รักกันแต่ยอมเลิกกันด้วยความเต็มใจเพราะตัดสินใจเลือกไปในทางธรรม

สวัสดีค่ะเราอายุ18ปี เราเรียนจบม6จากต่างประเทศมา เราจะกลับมาต่อมหาวิทยาลัยที่ไทย แต่กว่าจะเปิดเทอมก้พักเป็นเกือบปี เราเลยหางานทำก่อน ซึ่งงานที่เราได้ก็เป็นงานล่ามในร้านอาหารใหญ่ในกทม บ้านเราก้อยู่ที่นี่ ร้านนี้คนต่างชาติไปทานเยอะ โดยเฉพาะคนจีน ในร้านมีตำแหน่งล่ามแค่ไม่กี่คนรวมเรา แล้วเจ้านายก้ให้เราอยู่กับล่ามคนนึงซึ่งเขาค่อนข้างทำงานละเอียด ว่องไว เก่ง พี่เขาอายุ22  เลยให้เราไปเดินกับพี่เขาตลอดตอนทำงาน เขาพูดจีนเก่ง แต่เราเก่งกว่า555 และภาษาอังกฤษเราก้ได้ แต่พี่เขาได้น้อยมาก เราเลยช่วยสอนบ้าง นิสัยเรากับพี่เขาเข้ากันมาก โดยเฉพาะเรื่องกวนตีน และเหมือนกันมากตรงที่มีอะไรก้เล่าให้กันฟังหมด เป็นคนไม่ปิดบังอะไรกัน ตอนแรกๆก้ซี้กันแบบพี่น้อง แบบโคตรสนิทอ่ะ อาทิตย์เดียวเหมือนเพื่อนที่คบมาเป็นปี5555 เจอวันที่สองก้ขอไลน์ไว้คุยกัน ขอเบอร์ไว้เรียบร้อยครับพี่น้อง 555 แต่เราสองคนมีอีกมุมที่แม่มบังเอิญเหมือนกันอีกคือเรื่องธรรมะธรรมโม คือแบบแต่ละวันจะมีช่วงเวลาที่เราสองคนคุยถึงเรื่องธรรมะ ซึ่งมีความสุขมากเวลาที่คุย แบบในใจเราคิดว่าแม่มหายากว่ะผู้ชายที่คุยและฟังกับเราเรื่องธรรมมะ บาปบุญคุณโทษ แล้วพี่เขาไม่เกเรไม่สุบบุหรี่ กินเหล้าเบียร์อะไรทั้งนั้น พี่เขาเรียนจบม6 เป็นคนอีสานและเข้า กทม มาหางานเพื่อส่งพ่อแม่ทางบ้านนอก นับว่าเขาเป็นคนดีคนนึงเลยล่ะ เราดีใจที่ได้รุ้จักเขา และพี่เขาก้ดีใจเพราะพี่เขารู้สึกแบบเราทุกอย่าง พักหลังเราเริ่มออกไปดูหนังกันสองคน(ยังไม่ได้คบเป็นแฟนหรืออะไรเลยด้วยซ้ำ) แต่ว่าความรุ้สึกกับสายตาเริ่มฟ้องกันทั้งคู่ว่ารู้สึกยังไง เวลาไปทำงานพี่เขาก้จะคอยมาดูว่าเราจะเหนื่อยไหม หิวไหม ชอบซื้ออะไรๆมาไห้เรากิน แบบด้วยความจริงใจ ไม่ได้หวานซึ้งอะไรเลย แต่มันอบอุ่นจากข้างใน กลับบ้านก้โทรคุยกันทุกวัน จนเราสองคนเริ่มถามถึงสถานะกันและกัน แต่ไม่มีใครตอบอะไรเลย เราได้แต่บอกว่าเราอ่ะรักพี่เขา(แม่มแอบเขินแต่พูดไปตรงๆแบบจากใจและความรุ้สึกอ่ะ) ไม่รุ้นะเรารักพี่เขาและเราไม่สนว่าสถานะอะไร แต่ที่มีแบบโคตรอบอุ่นอ่ะ สรุปเรากับพี่เขาก้ไม่ได้สนใจแล้วว่าจะสถานะอะไร