จุดประสงค์กระทู้นี้คือเป็นวิทยาทานแก่ทุกคนที่ประสบโรคเดียวกะเรา และกำลังหาข้อมูลเรื่องการส่องกล้องทางเดินอาหารนะคะ เลยอยากแชร์ให้ฟังว่าสภาพที่เราเจอเป็นยังไง ถ้าคุณจะส่องต้องเจออะไรบ้างคร่าวๆ และต้องการคำปรึกษาจากคนที่เป็นโรคเดียวกันค่ะ
เริ่มเรื่องคือ จขกท เครียดสอบระยะหนึ่ง นอนน้อยมาก อยู่อ่านหนังสือดึกๆทุกคืน กินข้าวไม่เป็นเวลา เครียดมากๆก็กินไม่ลงอีก อยู่มาวันนึงกินข้าวอยู่ก็รู้สึกกลืนอาหารติดคอ กินน้ำก็ไม่ลง เลยตัดสินใจล้วงคออ้วก เป็นแบบนี้อยู่ 3-4 วัน แล้วอาการก็เริ่มหนักขึ้นเรื่อยๆ ถึงขั้นกินข้าวปกติไม่ได้ กินได้แต่โจ๊กข้าวต้ม อาหารเหลว น้ำ จนเริ่มทนตัวเองไม่ไหว กินไม่ได้จนนน. ลดไป 3 kg ใน 2 week
เลยไปหาหมอที่รพ.ที่ 1 (รพเอกชน)ซึ่งเล่าอาการคร่าวๆว่าเรอเปรี้ยว กลืนไม่ค่อยลง กลืนติด เหมือนมีอะไรติดคอ บลาๆ ก็คิดว่าน่าจะเป็นกรดไหลย้อน ก็ได้ยาลดกรดมาเซตใหญ่ กินไปราวๆสัปดาห์สองสัปดาห์ ก็ไม่ดีขึ้น เริ่มเครียดหนักกว่าเดิม จิตใจอ่อนแอมาก คือกินไม่ลงนี่มันทรมานจริงๆเพราะปกติเราแฮปปี้กับการกินมากๆๆๆ หิวก็หิว แต่กลืนแล้วติดคอก็เลิกกิน ช่วงนั้นร้องไห้ไม่ไหว จนไปหารพ. ที่ 2 (รพรัฐ) ก็ได้หาหมอที่เป็นอจ.หมอ ก็แบบเดิม ส่องคอเบื้องต้น หลอดอาหาร กล่องเสียงบวม เขาบอกเราเป็น โรคกรดไหลย้อนขี้นกล่องเสียง (LPR) ก็ได้ยาลดกรดมาอีกเซต (มากกว่าเดิม)
เท่าที่ศึกษาเข้าใจว่าโรคนี้มันใช้เวลา กับการปรับพฤติกรรมควบคู่กับการรักษา เราก็พยายามใจเย็นๆ แต่สภาพจิตใจเป็นอะไรที่ควบคุมยากมากในสภาวะที่ป่วยแบบนี้ ไม่นานนักเราก็เผ่นไปหาหมอรพ.ที่2 อีกเพราะอาการมันไม่ดีขึ้น เขาก็เลยตัดสินใจให้เราส่องกล้องดูเพื่อความสบายใจ (ถึงเนื้อหาตามชื่อกระทู้แล้วค่าาา ยินดีด้วยถ้าอ่านถึงตรงนี้ 555 )
-การเตรียมตัวเพื่อส่องกล้องนะคะ >> งดน้ำอาหารตั้งแต่เที่ยงคืนวันตรวจ
-วันจริง >> หาคนไปด้วยคนนึงนะคะ เผื่อหิ้วปีกออกมา 5555 หมอนัดเรา 8.00 น ค่ะ เราไป 7.00 น แต่แน่นอนว่ารพ. รัฐ ไม่มีคำว่าเร็ว 5555 รอวนไปค่ะ หิวก็หิว ปวดกระเพาะ ต้องอดทน รอวนไปปป ได้หาจริงๆประมาณ เที่ยงครึ่งค่ะ ซึ่งเขาจะให้ยาชาที่จมูกด้วยการพ่นและใช้สำลีชุบยาชามาแช่ไว้คารูจมูกซักพักค่ะ และอมยาชา 5 นาที ก่อนเข้าตรวจ
- ส่องกล้องค่ะ ถึงเวลาที่รอคอย !!! >>> หลังจากบ้วนยาชาทิ้งก็รู้สึกได้เลยว่าปากมันบวมๆตึงๆ แต่ ! ทำไมจมูกมันไม่ชาเลยวะคะ ต่อไปนี้เป็นบทสนทนาคร่าวๆนะคะ
เรา : หมอคะ เอ่อ ยาชาที่จมูกมันไม่ชา จะเจ็บมั้ยคะ ต้องเพิ่มยาชามั้ยคะ
