สวัสดีค่ะทุกคนที่เข้ามาอ่านกระทู้ของเรา 'ปุ๊บปั๊บทัวร์' วันนี้ขอเสนอตอน ไปใช้ชีวิตแบบปุ๊บปั๊บที่ฮ่องกงกันเถอะ 6วัน 6คืน
ขอเกริ่นถึงที่มาของทัวร์นี้ก่อนนะคะ ตอนแรกเราไม่คิดว่าจะตัดสินใจไปเที่ยวที่ฮ่องกง ย้อนกลับไปเมื่อ 6 เดือนก่อนเพื่อนเราส่ง Promotion ของสายการบิน Air Asia มาประกอบกับช่วงนั้นเราเก็บเงินได้จำนวนหนึ่ง ก็เลยลองดูเมืองที่เงินถึงและน่าจะแปลกใหม่สำหรับเรา เป็นการจองตั๋วที่ปุ๊บปั๊บมากเช่นเดียวกันไม่ได้เตรียมข้อมูลอะไรเลย เงินถึงก็จองไป ข้อมูลที่เราจะเขียนในกระทู้นี้จะเน้นการไปใช้ชีวิตที่ฮ่องกง เราเป็นคนหนึ่งที่ชอบไปเที่ยวแบบ Backpack ชอบไปดู ไปเห็น ไปใช้ชีวิต อยากไปไหนก็ไป หลงตรงไหนก็เที่ยวตรงนั้น รู้สึกว่าการไปต่างแดนนั้นมันทำให้เราได้รับรู้ และรับเห็นสิ่งต่างๆ กระทู้นี้ไม่ได้บอกว่าสิ่งที่เราไปนั้นมันดี๊ดีนะแก แกต้องไปกินแบบฉัน ทำแบบฉันนะแล้วมันจะสนุก เราเพียงแค่เขียนในสิ่งที่เราลองไปใช้ชีวิตที่ต่างเมืองในระยะเวลาสั้นๆตามแบบฉบับของเรา และหวังว่าข้อมูลของเราจะเป็นตัวเลือกให้ใครหลายๆคนที่เข้ามาอ่านกระทู้นี้นะจ๊ะ : )
1.ขั้นตอนการเตรียมตัวก่อนไปลองใช้ชีวิต
1.1 ที่พัก
เมื่อจองตั๋วเครื่องบินเรียบร้อยแล้วนั้น สิ่งต่อมาที่ทุกคนต้องนึกถึงนั่นก็คือ สถานที่พัก จริงๆเราดูไว้หลายที่มาก เราเน้นถึงความปลอดภัย การเดินทางสะดวก ใกล้แหล่งช้อป เรากับเพื่อนช่วยกันหาข้อมูลโรงแรม และสุดท้ายเราก็เลือก 3D Inn-Dragon อยู่ตรงย่านจิมซาจุ่ย พิกัด Mirador Mansion,58 Nathan Road วิธีการเดินทางคือนั่งรถเมล์สาย A21 ค่ารถ 33 HK$ จากสนามบินมาลงป้าย13 ตรงถนน Nathan Road แล้วเดินตามถนนมาอีกนิดจะเจอตึก Mirador Mansion สังเกตุจะมีร้าน Bourjois และร้านขายกล้องอยู่ชั้นล่าง เราจองห้อง Double Room ติดหน้าต่าง ผ่าน agoda รวม 6 คืนอยู่ที่ 9080 บาท ตอนCheck-in ต้องจ่ายมัดจำ 300 HK$ สำหรับในกรณีเราทำของเสียหายหรือจ้างบริการเสริมเช่น ซักรีด เขาก็จะหักเงินจากเราตรงนี้ค่ะ แต่ถ้าไม่ใช้เราจะได้คืนวันที่ Check-out ปล.ที่นี้มีตู้กดน้ำเปล่าฟรีนะคะ
1.2 หนังสือเดินทาง
สำหรับใครที่จะไปต่างประเทศหนังสือเดินทางหรือ Passport มีความสำคัญยิ่งค่ะ เมื่อคุณวางแผนจะไปเที่ยวแล้วนั้น คุณก็ควรจะต้องทำหนังสือเดินทางล่วงหน้า ยิ่งเราเป็นช่วงต่างชาติในเมืองเขาแล้วนั้น หนังสือเดินทางมีค่ายิ่งกว่าบัตรประชาชนที่เราพกติดกระเป๋าสตางค์ไว้เสียอีก ดังนั้นควรพกติดตัวไว้ตลอดเวลา
1.3 ตั๋วล่วงหน้าซื้อจากไทยไปยังไงก็คุ้มกว่า
ฮ่องกงนั้นถือว่าเป็นเมืองท่องเที่ยวดังนั้นมักจะมีสถานที่ต่างๆเปิดให้เราเข้าไปเที่ยวเล่นเยี่ยมชม ซึ่งสำหรับเราที่งบน้อยหอยน้อยแล้วนั้นควรจะวางแผนสถานที่เที่ยวสักนิดแล้วคำนวนดูว่าเงินเราสามารถไปเที่ยวที่ไหนบ้าง สำหรับปุ๊บปั๊บทัวร์ของเราสถานที่เราจะต้องไปให้ได้นั่นก็คือ .......