แต่ก้ตัดสินใจคบกันและเป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆ นับวันพี่เขายิ่งโคตรธรรมะ จนเราแบบนับถือพี่เขามาก เมื่อก่อนมีผุ้ชายมาเล่นกับเราในร้านอาหารพี่เขามีหึงบ้าง มีความน้อยใจ แต่พี่เขาไม่เคยใช้อารมณ์กับเราเลย จนมาช่วงหลัง พี่เขามองเราเล่นกับผู้ชายคนอื่น เราเห็นพี่เขามองอยู่ เรารีบเดินไปง้อเลย พี่เขาตอบกลับมาว่า "มันเป้นธรรมดา พี่ไม่มีความรุ้สึกอะไรกับสิ่งที่เกิดขึ้นหรอก ถึงมีพี่ก็ต้องฝึกปล่อยและละ 🙂" เราเห็นพี่เขานับวันเริ่มความรุ้สึกไม่ค่อยมีต่อสิ่งที่เกิดขึ้นรอบตัวไม่ว่าจะอะไรก็ตาม ทั้งเรื่องส่วนตัวพี่เขา เรื่องเรา เรื่องงาน พูดง่ายๆคือปล่อยวางอ่ะ พี่เขาชอบฟังธรรมะ และปฏิบัติธรรมกรรมฐาน งานอดิเรกคือขายรองเท้าออนไลน์ ต่อมาพี่เขาลาออกจากงานที่รัานไปขายรองเท้าออนไลน์อย่างจริงจัง เราเลยเจอพี่เขาน้อยมาก อาทิตละวันถึงสองวัน ก่อนพี่เขาจะออกมีการบอกว่า "ไม่ต้องคิดถึงเพราะจากลาเป้นเรื่องธรรมดา" เราแบบอึ้งเลย แต่เราเข้าใจเพราะเราเป็นคนฝักใฝ่ในธรรมเหมือนกัน แต่คงไม่เท่าพี่เขาในตอนนั้น เพราะพี่เขาแบบความรู้สึกแทบไม่มีเลย เราไม่มองว่าพี่เขาใจร้ายเลยนะ เพราะเราเข้าใจในตัวพี่เขาทุกอย่าง พี่เขายังโทรคุยกับเราเหมือนเดิม แต่พักหลังเริ่มน้อยลง และเราต้องเป้นฝ่ายโทรไปก่อน เราเริ่มมีความน้อยใจทุกวันๆ แต่เราไม่พูด เราไม่รุ้ว่าพี่เขาเงียบไปคือทำอะไรนอกจากขายรองเท้า จนมาวันที่เราทนไม่ไหว เราโทรหาพี่เขาแล้วร้องบอกว่ารู้สึกแย่. พี่เขาบอกมาแค่ขอโทษถ้าพี่เขาดูแลไม่ดีพอเท่าที่เราต้องการ เราร้องไปใหญ่ที่ทำให้พี่เขารู้สึกผิดทั้งที่พี่เขาไม่ผิด จนมาถึงตอนที่เราพุดกับเขาว่า ทำไมเราคบกันเหมือนไม่คบอยุ่เลย แค่คำนี้คำเดียวทำเอาพี่เขาอธิบายเรายาวเหยียดและจบด้วยการเลิก(เลิกแบบดี) พี่เขาอธิบายมาว่าพี่เขาเงียบไปเพราะได้ทบทวนตัวเองว่าต้องการอะไรในชีวิต เขาอยากจะมีชีวิตคนเดียวเพื่ออยู่กับตัวเองในความสงบ และหาเงินต่อไปเพื่อที่จะไปช่วยเหลือสังคม(เรื่องช่วยสังคมพี่เขาเคยบอกเรานานแล้วว่าอยากทำ) ส่วนเรื่องความสัมพันธ์พี่เขาไม่อยากให้เรากับเขายึดกันอีกต่อไปเพราะพี่เขามีทางสว่างแล้ว ทางสว่างและความสุขที่แท้จริง  