หมอ : อ่อ แสดงว่ามันชาได้แค่นั้นแหล่ะจ้ะ
เรา : .... // ซวยละตรู
หมอ : เราถนัดหายใจรูจมูกข้างไหนมากกว่าคะ
เรา : ขวามั้งคะ
หมอ : //เสียบท่อสีดำยาวๆที่ชุบเจลใสๆเข้าไปในรูข้างขวา เจ็บบอกได้นะคะ บอกได้ตลอดเล้ย
เรา : !!!!! เจ็บค่ะ
หมอ : รูจมูกเล็กนะเนี่ย (หมอพยายามจะหาที่ท่อมันเล็กกว่านี้แต่ไม่มี) งั้นต้องอดทนหน่อยน้า
เรา : ค่ะ ได้ค่ะ //ฮือออ
หมอ : //หมอเปลี่ยนข้าง เป็นจมูกข้างซ้าย แล้วยัดท่อเข้าไปแบบไม่รีรอ
เรา : // เอาตรงๆคือยาชาไม่ช่วยอะไรเลย มันรู้สึกทั้งหมด มันเจ็บมากๆ แต่จะบอกเจ็บตลอดท่อมันคงไม่ถึงกระเพาะเลยทนเอา แต่ไม่นานมันก็ไม่ไหวจริงๆ ต้องคอยบอกเจ็บๆๆเป็นระยะๆให้หมอเบามือลง สภาพอนาถที่สุดในชีวิต พะอืดพะอม อ้วกๆๆ ตลอดที่เขายัดเข้าไป แต่พอยัดทางจมูกแล้ว มันก็ต้องช่วยกลืนกล้องไม่งั้นมันก็ไม่ลงคอ ไม่ลงหลอดอาหาร ซึ่งร่างกายมันพยายามขย้อนออก แต่เราต้องฝืนกลืน คือ น้ำหูน้ำตาไหล อนาถใจ พูดกับหมอได้แค่ว่า หมอช่วยทำเร็วๆได้มั้ยคะ หนูขอ TT ณ จุดนึงที่ทรมานได้ที่ คือสติหลุดไปละ 5555 หมอก็อาศัยช่วงนั้นยัดท่อเข้าไปอย่างเร็ว โอเค และมันก็ถึงกระเพาะซะที ซึ่งตรงนี้ขอชื่นชมหมอว่าหมอใจดีกับเรามากจริงๆ เหมือนเขารู้ว่าเรารูจมูกเล็ก ยัดท่อนี่คือทรมานมาก เขาก็คอยพูดให้กำลังใจตลอด พอถึงกระเพาะก็สบายขึ้นเยอะละ ผ่านช่วงทรมานไปแล้ว หมอก็ส่องๆ ถ่ายภาพ อย่างไว และดึงท่อออกมาอย่างไวเช่นกัน ซึ่งตอนขาออกเนี่ย เจ็บจมูกมากแทบร้อง
สรุป เขาไม่เจออะไรผิดปกติ ก้อนเนื้อ หรืออะไร ก็ยังไม่รู้ว่าทำไมเรากลืนแล้วรู้สึกติด TT ก้รักษาตัวกินยาลดกรดวนไปค่ะ
- หลังการตรวจ ในใบความรู้ที่หมอให้มา บอกแค่ว่า งดกินอาหาร 30 นาทีหลังตรวจป้องกันการสำลัก แต่ที่เราจะบอกเพิ่มเติมจากประสบการณ์จริงคืออย่าแงะจมูกเด็ดขาด เพราะเรารู้สึกรำคาญอะไรซักอย่างในจมูกข้างที่ยัดท่อ เลยเอามือสะกิดๆ ปื้ปปป เลือดไหลเลยจ้า เป็นทางเลย ไหลแบบ non stop วี้ดดด ก็ปฐมพยาบาลเบื้องต้นแบบคนเลือดกำเดาไหลกันไป ก็เจ็บจมูกยันคอ กลืนน้ำลายก็เจ็บหูไปซักพัก อย่างว่า ก็กระซวยกล้องกันซะขนาดนั้นจะเหลือหรอ - -
- สนนราคาค่าเสียหายทั้งยาและส่องกล้องเกือบ 6000 ค่ะ
-ข้อคิดจากประสบการณ์
1 Keep calm and eat while you can
2 ไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐ สุขภาพเป็นเรื่องสำคัญ
3 ออกกำลังกายด้วย อย่าเครียดเกิน
- ใครมีประสบการณ์มาแชร์กันได้นะคะ แล้วใครมีอาการแบบเรา(กลืนละรู้สึกอาหารติดคอ เหมือนมีก้อนที่คอ แน่นหน้าอกบ้างบางครั้ง )แล้วหายแล้วมาแชร์วิธีการรักษาหน่อยน้า
[เล่าประสบการณ์] ส่องกล้องทางเดินอาหารที่จะจำไปอีกนาน TT + ขอคำปรึกษาเรื่องกรดไหลย้อนค่ะ
เริ่มเรื่องคือ จขกท เครียดสอบระยะหนึ่ง นอนน้อยมาก อยู่อ่านหนังสือดึกๆทุกคืน กินข้าวไม่เป็นเวลา เครียดมากๆก็กินไม่ลงอีก อยู่มาวันนึงกินข้าวอยู่ก็รู้สึกกลืนอาหารติดคอ กินน้ำก็ไม่ลง เลยตัดสินใจล้วงคออ้วก เป็นแบบนี้อยู่ 3-4 วัน แล้วอาการก็เริ่มหนักขึ้นเรื่อยๆ ถึงขั้นกินข้าวปกติไม่ได้ กินได้แต่โจ๊กข้าวต้ม อาหารเหลว น้ำ จนเริ่มทนตัวเองไม่ไหว กินไม่ได้จนนน. ลดไป 3 kg ใน 2 week
เลยไปหาหมอที่รพ.ที่ 1 (รพเอกชน)ซึ่งเล่าอาการคร่าวๆว่าเรอเปรี้ยว กลืนไม่ค่อยลง กลืนติด เหมือนมีอะไรติดคอ บลาๆ ก็คิดว่าน่าจะเป็นกรดไหลย้อน ก็ได้ยาลดกรดมาเซตใหญ่ กินไปราวๆสัปดาห์สองสัปดาห์ ก็ไม่ดีขึ้น เริ่มเครียดหนักกว่าเดิม จิตใจอ่อนแอมาก คือกินไม่ลงนี่มันทรมานจริงๆเพราะปกติเราแฮปปี้กับการกินมากๆๆๆ หิวก็หิว แต่กลืนแล้วติดคอก็เลิกกิน ช่วงนั้นร้องไห้ไม่ไหว จนไปหารพ. ที่ 2 (รพรัฐ) ก็ได้หาหมอที่เป็นอจ.หมอ ก็แบบเดิม ส่องคอเบื้องต้น หลอดอาหาร กล่องเสียงบวม เขาบอกเราเป็น โรคกรดไหลย้อนขี้นกล่องเสียง (LPR) ก็ได้ยาลดกรดมาอีกเซต (มากกว่าเดิม)
เท่าที่ศึกษาเข้าใจว่าโรคนี้มันใช้เวลา กับการปรับพฤติกรรมควบคู่กับการรักษา เราก็พยายามใจเย็นๆ แต่สภาพจิตใจเป็นอะไรที่ควบคุมยากมากในสภาวะที่ป่วยแบบนี้ ไม่นานนักเราก็เผ่นไปหาหมอรพ.ที่2 อีกเพราะอาการมันไม่ดีขึ้น เขาก็เลยตัดสินใจให้เราส่องกล้องดูเพื่อความสบายใจ (ถึงเนื้อหาตามชื่อกระทู้แล้วค่าาา ยินดีด้วยถ้าอ่านถึงตรงนี้ 555 )
-การเตรียมตัวเพื่อส่องกล้องนะคะ >> งดน้ำอาหารตั้งแต่เที่ยงคืนวันตรวจ
-วันจริง >> หาคนไปด้วยคนนึงนะคะ เผื่อหิ้วปีกออกมา 5555 หมอนัดเรา 8.00 น ค่ะ เราไป 7.00 น แต่แน่นอนว่ารพ. รัฐ ไม่มีคำว่าเร็ว 5555 รอวนไปค่ะ หิวก็หิว ปวดกระเพาะ ต้องอดทน รอวนไปปป ได้หาจริงๆประมาณ เที่ยงครึ่งค่ะ ซึ่งเขาจะให้ยาชาที่จมูกด้วยการพ่นและใช้สำลีชุบยาชามาแช่ไว้คารูจมูกซักพักค่ะ และอมยาชา 5 นาที ก่อนเข้าตรวจ
- ส่องกล้องค่ะ ถึงเวลาที่รอคอย !!! >>> หลังจากบ้วนยาชาทิ้งก็รู้สึกได้เลยว่าปากมันบวมๆตึงๆ แต่ ! ทำไมจมูกมันไม่ชาเลยวะคะ ต่อไปนี้เป็นบทสนทนาคร่าวๆนะคะ
เรา : หมอคะ เอ่อ ยาชาที่จมูกมันไม่ชา จะเจ็บมั้ยคะ ต้องเพิ่มยาชามั้ยคะ
หมอ : อ่อ แสดงว่ามันชาได้แค่นั้นแหล่ะจ้ะ
เรา : .... // ซวยละตรู
