บ่ายวันหนึ่งของต้นเดือนตุลาคม 2016....
ระหว่างทุกคนกำลังง่วนกับงานของตัวเอง พลันเสียงจากบอสก็ทำลายความเงียบขึ้นมา
“จบปีนี้ไปเที่ยวญี่ปุ่นกันนะ” หลังจากนั้น...
ข่าวสารก็แพร่กระจายไปยังสาขาต่างๆด้วยความรวดเร็วของพลังโซเชี่ยลเน็ตเวิร์ค
ถือเป็นการไปเอ๊าท์ติ้งต่างประเทศครั้งที่ 2 ของที่นี่ ซึ่งในครั้งแรกนั้นได้มีการแบ่งกลุ่มทะยอยกันไป
ครั้งนี้ก็เช่นกัน และถือเป็นความพิเศษตรงที่ให้เลือกเมืองที่ต้องการไปเองของแต่ละกลุ่ม
โดยแต่ละคนมีผู้ติดตามไปได้แต่ออกค่าใช้จ่ายเองเต็มจำนวน
จากนั้นเราจึงแบ่งกลุ่มออกเป็น 3 กลุ่ม โดยที่กลุ่มเรามี 10 คนคือ
ตัวผม(ปูน) บินเดี่ยว
บี มีผู้ติดตามคือ พิม และ พลอย
บาส มีผู้ติดตามคือ ก้อยผู้ภรรยา และ ลูกชายสบาย
พ่อเลี้ยงหมู จากเชียงใหม่มีผู้ติดตามคือ น้องปอ
ปิดท้ายด้วย โกเต๋า จากภูเก็ต บินเดี่ยว
จากนั้นก็ตั้งกลุ่ม Line แล้วเริ่มเลือกว่าจะไปที่ไหน เผอิญว่าตอนนั้นกระแสหนังแฟนเดย์กำลังมา
ส่วนใหญ่ก็เลยมองว่าไป ซัปโปโร แต่หลังจากหาข้อมูลของแหล่งท่องเที่ยวบวกกับสภาพอากาศ
น่าจะทำให้เที่ยวด้วยความทรมานที่ต้องผจญกับหิมะและความหนาวทุกๆวันของเดือนมกราคม
เลยเริ่มทำการเบนเข็ม แรกเลยผมเสนอไป นาโกย่า แต่ติดที่ไม่มีเครื่องบินตรงและใช้เวลาเดินทางนานมากกกกก
ถกเถียงกันอยู่ซักพักสุดท้ายหวยออกที่โตเกียว.....เอาละสิ
โตเกียวในสมองของผมมีแต่ภาพของเมืองที่ดูวุ่นวาย
แหล่งช๊อปปิ้ง แหล่งธุรกิจ คนแออัด เดินกันยั้วเยี้ยเหมือนในหนังที่เคยดู.............
โอยย...นี่มันไม่ใช่แนวของผมซักนิดเดียว แล้วหวยดอกที่สองก็ออกมา
“พี่ปูนทำแผนท่องเที่ยวด้วยนะ”.............
