สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 37
เรามองกลางๆนะ เพราะเราไม่รู้ว่าคุณเล่ามาเนี่ย เล่าแบบเอนเอียงเข้าข้างแม่คุณรึเปล่า
เท่าที่เราอ่านๆมา ครอบครัวของพวกคุณทั้ง 2 ฝั่งน่ารักมากกกก ช่วยกันเลี้ยงหลาน รักหลานมาก ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรให้กังวลใจ
ส่วนเรื่องของแฟนคุณกับแม่คุณ เรามองว่าไม่ใช่ว่าแฟนคุณไม่สำนึก หรือไม่รู้บุญคุณแม่ของคุณที่ช่วยเลี้ยงหลานหรอกนะ
แต่เราอยากถามคุณคำนึง ว่าเท่าที่คุณรู้จัก แต่งงาน อยู่กินกับภรรยาคุณจนมีลูกเนี่ย คุณรู้รึเปล่าว่าภรรยาของคุณมีอุปนิสัยแบบไหน????
... ภรรยาคุณเป็น มนุษย์ introvert รึเปล่า (ใครไม่รู้จัก ลอง search googleดู) คร่าวๆคือเป็นคนไม่ค่อยชอบสุงสิงสังคมมาก เวลาเหนื่อยๆจะชอบชาร์จพลังโดยการอยู่เงียบๆไม่ถูกรบกวน มีโลกส่วนตัวสูง รึเปล่า?????
ถ้าใช่!!!! มันก็ไม่แปลกเลยที่แฟนคุณทำงานมาเหนื่อยๆ จะไม่ชอบการที่มีคนมีจุกจิกมากๆ ถามซอกแซก (แม้ว่าคนถามแค้าจะแค่คุยด้วยเฉยๆก็ตาม)
ส่วนเรื่องส้ม จากที่คุณเล่ามา ...แฟนก็มาบอกผมว่า "จะไปรู้ได้ไงว่าลูกไหนเป็นลูกเก่า แม่แกไม่ได้บอกนิ เห็นวางข้างๆกันก็จับใส่รวมไป คิดว่ากลิ้งออกมานอกถุง"
...แฟนมาพูดกันเองกับคุณ ไม่ใช่พูดจาแบบนั้นต่อหน้าแม่คุณซักหน่อย
วิธีแก้... เวลากลับมาบ้านหลังเลิกงานกัน ถ้าคุณเห็นแม่คุณเริ่มตั้งคำถามที่ดูแล้วเยอะมากเกินไป เราก็อยากให้คุณเป็นฝ่ายชวนแม่คุย หรือตอบคำถามเอง อย่างที่แฟนคุณเคยร้องขอนั่นแหละค่ะ บางครั้งคุณก็ต้องเข้าใจว่า แฟนคุณอาจจะเครียดมากตอนทำงาน บางทีเหนื่อยมากจนไม่อยากจะเอ่ยคุยอะไรกับใคร แต่เค้าต้องมาตอบคำถามแม่คุณมากๆ ไอ้ครั้นจะไม่ตอบก็ไม่ได้ เพราะจะเสียมารยาท หลายๆครั้งเข้า แฟนคุณก็เครียด พาลทำให้ไม่อยากไปเจอหน้าแม่คุณเปล่าๆ
เท่าที่เราอ่านๆมา ครอบครัวของพวกคุณทั้ง 2 ฝั่งน่ารักมากกกก ช่วยกันเลี้ยงหลาน รักหลานมาก ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรให้กังวลใจ
ส่วนเรื่องของแฟนคุณกับแม่คุณ เรามองว่าไม่ใช่ว่าแฟนคุณไม่สำนึก หรือไม่รู้บุญคุณแม่ของคุณที่ช่วยเลี้ยงหลานหรอกนะ
แต่เราอยากถามคุณคำนึง ว่าเท่าที่คุณรู้จัก แต่งงาน อยู่กินกับภรรยาคุณจนมีลูกเนี่ย คุณรู้รึเปล่าว่าภรรยาของคุณมีอุปนิสัยแบบไหน????
... ภรรยาคุณเป็น มนุษย์ introvert รึเปล่า (ใครไม่รู้จัก ลอง search googleดู) คร่าวๆคือเป็นคนไม่ค่อยชอบสุงสิงสังคมมาก เวลาเหนื่อยๆจะชอบชาร์จพลังโดยการอยู่เงียบๆไม่ถูกรบกวน มีโลกส่วนตัวสูง รึเปล่า?????
