สวัสดีครับ ทุกๆท่าน ก่อนอื่นก็ต้องเกริ่นเอาไว้ก่อนนะครับว่า ไม่ได้มีเจตนาไป กวนน้ำให้ขุ่น โดยการสร้างประเด็นอะไร ขึ้นมาเพื่อบอกว่าครูนั้น เป็นแพะ หรือแกะ แต่เนื่องจากข้อมูลที่ปรากฏออกมา มันค่อนข้างขาดๆเกินๆ และไม่ค่อยสมเหตุสมผล ในการไปอยู่ ณ จุดเกิดเหตุ จึงนำเอาข้อมูลต่างๆ มาลองวิเคาระห์ดูว่า มีความเป็นไปได้แค่ไหน จะมีหลักฐานอะไรบ้าง ที่จะช่วยชี้แจงประเด็นที่สงสัยว่า ครูไปอยู่ที่เกิดเหตุได้อย่างไร เท่านั้นครับ ซึ่งแน่นอนครับว่า มันมีโอกาสแน่นอนว่าครูจะไปใช้เส้นทางนั้น ในวันที่เกิดเหตุ แต่ว่าจะมากน้อยแค่ไหนนี่สิ คือสิ่งที่สงสัย เชื่อว่า คนที่ติดตามข่าวเกินครึ่ง แทบไม่เคยไปยังเส้นทางนั้น และอาจรวมถึงผมเองด้วย เอกสารใดบ้าง ที่อาจช่วครูให้รอด หรือ มัดตัวครูยิ่งขึ้น
ก่อนอื่น ต้องท้าวความไปยังเหตุการณ์ที่ บันทึกของคดีที่ว่า วันเวลาสถานที่เกิดเหตุคือ วันที่ 11 มีนาคม 2548 เวลาประมาณ 20 นาฬิกา จุดเกิดเหตุคือ ถนนสายธาตุน้อย - นาเหนือ มุ่งหน้าไปทางบ้านนาเหนือ บริเวณบ้านสร้างเม็ก หรือให้ขยายความ ก็คือ วันเกิดเหตุ เป็นวันศุกร์ ที่ 11 เดือนมีนาคม ปี 2548 เวลาประมาณ 20 นาฬิกา (สองทุ่ม) บนถนนเส้นทางหมายเลฃ 2031 เป็นถนนสายเกิดเหตุ

ถนนสายที่เกิดเหตุ ถนนหมายเลข 2031
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://www.google.co.th/maps/dir/%E0%B9%82%E0%B8%A3%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%99%E0%B8%9A%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%98%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B8%B8%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B8%A8%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%9A%E0%B8%B8%E0%B8%8D%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%87+(%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%8A%E0%B8%98%E0%B8%B5%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%88%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%A2%E0%B9%8C-%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%8A%E0%B8%B2%E0%B8%AD%E0%B8%B8%E0%B8%9B%E0%B8%96+%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B8%B9%E0%B9%88%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88+5,+%E0%B8%96%E0%B8%99%E0%B8%99%E0%B8%8A%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%B9%E0%B8%A3,+%E0%B8%95%E0%B8%B3%E0%B8%9A%E0%B8%A5%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%81%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%97%E0%B8%B8%E0%B9%88%E0%B