Disney Land จริงๆมันก็เป็นความฝันในวัยเด็กของเรา ถึงแม้ว่าอายุจะเลยมาระดับหนึ่งแล้วนั้นแต่เราก็ยังอยากจะไปอยู่ดี เราลองเช็คราคาตั๋วเข้าDisneyที่ซื้อจากไทยไป ปรากฎว่าถูกกว่าที่ไปซื้อหน้าสวนสนุก ก็ตัดสินใจซื้อล่วงหน้าไปในราคา 2220 บาท มีคูปองส่วนลดสินค้าอีก 50HK$ (ขนาดลดแถมคูปองแล้วเรายังรู้สึกว่าแพ๊งแพง)
Cotai Jet สำหรับเราซึ่งไม่รู้จะไปฮ่องกงอีกเมื่อไหร่เราก็ได้คุยกับเพื่อนที่ร่วมทริปว่าไปฮ่องกงทั้งทีข้ามไปฝั่งมาเก๊าดูไหม อยากไปกินทาร์ตไข่ กับดูประตูโบสถ์ เพื่อนเราซึ่งยังไงก็ได้ก็บอกว่าไปสิๆ สำหรับตั๋วเรือนั่งข้ามไปมาเก๊าเราซื้อล่วงหน้าจากไทย ในราคา ขาละ 680 บาท คือ ถ้าไป-กลับก็อยู่ที่ 1360 บาท (ถ้าไปซื้อที่ฮ่องกงอยู่ที่ 165 HK$ ประมาณ 765 บาท ต่อ1รอบ)
1.4 สภาพอากาศสำหรับการเตรียมเสื้อผ้า
ไม่ว่าจะไปเที่ยวต่างเมืองที่ไหนการเช็คสภาพอากาศถือเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อวางแผนในการเที่ยวของเราให้ราบรื่นไปอย่างไม่มีอุปสรรค สำหรับเราช่วงที่เราไปเที่ยวอากาศอยู่ที่23-20 องศาเซลเซียส ถือว่าเย็นสบาย เราจะได้วางแผนเสื้อผ้าถูก เตรียมไปจะได้ไม่เก้อนะตัวเธอ
1.5 ยา เตรียมไปเถอะเผื่อฉุกเฉิน
เราเป็นคนหนึ่งที่เวลาไปเที่ยวไหนเราจะพกยาไว้ตลอด ยาแก้เมา ยาแก้แพ้อากาศ ยาลดกรดในกระเพาะ ยาแก้ปวดหัว ยาแก้ร้อนใน ยาอมแก้เจ็บคอ เรามองว่าป้องกันไว้ก่อนดีกว่าไปป่วยแล้วต้องซื้อยากินเอาดาบหน้า แนะนำให้พกไปให้เหมาะสมกับจำนวนวันที่เราไป
2.วางแผนจัดตารางวัน จะได้ใช้ชีวิตให้ง่ายขึ้น
จากประสบการณ์เราว่าการวางแผนจะช่วยให้เราใช้ชีวิตได้ง่ายขึ้น แต่ว่าเราเป็นคนที่ชอบระหว่างทางมากกว่าจุดหมายปลายทางการวางแผนของเราจึงเป็นอะไรที่งงๆ สำหรับใครที่ชอบแบบละเอียดแนะนำให้ทำใน word แล้วปริ๊นออกมามันจะช่วยคุณได้มากจริงๆ เรากับเพื่อนวางแผนไว้แน่ๆ 3ที่ นั่นก็คือ Disney Land, ไหว้พระ และ มาเก๊า แล้วเราก็หาวันที่น่าจะเหมาะสมกับแต่ละที่ไว้ดังนี้
[Disney Land] เราจะหลีกเลี่ยงเสาร์ อาทิตย์เพราะคนน่าจะเยอะ เราไปฮ่องกงวันพุธ กลับไทยวันอังคาร ดังนั้นวันธรรมดาที่เราจะมีก็เป็น วันพฤหัสฯ วันศุกร์ และ วันจันทร์ สุดท้ายเราตัดสินใจไปเที่ยว Disney Land วันพฤหัสฯ เพราะอยากไปเที่ยวเร็วๆ