พี่เขายอมสละความสุขส่วนตัวเพื่อที่จะไปสร้างความสุขให้คนอื่นอีกต่อๆไปคนอื่นอีกหลายๆคนที่ขาดความสุข ความเป็นอยุ่ทีดี ถ้าเขาต้องมานั่งทุ่มเทและดูแลคนๆนึงก้จะเป้นอุปสรรคที่พี่เขาจะไปทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่และเป็นกุศล เราเข้าใจพี่เขาทุกอย่าง เราน้ำตาคลอมาก ที่ต้องทำใจเลิกกับพี่เขา แต่พี่เขาบอกเรามาคำนึงว่าการเลิกของพี่เขากับเราไม่เหมือนคนอื่น เพราะสิ่งที่เขาทำ เจตนาอีกอย่างคืออยากให้เราเลิกยึดติดเป็น เขาบอกเราว่าความรักจะยังเหมือนเดิม แต่เราจะไม่รักกันทางโลก ไม่มีคำว่าแฟน ไม่มีการกระทำใดๆที่สื่อว่าเป้นแฟน ถึงพี่เขาจะไม่บอกเลิกเราวันนี้ วันนึงพี่เขาต้องตายไปอยุ่ดี แล้วเราจะทำใจได้ไหมถ้าถึงวันนั้น ฝึกตั้งแต่วันนี้อย่ายึดติดกับพี่ เราจะรักกันในทางบริสุทธิ์ ไม่ยึดติด ไม่มีอารมณ์ ไม่มีความรุ้สึก จะรักแบบพี่น้อง เพราะในตอนนั้นพี่เขาละและวางทุกอย่าง และเราเข้าใจจิตใจของคนละและปล่อยวางนะ เราเข้าใจพี่เขามากๆ แต่เรารู้สึกเศร้าและชาทั้งตัวกับการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ มันไม่ชินอย่างรุนแรง พี่เขาได้แต่บอกเราว่าความรู้สึกนี้ความทุกข์นี้สักวันเราจะผ่านมันไปได้ สู้ๆ ตอนนั้นเราไม่เข้าใจว่าพี่เขาบอกเลิกและทิ้งเราทั้งๆที่เราร้องไห้ แต่พี่เขารู้สึกวางเฉยได้ไง พี่เขาบอกว่าพี่เขาไม่ทิ้งเราไปไหน แต่ไม่ต้องมาเจอกันอีกแล้ว เรามีอะไรเราก็โทรคุยกับพี่เขาได้แต่คงไม่เหมือนเดิม จนเราตอบตกลงเลิกไป ในใจนึงรู้สึกดีที่พี่เขาสอนเราเยอะมากและนำเราไปในทางที่เป็นทางถูกต้อง แต่อีกจฃใจเราเศร้ามากที่ทุกอย่างมันจะไม่เหมือนเดิม คุยกันยาวจนก็ไปนอนทั้งคู่ ตื่นเช้ามาเรายังร้องไห้ และไลน์ไปหาพี่เขา พี่เขาก็ยังบอกว่าสู้ๆครับ แค่นั้น หลังจากนั้นหลายวันเราไม่ไลน์ไม่โทร เราไปเล่าให้คนอื่นฟังเรื่องนี้ พวกเขาพูดมาในทางด้านลบว่าพี่เขาอ้างเพื่อที่จะเลิกกับเราจนเราหลงผิด ไม่มีสติมาพาลพี่เขาในไลน์ยาวเหยียด จนพี่เขาต้องโทรหาเรา คำเดียวที่พี่เขาพูดมาทำให้เราคิดได้และจนเรารู้สึกเปลี่ยนไปทันทีคือ พี่เขาบอกว่าพี่เขารู้สึกผิดหวังมากเลยว่ะ ที่เราไปพูดแบบนั้น