เบาหวานขึ้นตา

ยาวหน่อย แต่อยากจะเล่าให้ฟังนะคะ สามีเราอายุ 40 ปี ไม่เคยตรวจสุขภาพ เพราะคิดเสมอว่าตัวเองแข็งแรง และครอบครัวไม่มีใครเป็นเบาหวานเลยตรวจพบเบาหวานเมื่อประมาณกลางปี 59 ตรวจตาที่ รพ.ก็ปกติดี ไม่เป็นไร

แต่หลังจากนั้น สามีค่อยๆมีอาการแสงจ้าเข้ามาที่ตา ทำให้ตาพร่าเป็นพักๆ (ตามคำบอกเล่านะคะ) พยายามไปหาหมอตรวจตาที่ดังที่สุดในจังหวัดก็ไม่พบอะไรเลย คุณหมอให้แค่ยาหยอดตา กับยามาทานเท่านั้น เราคิดว่าแพ้แสงก็ไปตัดแว่นตัดแสงที่ดีที่สุดมาใส่ ก็ไม่ดีขึ้น ที่ร้านแว่นตาแนะนำให้ไปตรวจที่วัดไร่ขิง เราเลยไปขอใบส่งตัวที่ รพ.ประจำอำเภอ เพื่อส่งไป รพ.ประจำจังหวัดก่อนขอใบส่งตัวต่อไปวัดไร่ขิง พีคสุดคือหมอที่เขียนใบส่งตัวให้ใช้ไฟฉายจากไอโฟนส่องตาแล้วบอกว่าตาเป็นต้อ อึ้งมากไปกับวิจารณญาณของหมอจากไฟฉายไอโฟน สุดท้ายเราเลยตัดสินใจไป รพ.วัดไร่ขิง ดีกว่า เพราะเริ่มไม่มั่นใจ รพ.ประจำจังหวัด
  ไปถึง รพ.วัดไร่ขิง ตรวจดูจึงรู้ว่าเบาหวานขึ้นตา คุณหมอส่งไปเลเซอร์ และนัดเลเซอร์ซ้ำอีก 2 เดือนข้างหน้า  แต่หลังจากเลเซอร์ทุกอย่างยิ่งแย่ลงไปอีก การมองเห็นแย่ลง สภาพจิตใจแย่ลง เพราะสามีเรารับไม่ได้ ระหว่างรอที่จะไป รพ.วัดไร่ขิงอีกครั้ง ที่บ้านเราพยายามหาข้อมูลเกี่ยวกับการรักษาอาการของโรคนี้ ซึ่งผลการรักษาก็ไม่มีใครหาย 100 % อย่างที่ทราบกัน
  ระหว่างรอไป รพ.วัดไร่ขิงซึ่งนัดอีกครั้งเดือนมกราคม  สามีอาการแย่ลง เราเลยลองไป รพ.ประจำจังหวัด เพราะไหนๆก็มีใบส่งตัวแล้ว แต่สรุปว่าทางรพ.จังหวัดส่งไป รพ.วัดไร่ขิงต่อ เราเลยขอไปแบบเร่งด่วนเพราะสามีมองอะไรมืดไปหมดแล้ว วันรุ่งขึ้นเราไปรพ.วัดไร่ขิงอีกครั้ง คราวนี้ได้พบอาจารย์หมอ คุณหมอตรวจแล้วบอกว่าน่าจะเส้นเลือดแดงในตาตีบด้วย เลยส่งไปฉีดสีเพื่อดูอาการให้ชัดๆ สรุปเบาหวานขึ้นตา และตาข้างซ้ายมีเส้นเลือดแดงตีบด้วย วันนั้นคุณหมอส่งไปเจาะเอาน้ำในตาออกหนึ่งข้าง และกลับบ้านด้วยอาการตาระบม และสภาพจิตใจที่ย่ำแย่กว่าเดิม และคุณหมอนัดอีกครั้งเดือนมกราคม
  กลับมาบ้านสามีเราอาการหนักมาก ไม่อยากมีชีวิตอยู่ พี่สาวไปเจอข้อมูลของคุณหมอที่รักษาต้อหินโดยไม่ผ่าตัดแต่ใช้วิธีนวดตา เลยตัดสินใจไปที่นี่กันอีก วันที่ไปรพ.นี้ สามีเรามีอาการดีขึ้นนิดนึงพอมองเห็น อ่านหนังสือพิมพ์ได้
