ผลของทาน
" ทานที่ทำแล้วจะได้บุญมากต้องพร้อมด้วยแห่งวัตถุสาม คือ
๑.ศรัทธา
๒.ไทยธรรม
๓.ทักขิไณยบุคคล
แต่ธรรมทั้งสองประการนั้นหาได้ง่าย คือ ไทยธรรม และ ทักขิไณยบุคคล แต่ศรัทธานั้นหาได้ยาก เพราะปุถุชนมีศรัทธาไม่มั่นคง "
---------------
ทำของสวยก็ได้ของสวย ทำของปราณีตก็ได้ของปราณีต
โอวาทธรรม หลวงปู่สมชาย ฐิตวิริโย
หมายเหตุ ๑. หลวงปู่ฯปรารถธรรมทั้งสองต่างเวลากัน เพื่อความง่ายแก่การอ่าน จึงนำมารวมกัน
---------------
หมายเหตุ ๒. ผู้เรียบเรียงขอยกตัวอย่างประกอบข้อธรรม ดังนี้
คำว่า ทำ หมายถึง ทำเหตุสร้างบุญกุศล
คำว่า ได้ หมายถึง ได้กุศลจากเหตุการทำบุญนั้นๆ
ยกตัวอย่างแรก นาย ก.ซื้ออาหารไปถวายพระ อาหารที่ซื้อไปเป็นกับข้าวถุงละ ๒๐ บาท เมื่อไปถึงจึงนำอาหารถุงนั้นถวายพระ ในขณะเดียวกัน นาย ข.ก็ซื้ออาหารถุงๆละ ๒๐ บาท ไปถวายเช่นกัน แต่นาย ข. เทอาหารออกจากถุงใส่จาน พร้อมกับปิดอาหารด้วยการซีลพลาสติกใส เพื่อกันแมลงวัน เสร็จแล้วจึงนำอาหารน้อมถวายพระ
จะเห็นได้ว่า อาหารทั้ง ๒ ถุง ราคา ๒๐ บาท เหมือนกัน แต่วิธีการต่างกัน นาย ข. ไม่ละเลยแม้เพียงเล็กน้อย อาหารที่ตั้งใจน้อมถวายพระ จึงปราณีตกว่า
ตัวอย่างที่ ๒ นาย ก. กับ นาย ข. มีอุปนิสัยชอบทำบุญทำทาน ลองว่าถ้าศรัทธาพระรูปใดแล้ว จะดูแลอุปฐากเป็นพิเศษ อยู่มาวันหนึ่ง หลวงพ่อเกิดอาพาธ นาย ก. นาย ข. จึงสอบถามได้ความว่า เป็นความดันสูง หมอกำชับเรื่องอาหารขบฉัน
ด้วยศรัทธาที่มีต่อหลวงพ่อ จึงตกลงทำอาหารไปถวายท่าน สลับกันทำคนละวัน
นาย ก. จึงทำอาหาร เป็นผัดผักรวมมิตร ใช้น้ำมันพืชเป็นส่วนปรุงอาหาร
นาย ข. ก็ทำอาหารถวายเช่นกัน อาหารที่ทำคือแบบเดียวกัน แต่นาย ข. ใช้น้ำมันมะพร้าวเป็นส่วนปรุงอาหาร
อาหารที่ นาย ก. นาย ข. ทำเหมือนกัน แต่นาย ข. รู้ว่า คนที่ป่วยด้วยโรคนี้ การทานอาหารต้องหลีกเลี่ยงน้ำมันพืช น้ำมันหมู ส่วนน้ำมันมะพร้าวใช้ได้ไม่มีอันตรายต่อผู้ป่วย จึงใช้น้ำมันมะพร้าวแทน อาหารของ นาย ข. จึงจัดว่าเป็นอาหารที่ปราณีตกว่า
ผลของทาน
" ทานที่ทำแล้วจะได้บุญมากต้องพร้อมด้วยแห่งวัตถุสาม คือ
๑.ศรัทธา
๒.ไทยธรรม
๓.ทักขิไณยบุคคล
แต่ธรรมทั้งสองประการนั้นหาได้ง่าย คือ ไทยธรรม และ ทักขิไณยบุคคล แต่ศรัทธานั้นหาได้ยาก เพราะปุถุชนมีศรัทธาไม่มั่นคง "
---------------
ทำของสวยก็ได้ของสวย ทำของปราณีตก็ได้ของปราณีต
โอวาทธรรม หลวงปู่สมชาย ฐิตวิริโย
หมายเหตุ ๑. หลวงปู่ฯปรารถธรรมทั้งสองต่างเวลากัน เพื่อความง่ายแก่การอ่าน จึงนำมารวมกัน
---------------
หมายเหตุ ๒. ผู้เรียบเรียงขอยกตัวอย่างประกอบข้อธรรม ดังนี้
คำว่า ทำ หมายถึง ทำเหตุสร้างบุญกุศล
คำว่า ได้ หมายถึง ได้กุศลจากเหตุการทำบุญนั้นๆ
ยกตัวอย่างแรก นาย ก.ซื้ออาหารไปถวายพระ อาหารที่ซื้อไปเป็นกับข้าวถุงละ ๒๐ บาท เมื่อไปถึงจึงนำอาหารถุงนั้นถวายพระ ในขณะเดียวกัน นาย ข.ก็ซื้ออาหารถุงๆละ ๒๐ บาท ไปถวายเช่นกัน แต่นาย ข. เทอาหารออกจากถุงใส่จาน พร้อมกับปิดอาหารด้วยการซีลพลาสติกใส เพื่อกันแมลงวัน เสร็จแล้วจึงนำอาหารน้อมถวายพระ
จะเห็นได้ว่า อาหารทั้ง ๒ ถุง ราคา ๒๐ บาท เหมือนกัน แต่วิธีการต่างกัน นาย ข. ไม่ละเลยแม้เพียงเล็กน้อย อาหารที่ตั้งใจน้อมถวายพระ จึงปราณีตกว่า
ตัวอย่างที่ ๒ นาย ก. กับ นาย ข. มีอุปนิสัยชอบทำบุญทำทาน ลองว่าถ้าศรัทธาพระรูปใดแล้ว จะดูแลอุปฐากเป็นพิเศษ อยู่มาวันหนึ่ง หลวงพ่อเกิดอาพาธ นาย ก. นาย ข. จึงสอบถามได้ความว่า เป็นความดันสูง หมอกำชับเรื่องอาหารขบฉัน
ด้วยศรัทธาที่มีต่อหลวงพ่อ จึงตกลงทำอาหารไปถวายท่าน สลับกันทำคนละวัน
นาย ก. จึงทำอาหาร เป็นผัดผักรวมมิตร ใช้น้ำมันพืชเป็นส่วนปรุงอาหาร
นาย ข. ก็ทำอาหารถวายเช่นกัน อาหารที่ทำคือแบบเดียวกัน แต่นาย ข. ใช้น้ำมันมะพร้าวเป็นส่วนปรุงอาหาร
อาหารที่ นาย ก. นาย ข. ทำเหมือนกัน แต่นาย ข. รู้ว่า คนที่ป่วยด้วยโรคนี้ การทานอาหารต้องหลีกเลี่ยงน้ำมันพืช น้ำมันหมู ส่วนน้ำมันมะพร้าวใช้ได้ไม่มีอันตรายต่อผู้ป่วย จึงใช้น้ำมันมะพร้าวแทน อาหารของ นาย ข. จึงจัดว่าเป็นอาหารที่ปราณีตกว่า