[CR] เมืองกาญ "ไปคนเดียว ใครว่าเหงา" KANCHANABURI ALONE (Backpack)

ลองออกไปผจญภัยกับ "ตัวเอง" สักครั้ง แล้วจะรู้ใจตัวเอง


มาเริ่มกันเลย !!! การเดินทาง เป็นช่วงส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ ช่วงที่ใครๆก็ออกหาที่เที่ยวกันทั้งนั้น

แต่ผมกับเบื่อการเดินทางในช่วงเทศกาล จึงเลือกที่จะเดินทางหลังจากวันที่ทุกคนกลับมาใช้ชีวิตแบบปกติ

ซึ่งแน่นอนไม่มีใครไปกับผมได้ จึงเกิดกระทู้นี้ขึ้นมา ไปเที่ยวกันเลยดีกว่า

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ

ทริปนี้ เป็นทริปของผมที่ไม่มีแพลน ไม่มีแผน อะไรเลย เพียงแค่เกิดความคิดว่า อยากไปกางเต๊นท์นอนเก็บบรรยากาศที่ไหนสักแห่ง

จึงเปิด google แล้วหาแหล่งที่จะไป ก็ไปสะดุดตากับที่ๆหนึ่ง คือ ป้อมปี่ กาญจนบุรี พอเปิดเข้าไปดู

เฮ้ย!!! สวยน่าไป ทำไมไม่เคยได้ยิน จึงจัดการเก็บข้าวเก็บของเตรียมออกเดินทาง


"ป้อมปี่"

ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาแหลม อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี


DAY1
          06.00 น. ผมเดินทางออกจาก กทม. โดยไปขึ้นรถตู้ กทม. - กาญจนบุรี ที่สายใต้ใหม่ นั่งรถประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที ก็มาถึงสถานีขนส่งกาญจนบุรีประมาณ 07.45 น. ก็เดินหาของกินก่อนเลยเป็นมื้อเช้า

หลังจากนั้นก็เดินหารถเมล์แดงที่จะนั่งไปป้อมปี่ ขึ้นเมล์แดงที่ขึ้น สายกาญจนบุรี-สังขละบุรี ซึ่งจอดอยู่ช่องสุดท้ายของสถานี ติดกับห้องน้ำเลย ถ้าจำไม่ผิดอยู่ช่อง B9 ผมก็ไม่รีรอเดินไปที่รถถามพี่คนขับให้แน่ใจ ว่าไปป้อมปี่ใช่ไหม พอพี่เขาบอกว่าไช่ก็ขึ้นรถเลย เดินไปนั่งหลังเลยครับ ชิลดี มีพื้นที่วางของ









          รถเริ่มออกจากสถานีประมาณ 08.30 น. พอรถออกสักพักพี่กระเป๋ารถเมล์คนสวย ก็เดินมาเก็บเงินค่าโดยสารครับ (รายละเอียดค่าใช้จ่ายทั้งเดี๋ยวแปะไว้ข้างล่างทีเดียวเลยนะครับ) ตลอดการเดินทาง รถจะจอดรับผู้โดยสารตลอดทาง ทำให้ใช้เวลาในการเดินทางค่อนข้างนาน แต่ก็ได้เห็นวิถีชีวิตการใช้ชีวิตที่เรียบง่ายของชาวบ้านเช่นกัน พอนั่งรถมาถึงตลาดทองผาภูมิ เวลาประมาณ 12.00 น. พี่กระเป๋ารถเมล์คนสวย ก็มาบอกว่าพักรถ พักทานข้าว 20 นาทีค่ะ หลังจากนั้น ก็เดินทางต่อ ซึ่งเส้นทางมาป้อมปี่ เป็นเส้นทางที่ค่อนข้างลาดชันมาก ซึ่งรถจะขับช้ามาก (หากใครขับรถมาเองต้องใช้ความชำนาญ และระมัดระวังให้มากขึ้นนะครับ)

          ผมเดินทางมาถึงทางเข้าป้อมปี่ ซึ่งเลยจากตัวอุทยานแห่งชาติเขาแหลมมาหน่อย ประมาณ 13.30 น. โอ้วแม่เจ้า เกือบ 6 ชั่วโมง แต่ไม่เป็นไรครับ สายชิล ฮ่าๆๆๆ (ถ้ามีเวลาน้อยขึ้นรถตู้จาก บขส.กาญจนบุรี จะใช้เวลาประมา 3 ชั่วโมงครับ)

ลงรถแล้ว เราต้องใช้เวลาเดินเข้าไปตรงจุดชมวิวป้อมปี่อีก 1 กิโลเมตรครับ แต่ผมเดินมาประมาณ 50 เมตร โชคดีมาครับ มีพี่เจ้าหน้าที่จากอุทยานขับรถมาพอดี ผมเลยกระโดดขึ้นรถไปกับพี่เจ้าหน้าที่เลย สบายเลยเรา ^_^