8%87+%E0%B8%AD%E0%B8%B3%E0%B9%80%E0%B8%A0%E0%B8%AD%E0%B8%98%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B8%B8%E0%B8%9E%E0%B8%99%E0%B8%A1+%E0%B8%88%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%AB%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B8%99%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%9E%E0%B8%99%E0%B8%A1,+48110/17.0188919,104.5404949/@17.0557189,104.5941685,23847m/am=t/data=!3m1!1e3!4m9!4m8!1m5!1m1!1s0x313c3938534f4b4f:0x3c08b0b6a56b32d1!2m2!1d104.7258854!2d17.0168809!1m0!3e0
เมื่อทำการค้นหาเส้นทางจากบ้านครูเข้ากับ ถนนหมายเลข 2031 จะได้ดังแผนที่ ดังนี้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://www.google.co.th/maps/dir/%E0%B9%82%E0%B8%A3%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%99%E0%B8%9A%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%98%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B8%B8%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B8%A8%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%9A%E0%B8%B8%E0%B8%8D%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%87+(%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%8A%E0%B8%98%E0%B8%B5%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%88%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%A2%E0%B9%8C-%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%8A%E0%B8%B2%E0%B8%AD%E0%B8%B8%E0%B8%9B%E0%B8%96+%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B8%B9%E0%B9%88%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88+5,+%E0%B8%96%E0%B8%99%E0%B8%99%E0%B8%8A%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%B9%E0%B8%A3,+%E0%B8%95%E0%B8%B3%E0%B8%9A%E0%B8%A5%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%81%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%97%E0%B8%B8%E0%B9%88%E0%B8%87+%E0%B8%AD%E0%B8%B3%E0%B9%80%E0%B8%A0%E0%B8%AD%E0%B8%98%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B8%B8%E0%B8%9E%E0%B8%99%E0%B8%A1+%E0%B8%88%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%AB%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B8%99%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%9E%E0%B8%99%E0%B8%A1,+48110/%E0%B8%9A%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B8%87%E0%B9%84%E0%B8%82%E0%B9%88+%E0%B8%95%E0%B8%B3