
สวัสดี สวัสดี สวัสดีและสวัสดีเพื่อนๆชาวพันทิป นี่ไม่ใช่กระทู้แรกของเรา บอกทำไม๊ !!! คือแบบอยากจะมาเล่าที่ไปเที่ยวมาให้เพื่อนๆฟังอ่ะแกรรรรรรร คือเราไปเที่ยวเขื่อนเชี่ยวหลานที่สุราษมา ห๊าาาาา ไปช่วงนี้อ่ะนะ น้ำท่วมนี่นะ ใช่แล้ววไปตอนที่มีข่าวน้ำท่วมที่ภาคใต้นี่แหละ ตอนแรกแพลนจะไปกับเพื่อนทั้งหมดสามคน แต่ก่อนวันไปเพื่อนอีกนางเทจ้ะ เหลือสองคนเราอยู่ที่กรุงเทพแต่อีกคนต้องมาจากสุพรรณ คืนก่อนเดินาทงเราก็กังวลหลายๆอย่างว่าจะไปอยู่มั๊ย เอาไง ฝนจะตกมั๊ย น้ำจะท่วมมั๊ย ที่บ้านก็ไม่อยากให้ไป เงินมัดจำก็จ่ายแล้ว ค่าตั๋วเครื่องบินอีก ลางานแล้ว เอาไงดี คุยกันไปไม่ไปเอาไงจนตี1 เราสองคนก็เอาว่ะ ไปก็ไปอะไรจะเกิดก็ต้องเกิด มันถูกกำหนดไว้แล้ว ตี5 ต๊อดดด ต๊อดดดดด เสียงนาฬิกาปลุกดัง และเพื่อนก็ได้โทรปลุกเพราะเดินทางไฟล์ทเช้า ออกจากบ้านปุ๊บฝนตกจ้า ใจดีสู้ฝนลุยฝนไปสนามบิน เช็คอินขึ้นเครื่อง พี่สิงโตพาเราเลทไป 40 นาที
ถึงช้ากว่ากำหนดแต่เป็นเวลาที่กำลังดีสำหรับเรา นั่งรถตู้จากสนามบินสุราษไปในตัวเมือง ราคา 100 บาท เราจองที่พักไว้หลังอาชีวะ พี่รถตู้บอกว่าจะไปส่งที่พักให้ขอเพิ่มคนละ 20 บาท เราก็จ่ายให้ซึ่งไม่ไกลเลยยยย คุณหลอกดาวมากกก ดาวเดินเองก็ได้ค่ะ แต่ก็คิดว่าเป็นค่าเปิดทางและกัน ถึงที่พัก เข้าห้อง กินและก็นอน ห้องพักดีมากค่ะ ใหม่ แต่ไม่ได้ถ่ายรูปห้องมาเพราะหิวและง่วงมา ฮ่าๆๆๆๆ
นอนตื่นแล้วได้เวลาออกเที่ยวรอบเมืองสุราษจ้า เราเดินเท้าเที่ยว พี่เจ้าของที่พักให้แผนที่มา 1 แผ่นซึ่งมีประโยชน์มาก เราก็ดูแผนที่แล้วเดินตามก็เดินไปเรื่อยๆเจออะไรอยากแวะก็แวะถ่ายรูปไปเรื่อยๆ ในตัวเมืองไม่ค่อยมีอะไรเท่าไหร่นะจากที่เราดูๆ ที่แรกก็เดินไปไหว้พระที่วัดหลวงพ่อพัฒน์ และเดินไปเรื่อยๆก็เจอตลาดศาลเจ้า เป็นตลาดของกิน มีของกินขึ้นชื่อและอร่อยๆขายมากมาย ซึ้งตอนเดินตลาดไม่ได้ถ่ายรูปไว้เลยเพราะมัวแต่ Live ในเฟส ฮ่าๆๆๆ
เราได้เข้าไปไหว้ศาลเจ้า และมาเดินซื้อของกินที่ตลาด

