ไม่ได้เข้าข้างใครแต่อยากเล่าประสบการณ์ที่เคยเจอมาบ้าง
วันที่ 21 ธันวาคม 2016
เราได้เดินทางไปเที่ยวกวางเจากับเพื่อน โดน สายการบิน low cost แห่งหนึ่งที่สนามบินดอนเมือง
ระหว่างกำลังเดินผ่านเกทขึ้นรถบัสเพื่อไปขึ้นเครื่อง แอร์ฮอสเตสได้ทำการชั่งน้ำหนักกระเป๋า carry on ของนักท่องเที่ยวจีนบางส่วนที่เดินทางกลับกวางเจา โดยเงื่อนไขคือห้ามเกิน 7กิโลกรัม ซึ่งเราก็เข้าใจตรงนั้นดีและไม่ได้เดือนร้อนอะไรเพราะของเรากับเพื่อนไม่มีใครน้ำหนักเกินอยู่แล้ว
ทีนี้มีผู้หญิงจีนคนนึงจะเอาขนมมาฝากเรากับเพื่อนช่วยถือ ซึ่งตรงนั้นเราไม่กลัวเรื่องเค้าจะมาฝากของผิดกฎหมายอยู่แล้วเพราะว่าตอนนั้นผ่านขั้นตอนการตรวจความปลอดภัยแล้ว
ก่อนหน้านั้นผู้หญิงอีกคนได้ฝากผู้ชายอีกคนถือด้วย แล้วผู้ชายคนนั้นก็ช่วยถือให้
แต่แอร์กราวคนแรกก็ไปบอกกับอีกคนว่าผู้หญิงคนนั้นฝากผู้ชายถือของให้ แต่แอร์กราวก็ทำอะไรไม่ได้เพราะว่าน้ำหนักเค้ายังไม่เกิน
ขอบอกว่าที่เค้ากล้าพูดต่อหน้าเราเพราะเค้าคิดว่าพวกเราเป็นคนจีนด้วยความที่หน้าหมวยและเพื่อนเราพูดจีนได้และได้คุยอีกผู้หญิงคนที่สองว่าจะช่วยถือให้ได้
แล้วทีนี้มีแอร์กราวอีกคน ขอเรียกว่าแอร์กราว3 เป็นเพศที่สามพูดภาษาจีนได้ เดินมาตะโกนไล่นักท่องเที่ยวด้วยถ้อยคำ "หยาบคาย" เป็นภาษาจีน แต่เรากับเพื่อนฟังออก แปลเป็นไทยได้ดังนี้ "ไปกันได้แล้ว เสียเวลา อะไรไม่รู้เยอะแยะไปหมด" และอีกมากมายด้วยน้ำเสียงตะคอกขับไล่ใสส่งทั้งภาษาไทยและจีน จนแอร์กราว1 มากระซิบว่า เรากับเพื่อนคนไทยเพราะเค้าเห็นพาสปอร์ตเรา จนแอร์กราว3 จึงพูดด้วยน้ำเสียงที่ดีขึ้น
จนสุดท้ายถึงตอนขึ้น shuttle bus เพื่อไปขึ้นเครื่องสักที แอร์กราว3 ได้เดินตามมาที่รถแล้วตะโกนเถียงกับผู้โดยสารด้วยน้ำเสียงตะโกนใส่ ย้ำว่าแอร์กราว3ตะโกนใส่หลายครั้ง จนเพื่อนเราทนไม่ไหวพูดออกไปว่าทำไมพูดจากับผู้โดยสารแบบนี้ แอร์กราว3เลยพูดขึ้นมาว่า "เออๆ go back to China ไปเลย" ต้องเข้าใจว่างานบริการ อย่างน้อยควรมี service mind บ้างไหม
ขนาดเราเป็นคนไทยยังรู้สึกเลยว่าทำแบบนี้มันมากเกินไปและทำให้คนไทยทั้งประเทศดูไม่ดีในสายตาต่างชาติ
ไม่ได้ต้องการประจานใคร แต่อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยสอดส่องดูความเหมาะสมว่าพูดจาแบบนั้นกับผู้โดยสารมันสมควรแล้วหรอ?