[มาเก๊า] เราซื้อตั๋วเรือรอบวันธรรมดา ดังนั้น ก็เหลือวันศุกร์และวันจันทร์ เราตัดสินใจกับเพื่อนว่าจะเที่ยวในฮ่องกงก่อนแล้วค่อยข้ามไปมาเก๊าแล้วกลับมาก็แพคกระเป๋าให้เสร็จเลย เพราะดังนั้นเราจึงเลือกวันจันทร์
[ไหว้พระ]
ใจจริงเราอยากไปไว้พระที่นอนปิงแต่เงินไม่เอื้ออำนวยจึงต้องตัดใจและหาวัดที่เข้าฟรีได้ (ตะเตือนไต) เรากับเพื่อนๆดูไว้ว่าจะต้องเป็นวัดที่การเดินทางสะดวก ไปได้ไม่หลงแน่ อีกทั้งคิดว่าวันธรรมดาน่าจะดีกว่า เผื่อวันเสาร์อาทิตย์ คนไม่ได้ทำงานมาทำบุญไหว้พระ คนจะเยอะไปอีก ก็เหลือวันศุกร์ที่ตารางว่างส่วนวันที่เหลืออย่างที่เราบอกไว้ว่าเราเป็นคนที่ชอบระหว่างทางดังนั้นขอให้ไปถึงก่อนแล้วเดี๋ยวค่อยคิดว่าอยากไปที่ไหนดี?
3.ขั้นตอนไปใช้ชีวิต
ในส่วนของPartนี้เราขออนุญาตเล่าแบบเน้นรูปประกอบเพราะเนื้อหาเราอัดแน่นไว้ให้ด้านบนแล้ว สำหรับเราขั้นตอน 2 ขั้นตอนแรกถือว่าค่อนข้างจำเป็นในการมาเที่ยวแบบBackpack โอเค!มาเริ่มใช้ชีวิตแบบปุ๊บปั๊บไปพร้อมกับเราเลย....
DAY 1 วันที่ 4 ม.ค. 2560
-13.00 น.- ไฟลท์บินของเราเป็นเวลา 15.30 น. ซึ่งเราควรมาถึงสนามบินล่วงหน้า เผื่อเเวลาไว้สำหรับขั้นตอนโหลดกระเป๋าและขั้นตอนของต.ม. กำหนดการจะถึงสนามบินฮ่องกงเวลา 19.40 น. ตามเวลาท้องถิ่น
-19.40 น.- เมื่อมาถึงสนามบินนานาชาติฮ่องกง เมื่อเข้ามาในสนามบินเราต้องเดินตามป้าย Arrival เพื่อมาตรวจคนเข้าเมือง รับกระเป๋า และ ซื้อซิมโทรศัพท์และบัตร Octopus ซึ่งถือว่าจำเป็นมากสำหรับคนที่มาเที่ยวเอง
*สามารรถซื้อบัตร Octopus ได้ที่ เคาวน์เตอร์ของ AE Express ราคาบัตร 150 HK$ มัดจำ 50 HK$ สำหรับเราเติมเพิ่มไปอีก 100 HK$
*ซื้อซิมโทรศัพท์ได้ที่ร้าน 1010 สำหรับเราไป 6 วัน 6 คืน ซื้อแบบ 5GB Unlimited ราคา 118 HK$
-20.10 น.- ลงลิฟต์มายังชั้น G เพื่อมาขึ้นรถบัส สาย A21 เข้าเมือง ค่ารถ 33 HK$ ใช้บัตร Octopus ตื๊ดได้ข้างๆคนขับ รถจะเป็น 2 ชั้น
-20.40 น.- ลงป้ายที่ 13 มายังตึก Mirador Mansion ขึ้นไปชั้น 13 เพื่อ Check In เมื่อได้Cardเข้าห้องแล้วเอาของมาเก็บแล้วเราก็ไปหาของกิน เนื่องจากไม่มีอะไรตกถึงท้องมาตั้งแต่ บ่ายโมง
แต๊น แต่น แต๊น แต่น แต้น มาฮ่องกงทั้งที ก็ต้องไม่พลาดบะหมี่เกี๊ยวกุ้งเจ้าดัง ร้านที่เราไปกินชื่อว่าร้าน Hung Lee