ตรงข้ามตลาดจะมีท่าเรือ ซึ่งน้ำท่วมนะ น้ำเต็มตลิ่งเลย เราเลยเข้าไปถ่ายรูป


เดินเล่นและซื้อของกินไปกินที่ห้องพัก เดินตลาดอยู่ 5 รอบของกินเต็มมือ และเราก็ตามล่าหาเครื่องดื่มที่จะไปดื่มบนแพ เพราะของกินในแพราคาค่อนข้างบวกเราเลยเตรียมทุกอย่างจากฝั่งไปเพื่อที่จะไม่ต้องซื้อในแพนาจา กลับเข้าที่พักและพักผ่อนกายาพรุ่งนี้ต้องลุยแล้ววว นอนลุ้นฝนจะตกมั๊ยนะ จะเปียกมั๊ยนะอากาศจะเป็นยังไง วิวจะสวยมั๊ย คิดต่างๆนาๆ และแล้วก็เช้าเราจะไปรถตู้รอบ 8 โมง รถตู้ออกทุกชั่วโมง ขึ้นที่ตลาดเกษตร 2 เดินจากที่พักมา 5 นาทีไม่ไกลมาก ค่ารถจากตัวเมืองไปเขื่อน ราคา 150 บาท เป็นรถตู้ที่นั่งสี่แถว ใช้เวลาเดินทาง 1 ชม 30 นาที เราให้พี่เค้าส่งที่ออฟฟิศของแพภูตะวัน ที่ออฟฟิฒมีการรับรองดี เสิร์ฟน้ำดื่ม ชา กาแฟ และก็ชะระเงินที่เหลือ ที่พักของที่นี่เป็นแพ็คเก็จ ที่พัก เรือ อาหาร 3 มื้อ ทริปเที่ยวถ้ำ และเขาสามเกลอ ราคาคนละ 2,800 บาท ถ้าเทียบกับการบริการถือว่าเหมาะสมกับราคา พนักงานสุภาพ และบริการ ให้คำแนะนำดี ชำระค่าเสียหายเรียบร้อยถึงเวลาต้องไปท่าเรือ จะมีรถตู้ของแพไปส่งที่ท่าเรือ ระหว่างทางพี่คนขับจอดให้เราไปถ่ายรูปที่สันเขื่อนด้วย พี่เค้าบอกทำเวลานะครับ ลงจากรถได้ก็วิ่งๆๆๆขึ้นไปถึงก่อนกลุ่มอื่นจะมา ก็กดชัตเตอร์ แชะๆรัวๆ เลย




พี่เค้าจอดรถให้ถ่ายระหว่างทางด้วย น่ารักกกมาก

และแล้วก็ได้เวลาลงเรือ ทั้งเรือมีแค่เราค่ะ กับพี่คนขับเรือ รู้สึกไพรเวทมาก นั่งรับลมเต็มๆ นั่งสบายๆไม่เบียดกับใคร สบายชะนีแหละ

ใช้เวลาเดินทางจากท่าเรือไปที่แพประมาณ 40 นาทีเนื่องจากแพภูตะวันอยู่ใกล้สุด และแอบมีสัญญานโทรศัพท์ของดีแทคและเอไอเอสถึง เราไปเดินถ่ายรูปเดินไปที่แคปซูนสุดท้ายหลังที่ 30 มีสัญญานเนตอ่อนๆ เพราะยืนถ่ายรูปอยู่ไลน์เด้ง ตอบได้แปปนึงสัญญานก็หายไป คืออย่าไปตั้งหน้าตั้งตารอค่ะ เพราะแล้วแต่อารมณ์นางจริงๆมาให้อยากและจากไป เช็คอินเข้าห้องได้ ห้องพักกว้างดีค่ะ ที่นอนจัดไว้สำหรับ 3 คน ในห้องมีพัดลมเพดาน 1 ตัวกลางวันอากาศจะร้อนนิดๆแต่ก็พอจะมีลมบ้าง





มินิบาร์ห้องเราค่ะ ที่จัดเตรียมมาเอง ซื้อแต่น้ำแข็งของแพ กระติกละ 60 บาท

เข้าห้องพัก เก็บของเรียบร้อย ได้เวลาทานข้าวเที่ยงค่ะ ทางแพจัดอาหารไว้ให้แล้ว หิวมากกกกบอกเลย อาหารเติมได้ทุกอย่าง ยกเว้นไก่ทอด แต่อาหารเย่อะมากเราไม่ได้เติมเลย เพราะอิ่มมาก

ทานข้าวเส็จแล้ว ได้เวลาออกเรือไปเที่ยวถ้ำประกายเพชร และถ่ายรูปแลนด์มาร์คของกุ้ยหลินเมืองไทย ไทย ไทย ไทย เสียงแอคโค่ โค่ โค่ โค่ พอแล้ววว
ถ้ำประกายเพชร ข้างในถ้ำจะมีหินงอก หินย้อย มีประกายเพชรวาวๆระยิบระยับ



