ผมว่าคุณคงเคยได้ยินหลายๆคนแนะนำให้ดูหนังเพื่อฝึกภาษา ผมเห็นด้วยอย่างยิ่งครับ และด้วยประสบการณ์ตัวเองผมว่ามันได้ผลจริงๆ
ผมอยากจะแชร์ความคิดเห็นส่วนตัวกับการดูหนังภาษาอังกฤษเพื่อฝึกภาษาครับ
ผมเริ่มดูหนังภาษาอังกฤษช้าไปหน่อย สมัยเข้าเรียนมหาวิทยาลัยแล้ว แรกๆ ก็ดูซับไทย ครับ แล้วก็ลองดูซับอังกฤษบ้าง แต่สิ่งที่สังเกตคือภาษาอังกฤษของผมดีขึ้น แต่ก็ไม่มากครับ และก็ช้าด้วย
คุณรู้ไหมครับว่าเพราะอะไร?
เพราะว่าเราอ่านครับ
การอ่านซับไทย ภาษาไทยก็จะก้องอยู่ในหัว บดบังความสามารถในการซึมซับรับรู้ภาษาอังกฤษจากการได้ยิน
การอ่านซับอังกฤษ เราก็จะอ่านแบบที่เราคิดว่าต้องอ่านออกเสียงแบบนั้นแบบนี้ ซึ่งเสียงจากการอ่านของเราก็จะก้องในหัวเช่นกัน เมื่อฝรั่งพูดไม่ตรงกับที่เราอ่านสมองเราก็จะถูกขัดจังหวะ และหลุดจากการรับรู้จากประโยคที่ตามๆมา
ดังนั้นถึงแม้ว่า การดูหนังเพื่อฝึกภาษาจะได้ผล แต่ก็อาจจะไม่ได้ผลอย่างที่คาดหวัง
ผมสังเกตตอนตัวเองมาเรียนอยู่ที่อเมริกาครับ เข้าดูหนังในโรงหนังไม่มีซับให้อ่านอีกต่อไป ยอมรับครับว่าหนังเรื่องแรกๆ ดูจนจบก็ยังงงๆ คือรู้เรื่องเนื้อหาหลักๆของหนัง แต่หลุดประเด็นยิบย่อยที่ฟังไม่ออก. บางส่วนแปลไม่ได้เลยไม่ได้รายละเอียดทั้งหมด แต่ความสนุกของหนังผมไม่ได้รู้สึกว่าอันขาดอรรถรสใดๆนะครับ
สิ่งที่ได้จริงๆ คือภาษาอังกฤษพัฒนาเร็วกว่าเดิมมาก ผมไม่ได้แบ่งสมองมาอ่านซับ และเสียงการอ่านซับในใจมาบดบังความสามารถในการได้ยินและรับรู้ภาษาอังกฤษ สมองของผมจึงซึมซับภาษาอังกฤษได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
ถ้าจะดูหนังภาษาอังกฤษเพื่อฝึกภาษาครั้งต่อไป ลองดูแบบไม่เปิดซับนะครับ อย่าไปเชื่อความกังวลว่าจะดูไม่รู้เรื่องครับ มันไม่จริงครับ คุณดูรู้เรื่องครับ แค่อาจจะขาดรายละเอียดยิบย่อยแค่นั้นเอง ลองดูแบบนี้สักสิบเรื่องครับ คุณจะสังเกตว่ามันได้ผลจริงๆ
ถ้าจะฝึกภาษาอังกฤษด้วยการดูหนัง...
ผมอยากจะแชร์ความคิดเห็นส่วนตัวกับการดูหนังภาษาอังกฤษเพื่อฝึกภาษาครับ
ผมเริ่มดูหนังภาษาอังกฤษช้าไปหน่อย สมัยเข้าเรียนมหาวิทยาลัยแล้ว แรกๆ ก็ดูซับไทย ครับ แล้วก็ลองดูซับอังกฤษบ้าง แต่สิ่งที่สังเกตคือภาษาอังกฤษของผมดีขึ้น แต่ก็ไม่มากครับ และก็ช้าด้วย
คุณรู้ไหมครับว่าเพราะอะไร?
เพราะว่าเราอ่านครับ
การอ่านซับไทย ภาษาไทยก็จะก้องอยู่ในหัว บดบังความสามารถในการซึมซับรับรู้ภาษาอังกฤษจากการได้ยิน
การอ่านซับอังกฤษ เราก็จะอ่านแบบที่เราคิดว่าต้องอ่านออกเสียงแบบนั้นแบบนี้ ซึ่งเสียงจากการอ่านของเราก็จะก้องในหัวเช่นกัน เมื่อฝรั่งพูดไม่ตรงกับที่เราอ่านสมองเราก็จะถูกขัดจังหวะ และหลุดจากการรับรู้จากประโยคที่ตามๆมา
ดังนั้นถึงแม้ว่า การดูหนังเพื่อฝึกภาษาจะได้ผล แต่ก็อาจจะไม่ได้ผลอย่างที่คาดหวัง
ผมสังเกตตอนตัวเองมาเรียนอยู่ที่อเมริกาครับ เข้าดูหนังในโรงหนังไม่มีซับให้อ่านอีกต่อไป ยอมรับครับว่าหนังเรื่องแรกๆ ดูจนจบก็ยังงงๆ คือรู้เรื่องเนื้อหาหลักๆของหนัง แต่หลุดประเด็นยิบย่อยที่ฟังไม่ออก. บางส่วนแปลไม่ได้เลยไม่ได้รายละเอียดทั้งหมด แต่ความสนุกของหนังผมไม่ได้รู้สึกว่าอันขาดอรรถรสใดๆนะครับ
สิ่งที่ได้จริงๆ คือภาษาอังกฤษพัฒนาเร็วกว่าเดิมมาก ผมไม่ได้แบ่งสมองมาอ่านซับ และเสียงการอ่านซับในใจมาบดบังความสามารถในการได้ยินและรับรู้ภาษาอังกฤษ สมองของผมจึงซึมซับภาษาอังกฤษได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
ถ้าจะดูหนังภาษาอังกฤษเพื่อฝึกภาษาครั้งต่อไป ลองดูแบบไม่เปิดซับนะครับ อย่าไปเชื่อความกังวลว่าจะดูไม่รู้เรื่องครับ มันไม่จริงครับ คุณดูรู้เรื่องครับ แค่อาจจะขาดรายละเอียดยิบย่อยแค่นั้นเอง ลองดูแบบนี้สักสิบเรื่องครับ คุณจะสังเกตว่ามันได้ผลจริงๆ