แล้วบีก็ทำการจองตั๋วและที่พัก ซึ่งเราจะออกเดินทางจากกรุงเทพประมาณ 5 ทุ่มของวันที่ 5 มค. 2560
และจะถึงสนามบินนาริตะเวลาประมาณ 8 โมงเช้าตามเวลาท้องถิ่น(ญี่ปุ่น)
เดินทางกลับ 12 มค. 2560 เวลา 2 ทุ่มเวลาญี่ปุ่นถึงไทยตี 2 ตามเวลาท้องถิ่น(ไทย)
ระหว่างนี้ก็เริ่มหาอุปกรณ์ช่องทางการสื่อสาร โดยตกลงจะเช่า Pocket wifi ไป 3 เครื่องแบ่งเป็น
เครื่องที่ 1 บี, พิม, พลอย, เครื่องที่ 2 บาส, ก้อย, สบาย, เครื่องที่ 3 หมู, ปอ
โกเต๋ารอสอยจากเครื่องไหนก็ได้ ส่วนผมบินเดี่ยวและขี้เกียจพกอุปกรณ์เยอะเลยแยกซื้อซิม
หลังจากเซิร์ชหาก็ได้มายี่ห้อนึงเค้าเคลมว่า 7 วัน 4G Unlimit ไม่ลดความเร็ว กลุ่มไลน์ไม่หาย
ผมก็บ้าเชื่อโฆษณาแล้วก็กดสั่งซื้อไป
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ซึ่งต้องบอกว่าของเค้าดีจริงสัญญาณแรงตลอดยกเว้นในโรงแรม
เพราะมันเป็นเป็นตึกที่ค่อนข้างอับสัญญาณ แต่สัญญาณไวไฟของโรงแรมแรงดีเลยเจ๊ากันไป
ส่วนที่ไม่มีสัญญาณจริงๆก็ต่อเมื่อนั่งรถเข้าอุโมงค์แค่นั้น นอกนั้นไม่มีอะไรขัดขวางการโซเชี่ยลของผมได้
นอกจากโทรศัพท์โดนความเย็นจนมีอันต้องดับไป
หลังจากวางแผนการท่องเที่ยวคร่าวๆ โดยแนวคิดของผมคือจะให้โตเกียวเป็นแค่ที่นอน เพราะไม่ได้อิน
ว่าจะต้องช๊อปปิ้ง ถามคนในกลุ่มก็ได้คำตอบว่าไม่เน้น แต่ไหนๆก็พักโตเกียวแล้วถ้าไม่เดินเล่นซะหน่อยก็คงแปลก
ผมก็เลยจัดให้มีวันเที่ยวโตเกียว 1 วันเต็มกับช่วงเช้าของวันกลับ ส่วนวันอื่นๆ เราจะไปเที่ยวนอกโตเกียวกันเกือบทุกวัน
ตอนแรกกังวลว่าค่าเดินทางจะบานเลยเซิร์ชหาข้อมูลรถตู้แล้วให้คนในกลุ่มทำใบขับขี่อินเตอร์
คุยไปคุยมาท่าทางไม่รอดเลยเปลี่ยนแผนใหม่เซิร์ชหาตั๋วรถ JR ก็ได้ข้อมูล JR WIDE PASS มาก็เอาไปให้คนในกลุ่มดู
พร้อมกับให้เหตุผลประกอบแผนการเดินทางไปในแต่ละที่ซึ่งถ้าไม่ซื้อตั๋วนี้ค่ารถจะบานจนไม่เหลืองบกินข้าวกันเป็นแน่
จนในที่สุดตกลงกันได้พี่บีของเราก็ทำการรูดปรี๊ดดดดดด ก็เหลือแค่การเตรียมตัวส่วนบุคคลพวกอุปกรณ์กันหนาว
และการแลกเงินของใครของมัน เสร็จเรื่องเรียบร้อยการเตรียมตัวเป็นอันจบไป
พฤหัส 5 มกราคม 2560
วันนี้ที่รอคอย......ตั้งหน้าตั้งตาคอยกันมาแรมเดือน วันเดินทางของกลุ่มเราก็มาถึงเรานัดเจอกันที่สนามบินดอนเมืองประมาณ 3 ทุ่ม
เมื่อถึงเวลาสมาชิกมาครบก็ทำการ Bag drop เพราะเช็คอินออนไลน์มาแล้วทำให้ประหยัดเวลาไปได้มาก
เข้าไปนั่งรอที่ประตูทางออกจนถึงเวลาเรียกขึ้นเครื่อง เครื่องออกตรงตามกำหนดเวลา หลังจากนั้นไม่นานก็หลับกันไป
ศุกร์ 6 มกราคม 2560
