เรื่องเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 7 ม.ค. 60 เวลาประมาณสองทุ่มตรงหน้าห้างพาราไดซ์ ถนนศรีนครินทร์ขาเข้า เราขับมาจากอุโมงค์แยกลาซาล
ขณะที่ขับผ่านไฟเขียวแยกพาราไดซ์ในเลนกลางแล้ว เรามองผ่านกระจกข้างขวาเพื่อจะเปลี่ยนเลน เห็นรถบิ๊กไบค์สองคันเปิดไฟสูงกระพริบจี้ก้นรถยนต์คันหนี่งมา เราชะลอรถเพราะเลนกลางรถเริ่มติดจากแยกไฟแดงทางออกจากซอยสวนหลางร.9 และเมื่อรถบิ๊กไบค์สองคันพร้อมรถยนต์ขับผ่านไปแล้ว เราเห็นว่าไม่มีรถในเลนขวาทั้งรถยนต์และรถมอเตอร์ไซต์ จึงตบไฟเลี้ยวออกไปอยู่เลนขวา
แต่จังหวะที่รถเราแทรกออกพ้นเลนและกำลังตั้งลำได้ เสียงบีบแตรดังขึ้นจากด้านหลังรถเรา มองผ่านกระจกเห็นว่ามีบิ๊กไบค์อีกคันกำลังเปิดไฟกระพริบพร้อมบีบแตรจี้ก้นมา เรากำลังเร่งเครื่องขึ้นทำให้รถออกตัวช้า และเลนข้างก็มีรถติดอยู่ บิ๊กไบค์คันดังกล่าวจึงแทรกผ่านไปไม่ได้
จังหวะนั้นเราจำได้ว่าเราพยายามเบี่ยงให้โดยการเบี่ยงเข้าด้านขวา แต่ช่องว่างมันยังไม่พอที่รถคันใหญ่จะผ่านไปได้
อีก5วินาทีต่อมา(โดยประมาณ) รถเราเข้ารอบในอัตราเร่งปกติและช่องเลนซ้ายมือเรามีช่องให้แทรกได้ บิ๊กไบค์คันนั้นแทรกขึ้นมาด้านข้างเรา เราไม่ได้มองที่เขา และกำลังคิดชะลอให้เขาขับผ่านไป
แต่ทันใดนั้นเกิดเสียงดังปัง! ข้างรถเรา หันไปอีกทีภาพที่เห็นคือคนขับ(ผู้ชาย)และคนซ้อนท้าย(ผู้หญิง)สวมหมวกนิรภัยทั้งคู่ มองเข้ามาหาเราพร้อมทั้งกระจกข้างเราที่หงายออกจากตัวรถ
คิดได้ทันทีว่าบิ๊กไบค์คันนั้นชกกระจกมองข้างซ้ายของรถเรา (ซึ่งตอนแรกเข้าใจว่าแค่ตบ หลังจากมาตรวจสภาพพบว่ากระจกร้าวเป็นรอยหมัดชก) หลังจากมองหน้าแล้วก็รีบขับหนีเราไป ซึ่งเราก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากบีบแตรไล่ตามเท่านั้นเพราะเวลานั้นรถในเลนกลางและขวาขยับช้ามาก
จากที่เล่ามาเหมือนจะใช้เวลาเยอะแต่ทั้งหมดเกิดขึ้นเพียงไม่ถึง1นาที
บอกตรงๆว่าตอนนั้นเราโกรธมาก ช่วงเวลาเพียงแค่ไม่ถึง10วินาทีที่เขาแทรกรถไปจากหลังรถเราไม่ได้ มันทำให้เขาโมโหจนขาดสติได้ขนาดนั้นเลยเหรอ ตอนที่เราเปิดไฟเลี้ยงออกจากเลนกลาง เราบอกเลยว่าตอนนั้นเลนขวาโล่ง เรามองกระจกแล้วจึงแทรกออกมา ไม่ได้เปลี่ยนเลนกะทันหันชนิดที่ว่าปาดหน้ารถมอเตอร์ไซค์แน่ๆ
แล้วผลจากการกระทำของคนขับบิ๊กไบค์คันนั้นคืออะไร กระจกมองข้างซ้ายเราร้าว และเราต้องเปลี่ยนกระจกใหม่ ถึงจะมีโชคดีเคลมประกันรถแต่มันก็ทำให้เสียเวลา เสียความรู้สึกอยู่ดี