          หลังจากกระโดดขึ้นรถของพี่เจ้าหน้าที่มาแล้ว ก็มาปล่อยผมตรงจุด จำหน่ายตั๋วเข้าอุทยาน ผมเลยแจ้งว่านอน 2 คืนครับ ไม่รู้จะไปไหนหลังจากได้ตั๋วแล้ว ผมก็เดินเข้าไปที่จุดกางเต๊นท์อีกประมาณ 500 เมตร (หากใครนำรถมาเองสามารถนำรถไปที่จุดกางเต๊นท์ที่สามารถนำไปจอดด้วยได้ครับ) พอไปถึงที่ตรวจตั๋ว ก็มีจุดให้เช่า ชุดกางเต๊นท์ และเครื่องนอน แต่ผมเช่าแค่ เบาะรองนอนครับ เพราะนำเต๊นท์ และถุงนอนไปเอง แบบว่าเตรียมพร้อมมากๆไปไหนก็ได้ ฮ่าๆๆๆๆ ระหว่างที่รอทำการเช่าเครื่องนอน ผมก็ถามรายละเอียด ของการเดินขึ้นเขาสันหนอกวัว ของอุทยานแห่งชาติเขาแหลมเหมือนกัน ผมพยายามคุยและสอบถามเพื่อจะขึ้นในวันถัดไป แต่ไม่ได้ผล เพราะเต็มจริงๆครับ จึงบอกพี่เจ้าหน้าที่ว่าไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวผมมาใหม่ ไว้โทรมาจองก่อนครับ


          พอได้เบาะรองนอนเรียบร้อย ผมก็เดินไปหาจุดกางเต๊นท์ ซึ่งมีพื้นที่กว้างมาก และหลายจุด พร้อมทั้งคนกำลังกลับ จึงมีพื้นที่ว่างมาก จึงเดินลงไปให้ใกล้ริมเขื่อนเขาแหลมติดแม่น้ำให้มากที่สุด แล้วก็ได้ทำเลที่ต้องการ แบบตื่นมาเจอแม่น้ำเลย คริๆ  หน้าจุดกางเต๊นท์ของผม ก็มีท่อนไม้ทำเป็นม้านั่ง เลยนั่งพักสักพัก ตอนนี้ก็เวลาประมาณ 14.30 น. หลังจากนั้นก็เริ่มกางเต๊นท์เลย (เริ่มง่วงนิดๆ เพลียจากการเดินทาง) พอกางเต๊นท์เสร็จก็งีบไปสักชั่วโมง

ม้านั่งหน้าเต๊นท์


วิวหน้าเต๊นท์



          หลังจากนั้นตื่นมาก็มีพี่คูjหนึ่งมากางเต๊นท์ทางด้านซ้าย และแก๊งครอบครัวอีกครัวหนึ่งมากางทางด้านขวา แต่ไม่ได้ติดชิดกันมาก เพราะมีพื้นที่ค่อนข้างมาก นั่งไปสักพักสังเกตุเห็นข้างๆเต๊นท์เขาทำโน่นทำนี่เหมือนมีปัญหา เลยถามไปมีอะไรให้ช่วยไหมครับ พอดีพี่ดันลืมเอาฟายชีทคลุมเต๊นท์มา แต่พี่เขาซื้อผ้าใบมาระหว่างทาง แล้วไปห่กิ่งไม้ทาทำเป็นเสาแทนได้ ก็โอเค เริ่มมีคนให้คุยด้วยแล้ว ฮ่าๆๆๆ

เต๊นท์ด้านซ้าย


เต๊นท์ด้านขวา




          เริ่มเย็นแล้ว เริ่มหิวล่ะสิ มาเที่ยวรอบนี้ไม่ได้เอาเตาแก๊สเดินป่ามาด้วย เพราะมีร้านค้าสวัสดิการของอุทยาน  ผมจึงเดินไปที่ร้านค้า โชคดีที่ช่วงนั้นเป็นช่วงที่ยังพอมีคนมาเที่ยวอยู่บ้างร้านเลยเปิด และยังมีอาหารขายอยู่บ้าง (ราคาปกติทั่วไป ไม่ได้ชาร์ทเพิ่มมากเกินไป) ผมก็เลยซื้อ ลูกชิ้นทอด ไก่ทอด และเครื่องดื่มมาตุนไว้ที่เต๊นท์ ฮ่าๆๆ กลัวไม่อิ่มซื้อมาเยอะมาก แล้วก็มานั่งกินที่เต๊นท์ (เหลือสิครับ เก็บไว้กินได้ 3 มื้อ)  ตกเย็น อากาศเริ่มเย็น บรรยากาศเริ่มเข้าที่ ทุกคน หยิบกล้อง หยิบมือถือ ไปตั้งรอถ่ายพระอาทิตย์ตกที่ริมแม่น้ำ ผมก็เช่นกัน

