สถานที่ : วันที่ 1 หมู่บ้านอีต่อง อ. ทองผาภูมิ จ. กาญจนบุรี
: วันที่ 2 น้ำตกจ๊อกกระดื่ง , กูดดอย อุทยานแก่งชาติทองผาภูมิ, ป้อมปี่ อุทยานแห่งชาติเขาแหลม
: วันที่ 3 ด่านเจดีย์สามองค์ , ธารซองกาเรีย
การเที่ยวในวันหยุดยาวในครั้งนี้ เป็นอีกหนึ่งทริปที่สนุก และคุ้มค่ากับการที่ลาหยุด ได้ใช้เวลาอยู่กับตัวเองดื่มด่ำธรรมชาติ เมฆ หมอก สายลม แสงแดด ^^
วันที่ 1 : หมู่บ้านอีต่อง อ. ทองผาภูมิ จ. กาญจนบุรี
เราเดินทางโดยใช้รถเก่ง Vios เดินทางจาก กทม. มุ่งสู่ อ. ทองผาภูมิ จ. กาญจนบุรี และมุ่งหน้าไปสู่หมู่บ้านอีต่อง ระหว่างทางนั้นเราจะเห็นวิวของเขื่อนวชิราลงกรณ์ตัดสลับไปกับภูเขาน้อยใหญ่ มองแล้วสบายตา
ในช่วงแรกๆ ถนนหนทางยังดีอยู่ แต่เมื่อขับไปสักพักเริ่มเจอถนนที่เป็นหลุม ทางแอบโหดนิดๆ และเราไปในช่วงที่กำลังทำทางอยู่พอดี
ในที่สุดก็ถึงหมู่บ้านอีต่อง เราออกเดินทาง 10.00 น. ถึงประมาณ 16.00 น.
เมื่อมาถึงที่หมู่บ้านอีต่อง อันดับแรกที่เราทำก็คือหาที่กางเต๊นท์ก่อน เรารีบไปที่ลาน ฮ. บริเวณโรงเรียน หาทำเล และเริ่มกางเต๊นท์กัน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ช่วงวันที่เราไปเป็นวันหยุดยาว วัน22-24 ต.ค. นักท่องเที่ยวที่เยอะ แต่ละคนมาแบบจัดเต็ม ไม่ว่าจะเป็นเต๊นท์ หรือรถที่ขับมาแบบ 4WD หันกลับมาที่รถเก๋งของตัวเอง เฮ้ยมันขับขึ้นมาได้ไงนะ 555
เมื่อกางเสร็จก็รับรู้ได้ถึงความเย็นของอากาศ เมฆค่อยๆลอยต่ำลงมาปกคลุม เผลอนิดเดียวเมฆก็มาปกคลุมทั้งหมู่บ้านแล้ว ทุกคนต่างตื่นเต้น ยกโทรศัพท์/กล้องถ่ายรูป เพื่อเก็บภาพกันอย่างสนุกสนาน
ถึงเวลาเดินเที่ยวในตลาดอีต่องและมื้อเย็นของค่ำคืนนี้
ตลาดอิต่องเป็นตลาดเล็กๆ มีร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึก ยิ่งเราไปในช่วงวันหยุดแบบนี้นักท่องเที่ยวเยอะมาก ทำให้บรรยากาศในตลาดคึกคัก มากมายไปด้วยผู้คน และที่สำคัญเหมือนว่าเป็นสิ่งที่ทุกคนที่มาที่นี้จะต้องทำ/ถ่ายรูปกันนั้นก็คือ มาถ่ายรูปหมู่บ้านและเขียนแผ่นไม้มาผูกกัน
เมฆอยู่รอบๆตัวเรา ^^ ฟินสุดๆ
มือค่ำของวันนี้ เราฝากท้องกับร้านข้าวผัด อาหารง่ายๆ ราคาย่อมเยาว์


