
ลากยาวกับงานมาหลายเดือน ต้องเรียกว่ายาวนาน กว่าสามเดือนที่ไม่ได้พักกายพักใจ

ได้เวลาเหมาะสมก็ใช้วันลาพักร้อนสองสามวัน เก็บกระเป๋า จองตั๋ว จองที่พัก อ่านรีวิวในพันทิปนิดหน่อย แล้วก็ไปกันเลยครับพี่สุชาติ
เสื้อผ้าพร้อม กล้องพร้อม อย่าลืมพาสปอร์ต ก็ออกเดินทางอย่างเหงาๆ ถ้าอยากเมาค่อยไปหาเอาข้างหน้า
เดินทางบ่ายโมงนิดๆ เช็คอินออนไลน์ของแอร์เอเชียมาพร้อม ก็อย่าลืมไปขอใบ ตม. ที่เคาเตอร์สายการบินมาเขียนก่อนนะครับผม
เดินทางกันชั่วโมงหน่อยๆ เราก็ถึงสนามบินหลวงพระบาง เป็นที่เรียบร้อยครับผม
เข้าเมืองแบบง่ายๆ มองหาเคาเตอร์แท็กซี่เข้าเมืองได้เลยครับ
ใครติดการใช้เน็ตออกมาจาก ตม. ก็ซื้อซิมเลยครับ ผมใช้ลาวเทเลคอมไวมาก ทำไมไวกว่าบ้านเราวะ ใช้แค่วันละ 1GB ก็เพียงพอครับ
ใครไม่ได้แลกเงินมาก็ หาธนาคารสีเขียวๆ ธนาคารโพนสะหวันแลกเงินได้ครับ พยายามใช้ให้หมดนะครับ ที่นี่รับแลกกลับได้แค่ 1,000 บาท ต่อหนึ่งพาสปอร์ต หรือมาแลกคืนที่ธนาคารกรุงไทยสนามบินดอนเมืองได้โล้ดครับผม
รถมาส่งเราถึงหน้าที่พักเป็นที่เรียบร้อย สายน้ำคานริเวอร์วิว จองมาก่อนอาทิตย์เดียว ได้ห้องมุมเห็นวิวอย่างแจ่ม เฮ้อสบายใจจัง
เรียกว่า บ่ใกล้ บ่ไกล วิวดี หลับสบาย เดินสะดวกหลายๆ ที่สำคัญสงบกว่าทางฝั่งน้ำโขงแยะ
เณรช่วยกันสร้างสะพาน รอบนี้มาช่วงหลังฤดูน้ำหลาก ก็ได้เวลาสร้างสะพานขึ้นใหม่
วันนี้ไม่มีกิจกรรมใดๆ พิเศษ ก็ขึ้นไปชมวิวที่ Indigo Cafe ชมวิวมองผู้คนที่เรียกว่างานดี ดูมีอารยะ จนอยากจะสมยอมตกเป็นของเธอ 555
ตลาดมืดก็งดงามตามท้องเรื่อง วันนี้มีหมอกบางๆ ฟินยิ่งกว่านอนกอดแฟน
แต่สุดท้ายก็เดินเหงาๆ เดินหาของกิน แล้วกลับไปนอนห่มผ้าให้อุ่นๆ ตามเคย

เช้าวันที่สอง อยากจะใส่บาตรแต่ตื่นเช้าไม่ใช้นิสัย 555
แดดอุ่นๆ นั่งทานข้าวต้ม ถ้าอยู่เมืองไทยคงไม่บ้ามานั่งกินข้าวรับวิตามินแบบนี้แน่นอน
อิ่มแล้วก็หิวจักรยาน ร่อนไปทั่ว เรียกว่า ปั่นจนปวดน่อง เข้าทุกวัด ลัดเลาะทุกซอย เมื่อก็พัก หายเหนื่อยก็ไปต่อ
ถามต่อว่าจำชื่อวัดที่เข้าได้หมดทุกวัดไหม ตอบเลยว่าไม่
ใครอยากนั่งเรือชมความงดแม่น้ำโขง หรือไปถ้ำติ่ง โปรดหาข้อมูลจากกระทู้อื่นๆ 555
กินลม ชมวิว จนหิว ก็มาร้านนี้เลยครับผม ป้าติ๋ม หน้าวัดหนองศรีคูณเมือง
อร่อยครับป้า ส้มตำเส้นใหญ่ใส่กะปิ แหนม ไส้อั่ว กินไม่หมดห่อกลับบ้าน ป้าขำสิ ป้าบอกว่าสั่งทำไมเยอะละมาคนเดียว
ปั่นวนไปวนมากเพลินหลายเด้อ
ก็มาเจอตำราเรียนภาษาลาว
ต้องบอกเลยว่าอยากจะบอกรักภาษาไหน ก็ไม่กินใจเท่าภาษาใจที่บอกรักเธอ
บอกกับเค้าได้ไหมให้วิ่งผ่านไปก่อน อ้อนวอนขอให้เค้าเห็นใจกันบ้าง
เสี่ยงมั้ย ใครว่ามันไม่เสี่ยง แต่ใจมันแอบเถียง ว่ายังไงก็ใช่เธอ...
