รีวิว Arrival ผู้มาเยือน [by ที่นั่งธรรมดา]

Arrival : ผู้มาเยือน (2017)
กำกับโดย Denis Villeneuve


    เอเลี่ยนต้องการอะไรจากมนุษย์ เป็นคำถามแรกหลังจากได้ดู trailer ในโปสเตอร์มีคำโปรยไว้ว่า “Why are they here” ตั้งคำถามถึงจุดประสงค์ของการมาของเอเลี่ยนฉบับ Denis Villeneuve ซึ่งเรามี stereotype ของหนังเอเลี่ยนอยู่คือ การรุกราน,การล่าอณานิคม และการตอบโต้ของมนุษย์ต่อเอเลี่ยนคือต่อสู้เพื่อขับไล่ แต่ใน Arrival การกระทำของมนุษย์และเอเลี่ยนถูกตีความใหม่พร้อมแฝงสิ่งที่ลึกล้ำเกินกว่าความเชื่อของคนดู

    Arrival เล่าเรื่องโลกที่อยู่ดีดีก็มีวัตถุประหลาดลอยอยู่เหนือ 12 น่านฟ้าทั่วโลก ทั้งโลกต่างแตกตื่นกับการมาของผู้มาเยือน การสื่อสารคือการตอบโต้แรกของมนุษย์ กองทัพจึงต้องพึ่ง ดร.หลุยส์ แบงค์ส (Amy Adams) นักภาษาศาสตร์ที่สูญเสียลูกไปด้วยโรคมะเร็งและเห็นแฟลชแบ็คลูกอยู่เสมอ และ เอียน ดอลนอลลี่ (Jeremy Renner) นักฟีสิกส์ มาทำการสวบสวนและสื่อสารกับสิ่งที่มนุษย์เชื่อว่าเป็นเอเลี่ยน


    Arrival ต่างจากหนังต่างดาวบุกโลกเรื่องอื่นๆคือให้ความสำคัญกับการสื่อสารกับเอเลี่ยนมากกว่าประเด็นอื่นๆ เช่นเดียวกับหลุยส์ เป็นตัวแทนของคนที่เชื่อว่าการทำความเข้าใจโดยประนีประนอมควรจะเป็นสิ่งที่ถูกต้องขณะที่กองทัพและคนทั่วโลกคิดทางตรงกันข้าม แน่นอนว่าภาษาเป็นพื้นฐานการสื่อสารของมนุษย์ ซึ่งนั่นรวมไปถึงเอเลี่ยนด้วยเช่นกัน  

    เอเลี่ยนในเรื่องนี้ถูกเรียกว่า “เฮปตาพ็อดส์” ภาษาของเฮปตาพ็อดส์ เป็นลักษณะคล้ายหมึกวงกลมอ่านจากหัวหรือท้ายก็ไม่ต่างกัน สามารถตีความได้หลายแบบ ต่างจากภาษาของมนุษย์ที่ไม่ว่าจะภาษาไหนบนโลกก็มีรูปแบบตายตั มีกฎเกณฑ์การตีความแบบกำหนดไว้แล้ว ตัวหนังตั้งปมไว้ให้เราค่อยๆแก้ไปพร้อมกับตัวละคร โดยเล่าเรื่องโดยทำให้เรา(คนดู)เหมือนได้เรียนรู้ภาษาเฮปตาพ็อดส์ไปพร้อมกันกับดร.หลุยส์ Conflict ของหนังมีเยอะมากๆ อย่างภาพแฟลชแบ็คของหลุยส์ เธอมักจะเห็นภาพลูกสาวของตัวเองที่ตายจากไปด้วยโรคมะเร็งเมื่อนานมาแล้ว, จำนวนยาน, ลักษะภาษาของเฮปตาพ็อดส์ และปมเล็กๆอีกมากมาย


    สิ่งที่น่าประทับใจคือการแสดงของเอมี่ อดัมส์ ก่อนที่หนังจะเข้าฉายนักวิจารณ์ต่างพากันบอกว่าเธอมีสิทธิ์เข้าชิงสาขานักแสดงนำหญิงเลยทีเดียว ซึ่งเราเองก็คิดว่ามีสิทธิ์ การถ่ายทอดอารมณ์ของปัญญาชนที่เหมือนกับทิ้งชีวิตตัวเองไปแล้วหลังสูญเสียลูกสาว ไม่ได้ถึงขนาดปล่อยพลังเรียกว่าแสดงออกน้อยๆแต่ลึกซึ้ง อีกหนึ่งอย่างคือสกอร์ของหนังแน่นอนว่าหนังของ Denis Villeneuve ต้องมาพร้อมกับสกอร์หลอนๆของ Jóhann Jóhannsson เหมือนเป็นคู่กัน สิ่งที่ทำให้หนังเรื่องนี้มันตื่นเต้นขึ้นเพราะดนตรีประกอบนี่แหละ

    Arrival จะว่าเป็นหนังที่ทั้งชอบและผิดหวังอยู่เหมือนกัน สิ่งที่ผิดหวังคือ เราเป็นแฟนหนังของ Denis ชอบสไตล์การทำหนังทริลเลอร์แบบจัดๆ แล้วหวังว่าจะได้เห็นเหมือนกันจากเรื่องนี้แต่ก็ผิดหวังนิดหน่อยเพราะเรื่องนี้ไม่ได้เสนอความกดดันทางอารมณ์มากเท่าเรื่องก่อนๆแต่ทดแทนด้วยความลึกซึ้งขององค์ประกอบต่างๆของหนังแทน ผลงานเรื่องต่อไปของ Denis ชื่อว่า Blade Runner 2049 เป็นภาคต่อของ Blade Runner (1982) ที่เคยกำกับโดย Ridley Scott


หากใครที่ชอบสามารถไปติดตามเราได้ที่เพจนะครับ ยิ้ม
https://www.facebook.com/ordinaryseats/?fref=ts
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่