          เขาว่ากันว่า ที่นี่เป็นปางอุ๋งของเมืองกาญ และเป็นอีกที่หนึ่งที่ถ่ายพระอาทิตย์ตกที่สวยที่สุด จะรออะไรละครับ ตั้งกล้องรอเลย ส่วนผมไม่ได้เอากล้องไป เลยเอา iphone ตั้งเป็น Time lapse ไว้เครื่องหนึ่ง อีกเครื่องถ่ายภาพนิ่งครับ ทุกคนต่างหามุมของตัวเอง ผมก็ได้มุมของผมที่คิดว่าสวยแล้วล่ะ แต่พอถึงเวลาพระอาทิตย์ตก เจ้ากำเมฆดันมาบังซะงั้น เลยได้ภาพกันไม่เป็นที่ต้องการเท่าไหร่ แต่บรรยากาศไม่ต้องพูดถึงครับ อยากให้ลองมาสวยมาก ฟินมาก เมื่อเห็นด้วยตาเปล่า อากาศก็ดี
          หลังจากพระอาทิตย์ตก ผมก็ไปอาบน้ำ ซึ่งที่นี่ดีมาก มีห้องน้ำให้ หลายจุด สะดวกพอสมควร แบบว่าเหมาะกับสุภาพสตรี และครอบครัวเลยทีเดียว หลังจากจัดการภาระกิจส่วนตัวเรียบร้อยแล้ว ซึ่งตอนนั้นมืดมาก แต่ยังมีพระจันทร์เสี้ยวเล็กๆ และดาวอีกหนึ่งดวง จะเรียกว่า "ดาวเคียงเดือน" ก็ได้สวยมาครับ ถ่ายรูปสิครับ และแล้ว ผมก็มีเพื่อนคุยในคืนนั้น ไม่ใช่แค่คุยสิ เรียกว่าปาตี้เล็กๆได้เลย เมื่อพี่ข้างๆเต๊นมาชวนไปดื่มกันเล็กน้อย ฮ่าๆๆ เราก็คุยโน่นนั่นนี่กัน ซึ่งก็ดึกพอสมควร หลังจากนั้นก็แยกย้ายนอนครับ จบภารกิจวันแรกที่ชิลๆมากมายก่ายกองเลยครับ

ดาวเคียงเดือน



DAY2
          ตื่นมาเจอกับอากาศเย็นสบายครับ หลับฝันดีเลยครับเมื่อคืน อากาศค่อนข้างเย็น แต่ไม่หนาวมาก ออกจากเต๊นท์มา ก็ไปถ่ายรูปเล่นก่อนเลยครับ แสงกำลังดี คนน้อย





          หลังจากถ่ายรูปเล่นสักพักก็เริ่มหิวละ เลยเดินไปสั่งข้าวต้มที่ร้านค้าของอุทยานกิน เบิ้ล 2 ถ้วยเลยครับ หิวมาก ฮ่าๆๆๆ กินเสร็จแล้วกลับมาที่เต๊นท์ อ้าวพี่เต๊นท์ข้างๆ เก็บของไปแล้วครับ ผมเลยเดินไปอาบน้ำ แต่งตัว แล้วก็ไปเดินเล่นรอบๆอุทยาน เก็บภาพ ก็ไปเจอสะพานแขวนของอุทยาน สวย และน่ารักมาก (คนกลัวกความสูงอาจเสียวได้) แดดดี ถ่ายรูปเล่นตามระเบียบ เนื่องจากเป็นสะพานแขวน ผมก็เลยวานเด็กๆแถวนั้นที่มาถ่ายรูปเช่นกันถ่ายให้ครับ เพราะตั้งกล้องไม่ได้ ฮ่าๆๆๆๆ (ขอบคุณน้องสุดหล่อด้วย)



          วันนี้คนที่มาพักเริ่มกลับกันหมดละครับ เหลือจริงๆไม่ถึง 10 เต๊นท์ เงียบมาก ผมนอนต่อที่นี่อีกคืนครับ กิจกรรมก็เหมือนเดิม นอนกินลมชมวิว อ่านหนังสือ ฟังเพลงไปเรื่อยครับ และหาข้อมูลว่าไปสะพานมอญหาที่กางเต๊นนอนที่ไหนได้อีก เพราะส่วนใหญ่เป็นเกตเฮ้าท์ แต่ผมอยากกางเต๊นท์นอน และแล้วก็ได้ ผมเลยโทรไปสอบถามข้อมูลรายละเอียดไว้ก่อน แล้วไว้ค่อยเดินทางไปในวันถัดไปครับ ผ่านไปอีกวัน วันที่ 2 นอนชิลๆ อืดๆ ไป ก็มาคนเดีนวนี่นะ ^_^ ฮ่าๆๆๆ (เดี๋ยวมาเล่า DAY3 DAY4 รออีกแปป รอบนี้จบละครับ ติดตามต่อโพสต์ด้านล่างนะจ๊ะ)
ชื่อสินค้า:   
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่