ออกจากถ้ำแล้ว ไปต่อที่แลนด์มาร์คเลยยยย นั่นก็คือเขาสามเกลอ ซึ่งจะเป็นเขาหินตั้งเรียงกัน 3 ลูก แต่นำขึ้นเย่อะมากเลยเห็นเกือบจะปลายของเขาแล้ว


จบโปรแกรมของเราสองคน เข้าที่พักเล่นน้ำกันดีกว่า เย่เย้ๆ ระหว่างเล่นน้ำอย่างสนุก ก็เหมือนมีอะไรฟันแหลมๆมากัดที่เท้าเรา ตกใจกรี๊ดดดลั่นแพจ้าาาาา เราตกใจและกลัวมากเลยรีบว่ายน้ำขึ้นแพ ดูที่เท้ามีเลือดไหล และเป็นรอยเคี้ยว 2 ซี่ พี่เค้าบอกว่าเป็นปลาปักเป้า ไม่มีพิษ ไม่เป็นอะไร เราก็กลัวจะเป็นงู หรือเป็นสัตว์ที่มีพิษ เพื่อนถามว่าบีง่วงมั๊ยย เราฏ้ตอบไม่ง่วง ยังไม่ง่วง ก็งงไมเพื่อนมาถามตอนนี้ คือนางกลัวมันมีพิษ และจะมีอาการแบบง่วง หรือหมดสติไป นางเลยถามว่าง่วงมั๊ย พนักงานแพบอกว่ามันชอบมาอยู่หน้าบ้าน กัดเส็จมันจะตีเนียน พองตัวแล้วแกล้งตาย คือเราระแวงและกลัวเลย ไม่เล่นน้ำอีกเลยฝรั่งว่ายน้ำเล่นก็โดนกัด นางก็ร้องบอก มีอะไรกัดนางนางพูดไทยได้นิดหน่อย นางบอกป่าปักเป่ากัด พูดสำเนียงฝรั่งนะ ฮ่าๆๆๆๆ



อาหารเย็นเวลา 18.30 น. อาหารมื้อเย็นอร่อยมาก เติมได้ทุกอย่างยกเว้นปลาทอด ปลาตัวใหญ่มาก น้ำจิ้มอร่อย

เริ่มมืดแล้ว มองไม่เห็นอะไรแล้ว ที่แพจะใช้เครื่องปั่นไฟ เปิดตอนเวลา 18.00 น. ถึงประมาณ 7 โมงเช้าหรือแล้วแต่อารมณ์คนปิด

ทานข้าวเย็นเสร็จ เริ่มมีอาการหนังท้องตึง หนังตาจะปิด เนื่องจากเราไปกันสองคนจึงไม่มีกิจกรรมอะไรทำ เลยปิดไฟนอนกันตั้งแต่สองทุ่มหน่อยๆ อากาศเย็นสบาย ที่นอนนอนสบาย เงียบสงัด หลับและนะ หมายถึงตอนเขียนรีวิวเนี้ย จะหลับแล้วนะ ฮึ้บบบบ อีกนิดจะจบแล้ว
แสงแดดแยงตาเปิดม่านดู นี่มันเช้าแล้วนี่ ตื่นมาเกือบเจ็ดโมง นอนไป 10 ชม กว่าๆเป็นการพักผ่อนที่ดีงามมาก
บรรยากาศตอนเช้า อาหารเช้าจะเป็นจาน มีข้าวผัด ไข่ดาว ขนมปัง ชา กาแฟ ไมโล ทานได้ตลอดทั้งวันจนถึงหกโมงเย็น


ทานข้าวเสร็จพี่เค้าบอกจะกลับตอนไหนบอกนะ เพราะมีแค่เรา 2 คน ไม่ต้องรอใคร ถ่ายรูปรอบๆแพเสร็จ ก็ขึ้นเรือเตรียมกลับขึ้นฝั่ง