เราไม่รู้เรื่องรถบิ๊กไบค์ ดูไม่รู้ว่ารถคันนั้นเป็นรถรุ่นอะไร จังหวะนั้นไม่ได้มองทะเบียนรถด้วยซ้ำ แล้วหลังจากเกิดเรื่องเราลองหาข้อมูลรถบิ๊กไบค์ดู ก็เจอว่ามีการตั้งกระทู้หลายๆกระทู้ที่มีเหตุมาจากคนขับรถประเภทนี้ (ซึ่งคนที่ขับดีๆก็มีเยอะ)
ขอบอกว่าเราไม่ได้จะมาดิสเครดิตคนขับรถบิ๊กไบค์นะคะ แต่คนจำพวกนี้ทำให้คนทั่วไปมองคนขับรถบิ๊กไบค์แย่ลงไปไม่มากก็น้อยจริงๆ เราก็เป็นหนึ่งในคนที่เสียความรู้สึกกับคนขับรถชนิดนี้หลังจากเกิดเหตุการณ์กับตัวเองค่ะ
ถึงเรื่องจะผ่านมาหลายวันแล้วแต่เราเลยอยากแชร์ค่ะว่ายังมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นเรื่อยๆบนถนน ถึงคิดจะกำจัดยังไงก็คงเป็นไปไม่ได้ ครั้งนี้เราโชคดีที่มีประกันรถแต่ถ้าเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นกับรถที่ไม่มีประกัน มันคงน่าหงุดหงิดมากกว่า ถ้าเราต้องมาออกเงินซ่อมรถตัวเองค่ะ.
ขอแนบรูปความเสียหายของรถเราค่ะ
สภาพกระจกข้างหลังจากเกิดเหตุ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
สภาพรถหลังจากตรวจความเสียหายตอนเช้า
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เหตุการณ์ที่ไม่คิดว่าจะเจอกับตัวเอง...กับการขับขี่รถบิ๊กไบค์แบบขาดสติ
ขณะที่ขับผ่านไฟเขียวแยกพาราไดซ์ในเลนกลางแล้ว เรามองผ่านกระจกข้างขวาเพื่อจะเปลี่ยนเลน เห็นรถบิ๊กไบค์สองคันเปิดไฟสูงกระพริบจี้ก้นรถยนต์คันหนี่งมา เราชะลอรถเพราะเลนกลางรถเริ่มติดจากแยกไฟแดงทางออกจากซอยสวนหลางร.9 และเมื่อรถบิ๊กไบค์สองคันพร้อมรถยนต์ขับผ่านไปแล้ว เราเห็นว่าไม่มีรถในเลนขวาทั้งรถยนต์และรถมอเตอร์ไซต์ จึงตบไฟเลี้ยวออกไปอยู่เลนขวา
แต่จังหวะที่รถเราแทรกออกพ้นเลนและกำลังตั้งลำได้ เสียงบีบแตรดังขึ้นจากด้านหลังรถเรา มองผ่านกระจกเห็นว่ามีบิ๊กไบค์อีกคันกำลังเปิดไฟกระพริบพร้อมบีบแตรจี้ก้นมา เรากำลังเร่งเครื่องขึ้นทำให้รถออกตัวช้า และเลนข้างก็มีรถติดอยู่ บิ๊กไบค์คันดังกล่าวจึงแทรกผ่านไปไม่ได้
จังหวะนั้นเราจำได้ว่าเราพยายามเบี่ยงให้โดยการเบี่ยงเข้าด้านขวา แต่ช่องว่างมันยังไม่พอที่รถคันใหญ่จะผ่านไปได้
อีก5วินาทีต่อมา(โดยประมาณ) รถเราเข้ารอบในอัตราเร่งปกติและช่องเลนซ้ายมือเรามีช่องให้แทรกได้ บิ๊กไบค์คันนั้นแทรกขึ้นมาด้านข้างเรา เราไม่ได้มองที่เขา และกำลังคิดชะลอให้เขาขับผ่านไป
