สำหรับเราจะใช้ 4 วิธีนี้ค่ะ
1. ซื้อจากแหล่งที่น่าเชื่อถือ
เราควรเลือกซื้อเครื่องสำอางจากแหล่งจำหน่ายที่น่าเชื่อถือ เช่นในห้างสรรพสินค้า บูทของแบรนด์นั้นๆ หรือตัวแทนจำหน่ายที่มีใบรับรองผลิตภัณฑ์ ถ้าไปเจอสินค้าที่วางขายตามท้องตลาดทั่วไปแถมยังลดราคาอีก ส่วนใหญ่มักจะไม่ใช่ของจริง เสี่ยงต่อการได้ของปลอม
2. สังเกตกล่องและแพ็คเกจ
เครื่องสำอางของปลอมบางชิ้น ทำออกมาได้เหมือนของจริงมาก ถ้ามองผ่านๆก็แทบแยกไม่ออก เพราะฉะนั้นก่อนจะซื้อควรเข้าไปดูตัวอย่างผลิตภัณฑ์ในเว็บไซต์ แล้วเปรียบเทียบความแตกต่างของแบบอักษร ขนาดอักษร สีและขนาดของแพ็คเกจสินค้าให้ดี
3. เช็คบาร์โค้ด เลขซีเรียลนัมเบอร์และข้อมูลการผลิต
สังเกตจากจุดเล็กๆ อย่างเช่นบาร์โค้ด เลขซีเรียลนัมเบอร์และข้อมูลการผลิตที่ติดไว้บนกล่องผลิตภัณฑ์ โดยเฉพาะตัวเลขซีเรียลนัมเบอร์ที่มักจะดูได้ง่ายที่สุด บางครั้งตัวเลขบนกล่องกับบนตัวสินค้าก็ไม่ตรงกัน แสดงว่าเป็นของปลอมชัวร์ นอกจากนี้เครื่องสำอางของแท้มักจะระบุส่วนผสมในการผลิต และมีข้อมูลอื่นๆ ในเวอร์ชั่นหลายภาษาด้วย
4. ทดลองดมกลิ่นและสังเกตเครื่องสำอางก่อนซื้อ
เครื่องสำอางของแท้ไม่ควรมีสารแปลกปลอมผสมอยู่ ควรทดลองดมกลิ่นเนื้อครีม ซึ่งต้องมีกลิ่นหอมสบายจมูก ไม่มีกลิ่นของสารเคมี เนื้อครีมจะละเอียดและกลืนไปกับผิว สามารถติดผิวไปได้ตลอดทั้งวัน ส่วนลิปสติกจะต้องทาแล้วลื่น ที่ปัดขนตา ที่ทาตา ที่ทาแก้มเป็นผลิตภัณฑ์ที่เน้นเฉดสี ระดับสีซับซ้อน มีหลากหลายสีให้เลือกซื้อมากกว่าของลอกเลียนแบบ สีจะต้องติดทนไม่หลุดไม่ลอก เพื่อหลีกเลี่ยงของปลอมให้เข้าไปเช็คเฉดสีของผลิตภัณฑ์ในเว็บไซต์ เพราะเครื่องสำอางของปลอมสีจะไม่สวยและไม่มีคุณภาพเท่าของแท้
ช่วยกันแชร์ วิธีสังเกตเครื่องสำอางของจริงของปลอมกันค่ะ
1. ซื้อจากแหล่งที่น่าเชื่อถือ
เราควรเลือกซื้อเครื่องสำอางจากแหล่งจำหน่ายที่น่าเชื่อถือ เช่นในห้างสรรพสินค้า บูทของแบรนด์นั้นๆ หรือตัวแทนจำหน่ายที่มีใบรับรองผลิตภัณฑ์ ถ้าไปเจอสินค้าที่วางขายตามท้องตลาดทั่วไปแถมยังลดราคาอีก ส่วนใหญ่มักจะไม่ใช่ของจริง เสี่ยงต่อการได้ของปลอม
2. สังเกตกล่องและแพ็คเกจ
เครื่องสำอางของปลอมบางชิ้น ทำออกมาได้เหมือนของจริงมาก ถ้ามองผ่านๆก็แทบแยกไม่ออก เพราะฉะนั้นก่อนจะซื้อควรเข้าไปดูตัวอย่างผลิตภัณฑ์ในเว็บไซต์ แล้วเปรียบเทียบความแตกต่างของแบบอักษร ขนาดอักษร สีและขนาดของแพ็คเกจสินค้าให้ดี
3. เช็คบาร์โค้ด เลขซีเรียลนัมเบอร์และข้อมูลการผลิต
สังเกตจากจุดเล็กๆ อย่างเช่นบาร์โค้ด เลขซีเรียลนัมเบอร์และข้อมูลการผลิตที่ติดไว้บนกล่องผลิตภัณฑ์ โดยเฉพาะตัวเลขซีเรียลนัมเบอร์ที่มักจะดูได้ง่ายที่สุด บางครั้งตัวเลขบนกล่องกับบนตัวสินค้าก็ไม่ตรงกัน แสดงว่าเป็นของปลอมชัวร์ นอกจากนี้เครื่องสำอางของแท้มักจะระบุส่วนผสมในการผลิต และมีข้อมูลอื่นๆ ในเวอร์ชั่นหลายภาษาด้วย
4. ทดลองดมกลิ่นและสังเกตเครื่องสำอางก่อนซื้อ
เครื่องสำอางของแท้ไม่ควรมีสารแปลกปลอมผสมอยู่ ควรทดลองดมกลิ่นเนื้อครีม ซึ่งต้องมีกลิ่นหอมสบายจมูก ไม่มีกลิ่นของสารเคมี เนื้อครีมจะละเอียดและกลืนไปกับผิว สามารถติดผิวไปได้ตลอดทั้งวัน ส่วนลิปสติกจะต้องทาแล้วลื่น ที่ปัดขนตา ที่ทาตา ที่ทาแก้มเป็นผลิตภัณฑ์ที่เน้นเฉดสี ระดับสีซับซ้อน มีหลากหลายสีให้เลือกซื้อมากกว่าของลอกเลียนแบบ สีจะต้องติดทนไม่หลุดไม่ลอก เพื่อหลีกเลี่ยงของปลอมให้เข้าไปเช็คเฉดสีของผลิตภัณฑ์ในเว็บไซต์ เพราะเครื่องสำอางของปลอมสีจะไม่สวยและไม่มีคุณภาพเท่าของแท้