จากวัดวิชุน เราก็จะขึ้นพระธาตุพูสี แต่ตอนนี้ได้แต่มองจากไกลๆ
ยังไม่หน่ำ ตะเกียกตะกายขึ้นไปบนพระธาตุพูสี แต่วิวดีให้อภัย
เค้าให้ขึ้นมาชมพระอาทิตย์ขึ้นและตก แต่ผมต่างๆ ขอไปเมาดีกว่า 555
ก่อนจะกลับมาอาบน้ำก็แว๊บมาจิบกาแฟที่ร้านดังของที่นี่ โจมา เค้กอร่อย กาแฟพอได้
ที่หลวงพระบางมีสองร้านนะครับ ใกล้ๆ ที่พักก็สาขาฝั่งแม่น้ำคาน ที่เวียงจันทน์ก็มีนะร้านเน้
สุดท้ายค่ำคืนนี้ ที่ Dexter Cafe ก็หน้ามืดตามัวกินไปกี่ขวดครับคุณ
จิบหน่อยได้ไหม ด้วยคำว่าคิดถึง อยากจิบอีกสักขวดนึง ให้ใจได้อุ่นใจ... เกือบโหลไหมละ
ก็นั่งวนไปชั้นบนนั่งส่องคน ลงมาฟังเพลงต่อชั้นล่างอีก ติดลม

เช้าวันที่สาม ก่อนกลับบ้านเรา
ยังดื่มด่ำกับวิวน้ำคาน
ทั้งเณร ทั้งเด็กน้อยก็รีบเข้าเรียน แต่เรายังนั่งชิว โตแล้ว ไม่ต้องไปโรงเรียนก็ได้ แต่ถ้าไม่ไปทำงานอดตายนะ 555
ภาพนี้ก็ชวนให้นึกถึงเพลงๆ หนึ่ง
...หากดวงตะวันยังใสสว่าง ฉันก็ยังไม่หวั่นไหว คืนและวันจะนานเท่าใด ใจฉันจะอยู่คงเดิม...
สาบานว่าเกิดไม่ทันจริงๆ
เข้านี้ผมเดินชิวๆ เข้าพิพิธภัณฑ์หลวงพระบาง หรือพระราชวังหลวงพระบางเดิมนั้นแล เดินจนคุ้มค่าตั๋ว
ผมก็ทะลุมาฝั่งแม่น้ำโขงไปจิบกาแฟที่ร้าน Saffron เอาให้สร่างเมา
สายน้ำโขงแม่ไหลล่อง สายัณต์ตะวันสาดส่องมองสองฝั่งทั้งซ้ายและขวา ยืมเพลงพี่ไผ่เค้ามาช่างเข้ากับบรรยากาศจริงๆ
ก่อนจะกลับบ้านก็มาซ้ำที่วัดเชียงทองกันอีกรอบ
ก็มาในช่วงที่ละครนาคีกำลังมา ก็เม้ามอยเรื่องละครกับคนหลวงพระบางกันเพลิน
ชอบรูปแบบศิลปกรรมลาวตรงที่ดูเรียบง่าย เหมือนจะไม่เนียบ แต่ก็สะท้อนฝีมือช่าง และเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว
ก่อนกลับไปรอรถมารับไปส่งสนามบินก็สักชามนะครับผม หน้าวัดเชียงทองนั้นละครับผม
และถึงเวลาที่ต้องกลับไปทำงานต่อ อย่าลืมพาตัวเองออกไปพักกันนะครับผม
หวังว่ากระทู้เลอะๆ เทอะๆ นี้จะช่วยกระตุ้นให้ทุกคนออกไปนั่งโง่ๆ ในที่ๆ ซึ่งไม่มีใครรู้ว่าคุณเป็นใคร...