  ตอนพบคุณหมอ คุณหมอท่านนี้บอกว่า "คุณคิดถูกแล้วที่มาหาผม เพราะมีผมคนเดียวที่รักษาคุณได้" พอคุณหมอตรวจตาสามีเราครั้งแรกบอกว่า เป็นแค่เบาหวานขึ้นตา ไม่มีเส้นเลือดตีบ ให้เลเซอร์ พอตอนจะเลเซอร์คุณหมอเพิ่งเห็นว่ามีเส้นเลือดตีบในตา พอเลเซอร์เสร็จก็มาสอนให้นวดตาต่อ จริงๆเราก็สงสัยนะว่า เลเซอร์เพื่อปิดจุดที่เส้นเลือดฝอยแตก แล้วมานวดกดตามันถูกต้องมั้ย?? สามีเราบอกว่าเครื่องมือที่นี่ค่อนข้างล้าหลังกว่าไร่ขิงมาก เพราะมองไม่เห็นเส้นเลือดตีบ แต่ราคานำหน้าไปไกลเลย
  กลับมาบ้านสามีเราก็นวดตาตามที่พยาบาลสอนมา ทุก 2 ชม. และทานยาตามหมอสั่ง แต่ยิ่งนวดยิ่งแย่ จนเราต้องมานั่งหาข้อมูลของหมอท่านนี้อีกครั้ง และอ่านให้สามีฟัง เลยคิดว่าเลิกนวดดีกว่าเพราะเบาหวานขึ้นตาคืออาการที่เส้นเลือดฝอยอ่อนแอ แตกเปราะง่ายเลยทำให้มีเลือดออกมา คุณหมอท่านนี้นัดตรวจอีกครั้งหลังปีใหม่ แต่ไม่ไปเพราะสามีไม่อยากไป เพราะรู้สึกไม่ดีที่โทรไปปรึกษาคุณหมอแต่กลับจำเคสคนไข้ตัวเองไม่ได้ ทั้งๆที่คนไข้ก็ไม่ได้เยอะ
สรุปเรารอไปรพ.วัดไร่ขิงวันที่ 13 มกราคม
  ระหว่างนี้สามีเราก็สภาพจิตใจย่ำแย่ลงเรื่อยๆ แม้ทุกคนในครอบครัวจะให้กำลังใจ แต่เจ้าตัวก็ยังคงหมดหวัง เราสงสารแม่เขามาก กินไม่ได้ นอนไม่หลับเพราะเป็นห่วงลูก พวกเราต้องคอยดูไม่ให้เขาอยู่คนเดียวเพราะกลัว ทุกๆวันที่ตื่นมาสามีเราจะบ่นเสมอว่า ไม่อยากทรมานอีกแล้ว ไม่อยากตื่นมาเพื่อทนทุกข์อีกเลย มันเป็นคำพูดที่เราเองก็ทรมานเหมือนกัน
   ทุกวันอาการมองเห็นของสามีเราจะไม่เหมือนกันเลย แต่เราก็หวังว่าวันหนึ่งเขาจะกลับมามองเห็นอีกครั้งแบบชัดเจน
อยากจะบอกว่าโรคนี้ที่น่ากลัวที่สุดคือสภาพจิตใจของคนป่วย ถ้าท้อแท้ หมดกำลังใจ เหมือนอะไรๆ ยิ่งมืดมน และแย่ลง
เป็นกำลังใจให้ผู้ป่วยทุกคนนะคะ เบาหวานน่ากลัวกว่าที่คิดไว้จริงๆ
ล่าสุดไป รพ.วัดไร่ขิงมาอีกรอบ หมอบอกว่าข้างที่เส้นเลือดตีบตอนนี้มันตายแล้ว แก้ไขอะไรไม่ได้ แต่อีกด้านไม่มีอาการบวมเพิ่มเติม แต่คุณหมอยังแนะนำให้ไปลองตรวจเส้นประสาทตาที่ รพ.ต้นสังกัดอีกรอบ เพื่อปรับเปลี่ยนยาให้แรงขึ้น เพราะสามีเราทานยาละลายลิ่มเลือดอยู่ด้วย
ในความรู้สึกเราคือเป็นเรื่องน่ายินดีที่อย่างน้อยตาอีกข้างไม่บวมเพิ่ม แต่ความรู้สึกของสามีเรา คือ หดหู่ และยังคงบ่นไม่อยากมีชีวิตอยู่เหมือนเดิม เราก็เฝ้ารอว่าปาฏิหาริย์จะเกิดขึ้นกับสามีเราเสมอ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่