DAY 2 วันที่ 5 ม.ค. 2560 Disney Day
วันนี้เรากับเพื่อนวางแผนกันไปย้อนวัยเด็กที่ Disney Land มาความตื่นเต้นนิดๆ เมื่อคืนเราลองเช็คการเดินทางMTRจากTsim Sha Tsui มาเปลี่ยนสายเหลืองที่สถานี Lai King ไปลงที่สถานี Sunny Bay จะมีรถไฟขบวนเฉพาะไปยัง Disney Land ใช้เวลาโดยรวมประมาณ 30 นาที
เปิดวันใหม่ด้วยวิวจากห้องพักของเราค่ะ ยามเช้าวันธรรมดา ณ ฮ่องกง รถไม่ค่อยเยอะมาก
-09.00น.- ก่อนมาฮ่องกงสิ่งที่เราอยากมากินรองจากเกี๊ยวกุ้งนั้นก็คือโจ๊ก และโจ๊กเจ้าดังที่เราพามาฝากท้องนั้นก็คือร้าน Hung Lee อีกเช่นเคย เมนูที่เราสั่งมาเป็นโจ๊กหมูชิ้น ปาท่องโก๋ธรรมดา แล้วก็ อีกเมนูเพื่อนเราอยากลองกิน เป็นลักษณะปาท่องโกห่อด้วยแป้งแล้วราดด้วยซอสหวาน อร่อยดีค่ะ โจ๊กอร่อย เนื้อหมูนุ่มมาก เราว่าเขาน่าจะเอาไข่ขาวไปผสมกับข้าว รู้สึกกินไปแล้วได้รสชาติแบบนั้น
-11.00น.- เราออกจากร้านก็เกือบ 10 โมงแล้วเดินทางมาเรื่อยๆ ก็ถึง Disney Land ดินแดนในฝัน วันนี้ภาพจะเยอะเปิดพิเศษเพราะเอากล้องมาด้วย ก่อนอื่นเราจะต้องเอา e ticket ไปแลกตั๋วจริงที่ช่องจำหน่ายตั๋ว ก็จะได้ตั๋วพร้อมคูปองเป็นแบบนี้
ตัวนี้ชื่อแดเนียลค่ะ เป็นน้องหมารักษาความปลอดภัย นางดูเป็นมิตรมากทีเดียว (ขออนุญาตคุณลุงผู้ดูแลแล้วนะคะว่าจะถ่ายรูปน้องหมา)
ส่วนแรกที่เราเข้าไปชมก็คือ Tomorrow Land ในส่วนนี้ที่เราเข้าไปเล่นก็จะมีเครื่องเล่น Space Mountain กับ Buzz Lightyear Astro Blaster ตอนนี้มีStark Expo จากเรื่อง Iron Man ราคาของที่ระลึกค่อนข้างแพงอยู่เหมือนกันค่ะ แต่ความน่ารักเอาไปล้านแต้ม
-15.00น.- ต่อมาเป็นส่วนของเรื่อง Toy Story ตอนประมาณ 15.30 น. จะมีเป็นขบวนพาเหรดเห็นน้องหนูหลายๆคนมาจับจองพื้นที่ข้างทาง จึงทำตัวเนียนๆไปนั่งบ้าง
-18.30น.- ตอนแรกเรากับเพื่อนตั้งใจจะรอดูพลุตอนกลางคืนแต่เห็นจำนวนคนแล้วตระหนักถึงรถไฟขบวนกลับเข้าตัวเมืองก็ตัดใจว่ารอดูคราวอื่นแทนเนอะ ไม่สู้กับฝูงชนจริงๆ เราตั้งใจนั่ง MTR มาลงสถานี Mongkok เป็นย่านช้อปอีก ด้วยเหตุผลว่าจะหาซูชิ Take Out กิน ราคาไม่แพงจนเกินไป เราซื้อซูชิแซลมอน 6 ชิ้น ราคา 20HK$ กินอิ่มไป 1 มื้อ สภาพเยินนิดหน่อยมันมีที่มาและที่ไป.......
