[Review] - Arrival ผู้มาเยือน

[Review] - Arrival

“เจ้าพวกมนุ้ด ตูแปลไม่ออกเว้ย”
.
Arrival เป็นภาพยนตร์ไซไฟขนานแท้ที่ไม่เน้นระเบิดตูมตามเหมือนภาพยนตร์ไฟไซทั่วไปแต่เอาจริง ๆ คือไม่มีเลยมากกว่า ดังนั้นแล้วใครต้องการเสพระเบิดหรือฉากแอ็คชั่นเอเลี่ยนบุกโลกแนะนำเลยว่าอย่าดู Arrival มิเช่นนั้นท่านจะพบกับความน่าเบื่อชวนง่วงหลับได้ง่าย ๆ แต่ถ้าใครชอบภาพยนตร์ไซไฟเน้นคิด วิเคราะห์ แยกแยะ ก็ต้องบอกเลยว่ามันเป็นภาพยนตร์เรื่องเยี่ยมที่ต้องไปดูให้ได้ในปีนี้
.
เรื่องราวใน Arrival จะเล่าถึงยานเอเลี่ยนต่างดาวได้ลงมาจอดบนโลกมนุษย์อย่างไร้สาเหตุ ทำให้เดือดร้อนถึงกองทัพสหรัฐต้องไหว้วาน หลุยส์ นักแปลภาษาอันดับหนึ่งมาช่วยเหลือเรื่องการแปลการสื่อสารและไขข้อข้องใจว่าทำไมยานเมล็ดข้าวเปลือกลำนี้ถึงมาที่โลกมนุษย์
.
ตัวหนังจะเน้นหนักที่ประเด็น “การสื่อสาร” “ภาษา” แสดงให้เห็นว่าภาษามันเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดเพราะมันใช้ผูกมิตรหรือสร้างศัตรูก็ได้ซึ่งประเด็นนี้นอกจากจะใช้กับพวกเอเลี่ยนแล้วก็ยังโยงไปถึงมนุษย์ปุถุชนอย่างเรา ๆ ด้วยว่าแม้การพูดจาหรือสื่อสารที่ผิดพลาดเพียงเล็กน้อยหรือไม่ได้ตั้งใจก็ตามย่อมนำไปสู่ความหายนะได้
.
ด้วยประเด็นที่ว่ามานี้ตัวหนังก็สามารถจิกกัดตบหน้าพวกหนังเอเลี่ยนบุกโลกเรื่องอื่น ๆ ที่จู่ ๆ พวกเอเลี่ยนก็พูดอังกฤษได้คล่องปร๋อซะงั้นซึ่งใน Arrival ก็ได้ตอกย้ำว่าถ้าพวกต่างดาวมาหาที่โลกอย่างแรกที่ต้องทำคือ สื่อสารและแปลภาษาพวกมันให้ออกต่างหาก!
.
การเดินเรื่องก็ต้องบอกว่าสมกับเป็นผู้กำกับ Sicario กับ Prisoners ครับเพราะมีเนื้อหาที่ต้องคิดตามทั้งเรื่องแต่ที่น่าประหลาดคือตัวหนังมีบทพูดล้วน ๆ แต่กลับน่าดึงดูด ชวนให้ติดและคิดตามว่าต่อไปมันจะเป็นอย่างไรจวบจนไปถึงบทสรุปสุดท้ายที่เดาทางไม่ออกขนาดหนังจบออกโรงมาต้องมานั่งคิดต่อไปคุ้ยหากระทู้วิเคราะห์กันยกใหญ่และเป็นหนังไม่กี่เรื่องที่รู้สึกว่ายิ่งคิดให้ตกผลึกมากเท่าไหร่ก็ยิ่งทำให้หนังสนุกขึ้นแลดูมีคุณค่ามากกว่าหนังไซไฟทั่วไป
.
เพลง/ดนตรีประกอบก็เช่นกันแทบจะเป็นพระเอกแย่งซีนเสียด้วยซ้ำกับซาวด์เสียงที่ล้ำมากจนอยากจะรู้ว่าพวกพี่ทำเสียงพวกนี้ยังไงกันบ้าง ให้ความรู้สึกเหมือนถูกดูดเข้าไปในยานเอเลี่ยนเหมือนหลุดเข้าไปในอีกโลกไปเลยแถมยังให้ความรู้สึกลึกลับ+น่ากลัวไปด้วย เป็นข้อดีที่เด่นมาก ๆ เพราะทำให้เรารู้สึกอินไปกับตัวละครรู้สึกเหมือนกับที่ตัวละครในเรื่องรู้สึก
.
กลับมาที่ประเด็นภาษากับการสื่อสารอีกครั้งในเรื่องนี้ก็เปรียบเหมือนกับว่าเราไปอยู่ต่างประเทศที่มีความต่างของภาษา แน่นอนว่าถ้าเราพูดได้สื่อสารรู้เรื่องก็เหมือนกับการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมไปในตัวและใน Arrival ก็เช่นกันที่ถ้าหากคุยกับเอเลี่ยนรู้เรื่องเราก็อาจจะได้แลกเปลี่ยนเทคโนโลยีใหม่หรือวิทยาการแบบไม่ต้องเสียเลือดเนื้อเลยก็เป็นได้
.
ตัวละครในเรื่องก็เป็นที่จดจำทุกคนโดยเฉพาะ หลุยส์ ที่รับบทโดย เอมี่ อดัมส์ ที่ถ่ายทอดตัวละครได้ดีมาก ๆ เข้าถึง เข้าใจความเป็นนักภาษาศาสตร์และเป็นตัวละครที่เป็นสำคัญมาก ๆ ของเรื่อง ส่วนคนอื่น ๆ อย่าง เจเรมี่ เรนเนอร์ หรือ ฟอเรสต์ วินเทคเกอร์ ก็ทำได้ดีเช่นกันเพียงแต่ว่าบทอาจจะไม่ส่งเท่าไหร่
.
การถ่ายทอดเรื่องราวต่าง ๆ ใน Arrival ต้องบอกเลยว่าทีมงานสามารถย่อยเรื่องยาก ๆ ให้เข้าใจได้ง่าย (เท่าที่ทำได้) ทีเดียวอย่างการอธิบายการแปลภาษาต่างดาวก็พอเข้าใจได้เกินครึ่งหรือในช่วงองค์สุดท้ายที่หลาย ๆ คนต้องอุทานว่า “เหยด” (แต่ก็มีจุดที่ไม่เข้าใจอยู่นะ)
.
สรุป Arrival เป็นภาพยนตร์ไซไฟชั้นดีมีประเด็นมากมายให้ขบคิดตีความมุมมองต่อเอเลี่ยนใหม่หมดถึงแม้ว่าจะดูงง ๆ ไม่เข้าใจในบางฉากก็ตามแต่ก็เหมาะมากสำหรับคนที่ชอบคิดไปตามหนังหรือชอบหนังไซไฟล้ำ ๆ พอ ๆ กับ Interstellar เลยทีเดียว
.
“ภาษาคือทุกอย่าง”
.
“9/10” (A Rank)

ที่มา - https://www.facebook.com/myinnermovie/

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่