%E0%B8%9A%E0%B8%A5+%E0%B8%94%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B8%B3+%E0%B8%AD%E0%B8%B3%E0%B9%80%E0%B8%A0%E0%B8%AD+%E0%B9%82%E0%B8%84%E0%B8%81%E0%B8%A8%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%AA%E0%B8%B8%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%93+%E0%B8%AA%E0%B8%81%E0%B8%A5%E0%B8%99%E0%B8%84%E0%B8%A3+47280/@17.0205971,104.4606283,60045m/data=!3m1!1e3!4m14!4m13!1m5!1m1!1s0x313c3938534f4b4f:0x3c08b0b6a56b32d1!2m2!1d104.7258854!2d17.0168809!1m5!1m1!1s0x313c5f18a9cc042f:0x3bc23dde61ceed22!2m2!1d104.326302!2d17.0829934!3e0
ด้วยข้อมูลแค่นี้ หลายคน บอกว่ามันจะบอกอะไรได้ เมื่อไปบวกกับข้อมูลของครู คือ ครูจอมทรัพย์ แสนเมืองโคตร อดีตครูโรงเรียนบ้านม่วงไข่ประชาราษฎณ์สงเคราะห์ เป็นโรงเรียนสังกัต สพฐ. เปิดสอนระดับ อนุบาล-มัธยมศึกษาตอนต้น
เมื่อนำข้อมูลมาประกอบกัน มันบอกอะไรได้หลายๆอย่าง จะพบว่า แม้ครูอาจจะมีโอกาสหรือความจำเป็นต้องเดินทางในเส้นทางนั้น มีความเป็นไปได้เพียงไร โดยจะตั้งข้อสังเกตุที่ว่า
1) วันที่เกิดเหตุ ไม่ได้เป็นวันหยุดราชการ เป็นวันศุกร์ ครูผู้เป็นข้าราชการครู ก็ต้องปฏิบัติหน้าที่สอน มีเวลาเข้าออกงานชัดเจน หากโดยทั่วไปแล้ว ข้าราชการครูมักจะหมดภาระการสอนอยู่ที่ 15.30น. ถ้าเป็นครูระดับชั้นมัธยมต้น และ 16.00น. ถ้าเป็นครูระดับชั้นประถม ซึ่งเป็นช่วงเวลาระหว่างก่อนเกิดเหตุ ถึงช่วงเกิดเหตุ เป็นเวลาโดยประมาณ 4 ชั่วโมง โดยในระหว่างนั้น ครูมีพยานและหลักฐานที่อ้างอิงได้ตามกฏหมาย เช่น หลักฐานการลงชื่อ เข้า-ออกงาน ครูผู้ร่วมปฏิบัติงาน ซึ่งเป็นข้าราชการของรัฐ วันเกิดเหตุ ถ้าสมมติว่า ครูป่วยหรือลากิจ ก็จะมีหนังสือลา เป็นหลักฐานเช่นกัน เ อยู่ด้วย
ดังนั้น ในส่วนนี้ จะมีพยานและหลักฐานปรากฏคือ
ก)ข้าราชการครูผู้ร่วมปฏิบัติงาน
ข)นักเรียนผู้เข้าเรียน
ค)ตารางสอน
ง)เอกสารเช็คชื่อ
จ)เอกสารบันทึกใบเซ็นต์ชื่อเข้า-ออก ลงเวลา การปฏิบัติงาน
ฉ)ใบลากิจ กรณีครูลาไปทำธุระ
2) วันที่เกิดเหตุ ได้มีหลักฐานการโอนรถคันที่ครูเป็นเจ้าของ ซึ่งเป็นเหตุอันอาจเป็นข้อสงสัยที่ว่า ครูนั้นลากิจไปโอนรถหรือไม่ ซึ่งก็มีความเป็นไปได้เช่นกันว่า ครูได้ลาไปโอนรถ จริงหรือไม่ก็ได้ อันเนื่องมาจากว่า การโอนรถยนต์ ตัวครูผู้เป็นเจ้าของนั้น จะไปด้วยตัวเองก็ได้ หรือผู้ขายไปโอนเอาเองก็ได้ และการโอนรถนั้น ใช้เวลาในการตรวจสภาพรถ และดำเนินการไม่นาน มีความเป็นไปได้เช่นกันว่า หากครูไปโอนรถด้วยตนเอง อาจลาช่วงเช้า แล้วกลับมาสอนช่วงบ่าย ซึ่งในที่นี้ต้องไปดูหลักฐานที่ขนส่งว่าเป็นการโอนแบบไหน (หากยังเก็บเอกสารไว้) แต่กระนั้น เอกสารนี้ก็ไม่สามารถยืนยันได้เช่นกันว่า ครูไปอยู่ในที่เกิดเหตุได้อย่างไร เนื่องจากการโอนรถทำในเวลาราชการเท่านั้น คือ 8.00 น. ถึง 16.00 น. เวลาเกิดเหตุคือ 20.00 น. โดยประมาณ