ด้วยความที่เราไปซื้อหนังสือแนะนำการเที่ยวฮ่องกงมาแล้วเปิดไปตรงย่าน มงก๊ก มีทั้ง Ladies Market เอย Temple Street เอย ก็อยากจะลองไปเดินดูไหนๆด็ไม่ได้ดูพลุอยู่แล้ว เมื่อออกจากสถานี MTR Mongkok แล้วสิ่งที่เราเจอคือ ถนนคนเดินที่เต็มไปด้วยร้านค้าต่างๆ เสื้อผ้า เครื่องสำอางค์ ของกิน ของที่ระลึก ร้านขายยา มีเต็มไปหมด แต่ด้วยความที่มาวันแรกๆก็ลองเดินดูไปพลางๆ
[HONGKONG] ลองไปใช้ชีวิตแบบปุ๊บปั๊บที่ฮ่องกง ฉบับ 6 วัน 6 คืน
ขอเกริ่นถึงที่มาของทัวร์นี้ก่อนนะคะ ตอนแรกเราไม่คิดว่าจะตัดสินใจไปเที่ยวที่ฮ่องกง ย้อนกลับไปเมื่อ 6 เดือนก่อนเพื่อนเราส่ง Promotion ของสายการบิน Air Asia มาประกอบกับช่วงนั้นเราเก็บเงินได้จำนวนหนึ่ง ก็เลยลองดูเมืองที่เงินถึงและน่าจะแปลกใหม่สำหรับเรา เป็นการจองตั๋วที่ปุ๊บปั๊บมากเช่นเดียวกันไม่ได้เตรียมข้อมูลอะไรเลย เงินถึงก็จองไป ข้อมูลที่เราจะเขียนในกระทู้นี้จะเน้นการไปใช้ชีวิตที่ฮ่องกง เราเป็นคนหนึ่งที่ชอบไปเที่ยวแบบ Backpack ชอบไปดู ไปเห็น ไปใช้ชีวิต อยากไปไหนก็ไป หลงตรงไหนก็เที่ยวตรงนั้น รู้สึกว่าการไปต่างแดนนั้นมันทำให้เราได้รับรู้ และรับเห็นสิ่งต่างๆ กระทู้นี้ไม่ได้บอกว่าสิ่งที่เราไปนั้นมันดี๊ดีนะแก แกต้องไปกินแบบฉัน ทำแบบฉันนะแล้วมันจะสนุก เราเพียงแค่เขียนในสิ่งที่เราลองไปใช้ชีวิตที่ต่างเมืองในระยะเวลาสั้นๆตามแบบฉบับของเรา และหวังว่าข้อมูลของเราจะเป็นตัวเลือกให้ใครหลายๆคนที่เข้ามาอ่านกระทู้นี้นะจ๊ะ : )
1.ขั้นตอนการเตรียมตัวก่อนไปลองใช้ชีวิต
1.1 ที่พัก
เมื่อจองตั๋วเครื่องบินเรียบร้อยแล้วนั้น สิ่งต่อมาที่ทุกคนต้องนึกถึงนั่นก็คือ สถานที่พัก จริงๆเราดูไว้หลายที่มาก เราเน้นถึงความปลอดภัย การเดินทางสะดวก ใกล้แหล่งช้อป เรากับเพื่อนช่วยกันหาข้อมูลโรงแรม และสุดท้ายเราก็เลือก 3D Inn-Dragon อยู่ตรงย่านจิมซาจุ่ย พิกัด Mirador Mansion,58 Nathan Road วิธีการเดินทางคือนั่งรถเมล์สาย A21 ค่ารถ 33 HK$ จากสนามบินมาลงป้าย13 ตรงถนน Nathan Road แล้วเดินตามถนนมาอีกนิดจะเจอตึก Mirador Mansion สังเกตุจะมีร้าน Bourjois และร้านขายกล้องอยู่ชั้นล่าง เราจองห้อง Double Room ติดหน้าต่าง ผ่าน agoda รวม 6 คืนอยู่ที่ 9080 บาท ตอนCheck-in ต้องจ่ายมัดจำ 300 HK$ สำหรับในกรณีเราทำของเสียหายหรือจ้างบริการเสริมเช่น ซักรีด เขาก็จะหักเงินจากเราตรงนี้ค่ะ แต่ถ้าไม่ใช้เราจะได้คืนวันที่ Check-out ปล.ที่นี้มีตู้กดน้ำเปล่าฟรีนะคะ
1.2 หนังสือเดินทาง
สำหรับใครที่จะไปต่างประเทศหนังสือเดินทางหรือ Passport มีความสำคัญยิ่งค่ะ เมื่อคุณวางแผนจะไปเที่ยวแล้วนั้น คุณก็ควรจะต้องทำหนังสือเดินทางล่วงหน้า ยิ่งเราเป็นช่วงต่างชาติในเมืองเขาแล้วนั้น หนังสือเดินทางมีค่ายิ่งกว่าบัตรประชาชนที่เราพกติดกระเป๋าสตางค์ไว้เสียอีก ดังนั้นควรพกติดตัวไว้ตลอดเวลา
1.3 ตั๋วล่วงหน้าซื้อจากไทยไปยังไงก็คุ้มกว่า
ฮ่องกงนั้นถือว่าเป็นเมืองท่องเที่ยวดังนั้นมักจะมีสถานที่ต่างๆเปิดให้เราเข้าไปเที่ยวเล่นเยี่ยมชม ซึ่งสำหรับเราที่งบน้อยหอยน้อยแล้วนั้นควรจะวางแผนสถานที่เที่ยวสักนิดแล้วคำนวนดูว่าเงินเราสามารถไปเที่ยวที่ไหนบ้าง สำหรับปุ๊บปั๊บทัวร์ของเราสถานที่เราจะต้องไปให้ได้นั่นก็คือ .......
