ผมขอเล่าประสบการณ์ประมูลที่ดินให้ฟังนะครับ
วันก่อนผมได้เข้าไปดูเว็บไซ์ขายทอดตลาดของกรมบังคับคดีมาและมีที่สวยสนใจอยู่แปลงหนึ่ง ขนาด 3 งาน 27 ตารางวา ที่จังหวัดนครศรีธรรมราช อำเภอชะอวด ในราคาขายทอดตลาด 60,000 บ. (นัดที่ 2) ติดจำนองธกส. 87,000 บ. เลยสนใจ ขับรถดูเป็นสวนผลไม้มังคุตผสมสวนยางพารา เลยตกลงกับแฟนว่าจะไปประมูล ในวันที่ 29 ธ.ค.59 ไปถึงก็ทำตามกฎยื่นซองรับป้ายประมูล (ราคา 5,000 บ.) เจ้าพนักงานก็อ่านรายละเอียดต่างๆให้ฟัง และเรารับราคาประมูลเพียงคนเดียว จำเลยก็ค้านราคา เราก็ผูกพันราคาไว้ มาประมูลครั้งใหม่ เมื่อวันที่ 19 ม.ค.60 ที่ผ่านมานี้เอง พอถึงวันที่เราผูกพันราคาไว้(19ม.ค.60) เราก็ไปประมูล พอลงรถไปดูป้ายประกาศก็มีผู้หญิงคนหนึ่ง (ทราบภายหลังว่าเป็นญาติเจ้าของที่ดิน และทำอาชีพครูอยู่ที่ร่อนพิบูลย์) เข้ามาคุยว่า น้องใช่ไหมที่มาซื้อที่ดิน น้องไม่รู้รึว่าเค้าไม่ขาย (หมายถึงเจ้าของที่ดิน) พ่อเค้าไม่สบายเพราะน้อง ไม่ยอมกินข้าวอะไรเลย ที่ดินก็ขนาดเล็ก ทำอะไรไม่ได้จะอยู่ก็ไม่ได้ แล้วก็เข้าไปในที่ดินคนอื่น(จากที่ไปดูก็ติดถนนนะ เข้าไปที่ดินคนอื่นได้ไง?) บอกว่ารู้จักกับ ผอ. บังคับคดีที่ปราจีน เค้าโทรมาคุยกับผอ.บังคับคดีที่นี่แล้วให้ช่วย น้องประมูลไปไม่ได้หรอก แล้วเค้าก็บอกว่า น้องจะเอาค่าเสียเวลาเท่าไรถ้าไม่ไปประฒุล เราก็บอกว่า ผมมาจากต่างจังหวัดมาครั้งที่สองละ ลางานมา พี่จะให้ผมเท่าไรละ เค้าก็บอกว่าเอางี้พี่ก็ผ่อนบ้านอยู่เป็นล้าน พี่ให้ห้าพันละกัน ผมก็บอกว่า โอ้โห้พี่ ตั้งห้าพัน พี่เก็บไว้ละกัน ผมทำงานสองวันได้มากกว่าห้าพัน เค้าก็ไม่พอใจไปคุยกับแฟนผม บอกว่าผมหัวรุนแรง ให้น้อง(หมายถึงแฟนผมคุยให้หน่อย) (ผมไป 3 คน มี ผม แฟน และแม่แฟน) แฟนก็เฉยๆเพราะตกลงกันแล้วกับผมว่าให้ผมคนตัดสินใจ ผมก็เดินขึ้นไปห้องประมูล (ทรัพย์ลำดับที่ 55) เค้าก็ตามขึ้นมา พอเริ่มประมูลไปลำดับที่3 มีพนักงานเดินหมายมาถาม ญาติเจำเลยว่า พี่ไหนไปยื่นซองยัง พนักงานเดินหมายก็แนะนำต้องทำอย่างนี้อย่างนั้น กับญาติเจ้าของที่ดินไป และก็มาถึงเวลา ทรัพย์ลำดับที่ 55 เจ้าพนักงานก็อ่านรายละเอียด และถามว่า ผู้ผูกพันราคามาไหม เราก็ยกป้าย เค้าก็ถามว่ามีใครเสนอราคาอื่นไหม ญาติเจ้าของที่ดินก็เสนอ 62,000 บ. เราก็เสนอ 64,000 บ. ซึ่งเวลาเสนอราคาก็หันไปสังเกตเห็น