***** มีจุดสปอยล์เล็กน้อย*****
Arrival : เฮีย Denis(ผกก) ทำเราอินกับเรื่องนี้อีกแล้ว เหมือนที่เคยโดนทำให้อินจัดไปกับ Sicario และ Prisoners
Arrival เล่าเรื่องเกี่ยวกับยานต่างดาว 12ลำ ที่อยู่ๆก็มาจอดยังโลกมนุษย์ กระจายไปตามเมืองทั่วทุกมุมโลก ทุกประเทศจึงต้องระดม ผู้เชี่ยวชาญด้านต่างๆมาแก้ไขสถาณการณ์นี้ โดยหนังเน้นไปที่การติดต่อสื่อสารกะผู้มาเยือนว่ายูมาทำไมมีจุดหมายอะไร ซึ่งนางเอกคือผู้โชคดีที่ได้รับงานนี้ไปเพราะนางคือผู้เชี่ยวชาญด้านภาษาศาสตร์นั่นเอง
ᴀʀʀɪᴠᴀʟ ไม่ได้เล่นเรื่องทฤษฎีที่ยากและมากจนเกินไปจึงทำให้มันดูง่ายกว่าหนังไซไฟวิทยาศาสตร์เรื่องอื่นที่มักจะประโคมหลักทฤษฎีวิทยาศาสตร์ยากๆเข้ามา แต่ Arrival จะเน้นไปที่ทฤษฎีด้านภาษาศาสตร์ที่ใช้ในการติดต่อกับผู้มาเยือน ซึ่งตรงนี้ถือว่าเป็นจุดที่ค่อนข้างแปลกใหม่ทีเดียวกับหนังแนวนี้ สิ่งที่เป็นจุดเด่นอีกอย่างของ ᴀʀʀɪᴠᴀʟ คือการที่หนังกล้าเล่นกับเรื่อง เวลา และสามารถเล่าออกมาได้อย่างชาญฉลาด หนังมาในโทนเครียดๆจริงจังกดดันแต่ดูสนุก ทั้งยังใส่ความดราม่า ความโรแมนติก การเมือง เข้ามาได้อย่างถูกจุด ไม่ทำให้เยอะหรือล้นจนเกินไป โทนภาพและดนตรีประกอบให้อารมณ์หม่นๆเข้ากับธีมของหนังได้เป็นอย่างดี
ชอบบทสรุปของหนังมาก ส่วนตัวคือจบได้พีคเหนือความคาดหมาย👏🏻👏🏻
ชอบ การออกแบบ ชาวต่างดาวที่มาเยือนเรา คือออกแบบได้ขนลุกมากสมจริงมาก ดูไปกลัวไป น่ากลัวกว่ามนุษย์ต่างดาวจากID4ที่ขนมากันเป็นกองทัพอีก55
ชอบ เอมี่ อดัมส์(นางเอก) อยากจะเอาออสการ์ไปถวายให้ถึงตัก แสดงดีมาก ไม่มีที่ติ และยังต้องแบกหนังไว้คนเดียวเกือบทั้งเรื่องอีกด้วย
สุดท้าย ชอบที่หนังตั้งคำถามว่า ถ้าหากเรา สามารถรับรู้จุดเริ่มต้นไปยังจุดสุดท้ายของชีวิตได้(ล่วงรู้อนาคต) เราจะทำยังไง เราจะเปลี่ยนแปลงมัน หรือปล่อยให้มันเป็นไปตามสิ่งที่มันเกิด
สุดท้ายอีกที ฝากคนที่กำลังจะไปดู อย่าคาดหวังว่า arrival จะเป็นหนังแอ็คชั่นระเบิดตูมตามสู้กับมนุษย์ต่างดาวตลอดเรื่องเหมือน ID4 นะ เพราะ arrival คือหนังไซไฟ ดราม่าชั้นดี ที่แค่มีฉากหลังเป็นยานของมนุษย์ต่างดาว
9/10