ในขณะที่เรากำลังทานมื้อเย็นกัน ไฟฟ้าของทั้งหมู่บ้านก็ได้ดับ ถามคนแถวนั้นเค้าบอกว่า นักท่องเที่ยวมากันเยอะและใช้ไฟฟ้ามากจึงทำให้ไฟดับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้แต่เท่าที่เห็นทุกร้านค้ามีการเตรียมพร้อมเรื่องไฟดับ เตรียมเทียน/ไฟฉาย/เครื่องปั่นไฟ
หลังจากทานมื้อเย็นเสร็จ เรากับแฟนก็รีบซื้อของ/ขนมเล็กๆน้อย กลับมายังที่เต๊นท์ ได้แวะซื้อตะเกียงและเทียน เพื่อใช้เดินกลับในระหว่างทาง เมื่อมาถึงที่เต๊นท์ก็รีบจัดแจงตัวเองเพื่อไปอาบน้ำ แต่ !!!! เมื่อไปถึงที่ห้องอาบน้ำ กรี๊ส สสสสสส ไฟดับ เครื่องปั้มน้ำต้องใช้ไฟไม่มีน้ำอาบ คิดในใจไม่เป็นไรดองเค็มสัก 1 วัน ><"
วันที่ 2 : น้ำตกจ๊อกกระดื่ง , กูดดอย อุทยานแก่งชาติทองผาภูมิ, ป้อมปี่ อุทยานแห่งชาติเขาแหลม
ตื่นตอนเช้ามาด้วยอากาศสุดฟิน อากาศเย็นๆ ปกคลุมไปด้วยเมฆหมอก กิจกรรมยามเช้าที่ทำเป็นอันดับแรกเลยก็คือ ไปอาบน้ำ แต่ !!! น้ำไม่ไหลอีกแล้ว คิดในใจอีกครั้งไม่เป็นไรเดี๋ยวไปอาบที่น้ำตกก็ได้ อุทยานน่าจะมีห้องอาบน้ำ ><"
ตลาดอีต่องยามเช้า ไม่คึกคักเท่าตอนเย็น อาจจะเป็นเพราะนักท่องเที่ยวเดินทางกลับกันแต่เช้า เรากับแฟนได้ฝากท้องกับร้านน้องหน่อย อาหารตามสั่ง
ข้าวราดผัดกระเพราหมู
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ไม่รู้ว่าคิดไปเองหรือว่าหิว ร้านอาหารที่นี่ทำอาหารนานมาก แต่รสชาติใช้ได้และราคาถูกมาก
อยู่ในอิต่องมองไปทางไหนก็มีแต่ภูเขาล้อมรอบ มีความสุขจริงๆ
หลังจากทานข้าวเช้าเสร็จเราก็เก็บของ เดินทางไปกันต่อที่ ช่องมิตรภาพชายแดน ไทย-พม่า และเนินเสาธง (เนินช้างศึกเราไม่ได้ไปเนื่องจากถนนเป็นหลุมใหญ่ รถเก๋งไปไม่ได้ เสียดายมากๆ) เดินทางจากหมู่บ้านอีต่องไปอีกนิดเดียว มีทหารของไทยยืนประจำการและคอยพูดคุยกับนักท่องเที่ยวอยู่ อัธยาศัยดีมากมีให้เกร็ดความรู้เล็กๆน้อยๆด้วย มองวิวลงไปจะเห็นเป็นทิวเขาสลับซับซ้อน ความอุดมสมบูรณ์ของฝั่งพม่าด้วย
ช่องมิตรภาพชายแดน ไทย-พม่า

เนินเสาธง
ถึงเวลาที่ต้องอำลาหมู่บ้านอีต่อง หมู่บ้านเล็กๆที่อยู่ท่ามกลางขุนเขาที่ดูสงบ การเป็นอยู่ที่เรียบง่าย ที่ปกคลุมไปด้วยเมฆหมอก
มุ่งหน้าสู่น้ำตกจ๊อกกระดิ่ง อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ

น้ำใสไหลเย็น ลงไปเล่นแล้วสดชื่นมาก ธรรมชาติสรรสร้างมาอย่างสวยงาม หลังจากเล่นน้ำตกเสร็จเราก็ยังตั้งมั่นว่าจะไปอาบน้ำ เพราะยังไม่ได้อาบ แต่ !!! ที่อุทยานตรงน้ำตกจ๊อกกระดิ่งมีแต่ห้องน้ำ ไม่มีห้องอาบน้ำ แต่ไม่เป็นไรได้ลงเล่นน้ำแล้วสบายใจ
เราได้แวะที่กูดดอย อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ ซึ่งเป็นทางผ่าน ได้ยินเสียงร่ำลือมาอย่างมากว่าสวย ซึ่งเมื่อมาเห็นกับตาก็จริงสมคำร่ำลือ สวยมากๆ มองไปเห็นเป็นทิวเขาสลับซับซ้อนและน้ำจากเขื่อนวชิราลงกรณ์ มองแล้วสดชื่น ถ้าได้มาเจอกับหมอกยามเช้าคงจะฟินน่าดู
เมื่อดื่มด่ำบรรยากาศอย่างเต็มที่ เราก็ออกเดินทางมุ่งหน้าสู่ ป้อมปี่ อุทยานแห่งชาติเขาแหลม ไปเส้นทางที่ไปสังขละบุรี ก่อนเข้าเลี้ยยงเข้าสู่สังขละเราได้แวะทานข้าวที่ อ.ทองผาภูมิ อยากจะขอแนะนำครัวเจ๊เงาะ เมื่อเลี้ยวเข้าไปในตัวเมืองร้านอยู่ทางซ้ายมืออยู่ตรงข้ามเยื้องๆกับ CJ Express (ร้านสะดวกซื้อ)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้เป็นร้านอาหารใต้ ถ้าสั่งเป็นราดข้าวจานละ 40 บาท ตักกี่อย่างก็ได้ แต่ถ้าสั่งเป็นจานแยกกับสามารถตักเท่าไรก็ได้จานละ 30 บาท มันฟินตรงที่ตักเองได้ ^^
เมื่อท้องอิ่มก็เริ่มเดินทางกันต่อ ขับรถขึ้นมาทางสังขละสักพักก็จะถึงป้อมปี่ อุทยานแห่งชาติเขาแหลม เราและแฟนตั้งใจจะมากางเต็นท์ดูพระอาทิตย์ตกเขื่อนกัน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้เราเตรียมอุปกรณ์/อาหารของสดแช่ลังน้ำแข็งมาตั้งกทม. ตอนแรกกะว่าจะทำกินที่อีต่อง แต่สรุปได้มาทำที่ป้อมปี่ เป็นอีกหนึ่งสถานที่ ที่คนรักธรรมชาติและความสงบไม่ควรพลาด บรรยากาศดี ท้องฟ้าสวย น้ำในเขื่อนเมื่อโดนแสงแดดก็ระยิบระยับ เรารีบกางเต็นท์และเตรียมอุปกรณ์การทำอาหารแบบง่าย ใครที่อยากเล่นน้ำก็สามารถเล่นได้มีบริการเสื้อชูชีพฟรี
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้อยากให้คิดภาพตาม นั่งปิ้งย่างอยู่ริบเขื่อน มองดูพระอาทิตย์ตกดิน เป็นอะไรที่ฟินสุด
พระอาทิตย์กำลังจะตกดินแล้ว

สำหรับมื้อเย็นในวันนี้ ปิ้งย่างง่ายๆ ท่ามกลางบรรยากาศร่มรื่น
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้และเราก็ได้อาบน้ำสมใจอยาก ห้องน้ำที่นี่สะอาดมากเจ้าหน้าที่ทำความสะอาดตลอดเลย