8 โมงเช้านิดๆ (ตามเวลาญี่ปุ่น) พวกเราก็เดินทางมาถึงสนามบินนาริตะ ลงจากเครื่องได้ระหว่างรอคนอื่นๆออกมา
ผมก็กดดูสภาพอากาศก่อนเลย เพราะพออกจากประตูเครื่องบินมาเหมือนมีความรู้สึกถึงความเย็นที่วิ่งเข้ามาปะทะร่างจนสะท้าน
ผลปรากฏว่าขณะนั้นอุณหภูมิ -4 องศาเซลเซียส เย็นไม่ปรึกษากันก่อนเลย พอทุกคนออกมาครบก็รีบเดินเข้าไปในตัวสนามบิน
จึงค่อยอุ่นขึ้นมาบ้าง เดินสบายๆไปรับกระเป๋าจนครบทั้งกลุ่ม จากนั้นก็เข้าสู่กระบวนการตรวจคนเข้าเมือง
ทุกคนผ่านฉลุย มาสะดุดเอาที่ผมนี่แหละ อยู่ๆพี่เค้าก็อยากจะดูของกระเป๋าผมซะงั้น ผมก็เปิดให้ดูด้วยความเต็มใจ
หลังจากพี่เค้าแคะๆคุ้ยๆผมอยู่แป๊บนึงก็ปล่อยให้ผมผ่านเข้าเมืองแต่โดยดี แต่ก่อนอื่นเราต้องหยิบอุปกรณ์กันหนาวมาสวมกันก่อน
แล้วเราก็เริ่มตามหาจุดรับ JR PASS ของพวกเรา เดินเลี้ยวไปเลี้ยวมาตามลูกศรและตำแหน่งที่ทางบริษัทขายตั๋วบอกไว้ในคู่มือ
ไม่นานเราก็พบจุดรับตั๋ว แล้วกระเหรี่ยงไทยแบบเราก็ลากกระเป๋าไปต่อแถวทั้ง 10 คน
ทีนี้คุณพี่เจ้าหน้าที่เห็นก็ถามว่ามาด้วยกันทั้งหมดรึเปล่า เราก็ตอบว่าใช่ เค้าก็เลยบอกว่าให้รวมพาสปอร์ตมาไว้ที่คนเดียวเลย อ่ะ
สะดวกดีแฮะก็จัดการรวมพาสปอร์ต แลัวเจ้าหน้าที่ก็แจกกระดานรองเขียนซึ่งเหน็บตั๋วมาให้เรากรอกชื่อนามสกุลและเลขพาสปอร์ต
เขียนเสร็จก็นำมาเห็บไว้กับพาสปอร์ตของแต่ละคน แล้วก็ยืนเข้าแถวรอจนถึงคิวผมกับบีเข้าไป 2 คนเพื่อจะได้ช่วยกัน
เจ้าหน้าที่ทำการออกตั๋ว JR ให้กับพวกเราและทำการสำรองที่นั่ง Narita Exprees เพื่อให้แน่ใจว่าเราจะมีที่นั่งไปจนถึงโตเกียว

แล้วเราก็ลากกระเป๋าเดินผ่านเข้าไปยังขบวนรถไฟ แค่ชูบัตรให้พนักงานตรงช่องพิเศษก็เดินผ่านเข้าสู่ชานชาลากันได้ฉลุย
เวลาผ่านไปเกือบๆชั่วโมงบนรถไฟ เราก็มาถึงสถานีโตเกียว ก็ลากกระเป๋ากันอีกครั้งเพื่อต่อรถไปยังสถานีอูเอโน่
เริ่มวัฏจักรเดิมเหมือนการมาญี่ปุ่นในครั้งที่แล้ว เดินหาสายรถไฟที่จะไปต่อไม่เจอ รวมพลังเซิร์ชหาข้อมูลจากทั้งกูเกิ้ลแมพ และ ไฮเปอร์เดียร์
เราก็มาพบกับเส้นทาง JR สาย YAMANOTE LINE ซึ่งหลังจากนี้เราใช้เส้นนี้เป็นหลักในการเดินทางรอบโตเกียว
(YAMANOTE LINE มี 2 ขบวนวิ่งสวนกันต้องดูดีๆว่าจะไปสถานีไหน ขึ้นผิดฝั่งกลายเป็นอ้อมไปเลย)
หลังจากที่เราขึ้นรถไฟไม่นาน เราก็มาถึงสถานีอูเอโนะ เริ่มลากกระเป๋ากันอีกครั้งคราวนี้เราใช้กูเกิ้ลแมพ
นำเราไปยังโรงแรมซึ่งห่างไปเกือบ 1 กิโลเมตร เมื่อมาถึงโรงแรมยังไม่ถึงเวลาเช็คอิน เราก็ติดต่อเจ้าหน้าที่ขอฝากกระเป๋าไว้
แล้วเราก็ออกเดินไปแถวๆสถานีอูเอโนะ ระหว่างทางผ่านร้านราเม็งเลยจัดกันไปคนละชาม พอจะมีแรงขึ้นมาบ้างก็เริ่มออกเดินเรื่อยๆเปื่อยๆ