ถ้าใช่!!!! มันก็ไม่แปลกเลยที่แฟนคุณทำงานมาเหนื่อยๆ จะไม่ชอบการที่มีคนมีจุกจิกมากๆ ถามซอกแซก (แม้ว่าคนถามแค้าจะแค่คุยด้วยเฉยๆก็ตาม)
ส่วนเรื่องส้ม จากที่คุณเล่ามา ...แฟนก็มาบอกผมว่า "จะไปรู้ได้ไงว่าลูกไหนเป็นลูกเก่า แม่แกไม่ได้บอกนิ เห็นวางข้างๆกันก็จับใส่รวมไป คิดว่ากลิ้งออกมานอกถุง"
...แฟนมาพูดกันเองกับคุณ ไม่ใช่พูดจาแบบนั้นต่อหน้าแม่คุณซักหน่อย
วิธีแก้... เวลากลับมาบ้านหลังเลิกงานกัน ถ้าคุณเห็นแม่คุณเริ่มตั้งคำถามที่ดูแล้วเยอะมากเกินไป เราก็อยากให้คุณเป็นฝ่ายชวนแม่คุย หรือตอบคำถามเอง อย่างที่แฟนคุณเคยร้องขอนั่นแหละค่ะ บางครั้งคุณก็ต้องเข้าใจว่า แฟนคุณอาจจะเครียดมากตอนทำงาน บางทีเหนื่อยมากจนไม่อยากจะเอ่ยคุยอะไรกับใคร แต่เค้าต้องมาตอบคำถามแม่คุณมากๆ ไอ้ครั้นจะไม่ตอบก็ไม่ได้ เพราะจะเสียมารยาท หลายๆครั้งเข้า แฟนคุณก็เครียด พาลทำให้ไม่อยากไปเจอหน้าแม่คุณเปล่าๆ
ความคิดเห็นที่ 82
เราอยากจะบอกว่า เราน่าจะนิสัยคลายๆภรรยาคุณ เพราะเรามีน้องชาย 1 คน
สามีเราเป็นลูกคนเดียวเหมือนคุณ แม่สามีเราก็เหมือนแม่คุณเลย ชอบถามซ้ำและจู้จี้จุกจิก
การที่คุณเล่ามาแค่นี้ มีแต่คนเทด่าแฟนคุณ แต่พวกเค้าไม่ได้รู้ตื้นลึกหนาบางอะไรเลย
ตัดสินจากแค่ที่คุณพิมพ์. แฟนคุณดูเป็นคนเลวมาก ไม่มีมารยาท นิสัยแย่
แต่ใครจะรู้ว่าจริงๆแฟนคุณต้องเจอกับอะไรบ้าง
เราก็อยู่บ้านสามีและอึดอัดจนแทบจะทนแม่สามีไม่ไหวเหมือนกัน ทั้งๆที่
แม่สามีเราก็ชอบเลี้ยงลูกให้เวลาแกอยู่บ้านนะ
ชอบทำกับข้าวให้กิน. เรียกเราลูกและคุณแทบจะทุกคำ
แต่อะไรคือสิ่งที่เราต้องเจอ มากกว่าข้อดีที่เรายกมา อยากรู้มั้ย
ที่บ้านเราเลี้ยงเรามาแบบให้ดูแลตัวเอง(ไม่ใช่ปล่อยทิ้งปล่อยขว้างอะไรแบบนั้นนะ)
ให้คิดให้ตัดสินใจเอง. พ่อแม่เราไม่เคยเซ้าซี้หรือจู้จี้จุกจิกเลย
ยกตัวอย่างให้เห็นภาพง่ายๆ เช่นถ้าเราจะออกไปข้างนอก ที่บ้านเราจะถามว่าไปไหน
เราบอกว่า ไปข้างนอก จบ จะไม่มีการถามต่อ
แต่ที่บ้านสามี ถ้าถาม ไปไหน แล้วบอกไปข้างนอก จะมีคำถามต่อ ไปที่ไหน
พอเราบอกสถานที่ จะต่อด้วย ไปทำไม ซึ่งสำหรับเราที่มาจากครอบครัวแบบเรา
เราบอกตรงๆว่าเรารำคาญค่ะ จะถามทำไมเยอะ จะเอาอะไรก็บอกมาเลยมั้ยคะ
เช่น ไปไหน ฝากซื้อ....ด้วยนะ จบค่ะ ไม่ต้องเยอะ อย่ามาบอกว่าเกรงใจเพราะบางทีเรารีบ
จะรีบไปรีบมาก็ถามอยู่นั่น ไม่ต้องไปกันพอดี
แม่สามีเราเกษียณแล้วแต่แกรับจ็อบ แต่ถ้าวันไหนว่างๆแกจะช่วยเลี้ยงหลานให้
หลายๆคนอาจจะบอกว่า บุญหัวแค่ไหนแล้วที่แม่สามีเลี้ยงลูกให้
แต่เราไม่ดีใจเลยสักนิด เพราะอะไรรู้มั้ย เวลาแกอุ้มลูกเรา ลูกเราจะร้องตลอด
และจะไม่ค่อยชอบให้แกอุ้ม แต่แกก็ชอบจะอุ้มและลูกเราจะร้องไห้ จนสำลักบ่อยๆ
(เรานี่สงสารลูกมากหัวอกคนเป็นแม่เนอะ ) พอแกปลอบไม่อยู่ก็ใช้ตัวช่วยสิคะ
ทีวีค่ะ ลูกเราเพิ่ง3เดือน และทีวีขนาด40 นิ้ว ห่างจากที่นั่งดูไม่ถึง 3 เมตร คิดดูว่าแสงจะจ้าขนาดไหน
แล้วตาลูกเราจะเป็นยังไง แล้วพัฒนาการลูกเราจะเป็นยังไง พอเราบอกเราห้าม ก็บอก เออ รู้น่า
(คืออะไรชอบเถียง)
เรื่องความสะอาด เราเป็นแม่ ล้างมือทุกครั้งที่จะจับลูก มือแทบจะเปื่อย แต่พอเวลาเราบอกให้เค้าล้างมือ.