น้องน้ำเป็นแบบโอเพ่นแอรืเปิดหน้าต่างได้ด้วย เราชอบนะ
วันที่ 3: ด่านเจดีย์สามองค์ , ธารซองกาเรีย
เมื่อคืนฝนตกตลอดทั้งคืนเลย แต่โชคดีที่เต๊นท์ของเรากันน้ำได้ ตื่นมาตอนเช้าเปิดเต๊นท์แล้วมองออกไป ความฟินระดับร้อยก็ยังคงอยู่
อากาศเย็น ๆ อยู่ภายใต้ความร่วมรื่นของต้นไม้

มื้อเช้า ทำอาหารแบบง่ายๆ

เต๊นท์เดียวในบริเวณนั้น
หลังจากทานข้าวเช้าอิ่มเราก็เริ่มเก็บของและเดินทางไปต่อที่ด่านเจดีย์สามองค์ และหาข้าวเที่ยงทานที่ธารซองกาเรีย
ที่ด่านเจดีย์สามองค์เราไม่ได้ถ่ายรูปอะไรมากมาย บรรยากาศไม่ค่อยคึกคักอาจจะเป็นเพราะเป็นวันธรรมดาไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยวเท่าไร เราจึงเดินเล่นแล้วก็ไปแวะต่อที่ธารซองกาเรีย จะต้องสังเกตดีๆ เพราะป้ายเล็กมาก โชคดีที่ไปเป็นวันธรรมดา คนน้อยเราจึงได้เลือกที่นั่งกระต๊อบที่อยู่ริมน้ำได้แบบไม่ต้องแย่งใคร อาหารอร่อยราคาก็ไม่แพงมาก
เวลาในการเที่ยวผ่านไปอย่างรวดเร็วก็ได้เวลากลับมุ่งสู่ กทม. ถ้ามีโอกาสจะมาเที่ยวใหม่อย่างแน่นอน ความเป็นธรรมชาติที่ไม่ไกลจาก กทม. ความฟินระดับร้อย เที่ยวหลักร้อย วิวหลักล้านมันเป็นอย่างงี้นี่เอง
[CR] ทริปตะลุยเมฆ เที่ยวอีต่อง ปิล๊อก ป้อมปี่ ที่กาญจนบุรี
สถานที่ : วันที่ 1 หมู่บ้านอีต่อง อ. ทองผาภูมิ จ. กาญจนบุรี
: วันที่ 2 น้ำตกจ๊อกกระดื่ง , กูดดอย อุทยานแก่งชาติทองผาภูมิ, ป้อมปี่ อุทยานแห่งชาติเขาแหลม
: วันที่ 3 ด่านเจดีย์สามองค์ , ธารซองกาเรีย
การเที่ยวในวันหยุดยาวในครั้งนี้ เป็นอีกหนึ่งทริปที่สนุก และคุ้มค่ากับการที่ลาหยุด ได้ใช้เวลาอยู่กับตัวเองดื่มด่ำธรรมชาติ เมฆ หมอก สายลม แสงแดด ^^
วันที่ 1 : หมู่บ้านอีต่อง อ. ทองผาภูมิ จ. กาญจนบุรี
เราเดินทางโดยใช้รถเก่ง Vios เดินทางจาก กทม. มุ่งสู่ อ. ทองผาภูมิ จ. กาญจนบุรี และมุ่งหน้าไปสู่หมู่บ้านอีต่อง ระหว่างทางนั้นเราจะเห็นวิวของเขื่อนวชิราลงกรณ์ตัดสลับไปกับภูเขาน้อยใหญ่ มองแล้วสบายตา
ในช่วงแรกๆ ถนนหนทางยังดีอยู่ แต่เมื่อขับไปสักพักเริ่มเจอถนนที่เป็นหลุม ทางแอบโหดนิดๆ และเราไปในช่วงที่กำลังทำทางอยู่พอดี
ในที่สุดก็ถึงหมู่บ้านอีต่อง เราออกเดินทาง 10.00 น. ถึงประมาณ 16.00 น.