คุณเจ้าพนักงานเดินหมายมาค่อยกำกับญาติของเจ้าของที่ดินตลอด นึกในใจ หน้าที่ของเค้าสงสัย ( ผมก็คิดในใจแล้วว่าจะทำราคาให้มากๆแล้วจะให้เค้าให้สมกับที่ทำแบบนี้) ก็เสนอราคาไปมา ผมคิดในใจว่าเค้าต้องการราคาเท่าไรก็ยอม เลยจะแก้เกม เสนอราคาถึง 188,000 บ. เค้าก็เสนอมา 190,000 บ. ผมก็ปล่อยไม่เสนอราคาต่อ แล้วก็เข้าห้องไปรับเงินที่ผูกพันราคาไว้ ผมให้แฟนไปรับผมลงไปด้านล่างไปคุยกับแม่แฟนว่าประมูลไม่ได้นะ เค้าก็มาพูดกับแฟนในทำนองว่า เห็นไหมละถ้าน้องยอมตั้งแต่แรกก็ไม่เสียเวลา และพี่ขอสาปแช่งกับคนที่ทำแบบนี้ แฟนก็โทรให้ผมขึ้นมา เค้าก็เดินลงไป ไปพูดกับแม่แฟนในทำนองไม่สั่งสอนลูก ซึ่งแม่แฟนก็เงียบไม่พูดอะไร ผมก็เดินลงมาญาติจำเลยก็เงียบ แม่แฟน และแฟนก็บอกผม (ญาติจำเลยไม่อยู่แล้ว) ผมก็บอกไปว่าดีแล้ว คิดจะเอาเงิน 5,000 บ. ให้เรา เงินแค่นั้น 55+ ตัวเองโดนไปเป็นแสน กำตามสนองละ ( ราคาขาย 60,000 บ. จำนอง 100,000 บ. โดนเข้าไป ราคาประมูล 190,000 บ. จำนอง 100,000 บ. ทางเราถือเสียว่าไปเที่ยวเปิดดูเปิดตา เรื่องก็มีเท่านี้ครับ ประสบการณ์ประมูลที่ดินครั้งที่ 2 ของผม
ประสบการณ์ประมูลที่ดินจากสำนักงานบังคับคดี
วันก่อนผมได้เข้าไปดูเว็บไซ์ขายทอดตลาดของกรมบังคับคดีมาและมีที่สวยสนใจอยู่แปลงหนึ่ง ขนาด 3 งาน 27 ตารางวา ที่จังหวัดนครศรีธรรมราช อำเภอชะอวด ในราคาขายทอดตลาด 60,000 บ. (นัดที่ 2) ติดจำนองธกส. 87,000 บ. เลยสนใจ ขับรถดูเป็นสวนผลไม้มังคุตผสมสวนยางพารา เลยตกลงกับแฟนว่าจะไปประมูล ในวันที่ 29 ธ.ค.59 ไปถึงก็ทำตามกฎยื่นซองรับป้ายประมูล (ราคา 5,000 บ.) เจ้าพนักงานก็อ่านรายละเอียดต่างๆให้ฟัง และเรารับราคาประมูลเพียงคนเดียว จำเลยก็ค้านราคา เราก็ผูกพันราคาไว้ มาประมูลครั้งใหม่ เมื่อวันที่ 19 ม.ค.60 ที่ผ่านมานี้เอง พอถึงวันที่เราผูกพันราคาไว้(19ม.ค.60) เราก็ไปประมูล พอลงรถไปดูป้ายประกาศก็มีผู้หญิงคนหนึ่ง (ทราบภายหลังว่าเป็นญาติเจ้าของที่ดิน และทำอาชีพครูอยู่ที่ร่อนพิบูลย์) เข้ามาคุยว่า น้องใช่ไหมที่มาซื้อที่ดิน น้องไม่รู้รึว่าเค้าไม่ขาย (หมายถึงเจ้าของที่ดิน) พ่อเค้าไม่สบายเพราะน้อง ไม่ยอมกินข้าวอะไรเลย ที่ดินก็ขนาดเล็ก ทำอะไรไม่ได้จะอยู่ก็ไม่ได้ แล้วก็เข้าไปในที่ดินคนอื่น(จากที่ไปดูก็ติดถนนนะ เข้าไปที่ดินคนอื่นได้ไง?) บอกว่ารู้จักกับ ผอ. บังคับคดีที่ปราจีน เค้าโทรมาคุยกับผอ.