หลวงพระบาง ที่พักใจของคนใจบางๆ
ได้เวลาเหมาะสมก็ใช้วันลาพักร้อนสองสามวัน เก็บกระเป๋า จองตั๋ว จองที่พัก อ่านรีวิวในพันทิปนิดหน่อย แล้วก็ไปกันเลยครับพี่สุชาติ
เสื้อผ้าพร้อม กล้องพร้อม อย่าลืมพาสปอร์ต ก็ออกเดินทางอย่างเหงาๆ ถ้าอยากเมาค่อยไปหาเอาข้างหน้า
เดินทางบ่ายโมงนิดๆ เช็คอินออนไลน์ของแอร์เอเชียมาพร้อม ก็อย่าลืมไปขอใบ ตม. ที่เคาเตอร์สายการบินมาเขียนก่อนนะครับผม
เดินทางกันชั่วโมงหน่อยๆ เราก็ถึงสนามบินหลวงพระบาง เป็นที่เรียบร้อยครับผม
เข้าเมืองแบบง่ายๆ มองหาเคาเตอร์แท็กซี่เข้าเมืองได้เลยครับ
ใครติดการใช้เน็ตออกมาจาก ตม. ก็ซื้อซิมเลยครับ ผมใช้ลาวเทเลคอมไวมาก ทำไมไวกว่าบ้านเราวะ ใช้แค่วันละ 1GB ก็เพียงพอครับ
ใครไม่ได้แลกเงินมาก็ หาธนาคารสีเขียวๆ ธนาคารโพนสะหวันแลกเงินได้ครับ พยายามใช้ให้หมดนะครับ ที่นี่รับแลกกลับได้แค่ 1,000 บาท ต่อหนึ่งพาสปอร์ต หรือมาแลกคืนที่ธนาคารกรุงไทยสนามบินดอนเมืองได้โล้ดครับผม
รถมาส่งเราถึงหน้าที่พักเป็นที่เรียบร้อย สายน้ำคานริเวอร์วิว จองมาก่อนอาทิตย์เดียว ได้ห้องมุมเห็นวิวอย่างแจ่ม เฮ้อสบายใจจัง
เรียกว่า บ่ใกล้ บ่ไกล วิวดี หลับสบาย เดินสะดวกหลายๆ ที่สำคัญสงบกว่าทางฝั่งน้ำโขงแยะ
เณรช่วยกันสร้างสะพาน รอบนี้มาช่วงหลังฤดูน้ำหลาก ก็ได้เวลาสร้างสะพานขึ้นใหม่
วันนี้ไม่มีกิจกรรมใดๆ พิเศษ ก็ขึ้นไปชมวิวที่ Indigo Cafe ชมวิวมองผู้คนที่เรียกว่างานดี ดูมีอารยะ จนอยากจะสมยอมตกเป็นของเธอ 555
ตลาดมืดก็งดงามตามท้องเรื่อง วันนี้มีหมอกบางๆ ฟินยิ่งกว่านอนกอดแฟน
แต่สุดท้ายก็เดินเหงาๆ เดินหาของกิน แล้วกลับไปนอนห่มผ้าให้อุ่นๆ ตามเคย
แดดอุ่นๆ นั่งทานข้าวต้ม ถ้าอยู่เมืองไทยคงไม่บ้ามานั่งกินข้าวรับวิตามินแบบนี้แน่นอน
อิ่มแล้วก็หิวจักรยาน ร่อนไปทั่ว เรียกว่า ปั่นจนปวดน่อง เข้าทุกวัด ลัดเลาะทุกซอย เมื่อก็พัก หายเหนื่อยก็ไปต่อ
ถามต่อว่าจำชื่อวัดที่เข้าได้หมดทุกวัดไหม ตอบเลยว่าไม่
ใครอยากนั่งเรือชมความงดแม่น้ำโขง หรือไปถ้ำติ่ง โปรดหาข้อมูลจากกระทู้อื่นๆ 555
กินลม ชมวิว จนหิว ก็มาร้านนี้เลยครับผม ป้าติ๋ม หน้าวัดหนองศรีคูณเมือง
อร่อยครับป้า ส้มตำเส้นใหญ่ใส่กะปิ แหนม ไส้อั่ว กินไม่หมดห่อกลับบ้าน ป้าขำสิ ป้าบอกว่าสั่งทำไมเยอะละมาคนเดียว
ปั่นวนไปวนมากเพลินหลายเด้อ
ก็มาเจอตำราเรียนภาษาลาว
ต้องบอกเลยว่าอยากจะบอกรักภาษาไหน ก็ไม่กินใจเท่าภาษาใจที่บอกรักเธอ
บอกกับเค้าได้ไหมให้วิ่งผ่านไปก่อน อ้อนวอนขอให้เค้าเห็นใจกันบ้าง
เสี่ยงมั้ย ใครว่ามันไม่เสี่ยง แต่ใจมันแอบเถียง ว่ายังไงก็ใช่เธอ...
