศูนย์กลางการศึกษาและอารยธรรมของยุโรป


                                            

จักรวรรดิไบแซนไทน์


                                            

ขณะที่โรมครองอำนาจในยุโรปตะวันตก ไบแซนไทน์ก็แผ่ขยายอำนาจอยู่ในยุโรปตะวันออก จากประวัติศาสตร์ส่วนใหญ่ของจักรวรรดิไบแซนไทน์แสดงให้เห็นว่าจักรวรรดิไบแซนไทน์คือจักรวรรดิของชาวกรีก ซึ่งได้รับอิทธิพลกรีกหลายด้านทั้งภาษา วัฒนธรรม รวมทั้งประชากรก็มีเชื้อสายกรีก จักรวรรดิไบแซนไทน์มีอำนาจในแถบทะเลเมดิเตอร์เรเนียน เมืองหลวงของพวกเขาคือคอนสแตนติโนเปิลหรืออินตัสบูลในปัจจุบัน ไบแซนไทน์เรืองอำนาจจนถึงปี 1453 จากนั้นจึงถูกชาวออตโตมันเข้ามารุกราน


                                            

ราชวงศ์นอร์มัน


                                           

ชาวนอร์มันสืบเชื้อสายมาจากไวกิงผู้ได้รับชัยชนะและตั้งถิ่นฐานอยู่ทางตอนเหนือของฝรั่งเศสหรือ “นอร์ม็องดี” ผู้ปกครองที่โด่งดังที่สุดคือพระเจ้าวิลเลียมที่ 1 แห่งอังกฤษ หรือพระเจ้าวิลเลียมผู้พิชิต ผู้ยกทัพจากนอร์ม็องดีมาโจมตีและยึดครองอังกฤษได้สำเร็จในปี 1066


                                            

สันนิบาตฮันเซอ


                                            

คือกลุ่มพันธมิตรทางทหารและสมาคมพ่อค้าที่ก่อตั้งขึ้นเพื่อรักษาเอกสิทธิ์ในการค้าขายตามชายฝั่งทะเลของยุโรปเหนือตั้งแต่ทะเลบอลติกไปจนถึงทะเลเหนือและบนแผ่นดินใหญ่ มีอิทธิพลในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 13 ถึง 15 จนกระทั่งเกิดการปฏิรูปศาสนาฝ่ายโปรเตสแตนต์และการเรืองอำนาจของศัตรูในรัสเซีย สวีเดน และเนเธอร์แลนด์


                                            

ราชวงศ์ฮับส์บูร์กภายใต้การปกครองของจักรพรรดิคาร์ลที่ 5


                                             

ในรัชสมัยของจักรพรรดิคาร์ลที่ 5 ราชวงศ์ฮับส์บูร์กครองอำนาจทางตอนกลางของยุโรป บางส่วนของเนเธอร์แลนด์ ไปจนถึงสเปน ทรงครองราชย์ในนามของพระเจ้าชาร์ลที่ 1 แห่งสเปน ประมุขแห่งดัชชีเบอร์กันดี กษัตริย์แห่งสเปน พระมหากษัตริย์แห่งราชอาณาจักรเนเปิลส์และราชอาณาจักรซิซิลี อาร์ชดยุกแห่งออสเตรีย และจักรพรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์


                                            

เครือจักรภพโปแลนด์–ลิทัวเนีย


                                            

รัฐที่ใหญ่ที่สุดในทวีปยุโรป เป็นการรวมตัวของคองเกรสโปแลนด์และราชรัฐลิทัวเนีย ตั้งอยู่ทางตะวันออกและตอนกลางของยุโรป แผ่ขยายอำนาจไปจนถึงรัฐบอลติก โปแลนด์ เบลารุส และยูเครน เรืองอำนาจช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 14 ถึง 18 ประชากรชาวยิว 80 เปอร์เซ็นต์ของโลกอาศัยอยู่ในดินแดนนี้ เป็นรัฐแรกที่ริเริ่มประชาธิปไตยแบบชนชั้นสูงเป็นรากฐานของระบบประชาธิปไตยอย่างกว้าง ๆ ในสมัยใหม่


                                            

จักรวรรดิออตโตมัน


                                            

หลังการล่มสลายของจักรวรรดิไบแซนไทน์ จักพรรดิเมห์เหม็ดที่ 2 เป็นผู้นำในการทำสงครามยึดคอนสแตนติโนเปิล ได้เปลี่ยนชื่อเมืองคอนสแตนติโนเปิลใหม่เป็นอิสตันบูล และเปลี่ยนโบสถ์ในศาสนาคริสต์ให้เป็นมัสยิดในศาสนาอิสลาม ในยุคทองของจักรวรรดิ อาณาเขตได้แผ่ขยายออกไปอย่างกว้างใหญ่ไพศาล มีอาณาเขตที่ครอบคลุมทั้งทวีปเอเชีย แอฟริกา และยุโรป จนกระทั่งพระราชอำนาจของสุลตานและจักรวรรดิก็เริ่มอ่อนแอจนล่มสลายไปในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1