เค้าจะบอก โอ้ย..ล้างแล้ว (ทั้งๆที่เราเห็ยกับตาว่าเพิ่งตีหัวหมามาหยกๆ
เรื่องเงินทอง เรามาอยู่บ้านนี้เราก็รับผิดชอบค่าไฟ ซื้อข้าวของเข้าบ้านแก๊สเราก็ซื้อ
เราไม่ซีเรียส เพราะถือว่าเราโตแล้วต้องรับผิดชอบ แต่หลายๆครั้งที่เราไม่มีข้าวสุกกิน
ทั้งๆที่เราเป็นคนซื้อข้าวสาร มันคืออะไร!?!? หลายๆครั้งที่เราต้องกินข้าวหรือกับข้าวแบบเย็นๆ
คืออะไร!?!? อาจจะมีคนสงสัยว่าเรื่องแค่นี้เอง ก็หุงสิ่ข้าวน่ะ (ขอโทษค่ะคุณ วันๆอิฉันต้องหุงข้าวทุกรอบที่จะกินมั้ยคะ
ทั้งๆที่เราคำนวณแล้วว่ามันต้องพอ แต่บางทีนางเอาไปให้หมาจ้าาาา)
ก็อุ่นสิ่แค่กับข้าว หึ หึ ถ้ามันง่ายขนาดนั้นเราจะบ่นทำไม
แค่เราถือกับข้าวจะเข้าเวฟ จะมีเสียงลอยมาว่า "แม่เพิ่งอุ่นนะ"
(ทั้งๆที่ไขลอยเต็มถ้วย นี่คงร้อนมากอ่ะ)
พอละเรื่องเราจะยาวไป จริงๆเราอยากจะบอกว่า คนที่คุณควรคุย ควรปรึกษาคือคนในครอบครัวคุณ
มากกว่า ไม่ใช่คนนอก เพราะคุณพิมพ์มาแค่นี้ ไม่ได้ให้โอกาสแฟนคุณได้อธิบายเลย
แต่ทุกคนตัดสินไปแล้วว่าแฟนคุณเลว ไม่มีมารยาท ฯลฯ. มันไม่แฟร์กับแฟนคุณค่ะ
สามีเราเป็นลูกคนเดียวเหมือนคุณ แม่สามีเราก็เหมือนแม่คุณเลย ชอบถามซ้ำและจู้จี้จุกจิก
การที่คุณเล่ามาแค่นี้ มีแต่คนเทด่าแฟนคุณ แต่พวกเค้าไม่ได้รู้ตื้นลึกหนาบางอะไรเลย
ตัดสินจากแค่ที่คุณพิมพ์. แฟนคุณดูเป็นคนเลวมาก ไม่มีมารยาท นิสัยแย่
แต่ใครจะรู้ว่าจริงๆแฟนคุณต้องเจอกับอะไรบ้าง
เราก็อยู่บ้านสามีและอึดอัดจนแทบจะทนแม่สามีไม่ไหวเหมือนกัน ทั้งๆที่
แม่สามีเราก็ชอบเลี้ยงลูกให้เวลาแกอยู่บ้านนะ
ชอบทำกับข้าวให้กิน. เรียกเราลูกและคุณแทบจะทุกคำ
แต่อะไรคือสิ่งที่เราต้องเจอ มากกว่าข้อดีที่เรายกมา อยากรู้มั้ย
ที่บ้านเราเลี้ยงเรามาแบบให้ดูแลตัวเอง(ไม่ใช่ปล่อยทิ้งปล่อยขว้างอะไรแบบนั้นนะ)
ให้คิดให้ตัดสินใจเอง. พ่อแม่เราไม่เคยเซ้าซี้หรือจู้จี้จุกจิกเลย
ยกตัวอย่างให้เห็นภาพง่ายๆ เช่นถ้าเราจะออกไปข้างนอก ที่บ้านเราจะถามว่าไปไหน
เราบอกว่า ไปข้างนอก จบ จะไม่มีการถามต่อ
แต่ที่บ้านสามี ถ้าถาม ไปไหน แล้วบอกไปข้างนอก จะมีคำถามต่อ ไปที่ไหน