เมื่อมาถึงที่หมู่บ้านอีต่อง อันดับแรกที่เราทำก็คือหาที่กางเต๊นท์ก่อน เรารีบไปที่ลาน ฮ. บริเวณโรงเรียน หาทำเล และเริ่มกางเต๊นท์กัน [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เมื่อกางเสร็จก็รับรู้ได้ถึงความเย็นของอากาศ เมฆค่อยๆลอยต่ำลงมาปกคลุม เผลอนิดเดียวเมฆก็มาปกคลุมทั้งหมู่บ้านแล้ว ทุกคนต่างตื่นเต้น ยกโทรศัพท์/กล้องถ่ายรูป เพื่อเก็บภาพกันอย่างสนุกสนาน
ถึงเวลาเดินเที่ยวในตลาดอีต่องและมื้อเย็นของค่ำคืนนี้
ตลาดอิต่องเป็นตลาดเล็กๆ มีร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึก ยิ่งเราไปในช่วงวันหยุดแบบนี้นักท่องเที่ยวเยอะมาก ทำให้บรรยากาศในตลาดคึกคัก มากมายไปด้วยผู้คน และที่สำคัญเหมือนว่าเป็นสิ่งที่ทุกคนที่มาที่นี้จะต้องทำ/ถ่ายรูปกันนั้นก็คือ มาถ่ายรูปหมู่บ้านและเขียนแผ่นไม้มาผูกกัน
มือค่ำของวันนี้ เราฝากท้องกับร้านข้าวผัด อาหารง่ายๆ ราคาย่อมเยาว์
ในขณะที่เรากำลังทานมื้อเย็นกัน ไฟฟ้าของทั้งหมู่บ้านก็ได้ดับ ถามคนแถวนั้นเค้าบอกว่า นักท่องเที่ยวมากันเยอะและใช้ไฟฟ้ามากจึงทำให้ไฟดับ
หลังจากทานมื้อเย็นเสร็จ เรากับแฟนก็รีบซื้อของ/ขนมเล็กๆน้อย กลับมายังที่เต๊นท์ ได้แวะซื้อตะเกียงและเทียน เพื่อใช้เดินกลับในระหว่างทาง เมื่อมาถึงที่เต๊นท์ก็รีบจัดแจงตัวเองเพื่อไปอาบน้ำ แต่ !!!! เมื่อไปถึงที่ห้องอาบน้ำ กรี๊ส สสสสสส ไฟดับ เครื่องปั้มน้ำต้องใช้ไฟไม่มีน้ำอาบ คิดในใจไม่เป็นไรดองเค็มสัก 1 วัน ><"
วันที่ 2 : น้ำตกจ๊อกกระดื่ง , กูดดอย อุทยานแก่งชาติทองผาภูมิ, ป้อมปี่ อุทยานแห่งชาติเขาแหลม
ตื่นตอนเช้ามาด้วยอากาศสุดฟิน อากาศเย็นๆ ปกคลุมไปด้วยเมฆหมอก กิจกรรมยามเช้าที่ทำเป็นอันดับแรกเลยก็คือ ไปอาบน้ำ แต่ !!! น้ำไม่ไหลอีกแล้ว คิดในใจอีกครั้งไม่เป็นไรเดี๋ยวไปอาบที่น้ำตกก็ได้ อุทยานน่าจะมีห้องอาบน้ำ ><"
ตลาดอีต่องยามเช้า ไม่คึกคักเท่าตอนเย็น อาจจะเป็นเพราะนักท่องเที่ยวเดินทางกลับกันแต่เช้า เรากับแฟนได้ฝากท้องกับร้านน้องหน่อย อาหารตามสั่ง
หลังจากทานข้าวเช้าเสร็จเราก็เก็บของ เดินทางไปกันต่อที่ ช่องมิตรภาพชายแดน ไทย-พม่า และเนินเสาธง (เนินช้างศึกเราไม่ได้ไปเนื่องจากถนนเป็นหลุมใหญ่ รถเก๋งไปไม่ได้ เสียดายมากๆ) เดินทางจากหมู่บ้านอีต่องไปอีกนิดเดียว มีทหารของไทยยืนประจำการและคอยพูดคุยกับนักท่องเที่ยวอยู่ อัธยาศัยดีมากมีให้เกร็ดความรู้เล็กๆน้อยๆด้วย มองวิวลงไปจะเห็นเป็นทิวเขาสลับซับซ้อน ความอุดมสมบูรณ์ของฝั่งพม่าด้วย
ถึงเวลาที่ต้องอำลาหมู่บ้านอีต่อง หมู่บ้านเล็กๆที่อยู่ท่ามกลางขุนเขาที่ดูสงบ การเป็นอยู่ที่เรียบง่าย ที่ปกคลุมไปด้วยเมฆหมอก