เจอวัดก็แวะเข้าไปถ่ายรูป จนไปถึงสถานีอูเอโนะ เดินวนไปวนมาบนสะพานลอยถ่ายรูปกันเรื่อยเปื่อยจนเบื่อก็เดินเข้าไปในตลาดที่อยู่ใกล้ๆกับสถานีอูเอโน่
แสงเฉียงกำลังสวย เดินถ่ายรูปไป ดูของไปเรื่อยเปื่อย จนได้เวลาเช็คอิน ก็พากันกลับมาที่โรงแรมอาบน้ำพักผ่อนก่อนออกไปหาอาหารเย็นทานกัน
ระหว่างรอเวลาไปทานอาหาร เราก็ได้ทำเลถ่ายภาพกันชุดใหญ่จนหมดแสง แล้วจึงลงไปสมทบกับกลุ่มเพื่อออกไปหาอาหารเย็น
หลังอาหารเย็นก็กลับที่พัก พักผ่อนกันตามอัธยาศัย เพื่อรอที่จะบุกกรุงโตเกียวในวันพรุ่งนี้
**ภาพบรรยากาศจากหลายๆกล้องของน้องๆร่วมทริป
https://www.facebook.com/iPoonz/media_set?set=a.1314778338545663.100000405288676&type=3
**ภาพจากอัลบั้มส่วนตัวซ้ำกับในหระทู้ เพิ่มเติมพอทเทรทและบรรยากาศของน้องๆที่ไปด้วย
https://www.facebook.com/iPoonz/media_set?set=a.1334372559919574.100000405288676&type=3
เอ๊าท์ติ้ง สะดิ้งรัก อกพี่ไม่ได้หัก แค่หนีไปพักที่เจแปน
บ่ายวันหนึ่งของต้นเดือนตุลาคม 2016....
ระหว่างทุกคนกำลังง่วนกับงานของตัวเอง พลันเสียงจากบอสก็ทำลายความเงียบขึ้นมา
“จบปีนี้ไปเที่ยวญี่ปุ่นกันนะ” หลังจากนั้น...
ข่าวสารก็แพร่กระจายไปยังสาขาต่างๆด้วยความรวดเร็วของพลังโซเชี่ยลเน็ตเวิร์ค
ถือเป็นการไปเอ๊าท์ติ้งต่างประเทศครั้งที่ 2 ของที่นี่ ซึ่งในครั้งแรกนั้นได้มีการแบ่งกลุ่มทะยอยกันไป
ครั้งนี้ก็เช่นกัน และถือเป็นความพิเศษตรงที่ให้เลือกเมืองที่ต้องการไปเองของแต่ละกลุ่ม
โดยแต่ละคนมีผู้ติดตามไปได้แต่ออกค่าใช้จ่ายเองเต็มจำนวน
จากนั้นเราจึงแบ่งกลุ่มออกเป็น 3 กลุ่ม โดยที่กลุ่มเรามี 10 คนคือ
ตัวผม(ปูน) บินเดี่ยว
บี มีผู้ติดตามคือ พิม และ พลอย
บาส มีผู้ติดตามคือ ก้อยผู้ภรรยา และ ลูกชายสบาย
พ่อเลี้ยงหมู จากเชียงใหม่มีผู้ติดตามคือ น้องปอ
ปิดท้ายด้วย โกเต๋า จากภูเก็ต บินเดี่ยว
จากนั้นก็ตั้งกลุ่ม Line แล้วเริ่มเลือกว่าจะไปที่ไหน เผอิญว่าตอนนั้นกระแสหนังแฟนเดย์กำลังมา
ส่วนใหญ่ก็เลยมองว่าไป ซัปโปโร แต่หลังจากหาข้อมูลของแหล่งท่องเที่ยวบวกกับสภาพอากาศ
น่าจะทำให้เที่ยวด้วยความทรมานที่ต้องผจญกับหิมะและความหนาวทุกๆวันของเดือนมกราคม
เลยเริ่มทำการเบนเข็ม แรกเลยผมเสนอไป นาโกย่า แต่ติดที่ไม่มีเครื่องบินตรงและใช้เวลาเดินทางนานมากกกกก
ถกเถียงกันอยู่ซักพักสุดท้ายหวยออกที่โตเกียว.....เอาละสิ
โตเกียวในสมองของผมมีแต่ภาพของเมืองที่ดูวุ่นวาย
แหล่งช๊อปปิ้ง แหล่งธุรกิจ คนแออัด เดินกันยั้วเยี้ยเหมือนในหนังที่เคยดู.............