Disney Land จริงๆมันก็เป็นความฝันในวัยเด็กของเรา ถึงแม้ว่าอายุจะเลยมาระดับหนึ่งแล้วนั้นแต่เราก็ยังอยากจะไปอยู่ดี เราลองเช็คราคาตั๋วเข้าDisneyที่ซื้อจากไทยไป ปรากฎว่าถูกกว่าที่ไปซื้อหน้าสวนสนุก ก็ตัดสินใจซื้อล่วงหน้าไปในราคา 2220 บาท มีคูปองส่วนลดสินค้าอีก 50HK$ (ขนาดลดแถมคูปองแล้วเรายังรู้สึกว่าแพ๊งแพง)
Cotai Jet สำหรับเราซึ่งไม่รู้จะไปฮ่องกงอีกเมื่อไหร่เราก็ได้คุยกับเพื่อนที่ร่วมทริปว่าไปฮ่องกงทั้งทีข้ามไปฝั่งมาเก๊าดูไหม อยากไปกินทาร์ตไข่ กับดูประตูโบสถ์ เพื่อนเราซึ่งยังไงก็ได้ก็บอกว่าไปสิๆ สำหรับตั๋วเรือนั่งข้ามไปมาเก๊าเราซื้อล่วงหน้าจากไทย ในราคา ขาละ 680 บาท คือ ถ้าไป-กลับก็อยู่ที่ 1360 บาท (ถ้าไปซื้อที่ฮ่องกงอยู่ที่ 165 HK$ ประมาณ 765 บาท ต่อ1รอบ)
1.4 สภาพอากาศสำหรับการเตรียมเสื้อผ้า
ไม่ว่าจะไปเที่ยวต่างเมืองที่ไหนการเช็คสภาพอากาศถือเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อวางแผนในการเที่ยวของเราให้ราบรื่นไปอย่างไม่มีอุปสรรค สำหรับเราช่วงที่เราไปเที่ยวอากาศอยู่ที่23-20 องศาเซลเซียส ถือว่าเย็นสบาย เราจะได้วางแผนเสื้อผ้าถูก เตรียมไปจะได้ไม่เก้อนะตัวเธอ
1.5 ยา เตรียมไปเถอะเผื่อฉุกเฉิน
เราเป็นคนหนึ่งที่เวลาไปเที่ยวไหนเราจะพกยาไว้ตลอด ยาแก้เมา ยาแก้แพ้อากาศ ยาลดกรดในกระเพาะ ยาแก้ปวดหัว ยาแก้ร้อนใน ยาอมแก้เจ็บคอ เรามองว่าป้องกันไว้ก่อนดีกว่าไปป่วยแล้วต้องซื้อยากินเอาดาบหน้า แนะนำให้พกไปให้เหมาะสมกับจำนวนวันที่เราไป
2.วางแผนจัดตารางวัน จะได้ใช้ชีวิตให้ง่ายขึ้น
จากประสบการณ์เราว่าการวางแผนจะช่วยให้เราใช้ชีวิตได้ง่ายขึ้น แต่ว่าเราเป็นคนที่ชอบระหว่างทางมากกว่าจุดหมายปลายทางการวางแผนของเราจึงเป็นอะไรที่งงๆ สำหรับใครที่ชอบแบบละเอียดแนะนำให้ทำใน word แล้วปริ๊นออกมามันจะช่วยคุณได้มากจริงๆ เรากับเพื่อนวางแผนไว้แน่ๆ 3ที่ นั่นก็คือ Disney Land, ไหว้พระ และ มาเก๊า แล้วเราก็หาวันที่น่าจะเหมาะสมกับแต่ละที่ไว้ดังนี้
[Disney Land] เราจะหลีกเลี่ยงเสาร์ อาทิตย์เพราะคนน่าจะเยอะ เราไปฮ่องกงวันพุธ กลับไทยวันอังคาร ดังนั้นวันธรรมดาที่เราจะมีก็เป็น วันพฤหัสฯ วันศุกร์ และ วันจันทร์ สุดท้ายเราตัดสินใจไปเที่ยว Disney Land วันพฤหัสฯ เพราะอยากไปเที่ยวเร็วๆ