3) ข้อนี้ส่วนตัวนิดหนึ่งคือ เมื่อไปดูปฏิทินแล้ว ไปเทียบดูกับปฏิทินการศึกษา จะพบความสำคัญบางอย่างที่ว่า เป็นช่วงเวลาก่อนปิดภาคเรียนฤดูร้อน ซึ่งโดยปกติ โรงเรียนระดับประถมศึกษา มัธยมศึกษา จะปิดภาคเรียนในช่วงวันที่ 1 เมษายน หรืออีกนับหนึ่งคือ เป็นช่วงเวลาก่อนสอบปลายภาคเรียน ประมาณ 1 อาทิตย์ จึงมีความเป็นไปได้ว่าครูเองก็ไม่ได้ลา หรือหากลาก็อาจเป็นการลากิจ ครึ่งวัน เนื่องจากว่า เป็นช่วงเวลาสำคัญหลายอย่างในการเรียนการสอน สอนเนื้อหาสำคัญ สอบ เก็บคะแนน เตรียมเอกสาร ทำข้อสอบ ประเมิน ฯลฯ มักทำกันช่วงเวลานี้
4) หากวันนั้น ครูไม่ได้ลา หรือลากิจช่วงเช้า และปฏิบัติหน้าที่ๆโรงเรียน และเก็บกระเป๋าออกจากโรงเรียนทันทีพร้อมกับนักเรียนในเวลาที่กริ่งดัง ในเส้นทางเดียวกันคือไปและกลับ ในช่วงเวลาเลิกงานครู 16.00 น. จนถึงเวลา 20.00 น. เป็นเวลา 4 ชั่วโมงด้วยกัน เมื่อคำนวนรวมเวลา ไปถึงจุดสิ้นสุดของเส้นทางหมายเลข 2031 ใช้เวลาประมาณ 58 นาที โดยประมาณ และรวมเวลากลับมา ณ จุดเกิดเหตุ ราวๆ 20 นาที เวลาในการใช้ถนนของ นับเท่าที่อ้างอิงเวลาได้ คือ ประมาณ 1 ชั่วโมง 20 นาที เวลาที่ออกไปธุระอย่างมากที่สุดที่อ้างอิงได้คือ
2ชั่วโมง 40 นาที
หากวันนั้น ครูไม่ได้ลา หรือลากิจช่วงเช้า และปฏิบัติหน้าที่ๆโรงเรียน โดยมากที่สุดครูทั่วไปจะเลิกกลับบ้านหลังจากจัดเก็บเอกสาร เช็คความเรียบร้อย ใช้เวลาประมาณ 15นาที ถึงครึ่งชั่วโมง ดังนั้น ครูอาจเลิกงานเวลา 16.30น. แล้วค่อยเดินทาง ในเส้นทางเดียวกันคือไปและกลับ ในช่วงเวลาเลิกงานครู 16.30 น. จนถึงเวลา 20.00 น. เป็นเวลา 3.30 ชั่วโมงด้วยกัน เมื่อคำนวนรวมเวลา ไปถึงจุดสิ้นสุดของเส้นทางหมายเลข 2031 ใช้เวลาประมาณ 58 นาที โดยประมาณ และรวมเวลากลับมา ณ จุดเกิดเหตุ ราวๆ 20 นาที เวลาในการใช้ถนนของ นับเท่าที่อ้างอิงเวลาได้ คือ ประมาณ 1 ชั่วโมง 20 นาที เวลาที่ออกไปธุระอย่างมากที่สุดที่อ้างอิงได้คือ
2ชั่วโมง 10 นาที
หากวันนั้น ครูไม่ได้ลา หรือลากิจช่วงเช้า และปฏิบัติหน้าที่ๆโรงเรียน โดยมากที่สุดครูทั่วไปจะเลิกกลับบ้านหลังจากจัดเก็บเอกสาร เช็คความเรียบร้อย ใช้เวลาประมาณ 15นาที ถึงครึ่งชั่วโมง ดังนั้น ครูอาจเลิกงานเวลา 16.30น. แต่เนื่องด้วยความที่ครูเป็นแม่ลูก 3 ที่กำลังเรียนหนังสือ โดยทั่วไปซึ่งเหมือนครูทั่วๆไป คงต้องไปจ่ายตลาดหลังเลิกเรียน รอลูกกลับบ้าน แล้วกลับบ้านเตรียมข้าวของเดินทางตามวิสัยปกติของคนไทยปกติเขาทำกัน อีกอย่างน้อย ครึ่งชั่วโมง แล้วค่อยเดินทาง ในเส้นทางเดียวกันคือไปและกลับ ในช่วงเวลาพร้อมเดินทางครูคือ 17.00 น. จนถึงเวลา 20.00 น. เป็นเวลา 3 ชั่วโมงด้วยกัน เมื่อคำนวนรวมเวลา ไปถึงจุดสิ้นสุดของเส้นทางหมายเลข 2031 ใช้เวลาประมาณ 58 นาที โดยประมาณ และรวมเวลากลับมา ณ จุดเกิดเหตุ ราวๆ 20 นาที เวลาในการใช้ถนนของ นับเท่าที่อ้างอิงเวลาได้ คือ ประมาณ 1 ชั่วโมง 20 นาที เวลาที่ออกไปธุระอย่างมากที่สุดที่อ้างอิงได้คือ
1ชั่วโมง 40 นาที
ดังนั้น หลักฐานอ้างอิงใบลงเวลาออกงาน ในแต่ล่ะวันจึงมีความสำคัญ ในการหาว่า ครูนั้น ไปธุระที่ใด ก่อนกลับมาเกิดเหตุในสถานที่เกิดเหตุนั้น ซึ่งก่อนจะไปบอกว่า ใครไปก่อเหตุที่ไหน ซึ่งปกติวิสัย การเดินทางไกลๆ เป็นระยะทาง ไปกลับเกิน 100 กิโลเมตร ในวันที่อากาศดีๆที่ ราวๆ 30 องศาขึ้นในฤดูร้อนแบบนี้
มันเป็นธุระเร่งด่วนชนิดไหน ทำในเวลา 2 ชั่วโมงโดยประมาณ หลังเลิกงาน ขับรถข้ามอำเภอในระยะทางไกลเกิน 60 กิโลเมตร ยามเย็น ไปดูพระอาทิตย์ตกที่ริมน้ำโขง? ถ้าไปจริง แกร่งเกินไปไหม ไม่ร้อน ไม่เหนื่อยใน 1 วัน? นี่อาจต้องเป็นคำถามสำคัญที่ว่า ครูนั้นไปอยู่ในที่เกิดเหตุได้ยังไง
ขอย้ำครับว่า เป็นเพียงการวิเคราะห์คร่าวๆ ไม่ได้มีเจตนา ไปยุ่งเกี่ยวกับการดำเนินการใดๆของทางราชการ หรือดิสเครดิตใคร เพียงแค่ยกประเด็นที่ค้างคาใจขึ้นมาเท่านั้น ดังนั้น อย่าฟ้องร้องผมเลยนะครับ ผมไม่มีเงินสู้คดีครับ
กรณีครูจอมทรัพย์ แพะหรือแกะ กับข้อสงสัยที่ว่า ครูอยู่ที่ไหนได้บ้างในวันเกิดเหตุ
ก่อนอื่น ต้องท้าวความไปยังเหตุการณ์ที่ บันทึกของคดีที่ว่า วันเวลาสถานที่เกิดเหตุคือ วันที่ 11 มีนาคม 2548 เวลาประมาณ 20 นาฬิกา จุดเกิดเหตุคือ ถนนสายธาตุน้อย - นาเหนือ มุ่งหน้าไปทางบ้านนาเหนือ บริเวณบ้านสร้างเม็ก หรือให้ขยายความ ก็คือ วันเกิดเหตุ เป็นวันศุกร์ ที่ 11 เดือนมีนาคม ปี 2548 เวลาประมาณ 20 นาฬิกา (สองทุ่ม) บนถนนเส้นทางหมายเลฃ 2031 เป็นถนนสายเกิดเหตุ
ถนนสายที่เกิดเหตุ ถนนหมายเลข 2031
เมื่อทำการค้นหาเส้นทางจากบ้านครูเข้ากับ ถนนหมายเลข 2031 จะได้ดังแผนที่ ดังนี้
ด้วยข้อมูลแค่นี้ หลายคน บอกว่ามันจะบอกอะไรได้ เมื่อไปบวกกับข้อมูลของครู คือ ครูจอมทรัพย์ แสนเมืองโคตร อดีตครูโรงเรียนบ้านม่วงไข่ประชาราษฎณ์สงเคราะห์ เป็นโรงเรียนสังกัต สพฐ. เปิดสอนระดับ อนุบาล-มัธยมศึกษาตอนต้น
เมื่อนำข้อมูลมาประกอบกัน มันบอกอะไรได้หลายๆอย่าง จะพบว่า แม้ครูอาจจะมีโอกาสหรือความจำเป็นต้องเดินทางในเส้นทางนั้น มีความเป็นไปได้เพียงไร โดยจะตั้งข้อสังเกตุที่ว่า