บังคับคดีที่นี่แล้วให้ช่วย น้องประมูลไปไม่ได้หรอก แล้วเค้าก็บอกว่า น้องจะเอาค่าเสียเวลาเท่าไรถ้าไม่ไปประฒุล เราก็บอกว่า ผมมาจากต่างจังหวัดมาครั้งที่สองละ ลางานมา พี่จะให้ผมเท่าไรละ เค้าก็บอกว่าเอางี้พี่ก็ผ่อนบ้านอยู่เป็นล้าน พี่ให้ห้าพันละกัน ผมก็บอกว่า โอ้โห้พี่ ตั้งห้าพัน พี่เก็บไว้ละกัน ผมทำงานสองวันได้มากกว่าห้าพัน เค้าก็ไม่พอใจไปคุยกับแฟนผม บอกว่าผมหัวรุนแรง ให้น้อง(หมายถึงแฟนผมคุยให้หน่อย) (ผมไป 3 คน มี ผม แฟน และแม่แฟน) แฟนก็เฉยๆเพราะตกลงกันแล้วกับผมว่าให้ผมคนตัดสินใจ ผมก็เดินขึ้นไปห้องประมูล (ทรัพย์ลำดับที่ 55) เค้าก็ตามขึ้นมา พอเริ่มประมูลไปลำดับที่3 มีพนักงานเดินหมายมาถาม ญาติเจำเลยว่า พี่ไหนไปยื่นซองยัง พนักงานเดินหมายก็แนะนำต้องทำอย่างนี้อย่างนั้น กับญาติเจ้าของที่ดินไป และก็มาถึงเวลา ทรัพย์ลำดับที่ 55 เจ้าพนักงานก็อ่านรายละเอียด และถามว่า ผู้ผูกพันราคามาไหม เราก็ยกป้าย เค้าก็ถามว่ามีใครเสนอราคาอื่นไหม ญาติเจ้าของที่ดินก็เสนอ 62,000 บ. เราก็เสนอ 64,000 บ. ซึ่งเวลาเสนอราคาก็หันไปสังเกตเห็น คุณเจ้าพนักงานเดินหมายมาค่อยกำกับญาติของเจ้าของที่ดินตลอด นึกในใจ หน้าที่ของเค้าสงสัย ( ผมก็คิดในใจแล้วว่าจะทำราคาให้มากๆแล้วจะให้เค้าให้สมกับที่ทำแบบนี้) ก็เสนอราคาไปมา ผมคิดในใจว่าเค้าต้องการราคาเท่าไรก็ยอม เลยจะแก้เกม เสนอราคาถึง 188,000 บ. เค้าก็เสนอมา 190,000 บ. ผมก็ปล่อยไม่เสนอราคาต่อ แล้วก็เข้าห้องไปรับเงินที่ผูกพันราคาไว้ ผมให้แฟนไปรับผมลงไปด้านล่างไปคุยกับแม่แฟนว่าประมูลไม่ได้นะ เค้าก็มาพูดกับแฟนในทำนองว่า เห็นไหมละถ้าน้องยอมตั้งแต่แรกก็ไม่เสียเวลา และพี่ขอสาปแช่งกับคนที่ทำแบบนี้ แฟนก็โทรให้ผมขึ้นมา เค้าก็เดินลงไป ไปพูดกับแม่แฟนในทำนองไม่สั่งสอนลูก ซึ่งแม่แฟนก็เงียบไม่พูดอะไร ผมก็เดินลงมาญาติจำเลยก็เงียบ แม่แฟน และแฟนก็บอกผม (ญาติจำเลยไม่อยู่แล้ว) ผมก็บอกไปว่าดีแล้ว คิดจะเอาเงิน 5,000 บ. ให้เรา เงินแค่นั้น 55+ ตัวเองโดนไปเป็นแสน กำตามสนองละ ( ราคาขาย 60,000 บ. จำนอง 100,000 บ. โดนเข้าไป ราคาประมูล 190,000 บ. จำนอง 100,000 บ. ทางเราถือเสียว่าไปเที่ยวเปิดดูเปิดตา เรื่องก็มีเท่านี้ครับ ประสบการณ์ประมูลที่ดินครั้งที่ 2 ของผม