โอยย...นี่มันไม่ใช่แนวของผมซักนิดเดียว แล้วหวยดอกที่สองก็ออกมา
“พี่ปูนทำแผนท่องเที่ยวด้วยนะ”.............
แล้วบีก็ทำการจองตั๋วและที่พัก ซึ่งเราจะออกเดินทางจากกรุงเทพประมาณ 5 ทุ่มของวันที่ 5 มค. 2560
และจะถึงสนามบินนาริตะเวลาประมาณ 8 โมงเช้าตามเวลาท้องถิ่น(ญี่ปุ่น)
เดินทางกลับ 12 มค. 2560 เวลา 2 ทุ่มเวลาญี่ปุ่นถึงไทยตี 2 ตามเวลาท้องถิ่น(ไทย)
ระหว่างนี้ก็เริ่มหาอุปกรณ์ช่องทางการสื่อสาร โดยตกลงจะเช่า Pocket wifi ไป 3 เครื่องแบ่งเป็น
เครื่องที่ 1 บี, พิม, พลอย, เครื่องที่ 2 บาส, ก้อย, สบาย, เครื่องที่ 3 หมู, ปอ
โกเต๋ารอสอยจากเครื่องไหนก็ได้ ส่วนผมบินเดี่ยวและขี้เกียจพกอุปกรณ์เยอะเลยแยกซื้อซิม
หลังจากเซิร์ชหาก็ได้มายี่ห้อนึงเค้าเคลมว่า 7 วัน 4G Unlimit ไม่ลดความเร็ว กลุ่มไลน์ไม่หาย
ผมก็บ้าเชื่อโฆษณาแล้วก็กดสั่งซื้อไป
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
หลังจากวางแผนการท่องเที่ยวคร่าวๆ โดยแนวคิดของผมคือจะให้โตเกียวเป็นแค่ที่นอน เพราะไม่ได้อิน
ว่าจะต้องช๊อปปิ้ง ถามคนในกลุ่มก็ได้คำตอบว่าไม่เน้น แต่ไหนๆก็พักโตเกียวแล้วถ้าไม่เดินเล่นซะหน่อยก็คงแปลก
ผมก็เลยจัดให้มีวันเที่ยวโตเกียว 1 วันเต็มกับช่วงเช้าของวันกลับ ส่วนวันอื่นๆ เราจะไปเที่ยวนอกโตเกียวกันเกือบทุกวัน
ตอนแรกกังวลว่าค่าเดินทางจะบานเลยเซิร์ชหาข้อมูลรถตู้แล้วให้คนในกลุ่มทำใบขับขี่อินเตอร์
คุยไปคุยมาท่าทางไม่รอดเลยเปลี่ยนแผนใหม่เซิร์ชหาตั๋วรถ JR ก็ได้ข้อมูล JR WIDE PASS มาก็เอาไปให้คนในกลุ่มดู
พร้อมกับให้เหตุผลประกอบแผนการเดินทางไปในแต่ละที่ซึ่งถ้าไม่ซื้อตั๋วนี้ค่ารถจะบานจนไม่เหลืองบกินข้าวกันเป็นแน่
จนในที่สุดตกลงกันได้พี่บีของเราก็ทำการรูดปรี๊ดดดดดด ก็เหลือแค่การเตรียมตัวส่วนบุคคลพวกอุปกรณ์กันหนาว
และการแลกเงินของใครของมัน เสร็จเรื่องเรียบร้อยการเตรียมตัวเป็นอันจบไป
พฤหัส 5 มกราคม 2560