เราไปพาลว่าที่ผ่านมาพี่เขาไม่รักเราจริงพอเบื่อก็อ้างนู่นอ้างนี้ พูดไปตามคนไม่มีสติ ทั้งๆที่ผ่านมาเป็นความรักที่ดีที่อบอุ่นที่บริสุทธิ์มากๆจนอธิบายไม่ถูก พี่เขาบอกว่าผิดหวังมากที่เราดูถูกความรักพี่เขา พี่เขาอุส่าดีใจที่ครั้งนึงได้รักคนอย่างเรา เราเป็นคนจิตใจดี เชื่อฟังในธรรมและคำสอนทุกอย่าง พี่เขารักที่เป็นตัวเรา แต่พอเรามาพูด พี่เขาบอกว่าผิดหวังมากๆ พี่เขาโทรคุยกับเราอย่างกับเรียกสติเราคืนมา และบอกว่า ไม่สนแล้วว่าเราจะเข้าใจผิดและคิดยังไง แต่อยากบอกว่าเราเป็นคนเดียวที่พี่เขาเลิกราไปแล้วแต่เมื่อนึกถึงเราทีไรก็ทำให้พี่เขายิ้มได้ตลอด (คือก่อนน่านี้พี่เขามีแฟน แฟนเก่าที่ผ่านมามีแต่เลิกไปเพราะไม่ดี) เราได้ยินคำนั้นเราน้ำตาคลอหนักในความรู้สึกที่เราซึ้งในความรักของพี่เขา เรายอมรับทุกอย่างในวินาทีนั้น เราเข้าใจพี่เขา จากนั้นก็ไม่ได้คุยกันเลยหลายวันต่อมา เราตัดสินใจมาปฏิบัติธรรม ฟังธรรมะ ไปตามทางสว่างที่พี่เขาชี้ให้เรา เราฝึกเจริญวิปัสนากรรมฐาน นั่งสมาธิ ฟังธรรมเรื่องแก่นแท้ของความรัก และแม่เราก็สอนว่ารักแท้ไม่ได้จบด้วยการอยู่ด้วยกันเสมอไป จนเราเข้าใจในตัวเอง เข้าใจในความรักที่พี่เขามอบให้เรา ความรักที่บริสุทธิ์ ความรักที่ไม่มีการยึดติด ตอนนี้เราถือว่าเราและพี่เขาได้ตายจากกันทางกาย แต่ความรักในทางใจของพี่เขาและเรายังอยู่มั่นคงเสมอ ทุกครั้งที่เรานึกถึงพี่เขา ก็จะมีแต่ความปลื้มปิติและความสุขในคำสอนดีดีของพี่เขา เพราะทุกครั้งที่เราได้นำมาปฎิบัติ เราจะมีสติและควบคุมความคิดตัวเองได้ บทสรุปที่เราบอกกับตัวเองในครั้งนี้คือความสุขจากการรักที่เต็มไปด้วยสติและปัญญาจะทำให้รู้ว่า ความสุขทุกอย่างเกิดขึ้นจากภายในตัวเราเอง ขึ้นอยู่กับทัศนคติ และความคิด ความสุขจากกากรักคนๆนึง จะเกิดขึ้นในใจทุกครั้งที่เรานึกถึงเขา ถ้าเราไม่ยึดติดในกายเขาไม่ห่วงหาไม่เรียกร้องเขา เราก็จะมีความสุขจากการที่เราละและยึดได้ ในเรื่องของความรักก็ต้องมีการเข้าใจและปล่อยวางเช่นกัน แล้วคุณจะพบกับความสุขแน่นอน ความรักไม่ได้ทำให้คนทุกข์เลย แต่ความรักที่มาพร้อมกับความยึดต่างหากที่เป็นเหตุปัจจัยของความทุกข์ในความรัก ยิ้ม
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่