แต่ทันใดนั้นเกิดเสียงดังปัง! ข้างรถเรา หันไปอีกทีภาพที่เห็นคือคนขับ(ผู้ชาย)และคนซ้อนท้าย(ผู้หญิง)สวมหมวกนิรภัยทั้งคู่ มองเข้ามาหาเราพร้อมทั้งกระจกข้างเราที่หงายออกจากตัวรถ
คิดได้ทันทีว่าบิ๊กไบค์คันนั้นชกกระจกมองข้างซ้ายของรถเรา (ซึ่งตอนแรกเข้าใจว่าแค่ตบ หลังจากมาตรวจสภาพพบว่ากระจกร้าวเป็นรอยหมัดชก) หลังจากมองหน้าแล้วก็รีบขับหนีเราไป ซึ่งเราก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากบีบแตรไล่ตามเท่านั้นเพราะเวลานั้นรถในเลนกลางและขวาขยับช้ามาก
จากที่เล่ามาเหมือนจะใช้เวลาเยอะแต่ทั้งหมดเกิดขึ้นเพียงไม่ถึง1นาที
บอกตรงๆว่าตอนนั้นเราโกรธมาก ช่วงเวลาเพียงแค่ไม่ถึง10วินาทีที่เขาแทรกรถไปจากหลังรถเราไม่ได้ มันทำให้เขาโมโหจนขาดสติได้ขนาดนั้นเลยเหรอ ตอนที่เราเปิดไฟเลี้ยงออกจากเลนกลาง เราบอกเลยว่าตอนนั้นเลนขวาโล่ง เรามองกระจกแล้วจึงแทรกออกมา ไม่ได้เปลี่ยนเลนกะทันหันชนิดที่ว่าปาดหน้ารถมอเตอร์ไซค์แน่ๆ
แล้วผลจากการกระทำของคนขับบิ๊กไบค์คันนั้นคืออะไร กระจกมองข้างซ้ายเราร้าว และเราต้องเปลี่ยนกระจกใหม่ ถึงจะมีโชคดีเคลมประกันรถแต่มันก็ทำให้เสียเวลา เสียความรู้สึกอยู่ดี
เราไม่รู้เรื่องรถบิ๊กไบค์ ดูไม่รู้ว่ารถคันนั้นเป็นรถรุ่นอะไร จังหวะนั้นไม่ได้มองทะเบียนรถด้วยซ้ำ แล้วหลังจากเกิดเรื่องเราลองหาข้อมูลรถบิ๊กไบค์ดู ก็เจอว่ามีการตั้งกระทู้หลายๆกระทู้ที่มีเหตุมาจากคนขับรถประเภทนี้ (ซึ่งคนที่ขับดีๆก็มีเยอะ)
ขอบอกว่าเราไม่ได้จะมาดิสเครดิตคนขับรถบิ๊กไบค์นะคะ แต่คนจำพวกนี้ทำให้คนทั่วไปมองคนขับรถบิ๊กไบค์แย่ลงไปไม่มากก็น้อยจริงๆ เราก็เป็นหนึ่งในคนที่เสียความรู้สึกกับคนขับรถชนิดนี้หลังจากเกิดเหตุการณ์กับตัวเองค่ะ
ถึงเรื่องจะผ่านมาหลายวันแล้วแต่เราเลยอยากแชร์ค่ะว่ายังมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นเรื่อยๆบนถนน ถึงคิดจะกำจัดยังไงก็คงเป็นไปไม่ได้ ครั้งนี้เราโชคดีที่มีประกันรถแต่ถ้าเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นกับรถที่ไม่มีประกัน มันคงน่าหงุดหงิดมากกว่า ถ้าเราต้องมาออกเงินซ่อมรถตัวเองค่ะ.
ขอแนบรูปความเสียหายของรถเราค่ะ
สภาพกระจกข้างหลังจากเกิดเหตุ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
สภาพรถหลังจากตรวจความเสียหายตอนเช้า
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้