1) วันที่เกิดเหตุ ไม่ได้เป็นวันหยุดราชการ เป็นวันศุกร์ ครูผู้เป็นข้าราชการครู ก็ต้องปฏิบัติหน้าที่สอน มีเวลาเข้าออกงานชัดเจน หากโดยทั่วไปแล้ว ข้าราชการครูมักจะหมดภาระการสอนอยู่ที่ 15.30น. ถ้าเป็นครูระดับชั้นมัธยมต้น และ 16.00น. ถ้าเป็นครูระดับชั้นประถม ซึ่งเป็นช่วงเวลาระหว่างก่อนเกิดเหตุ ถึงช่วงเกิดเหตุ เป็นเวลาโดยประมาณ 4 ชั่วโมง โดยในระหว่างนั้น ครูมีพยานและหลักฐานที่อ้างอิงได้ตามกฏหมาย เช่น หลักฐานการลงชื่อ เข้า-ออกงาน ครูผู้ร่วมปฏิบัติงาน ซึ่งเป็นข้าราชการของรัฐ วันเกิดเหตุ ถ้าสมมติว่า ครูป่วยหรือลากิจ ก็จะมีหนังสือลา เป็นหลักฐานเช่นกัน เ อยู่ด้วย
ดังนั้น ในส่วนนี้ จะมีพยานและหลักฐานปรากฏคือ
ก)ข้าราชการครูผู้ร่วมปฏิบัติงาน
ข)นักเรียนผู้เข้าเรียน
ค)ตารางสอน
ง)เอกสารเช็คชื่อ
จ)เอกสารบันทึกใบเซ็นต์ชื่อเข้า-ออก ลงเวลา การปฏิบัติงาน
ฉ)ใบลากิจ กรณีครูลาไปทำธุระ
2) วันที่เกิดเหตุ ได้มีหลักฐานการโอนรถคันที่ครูเป็นเจ้าของ ซึ่งเป็นเหตุอันอาจเป็นข้อสงสัยที่ว่า ครูนั้นลากิจไปโอนรถหรือไม่ ซึ่งก็มีความเป็นไปได้เช่นกันว่า ครูได้ลาไปโอนรถ จริงหรือไม่ก็ได้ อันเนื่องมาจากว่า การโอนรถยนต์ ตัวครูผู้เป็นเจ้าของนั้น จะไปด้วยตัวเองก็ได้ หรือผู้ขายไปโอนเอาเองก็ได้ และการโอนรถนั้น ใช้เวลาในการตรวจสภาพรถ และดำเนินการไม่นาน มีความเป็นไปได้เช่นกันว่า หากครูไปโอนรถด้วยตนเอง อาจลาช่วงเช้า แล้วกลับมาสอนช่วงบ่าย ซึ่งในที่นี้ต้องไปดูหลักฐานที่ขนส่งว่าเป็นการโอนแบบไหน (หากยังเก็บเอกสารไว้) แต่กระนั้น เอกสารนี้ก็ไม่สามารถยืนยันได้เช่นกันว่า ครูไปอยู่ในที่เกิดเหตุได้อย่างไร เนื่องจากการโอนรถทำในเวลาราชการเท่านั้น คือ 8.00 น. ถึง 16.00 น. เวลาเกิดเหตุคือ 20.00 น. โดยประมาณ
3) ข้อนี้ส่วนตัวนิดหนึ่งคือ เมื่อไปดูปฏิทินแล้ว ไปเทียบดูกับปฏิทินการศึกษา จะพบความสำคัญบางอย่างที่ว่า เป็นช่วงเวลาก่อนปิดภาคเรียนฤดูร้อน ซึ่งโดยปกติ โรงเรียนระดับประถมศึกษา มัธยมศึกษา จะปิดภาคเรียนในช่วงวันที่ 1 เมษายน หรืออีกนับหนึ่งคือ เป็นช่วงเวลาก่อนสอบปลายภาคเรียน ประมาณ 1 อาทิตย์ จึงมีความเป็นไปได้ว่าครูเองก็ไม่ได้ลา หรือหากลาก็อาจเป็นการลากิจ ครึ่งวัน เนื่องจากว่า เป็นช่วงเวลาสำคัญหลายอย่างในการเรียนการสอน สอนเนื้อหาสำคัญ สอบ เก็บคะแนน เตรียมเอกสาร ทำข้อสอบ ประเมิน ฯลฯ มักทำกันช่วงเวลานี้
4) หากวันนั้น ครูไม่ได้ลา หรือลากิจช่วงเช้า และปฏิบัติหน้าที่ๆโรงเรียน และเก็บกระเป๋าออกจากโรงเรียนทันทีพร้อมกับนักเรียนในเวลาที่กริ่งดัง ในเส้นทางเดียวกันคือไปและกลับ ในช่วงเวลาเลิกงานครู 16.00 น. จนถึงเวลา 20.00 น. เป็นเวลา 4 ชั่วโมงด้วยกัน เมื่อคำนวนรวมเวลา ไปถึงจุดสิ้นสุดของเส้นทางหมายเลข 2031 ใช้เวลาประมาณ 58 นาที โดยประมาณ และรวมเวลากลับมา ณ จุดเกิดเหตุ ราวๆ 20 นาที เวลาในการใช้ถนนของ นับเท่าที่อ้างอิงเวลาได้ คือ ประมาณ 1 ชั่วโมง 20 นาที เวลาที่ออกไปธุระอย่างมากที่สุดที่อ้างอิงได้คือ 2ชั่วโมง 40 นาที