ขึ้นเรือเตรียมขึ้นฝั่งแล้วนะ บ๊ายบายกุ้นหลินเมืองไทย

ขึ้นฝั่งแล้วเหลือเวลาเย่อะเลย เราโทรหารถตู้ ให้รถตู้มารับจะไปสนามบินเลยเวลาเหลือเย่อะไป สนามบินไม่มีอะไรอีก เราเลยให้รถตู้ไปส่งที่เซนทรัลแล้วเดินเล่นกินข้าวก่อนกลับ ค่ารถจากเขื่อนมาเซนทรัล คนละ 150 บาท และจากเซนทรัลไปสนามบินคนละ 100 บาทรถตู้จะออกจากตลาดเกษต 2 ออกทุกชั่วโมงเราจองรถไว้รอบบ่ายโมง รถมารับเราตอนบ่ายครึ่ง ถึงสนามบินบ่ายสอง บินไฟล์ท เวลา บ่าสามโมงยี่สิบ ซึ่งเวลาที่ตั้งไว้สมูสมาก ทำให้ไม่ต้องเร่งรีบและแฮปปี้กับทริปนี้มาก ซียูววววแบงค๊อกกกก
ค่าใช้จ่ายทริปสุราษ 3 วัน 2 คืน
ที่พักแพภูตะวัน รวม เรือ อาหาร 3 มื้อ ทริปเที่ยวถ้ำ 2,800 บาท
ค่าที่พักในเมือง 270 บาท
ค่ารถตู้ทั้งหมด 500 บาท
ค่าตั๋วเครื่องบิน ไป-กลับ 600 บาท
ค่ากิน ขนม เครื่องดื่ม 800 บาท
รวม ประมาณ 5,000 บาท
ปล.รูปถ่ายจากไอโฟน6 ทั้งหมด
ปล.2 เนื่องจากไม่ได้เอากล้องไปกลัวฝนตก
ปล.3 รูปอาจจะไม่ค่อยสวย ไม่ได้แต่งอะไร มากมาย
ปล.4 ขออภัยหากมีข้อผิดพลาด เพราะง่วงมาก หลับตาพิมไป
ปล.5 นอนแล้วนะ ขอบคุณทุกคนที่อ่านจบ บ๊าบบาย
[CR] * ทุกอย่างถูกกำหนดไว้แล้ว ณ เขื่อนเชี่ยวหลาน วันที่ 10-12 มกราคม 2560
ถึงช้ากว่ากำหนดแต่เป็นเวลาที่กำลังดีสำหรับเรา นั่งรถตู้จากสนามบินสุราษไปในตัวเมือง ราคา 100 บาท เราจองที่พักไว้หลังอาชีวะ พี่รถตู้บอกว่าจะไปส่งที่พักให้ขอเพิ่มคนละ 20 บาท เราก็จ่ายให้ซึ่งไม่ไกลเลยยยย คุณหลอกดาวมากกก ดาวเดินเองก็ได้ค่ะ แต่ก็คิดว่าเป็นค่าเปิดทางและกัน ถึงที่พัก เข้าห้อง กินและก็นอน ห้องพักดีมากค่ะ ใหม่ แต่ไม่ได้ถ่ายรูปห้องมาเพราะหิวและง่วงมา ฮ่าๆๆๆๆ
นอนตื่นแล้วได้เวลาออกเที่ยวรอบเมืองสุราษจ้า เราเดินเท้าเที่ยว พี่เจ้าของที่พักให้แผนที่มา 1 แผ่นซึ่งมีประโยชน์มาก เราก็ดูแผนที่แล้วเดินตามก็เดินไปเรื่อยๆเจออะไรอยากแวะก็แวะถ่ายรูปไปเรื่อยๆ ในตัวเมืองไม่ค่อยมีอะไรเท่าไหร่นะจากที่เราดูๆ ที่แรกก็เดินไปไหว้พระที่วัดหลวงพ่อพัฒน์ และเดินไปเรื่อยๆก็เจอตลาดศาลเจ้า เป็นตลาดของกิน มีของกินขึ้นชื่อและอร่อยๆขายมากมาย ซึ้งตอนเดินตลาดไม่ได้ถ่ายรูปไว้เลยเพราะมัวแต่ Live ในเฟส ฮ่าๆๆๆ
เราได้เข้าไปไหว้ศาลเจ้า และมาเดินซื้อของกินที่ตลาด
ถ้ำประกายเพชร ข้างในถ้ำจะมีหินงอก หินย้อย มีประกายเพชรวาวๆระยิบระยับ
ออกจากถ้ำแล้ว ไปต่อที่แลนด์มาร์คเลยยยย นั่นก็คือเขาสามเกลอ ซึ่งจะเป็นเขาหินตั้งเรียงกัน 3 ลูก แต่นำขึ้นเย่อะมากเลยเห็นเกือบจะปลายของเขาแล้ว