[มาเก๊า] เราซื้อตั๋วเรือรอบวันธรรมดา ดังนั้น ก็เหลือวันศุกร์และวันจันทร์ เราตัดสินใจกับเพื่อนว่าจะเที่ยวในฮ่องกงก่อนแล้วค่อยข้ามไปมาเก๊าแล้วกลับมาก็แพคกระเป๋าให้เสร็จเลย เพราะดังนั้นเราจึงเลือกวันจันทร์
[ไหว้พระ]
ใจจริงเราอยากไปไว้พระที่นอนปิงแต่เงินไม่เอื้ออำนวยจึงต้องตัดใจและหาวัดที่เข้าฟรีได้ (ตะเตือนไต) เรากับเพื่อนๆดูไว้ว่าจะต้องเป็นวัดที่การเดินทางสะดวก ไปได้ไม่หลงแน่ อีกทั้งคิดว่าวันธรรมดาน่าจะดีกว่า เผื่อวันเสาร์อาทิตย์ คนไม่ได้ทำงานมาทำบุญไหว้พระ คนจะเยอะไปอีก ก็เหลือวันศุกร์ที่ตารางว่างส่วนวันที่เหลืออย่างที่เราบอกไว้ว่าเราเป็นคนที่ชอบระหว่างทางดังนั้นขอให้ไปถึงก่อนแล้วเดี๋ยวค่อยคิดว่าอยากไปที่ไหนดี?
3.ขั้นตอนไปใช้ชีวิต
ในส่วนของPartนี้เราขออนุญาตเล่าแบบเน้นรูปประกอบเพราะเนื้อหาเราอัดแน่นไว้ให้ด้านบนแล้ว สำหรับเราขั้นตอน 2 ขั้นตอนแรกถือว่าค่อนข้างจำเป็นในการมาเที่ยวแบบBackpack โอเค!มาเริ่มใช้ชีวิตแบบปุ๊บปั๊บไปพร้อมกับเราเลย....
DAY 1 วันที่ 4 ม.ค. 2560
-13.00 น.- ไฟลท์บินของเราเป็นเวลา 15.30 น. ซึ่งเราควรมาถึงสนามบินล่วงหน้า เผื่อเเวลาไว้สำหรับขั้นตอนโหลดกระเป๋าและขั้นตอนของต.ม. กำหนดการจะถึงสนามบินฮ่องกงเวลา 19.40 น. ตามเวลาท้องถิ่น
-19.40 น.- เมื่อมาถึงสนามบินนานาชาติฮ่องกง เมื่อเข้ามาในสนามบินเราต้องเดินตามป้าย Arrival เพื่อมาตรวจคนเข้าเมือง รับกระเป๋า และ ซื้อซิมโทรศัพท์และบัตร Octopus ซึ่งถือว่าจำเป็นมากสำหรับคนที่มาเที่ยวเอง
*สามารรถซื้อบัตร Octopus ได้ที่ เคาวน์เตอร์ของ AE Express ราคาบัตร 150 HK$ มัดจำ 50 HK$ สำหรับเราเติมเพิ่มไปอีก 100 HK$
*ซื้อซิมโทรศัพท์ได้ที่ร้าน 1010 สำหรับเราไป 6 วัน 6 คืน ซื้อแบบ 5GB Unlimited ราคา 118 HK$
-20.10 น.- ลงลิฟต์มายังชั้น G เพื่อมาขึ้นรถบัส สาย A21 เข้าเมือง ค่ารถ 33 HK$ ใช้บัตร Octopus ตื๊ดได้ข้างๆคนขับ รถจะเป็น 2 ชั้น
-20.40 น.- ลงป้ายที่ 13 มายังตึก Mirador Mansion ขึ้นไปชั้น 13 เพื่อ Check In เมื่อได้Cardเข้าห้องแล้วเอาของมาเก็บแล้วเราก็ไปหาของกิน เนื่องจากไม่มีอะไรตกถึงท้องมาตั้งแต่ บ่ายโมง
DAY 2 วันที่ 5 ม.ค. 2560 Disney Day