วันนี้ที่รอคอย......ตั้งหน้าตั้งตาคอยกันมาแรมเดือน วันเดินทางของกลุ่มเราก็มาถึงเรานัดเจอกันที่สนามบินดอนเมืองประมาณ 3 ทุ่ม
เมื่อถึงเวลาสมาชิกมาครบก็ทำการ Bag drop เพราะเช็คอินออนไลน์มาแล้วทำให้ประหยัดเวลาไปได้มาก
เข้าไปนั่งรอที่ประตูทางออกจนถึงเวลาเรียกขึ้นเครื่อง เครื่องออกตรงตามกำหนดเวลา หลังจากนั้นไม่นานก็หลับกันไป
ศุกร์ 6 มกราคม 2560
8 โมงเช้านิดๆ (ตามเวลาญี่ปุ่น) พวกเราก็เดินทางมาถึงสนามบินนาริตะ ลงจากเครื่องได้ระหว่างรอคนอื่นๆออกมา
ผมก็กดดูสภาพอากาศก่อนเลย เพราะพออกจากประตูเครื่องบินมาเหมือนมีความรู้สึกถึงความเย็นที่วิ่งเข้ามาปะทะร่างจนสะท้าน
ผลปรากฏว่าขณะนั้นอุณหภูมิ -4 องศาเซลเซียส เย็นไม่ปรึกษากันก่อนเลย พอทุกคนออกมาครบก็รีบเดินเข้าไปในตัวสนามบิน
จึงค่อยอุ่นขึ้นมาบ้าง เดินสบายๆไปรับกระเป๋าจนครบทั้งกลุ่ม จากนั้นก็เข้าสู่กระบวนการตรวจคนเข้าเมือง
ทุกคนผ่านฉลุย มาสะดุดเอาที่ผมนี่แหละ อยู่ๆพี่เค้าก็อยากจะดูของกระเป๋าผมซะงั้น ผมก็เปิดให้ดูด้วยความเต็มใจ
หลังจากพี่เค้าแคะๆคุ้ยๆผมอยู่แป๊บนึงก็ปล่อยให้ผมผ่านเข้าเมืองแต่โดยดี แต่ก่อนอื่นเราต้องหยิบอุปกรณ์กันหนาวมาสวมกันก่อน
แล้วเราก็เริ่มตามหาจุดรับ JR PASS ของพวกเรา เดินเลี้ยวไปเลี้ยวมาตามลูกศรและตำแหน่งที่ทางบริษัทขายตั๋วบอกไว้ในคู่มือ
ไม่นานเราก็พบจุดรับตั๋ว แล้วกระเหรี่ยงไทยแบบเราก็ลากกระเป๋าไปต่อแถวทั้ง 10 คน
ทีนี้คุณพี่เจ้าหน้าที่เห็นก็ถามว่ามาด้วยกันทั้งหมดรึเปล่า เราก็ตอบว่าใช่ เค้าก็เลยบอกว่าให้รวมพาสปอร์ตมาไว้ที่คนเดียวเลย อ่ะ
สะดวกดีแฮะก็จัดการรวมพาสปอร์ต แลัวเจ้าหน้าที่ก็แจกกระดานรองเขียนซึ่งเหน็บตั๋วมาให้เรากรอกชื่อนามสกุลและเลขพาสปอร์ต
เขียนเสร็จก็นำมาเห็บไว้กับพาสปอร์ตของแต่ละคน แล้วก็ยืนเข้าแถวรอจนถึงคิวผมกับบีเข้าไป 2 คนเพื่อจะได้ช่วยกัน
เจ้าหน้าที่ทำการออกตั๋ว JR ให้กับพวกเราและทำการสำรองที่นั่ง Narita Exprees เพื่อให้แน่ใจว่าเราจะมีที่นั่งไปจนถึงโตเกียว