                                            

จักรพรรดินโปเลียน


                                            

จักรพรรดินโปเลียนที่ 1 หรือ นโปเลียน โบนาปาร์ต เป็นนายพลในช่วงการปฏิวัติฝรั่งเศส ดำรงตำแหน่งกงสุลเอกและขึ้นเป็นจักรพรรดิ พิชิตดินแดนต่างๆ ในยุโรปไปจนถึงเกาะเอลบาในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน เป็นผู้นำกองทัพ Grand Army บุกโจมตีดินแดนรัสเซียแต่ถูกกองทัพรัสเซียดักโจมตี ข่าวความพ่ายแพ้ของฝรั่งเศสกระจายไปทั่วยุโรปทำให้กษัตริย์ยุโรปหลายพระองค์แปรภักดิ์และยกทัพมารบกับฝรั่งเศส


                                           

สงครามโลกครั้งที่ 1
                                     
สงครามโลกครั้งที่ 1 เกิดจากปัญหาของดินแดนต่างๆ ในทวีปยุโรป ระหว่างกลุ่มไตรภาคีคือพันธมิตรระหว่างอังกฤษ ฝรั่งเศส และจักรวรรดิรัสเซีย กับฝ่ายมหาอำนาจกลางนำโดยจักรวรรดิเยอรมัน จักรวรรดิออสเตรีย-ฮังการี และจักรวรรดิออตโตมัน และสุดท้ายโรมาเนียกับเซอร์เบียก็มาเข้าร่วมกับฝ่ายไตรภาคีเพื่อหวังยึดครองออสเตรีย


                                     

นาซี


                                            

นาซีเยอรมนีหรือ อาณาจักรที่สาม เป็นชื่อสามัญของอาณาจักรเยอรมันขณะอยู่ในการควบคุมของอดอล์ฟ ฮิตเลอร์ และพรรคนาซี แผ่ขยายอำนาจและความโหดเหี้ยมเหนือยุโรปตั้งแต่ฝรั่งเศสไปจนถึงสหภาพโซเวียต


                                            

สหภาพเศรษฐกิจเบเนลักซ์


                                            

เป็นกลุ่มเศรษฐกิจในภูมิภาคยุโรปตะวันตกของสามประเทศเพื่อนบ้าน ได้แก่ เบลเยียม เนเธอร์แลนด์ และลักเซมเบิร์ก จากนั้นก็ร่วมกับเยอรมันตะวันตก ฝรั่งเศส และอิตาลี จัดตั้งประชาคมถ่านหินและเหล็กกล้าแห่งยุโรป ซึ่งนำไปสู่แนวคิดในการต่อตั้ง “สหภาพยุโรป” และยูโรโซน


                                            

นาโต้ก่อนการล่มสลายของสหภาพสาธารณรัฐสังคมนิยมโซเวียต


                                           

ก่อนการล่มสลายของสหภาพโซเวียต องค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (NATO) เป็นกลุ่มพันธมิตรทางทหารที่มีอำนาจมากที่สุดในดินแดนตะวันตก มีเป้าหมายเพื่อถ่วงดุลอำนาจกับฝ่ายคอมมิวนิสต์ (สหภาพโซเวียต) ให้ความช่วยเหลือประเทศสมาชิกในกรณีที่ถูกคุกคามจากภายนอก รวมทั้งส่งเสริมความมั่นคงทางเศรษฐกิจ


                                           

สหภาพยุโรป


                                           

เป็นสหภาพทางเศรษฐกิจและการเมือง สถาปนาขึ้นอย่างเป็นทางการในปี 1933 กำเนิดขึ้นจากประชาคมถ่านหินและเหล็กกล้าแห่งยุโรป ประกอบด้วยสมาชิก 28 ประเทศซึ่งส่วนใหญ่ตั้งอยู่ในทวีปยุโรป แต่สหราชอาณาจักรได้ลงประชามติถอนตัวออกจากสมาชิกของสหภาพยุโรปด้วยคะแนนสนับสนุน 51.9%


                                         

และนี่คือทวีปยุโรป ทวีปเล็กๆ ที่สร้างผลกระทบต่อคนทั้งโลกได้จนถึงทุกวันนี้

ปล. ยังไม่อัปเดตเมื่ออังกฤษออกจากสหภาพยุโรปนะคะ

ที่มา: WashingtonPost  [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้http://www.meekhao.com/history/europe-history