พอเราบอกสถานที่ จะต่อด้วย ไปทำไม ซึ่งสำหรับเราที่มาจากครอบครัวแบบเรา
เราบอกตรงๆว่าเรารำคาญค่ะ จะถามทำไมเยอะ จะเอาอะไรก็บอกมาเลยมั้ยคะ
เช่น ไปไหน ฝากซื้อ....ด้วยนะ จบค่ะ ไม่ต้องเยอะ อย่ามาบอกว่าเกรงใจเพราะบางทีเรารีบ
จะรีบไปรีบมาก็ถามอยู่นั่น ไม่ต้องไปกันพอดี
แม่สามีเราเกษียณแล้วแต่แกรับจ็อบ แต่ถ้าวันไหนว่างๆแกจะช่วยเลี้ยงหลานให้
หลายๆคนอาจจะบอกว่า บุญหัวแค่ไหนแล้วที่แม่สามีเลี้ยงลูกให้
แต่เราไม่ดีใจเลยสักนิด เพราะอะไรรู้มั้ย เวลาแกอุ้มลูกเรา ลูกเราจะร้องตลอด
และจะไม่ค่อยชอบให้แกอุ้ม แต่แกก็ชอบจะอุ้มและลูกเราจะร้องไห้ จนสำลักบ่อยๆ
(เรานี่สงสารลูกมากหัวอกคนเป็นแม่เนอะ ) พอแกปลอบไม่อยู่ก็ใช้ตัวช่วยสิคะ
ทีวีค่ะ ลูกเราเพิ่ง3เดือน และทีวีขนาด40 นิ้ว ห่างจากที่นั่งดูไม่ถึง 3 เมตร คิดดูว่าแสงจะจ้าขนาดไหน
แล้วตาลูกเราจะเป็นยังไง แล้วพัฒนาการลูกเราจะเป็นยังไง พอเราบอกเราห้าม ก็บอก เออ รู้น่า
(คืออะไรชอบเถียง)
เรื่องความสะอาด เราเป็นแม่ ล้างมือทุกครั้งที่จะจับลูก มือแทบจะเปื่อย แต่พอเวลาเราบอกให้เค้าล้างมือ.
เค้าจะบอก โอ้ย..ล้างแล้ว (ทั้งๆที่เราเห็ยกับตาว่าเพิ่งตีหัวหมามาหยกๆ
เรื่องเงินทอง เรามาอยู่บ้านนี้เราก็รับผิดชอบค่าไฟ ซื้อข้าวของเข้าบ้านแก๊สเราก็ซื้อ
เราไม่ซีเรียส เพราะถือว่าเราโตแล้วต้องรับผิดชอบ แต่หลายๆครั้งที่เราไม่มีข้าวสุกกิน
ทั้งๆที่เราเป็นคนซื้อข้าวสาร มันคืออะไร!?!? หลายๆครั้งที่เราต้องกินข้าวหรือกับข้าวแบบเย็นๆ
คืออะไร!?!? อาจจะมีคนสงสัยว่าเรื่องแค่นี้เอง ก็หุงสิ่ข้าวน่ะ (ขอโทษค่ะคุณ วันๆอิฉันต้องหุงข้าวทุกรอบที่จะกินมั้ยคะ
ทั้งๆที่เราคำนวณแล้วว่ามันต้องพอ แต่บางทีนางเอาไปให้หมาจ้าาาา)
ก็อุ่นสิ่แค่กับข้าว หึ หึ ถ้ามันง่ายขนาดนั้นเราจะบ่นทำไม
แค่เราถือกับข้าวจะเข้าเวฟ จะมีเสียงลอยมาว่า "แม่เพิ่งอุ่นนะ"
(ทั้งๆที่ไขลอยเต็มถ้วย นี่คงร้อนมากอ่ะ)
พอละเรื่องเราจะยาวไป จริงๆเราอยากจะบอกว่า คนที่คุณควรคุย ควรปรึกษาคือคนในครอบครัวคุณ
มากกว่า ไม่ใช่คนนอก เพราะคุณพิมพ์มาแค่นี้ ไม่ได้ให้โอกาสแฟนคุณได้อธิบายเลย