วันนี้เรากับเพื่อนวางแผนกันไปย้อนวัยเด็กที่ Disney Land มาความตื่นเต้นนิดๆ เมื่อคืนเราลองเช็คการเดินทางMTRจากTsim Sha Tsui มาเปลี่ยนสายเหลืองที่สถานี Lai King ไปลงที่สถานี Sunny Bay จะมีรถไฟขบวนเฉพาะไปยัง Disney Land ใช้เวลาโดยรวมประมาณ 30 นาที
-09.00น.- ก่อนมาฮ่องกงสิ่งที่เราอยากมากินรองจากเกี๊ยวกุ้งนั้นก็คือโจ๊ก และโจ๊กเจ้าดังที่เราพามาฝากท้องนั้นก็คือร้าน Hung Lee อีกเช่นเคย เมนูที่เราสั่งมาเป็นโจ๊กหมูชิ้น ปาท่องโก๋ธรรมดา แล้วก็ อีกเมนูเพื่อนเราอยากลองกิน เป็นลักษณะปาท่องโกห่อด้วยแป้งแล้วราดด้วยซอสหวาน อร่อยดีค่ะ โจ๊กอร่อย เนื้อหมูนุ่มมาก เราว่าเขาน่าจะเอาไข่ขาวไปผสมกับข้าว รู้สึกกินไปแล้วได้รสชาติแบบนั้น
-11.00น.- เราออกจากร้านก็เกือบ 10 โมงแล้วเดินทางมาเรื่อยๆ ก็ถึง Disney Land ดินแดนในฝัน วันนี้ภาพจะเยอะเปิดพิเศษเพราะเอากล้องมาด้วย ก่อนอื่นเราจะต้องเอา e ticket ไปแลกตั๋วจริงที่ช่องจำหน่ายตั๋ว ก็จะได้ตั๋วพร้อมคูปองเป็นแบบนี้
ส่วนแรกที่เราเข้าไปชมก็คือ Tomorrow Land ในส่วนนี้ที่เราเข้าไปเล่นก็จะมีเครื่องเล่น Space Mountain กับ Buzz Lightyear Astro Blaster ตอนนี้มีStark Expo จากเรื่อง Iron Man ราคาของที่ระลึกค่อนข้างแพงอยู่เหมือนกันค่ะ แต่ความน่ารักเอาไปล้านแต้ม
-15.00น.- ต่อมาเป็นส่วนของเรื่อง Toy Story ตอนประมาณ 15.30 น. จะมีเป็นขบวนพาเหรดเห็นน้องหนูหลายๆคนมาจับจองพื้นที่ข้างทาง จึงทำตัวเนียนๆไปนั่งบ้าง
-18.30น.- ตอนแรกเรากับเพื่อนตั้งใจจะรอดูพลุตอนกลางคืนแต่เห็นจำนวนคนแล้วตระหนักถึงรถไฟขบวนกลับเข้าตัวเมืองก็ตัดใจว่ารอดูคราวอื่นแทนเนอะ ไม่สู้กับฝูงชนจริงๆ เราตั้งใจนั่ง MTR มาลงสถานี Mongkok เป็นย่านช้อปอีก ด้วยเหตุผลว่าจะหาซูชิ Take Out กิน ราคาไม่แพงจนเกินไป เราซื้อซูชิแซลมอน 6 ชิ้น ราคา 20HK$ กินอิ่มไป 1 มื้อ สภาพเยินนิดหน่อยมันมีที่มาและที่ไป.......
ด้วยความที่เราไปซื้อหนังสือแนะนำการเที่ยวฮ่องกงมาแล้วเปิดไปตรงย่าน มงก๊ก มีทั้ง Ladies Market เอย Temple Street เอย ก็อยากจะลองไปเดินดูไหนๆด็ไม่ได้ดูพลุอยู่แล้ว เมื่อออกจากสถานี MTR Mongkok แล้วสิ่งที่เราเจอคือ ถนนคนเดินที่เต็มไปด้วยร้านค้าต่างๆ เสื้อผ้า เครื่องสำอางค์ ของกิน ของที่ระลึก ร้านขายยา มีเต็มไปหมด แต่ด้วยความที่มาวันแรกๆก็ลองเดินดูไปพลางๆ