รีวิว ᴀʀʀɪᴠᴀʟ : ผู้มาเยือน หนังไซไฟ ดราม่า ชั้นดี
Arrival : เฮีย Denis(ผกก) ทำเราอินกับเรื่องนี้อีกแล้ว เหมือนที่เคยโดนทำให้อินจัดไปกับ Sicario และ Prisoners
Arrival เล่าเรื่องเกี่ยวกับยานต่างดาว 12ลำ ที่อยู่ๆก็มาจอดยังโลกมนุษย์ กระจายไปตามเมืองทั่วทุกมุมโลก ทุกประเทศจึงต้องระดม ผู้เชี่ยวชาญด้านต่างๆมาแก้ไขสถาณการณ์นี้ โดยหนังเน้นไปที่การติดต่อสื่อสารกะผู้มาเยือนว่ายูมาทำไมมีจุดหมายอะไร ซึ่งนางเอกคือผู้โชคดีที่ได้รับงานนี้ไปเพราะนางคือผู้เชี่ยวชาญด้านภาษาศาสตร์นั่นเอง
ᴀʀʀɪᴠᴀʟ ไม่ได้เล่นเรื่องทฤษฎีที่ยากและมากจนเกินไปจึงทำให้มันดูง่ายกว่าหนังไซไฟวิทยาศาสตร์เรื่องอื่นที่มักจะประโคมหลักทฤษฎีวิทยาศาสตร์ยากๆเข้ามา แต่ Arrival จะเน้นไปที่ทฤษฎีด้านภาษาศาสตร์ที่ใช้ในการติดต่อกับผู้มาเยือน ซึ่งตรงนี้ถือว่าเป็นจุดที่ค่อนข้างแปลกใหม่ทีเดียวกับหนังแนวนี้ สิ่งที่เป็นจุดเด่นอีกอย่างของ ᴀʀʀɪᴠᴀʟ คือการที่หนังกล้าเล่นกับเรื่อง เวลา และสามารถเล่าออกมาได้อย่างชาญฉลาด หนังมาในโทนเครียดๆจริงจังกดดันแต่ดูสนุก ทั้งยังใส่ความดราม่า ความโรแมนติก การเมือง เข้ามาได้อย่างถูกจุด ไม่ทำให้เยอะหรือล้นจนเกินไป โทนภาพและดนตรีประกอบให้อารมณ์หม่นๆเข้ากับธีมของหนังได้เป็นอย่างดี
ชอบบทสรุปของหนังมาก ส่วนตัวคือจบได้พีคเหนือความคาดหมาย👏🏻👏🏻
ชอบ การออกแบบ ชาวต่างดาวที่มาเยือนเรา คือออกแบบได้ขนลุกมากสมจริงมาก ดูไปกลัวไป น่ากลัวกว่ามนุษย์ต่างดาวจากID4ที่ขนมากันเป็นกองทัพอีก55
ชอบ เอมี่ อดัมส์(นางเอก) อยากจะเอาออสการ์ไปถวายให้ถึงตัก แสดงดีมาก ไม่มีที่ติ และยังต้องแบกหนังไว้คนเดียวเกือบทั้งเรื่องอีกด้วย
สุดท้าย ชอบที่หนังตั้งคำถามว่า ถ้าหากเรา สามารถรับรู้จุดเริ่มต้นไปยังจุดสุดท้ายของชีวิตได้(ล่วงรู้อนาคต) เราจะทำยังไง เราจะเปลี่ยนแปลงมัน หรือปล่อยให้มันเป็นไปตามสิ่งที่มันเกิด
สุดท้ายอีกที ฝากคนที่กำลังจะไปดู อย่าคาดหวังว่า arrival จะเป็นหนังแอ็คชั่นระเบิดตูมตามสู้กับมนุษย์ต่างดาวตลอดเรื่องเหมือน ID4 นะ เพราะ arrival คือหนังไซไฟ ดราม่าชั้นดี ที่แค่มีฉากหลังเป็นยานของมนุษย์ต่างดาว
9/10