แชร์ประสบการณ์แอร์กราวพูดจาไม่ให้เกียรติผู้โดยสาร
วันที่ 21 ธันวาคม 2016
เราได้เดินทางไปเที่ยวกวางเจากับเพื่อน โดน สายการบิน low cost แห่งหนึ่งที่สนามบินดอนเมือง
ระหว่างกำลังเดินผ่านเกทขึ้นรถบัสเพื่อไปขึ้นเครื่อง แอร์ฮอสเตสได้ทำการชั่งน้ำหนักกระเป๋า carry on ของนักท่องเที่ยวจีนบางส่วนที่เดินทางกลับกวางเจา โดยเงื่อนไขคือห้ามเกิน 7กิโลกรัม ซึ่งเราก็เข้าใจตรงนั้นดีและไม่ได้เดือนร้อนอะไรเพราะของเรากับเพื่อนไม่มีใครน้ำหนักเกินอยู่แล้ว
ทีนี้มีผู้หญิงจีนคนนึงจะเอาขนมมาฝากเรากับเพื่อนช่วยถือ ซึ่งตรงนั้นเราไม่กลัวเรื่องเค้าจะมาฝากของผิดกฎหมายอยู่แล้วเพราะว่าตอนนั้นผ่านขั้นตอนการตรวจความปลอดภัยแล้ว
ก่อนหน้านั้นผู้หญิงอีกคนได้ฝากผู้ชายอีกคนถือด้วย แล้วผู้ชายคนนั้นก็ช่วยถือให้
แต่แอร์กราวคนแรกก็ไปบอกกับอีกคนว่าผู้หญิงคนนั้นฝากผู้ชายถือของให้ แต่แอร์กราวก็ทำอะไรไม่ได้เพราะว่าน้ำหนักเค้ายังไม่เกิน
ขอบอกว่าที่เค้ากล้าพูดต่อหน้าเราเพราะเค้าคิดว่าพวกเราเป็นคนจีนด้วยความที่หน้าหมวยและเพื่อนเราพูดจีนได้และได้คุยอีกผู้หญิงคนที่สองว่าจะช่วยถือให้ได้
แล้วทีนี้มีแอร์กราวอีกคน ขอเรียกว่าแอร์กราว3 เป็นเพศที่สามพูดภาษาจีนได้ เดินมาตะโกนไล่นักท่องเที่ยวด้วยถ้อยคำ "หยาบคาย" เป็นภาษาจีน แต่เรากับเพื่อนฟังออก แปลเป็นไทยได้ดังนี้ "ไปกันได้แล้ว เสียเวลา อะไรไม่รู้เยอะแยะไปหมด" และอีกมากมายด้วยน้ำเสียงตะคอกขับไล่ใสส่งทั้งภาษาไทยและจีน จนแอร์กราว1 มากระซิบว่า เรากับเพื่อนคนไทยเพราะเค้าเห็นพาสปอร์ตเรา จนแอร์กราว3 จึงพูดด้วยน้ำเสียงที่ดีขึ้น
จนสุดท้ายถึงตอนขึ้น shuttle bus เพื่อไปขึ้นเครื่องสักที แอร์กราว3 ได้เดินตามมาที่รถแล้วตะโกนเถียงกับผู้โดยสารด้วยน้ำเสียงตะโกนใส่ ย้ำว่าแอร์กราว3ตะโกนใส่หลายครั้ง จนเพื่อนเราทนไม่ไหวพูดออกไปว่าทำไมพูดจากับผู้โดยสารแบบนี้ แอร์กราว3เลยพูดขึ้นมาว่า "เออๆ go back to China ไปเลย" ต้องเข้าใจว่างานบริการ อย่างน้อยควรมี service mind บ้างไหม
ขนาดเราเป็นคนไทยยังรู้สึกเลยว่าทำแบบนี้มันมากเกินไปและทำให้คนไทยทั้งประเทศดูไม่ดีในสายตาต่างชาติ
ไม่ได้ต้องการประจานใคร แต่อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยสอดส่องดูความเหมาะสมว่าพูดจาแบบนั้นกับผู้โดยสารมันสมควรแล้วหรอ?