หากวันนั้น ครูไม่ได้ลา หรือลากิจช่วงเช้า และปฏิบัติหน้าที่ๆโรงเรียน โดยมากที่สุดครูทั่วไปจะเลิกกลับบ้านหลังจากจัดเก็บเอกสาร เช็คความเรียบร้อย ใช้เวลาประมาณ 15นาที ถึงครึ่งชั่วโมง ดังนั้น ครูอาจเลิกงานเวลา 16.30น. แล้วค่อยเดินทาง ในเส้นทางเดียวกันคือไปและกลับ ในช่วงเวลาเลิกงานครู 16.30 น. จนถึงเวลา 20.00 น. เป็นเวลา 3.30 ชั่วโมงด้วยกัน เมื่อคำนวนรวมเวลา ไปถึงจุดสิ้นสุดของเส้นทางหมายเลข 2031 ใช้เวลาประมาณ 58 นาที โดยประมาณ และรวมเวลากลับมา ณ จุดเกิดเหตุ ราวๆ 20 นาที เวลาในการใช้ถนนของ นับเท่าที่อ้างอิงเวลาได้ คือ ประมาณ 1 ชั่วโมง 20 นาที เวลาที่ออกไปธุระอย่างมากที่สุดที่อ้างอิงได้คือ 2ชั่วโมง 10 นาที
หากวันนั้น ครูไม่ได้ลา หรือลากิจช่วงเช้า และปฏิบัติหน้าที่ๆโรงเรียน โดยมากที่สุดครูทั่วไปจะเลิกกลับบ้านหลังจากจัดเก็บเอกสาร เช็คความเรียบร้อย ใช้เวลาประมาณ 15นาที ถึงครึ่งชั่วโมง ดังนั้น ครูอาจเลิกงานเวลา 16.30น. แต่เนื่องด้วยความที่ครูเป็นแม่ลูก 3 ที่กำลังเรียนหนังสือ โดยทั่วไปซึ่งเหมือนครูทั่วๆไป คงต้องไปจ่ายตลาดหลังเลิกเรียน รอลูกกลับบ้าน แล้วกลับบ้านเตรียมข้าวของเดินทางตามวิสัยปกติของคนไทยปกติเขาทำกัน อีกอย่างน้อย ครึ่งชั่วโมง แล้วค่อยเดินทาง ในเส้นทางเดียวกันคือไปและกลับ ในช่วงเวลาพร้อมเดินทางครูคือ 17.00 น. จนถึงเวลา 20.00 น. เป็นเวลา 3 ชั่วโมงด้วยกัน เมื่อคำนวนรวมเวลา ไปถึงจุดสิ้นสุดของเส้นทางหมายเลข 2031 ใช้เวลาประมาณ 58 นาที โดยประมาณ และรวมเวลากลับมา ณ จุดเกิดเหตุ ราวๆ 20 นาที เวลาในการใช้ถนนของ นับเท่าที่อ้างอิงเวลาได้ คือ ประมาณ 1 ชั่วโมง 20 นาที เวลาที่ออกไปธุระอย่างมากที่สุดที่อ้างอิงได้คือ 1ชั่วโมง 40 นาที
ดังนั้น หลักฐานอ้างอิงใบลงเวลาออกงาน ในแต่ล่ะวันจึงมีความสำคัญ ในการหาว่า ครูนั้น ไปธุระที่ใด ก่อนกลับมาเกิดเหตุในสถานที่เกิดเหตุนั้น ซึ่งก่อนจะไปบอกว่า ใครไปก่อเหตุที่ไหน ซึ่งปกติวิสัย การเดินทางไกลๆ เป็นระยะทาง ไปกลับเกิน 100 กิโลเมตร ในวันที่อากาศดีๆที่ ราวๆ 30 องศาขึ้นในฤดูร้อนแบบนี้
มันเป็นธุระเร่งด่วนชนิดไหน ทำในเวลา 2 ชั่วโมงโดยประมาณ หลังเลิกงาน ขับรถข้ามอำเภอในระยะทางไกลเกิน 60 กิโลเมตร ยามเย็น ไปดูพระอาทิตย์ตกที่ริมน้ำโขง? ถ้าไปจริง แกร่งเกินไปไหม ไม่ร้อน ไม่เหนื่อยใน 1 วัน? นี่อาจต้องเป็นคำถามสำคัญที่ว่า ครูนั้นไปอยู่ในที่เกิดเหตุได้ยังไง
ขอย้ำครับว่า เป็นเพียงการวิเคราะห์คร่าวๆ ไม่ได้มีเจตนา ไปยุ่งเกี่ยวกับการดำเนินการใดๆของทางราชการ หรือดิสเครดิตใคร เพียงแค่ยกประเด็นที่ค้างคาใจขึ้นมาเท่านั้น ดังนั้น อย่าฟ้องร้องผมเลยนะครับ ผมไม่มีเงินสู้คดีครับ