หมอ : เราถนัดหายใจรูจมูกข้างไหนมากกว่าคะ
เรา : ขวามั้งคะ
หมอ : //เสียบท่อสีดำยาวๆที่ชุบเจลใสๆเข้าไปในรูข้างขวา เจ็บบอกได้นะคะ บอกได้ตลอดเล้ย
เรา : !!!!! เจ็บค่ะ
หมอ : รูจมูกเล็กนะเนี่ย (หมอพยายามจะหาที่ท่อมันเล็กกว่านี้แต่ไม่มี) งั้นต้องอดทนหน่อยน้า
เรา : ค่ะ ได้ค่ะ //ฮือออ
หมอ : //หมอเปลี่ยนข้าง เป็นจมูกข้างซ้าย แล้วยัดท่อเข้าไปแบบไม่รีรอ
เรา : // เอาตรงๆคือยาชาไม่ช่วยอะไรเลย มันรู้สึกทั้งหมด มันเจ็บมากๆ แต่จะบอกเจ็บตลอดท่อมันคงไม่ถึงกระเพาะเลยทนเอา แต่ไม่นานมันก็ไม่ไหวจริงๆ ต้องคอยบอกเจ็บๆๆเป็นระยะๆให้หมอเบามือลง สภาพอนาถที่สุดในชีวิต พะอืดพะอม อ้วกๆๆ ตลอดที่เขายัดเข้าไป แต่พอยัดทางจมูกแล้ว มันก็ต้องช่วยกลืนกล้องไม่งั้นมันก็ไม่ลงคอ ไม่ลงหลอดอาหาร ซึ่งร่างกายมันพยายามขย้อนออก แต่เราต้องฝืนกลืน คือ น้ำหูน้ำตาไหล อนาถใจ พูดกับหมอได้แค่ว่า หมอช่วยทำเร็วๆได้มั้ยคะ หนูขอ TT ณ จุดนึงที่ทรมานได้ที่ คือสติหลุดไปละ 5555 หมอก็อาศัยช่วงนั้นยัดท่อเข้าไปอย่างเร็ว โอเค และมันก็ถึงกระเพาะซะที ซึ่งตรงนี้ขอชื่นชมหมอว่าหมอใจดีกับเรามากจริงๆ เหมือนเขารู้ว่าเรารูจมูกเล็ก ยัดท่อนี่คือทรมานมาก เขาก็คอยพูดให้กำลังใจตลอด พอถึงกระเพาะก็สบายขึ้นเยอะละ ผ่านช่วงทรมานไปแล้ว หมอก็ส่องๆ ถ่ายภาพ อย่างไว และดึงท่อออกมาอย่างไวเช่นกัน ซึ่งตอนขาออกเนี่ย เจ็บจมูกมากแทบร้อง
สรุป เขาไม่เจออะไรผิดปกติ ก้อนเนื้อ หรืออะไร ก็ยังไม่รู้ว่าทำไมเรากลืนแล้วรู้สึกติด TT ก้รักษาตัวกินยาลดกรดวนไปค่ะ
- หลังการตรวจ ในใบความรู้ที่หมอให้มา บอกแค่ว่า งดกินอาหาร 30 นาทีหลังตรวจป้องกันการสำลัก แต่ที่เราจะบอกเพิ่มเติมจากประสบการณ์จริงคืออย่าแงะจมูกเด็ดขาด เพราะเรารู้สึกรำคาญอะไรซักอย่างในจมูกข้างที่ยัดท่อ เลยเอามือสะกิดๆ ปื้ปปป เลือดไหลเลยจ้า เป็นทางเลย ไหลแบบ non stop วี้ดดด ก็ปฐมพยาบาลเบื้องต้นแบบคนเลือดกำเดาไหลกันไป ก็เจ็บจมูกยันคอ กลืนน้ำลายก็เจ็บหูไปซักพัก อย่างว่า ก็กระซวยกล้องกันซะขนาดนั้นจะเหลือหรอ - -
- สนนราคาค่าเสียหายทั้งยาและส่องกล้องเกือบ 6000 ค่ะ
-ข้อคิดจากประสบการณ์
1 Keep calm and eat while you can
2 ไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐ สุขภาพเป็นเรื่องสำคัญ
3 ออกกำลังกายด้วย อย่าเครียดเกิน
- ใครมีประสบการณ์มาแชร์กันได้นะคะ แล้วใครมีอาการแบบเรา(กลืนละรู้สึกอาหารติดคอ เหมือนมีก้อนที่คอ แน่นหน้าอกบ้างบางครั้ง )แล้วหายแล้วมาแชร์วิธีการรักษาหน่อยน้า