จบโปรแกรมของเราสองคน เข้าที่พักเล่นน้ำกันดีกว่า เย่เย้ๆ ระหว่างเล่นน้ำอย่างสนุก ก็เหมือนมีอะไรฟันแหลมๆมากัดที่เท้าเรา ตกใจกรี๊ดดดลั่นแพจ้าาาาา เราตกใจและกลัวมากเลยรีบว่ายน้ำขึ้นแพ ดูที่เท้ามีเลือดไหล และเป็นรอยเคี้ยว 2 ซี่ พี่เค้าบอกว่าเป็นปลาปักเป้า ไม่มีพิษ ไม่เป็นอะไร เราก็กลัวจะเป็นงู หรือเป็นสัตว์ที่มีพิษ เพื่อนถามว่าบีง่วงมั๊ยย เราฏ้ตอบไม่ง่วง ยังไม่ง่วง ก็งงไมเพื่อนมาถามตอนนี้ คือนางกลัวมันมีพิษ และจะมีอาการแบบง่วง หรือหมดสติไป นางเลยถามว่าง่วงมั๊ย พนักงานแพบอกว่ามันชอบมาอยู่หน้าบ้าน กัดเส็จมันจะตีเนียน พองตัวแล้วแกล้งตาย คือเราระแวงและกลัวเลย ไม่เล่นน้ำอีกเลยฝรั่งว่ายน้ำเล่นก็โดนกัด นางก็ร้องบอก มีอะไรกัดนางนางพูดไทยได้นิดหน่อย นางบอกป่าปักเป่ากัด พูดสำเนียงฝรั่งนะ ฮ่าๆๆๆๆ
ทานข้าวเย็นเสร็จ เริ่มมีอาการหนังท้องตึง หนังตาจะปิด เนื่องจากเราไปกันสองคนจึงไม่มีกิจกรรมอะไรทำ เลยปิดไฟนอนกันตั้งแต่สองทุ่มหน่อยๆ อากาศเย็นสบาย ที่นอนนอนสบาย เงียบสงัด หลับและนะ หมายถึงตอนเขียนรีวิวเนี้ย จะหลับแล้วนะ ฮึ้บบบบ อีกนิดจะจบแล้ว
แสงแดดแยงตาเปิดม่านดู นี่มันเช้าแล้วนี่ ตื่นมาเกือบเจ็ดโมง นอนไป 10 ชม กว่าๆเป็นการพักผ่อนที่ดีงามมาก
บรรยากาศตอนเช้า อาหารเช้าจะเป็นจาน มีข้าวผัด ไข่ดาว ขนมปัง ชา กาแฟ ไมโล ทานได้ตลอดทั้งวันจนถึงหกโมงเย็น
ขึ้นฝั่งแล้วเหลือเวลาเย่อะเลย เราโทรหารถตู้ ให้รถตู้มารับจะไปสนามบินเลยเวลาเหลือเย่อะไป สนามบินไม่มีอะไรอีก เราเลยให้รถตู้ไปส่งที่เซนทรัลแล้วเดินเล่นกินข้าวก่อนกลับ ค่ารถจากเขื่อนมาเซนทรัล คนละ 150 บาท และจากเซนทรัลไปสนามบินคนละ 100 บาทรถตู้จะออกจากตลาดเกษต 2 ออกทุกชั่วโมงเราจองรถไว้รอบบ่ายโมง รถมารับเราตอนบ่ายครึ่ง ถึงสนามบินบ่ายสอง บินไฟล์ท เวลา บ่าสามโมงยี่สิบ ซึ่งเวลาที่ตั้งไว้สมูสมาก ทำให้ไม่ต้องเร่งรีบและแฮปปี้กับทริปนี้มาก ซียูววววแบงค๊อกกกก
ค่าใช้จ่ายทริปสุราษ 3 วัน 2 คืน
ที่พักแพภูตะวัน รวม เรือ อาหาร 3 มื้อ ทริปเที่ยวถ้ำ 2,800 บาท
ค่าที่พักในเมือง 270 บาท
ค่ารถตู้ทั้งหมด 500 บาท
ค่าตั๋วเครื่องบิน ไป-กลับ 600 บาท
ค่ากิน ขนม เครื่องดื่ม 800 บาท
รวม ประมาณ 5,000 บาท
ปล.รูปถ่ายจากไอโฟน6 ทั้งหมด
ปล.2 เนื่องจากไม่ได้เอากล้องไปกลัวฝนตก
ปล.3 รูปอาจจะไม่ค่อยสวย ไม่ได้แต่งอะไร มากมาย
ปล.4 ขออภัยหากมีข้อผิดพลาด เพราะง่วงมาก หลับตาพิมไป
ปล.5 นอนแล้วนะ ขอบคุณทุกคนที่อ่านจบ บ๊าบบาย
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น