มุ่งหน้าสู่น้ำตกจ๊อกกระดิ่ง อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ
เราได้แวะที่กูดดอย อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ ซึ่งเป็นทางผ่าน ได้ยินเสียงร่ำลือมาอย่างมากว่าสวย ซึ่งเมื่อมาเห็นกับตาก็จริงสมคำร่ำลือ สวยมากๆ มองไปเห็นเป็นทิวเขาสลับซับซ้อนและน้ำจากเขื่อนวชิราลงกรณ์ มองแล้วสดชื่น ถ้าได้มาเจอกับหมอกยามเช้าคงจะฟินน่าดู
เมื่อดื่มด่ำบรรยากาศอย่างเต็มที่ เราก็ออกเดินทางมุ่งหน้าสู่ ป้อมปี่ อุทยานแห่งชาติเขาแหลม ไปเส้นทางที่ไปสังขละบุรี ก่อนเข้าเลี้ยยงเข้าสู่สังขละเราได้แวะทานข้าวที่ อ.ทองผาภูมิ อยากจะขอแนะนำครัวเจ๊เงาะ เมื่อเลี้ยวเข้าไปในตัวเมืองร้านอยู่ทางซ้ายมืออยู่ตรงข้ามเยื้องๆกับ CJ Express (ร้านสะดวกซื้อ) [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เมื่อท้องอิ่มก็เริ่มเดินทางกันต่อ ขับรถขึ้นมาทางสังขละสักพักก็จะถึงป้อมปี่ อุทยานแห่งชาติเขาแหลม เราและแฟนตั้งใจจะมากางเต็นท์ดูพระอาทิตย์ตกเขื่อนกัน [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ เป็นอีกหนึ่งสถานที่ ที่คนรักธรรมชาติและความสงบไม่ควรพลาด บรรยากาศดี ท้องฟ้าสวย น้ำในเขื่อนเมื่อโดนแสงแดดก็ระยิบระยับ เรารีบกางเต็นท์และเตรียมอุปกรณ์การทำอาหารแบบง่าย ใครที่อยากเล่นน้ำก็สามารถเล่นได้มีบริการเสื้อชูชีพฟรี [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
วันที่ 3: ด่านเจดีย์สามองค์ , ธารซองกาเรีย
เมื่อคืนฝนตกตลอดทั้งคืนเลย แต่โชคดีที่เต๊นท์ของเรากันน้ำได้ ตื่นมาตอนเช้าเปิดเต๊นท์แล้วมองออกไป ความฟินระดับร้อยก็ยังคงอยู่
หลังจากทานข้าวเช้าอิ่มเราก็เริ่มเก็บของและเดินทางไปต่อที่ด่านเจดีย์สามองค์ และหาข้าวเที่ยงทานที่ธารซองกาเรีย
ที่ด่านเจดีย์สามองค์เราไม่ได้ถ่ายรูปอะไรมากมาย บรรยากาศไม่ค่อยคึกคักอาจจะเป็นเพราะเป็นวันธรรมดาไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยวเท่าไร เราจึงเดินเล่นแล้วก็ไปแวะต่อที่ธารซองกาเรีย จะต้องสังเกตดีๆ เพราะป้ายเล็กมาก โชคดีที่ไปเป็นวันธรรมดา คนน้อยเราจึงได้เลือกที่นั่งกระต๊อบที่อยู่ริมน้ำได้แบบไม่ต้องแย่งใคร อาหารอร่อยราคาก็ไม่แพงมาก
เวลาในการเที่ยวผ่านไปอย่างรวดเร็วก็ได้เวลากลับมุ่งสู่ กทม. ถ้ามีโอกาสจะมาเที่ยวใหม่อย่างแน่นอน ความเป็นธรรมชาติที่ไม่ไกลจาก กทม. ความฟินระดับร้อย เที่ยวหลักร้อย วิวหลักล้านมันเป็นอย่างงี้นี่เอง
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น