จากวัดวิชุน เราก็จะขึ้นพระธาตุพูสี แต่ตอนนี้ได้แต่มองจากไกลๆ
ยังไม่หน่ำ ตะเกียกตะกายขึ้นไปบนพระธาตุพูสี แต่วิวดีให้อภัย
เค้าให้ขึ้นมาชมพระอาทิตย์ขึ้นและตก แต่ผมต่างๆ ขอไปเมาดีกว่า 555
ก่อนจะกลับมาอาบน้ำก็แว๊บมาจิบกาแฟที่ร้านดังของที่นี่ โจมา เค้กอร่อย กาแฟพอได้
ที่หลวงพระบางมีสองร้านนะครับ ใกล้ๆ ที่พักก็สาขาฝั่งแม่น้ำคาน ที่เวียงจันทน์ก็มีนะร้านเน้
สุดท้ายค่ำคืนนี้ ที่ Dexter Cafe ก็หน้ามืดตามัวกินไปกี่ขวดครับคุณ
จิบหน่อยได้ไหม ด้วยคำว่าคิดถึง อยากจิบอีกสักขวดนึง ให้ใจได้อุ่นใจ... เกือบโหลไหมละ
ก็นั่งวนไปชั้นบนนั่งส่องคน ลงมาฟังเพลงต่อชั้นล่างอีก ติดลม
ยังดื่มด่ำกับวิวน้ำคาน
ทั้งเณร ทั้งเด็กน้อยก็รีบเข้าเรียน แต่เรายังนั่งชิว โตแล้ว ไม่ต้องไปโรงเรียนก็ได้ แต่ถ้าไม่ไปทำงานอดตายนะ 555
ภาพนี้ก็ชวนให้นึกถึงเพลงๆ หนึ่ง
...หากดวงตะวันยังใสสว่าง ฉันก็ยังไม่หวั่นไหว คืนและวันจะนานเท่าใด ใจฉันจะอยู่คงเดิม...
สาบานว่าเกิดไม่ทันจริงๆ
เข้านี้ผมเดินชิวๆ เข้าพิพิธภัณฑ์หลวงพระบาง หรือพระราชวังหลวงพระบางเดิมนั้นแล เดินจนคุ้มค่าตั๋ว
ผมก็ทะลุมาฝั่งแม่น้ำโขงไปจิบกาแฟที่ร้าน Saffron เอาให้สร่างเมา
สายน้ำโขงแม่ไหลล่อง สายัณต์ตะวันสาดส่องมองสองฝั่งทั้งซ้ายและขวา ยืมเพลงพี่ไผ่เค้ามาช่างเข้ากับบรรยากาศจริงๆ
ก่อนจะกลับบ้านก็มาซ้ำที่วัดเชียงทองกันอีกรอบ
ก็มาในช่วงที่ละครนาคีกำลังมา ก็เม้ามอยเรื่องละครกับคนหลวงพระบางกันเพลิน
ชอบรูปแบบศิลปกรรมลาวตรงที่ดูเรียบง่าย เหมือนจะไม่เนียบ แต่ก็สะท้อนฝีมือช่าง และเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว
ก่อนกลับไปรอรถมารับไปส่งสนามบินก็สักชามนะครับผม หน้าวัดเชียงทองนั้นละครับผม
และถึงเวลาที่ต้องกลับไปทำงานต่อ อย่าลืมพาตัวเองออกไปพักกันนะครับผม
หวังว่ากระทู้เลอะๆ เทอะๆ นี้จะช่วยกระตุ้นให้ทุกคนออกไปนั่งโง่ๆ ในที่ๆ ซึ่งไม่มีใครรู้ว่าคุณเป็นใคร...