แล้วเราก็ลากกระเป๋าเดินผ่านเข้าไปยังขบวนรถไฟ แค่ชูบัตรให้พนักงานตรงช่องพิเศษก็เดินผ่านเข้าสู่ชานชาลากันได้ฉลุย
เวลาผ่านไปเกือบๆชั่วโมงบนรถไฟ เราก็มาถึงสถานีโตเกียว ก็ลากกระเป๋ากันอีกครั้งเพื่อต่อรถไปยังสถานีอูเอโน่
เริ่มวัฏจักรเดิมเหมือนการมาญี่ปุ่นในครั้งที่แล้ว เดินหาสายรถไฟที่จะไปต่อไม่เจอ รวมพลังเซิร์ชหาข้อมูลจากทั้งกูเกิ้ลแมพ และ ไฮเปอร์เดียร์
เราก็มาพบกับเส้นทาง JR สาย YAMANOTE LINE ซึ่งหลังจากนี้เราใช้เส้นนี้เป็นหลักในการเดินทางรอบโตเกียว
(YAMANOTE LINE มี 2 ขบวนวิ่งสวนกันต้องดูดีๆว่าจะไปสถานีไหน ขึ้นผิดฝั่งกลายเป็นอ้อมไปเลย)
หลังจากที่เราขึ้นรถไฟไม่นาน เราก็มาถึงสถานีอูเอโนะ เริ่มลากกระเป๋ากันอีกครั้งคราวนี้เราใช้กูเกิ้ลแมพ
นำเราไปยังโรงแรมซึ่งห่างไปเกือบ 1 กิโลเมตร เมื่อมาถึงโรงแรมยังไม่ถึงเวลาเช็คอิน เราก็ติดต่อเจ้าหน้าที่ขอฝากกระเป๋าไว้
แล้วเราก็ออกเดินไปแถวๆสถานีอูเอโนะ ระหว่างทางผ่านร้านราเม็งเลยจัดกันไปคนละชาม พอจะมีแรงขึ้นมาบ้างก็เริ่มออกเดินเรื่อยๆเปื่อยๆ
เจอวัดก็แวะเข้าไปถ่ายรูป จนไปถึงสถานีอูเอโนะ เดินวนไปวนมาบนสะพานลอยถ่ายรูปกันเรื่อยเปื่อยจนเบื่อก็เดินเข้าไปในตลาดที่อยู่ใกล้ๆกับสถานีอูเอโน่
แสงเฉียงกำลังสวย เดินถ่ายรูปไป ดูของไปเรื่อยเปื่อย จนได้เวลาเช็คอิน ก็พากันกลับมาที่โรงแรมอาบน้ำพักผ่อนก่อนออกไปหาอาหารเย็นทานกัน
ระหว่างรอเวลาไปทานอาหาร เราก็ได้ทำเลถ่ายภาพกันชุดใหญ่จนหมดแสง แล้วจึงลงไปสมทบกับกลุ่มเพื่อออกไปหาอาหารเย็น
หลังอาหารเย็นก็กลับที่พัก พักผ่อนกันตามอัธยาศัย เพื่อรอที่จะบุกกรุงโตเกียวในวันพรุ่งนี้
**ภาพบรรยากาศจากหลายๆกล้องของน้องๆร่วมทริป
https://www.facebook.com/iPoonz/media_set?set=a.1314778338545663.100000405288676&type=3
**ภาพจากอัลบั้มส่วนตัวซ้ำกับในหระทู้ เพิ่มเติมพอทเทรทและบรรยากาศของน้องๆที่ไปด้วย
https://www.facebook.com/iPoonz/media_set?set=a.1334372559919574.100000405288676&type=3