แต่ทุกคนตัดสินไปแล้วว่าแฟนคุณเลว ไม่มีมารยาท ฯลฯ. มันไม่แฟร์กับแฟนคุณค่ะ
ความคิดเห็นที่ 3
เท่าที่เล่ามาแม่คุณดีมากเลยนะ เกรงใจลูกด้วยไม่ให้ซื้อของมาให้ ของเก่าก็เก็บกินเอง แต่ภรรยาคุณไม่น่ารักเอาเลย สงสารคุณนะเหมือนพี่เราเลย เมียทำไม่ดีกับพ่อแม่ตัวเองคนกลางน้ำท่วมปาก ผญบางคนเจอคนเอาจริงก็อ่อนลง แต่บางคนเอาแต่อารมณ์พร้อมหักได้ทุกเรื่องไม่สนใจอะไร อยู่ที่ว่าภรรยาคุณเป็นแบบไหน
ความคิดเห็นที่ 34
ผิดที่คุณนะ
ตอนคุณจีบแฟนคุณ คุณใช้เวลา กว่าจะเป็นแฟนกัน รักกัน เรียนรู้นิสัยกัน ใช้เวลาร่วมกัน
พอแต่ง คุณจับยัดแฟนคุณกับแม่คุณมาอยู่ร่วมกัน โดยที่เค้าทั้งสองคน ไม่ได้มีเวลามาทิงนองนอยสานสัมพันธ์ให้รักและเอ็นดูกัน เรียกได้ว่าตกกระไดพลอยโจนถูกจับยัดมาอยู่ร่วมชายคาตามวาระ
ทั้งแฟนกับแม่คุณ เค้ามีนิสัยจำเพาะส่วนบุคคล ซึ่งเค้าเข้ากันไม่ได้ แค่ต่างกัน แต่เรื่องเล็กๆน้อยๆ เนี่ยแหละ มันจะสะสมไปเรื่อยๆ
เป็นกันเยอะนะเคสแบบนี้ เพราะไม่วางแผนก่อนจะมีครอบครัวไง
ตอนคุณจีบแฟนคุณ คุณใช้เวลา กว่าจะเป็นแฟนกัน รักกัน เรียนรู้นิสัยกัน ใช้เวลาร่วมกัน
พอแต่ง คุณจับยัดแฟนคุณกับแม่คุณมาอยู่ร่วมกัน โดยที่เค้าทั้งสองคน ไม่ได้มีเวลามาทิงนองนอยสานสัมพันธ์ให้รักและเอ็นดูกัน เรียกได้ว่าตกกระไดพลอยโจนถูกจับยัดมาอยู่ร่วมชายคาตามวาระ
ทั้งแฟนกับแม่คุณ เค้ามีนิสัยจำเพาะส่วนบุคคล ซึ่งเค้าเข้ากันไม่ได้ แค่ต่างกัน แต่เรื่องเล็กๆน้อยๆ เนี่ยแหละ มันจะสะสมไปเรื่อยๆ
เป็นกันเยอะนะเคสแบบนี้ เพราะไม่วางแผนก่อนจะมีครอบครัวไง
ความคิดเห็นที่ 10
ฮ่าๆๆๆ ดิฉันมีประสบการณ์เลี้ยงลูกตัวเองมาแล้ว และขอบอกเลยว่าชาตินี้จะไม่ยอมเลี้ยงเด็กอ่อนอีก มันเหนื่อยมาก
(ถ้าลูกๆมีหลานแล้วไม่มีปัญญาเลี้ยงดิฉันบอกเลยว่าจะส่งค่าเนอร์สเซอร์รี่ให้แต่จะไม่ยอมเลี้ยงให้แบบเต็มเวลาแน่ๆ
ยินดีรับฝากแค่ชั่วครั้งชั่วคราวตอนเด็กไม่สบายหรือแม่เด็กไม่สบายเท่านั้น นอกนั้นไม่รับเด็ดขาด)
แม่คุณยอมเลี้ยงลูกให้เต็มเวลาตลอดสัปดาห์แลกกับเศษเงินจากพวกคุณนี่ ถือว่า เป็นแม่ที่สุดประเสริฐยากจะหาได้ในโลกนี้แล้วล่ะค่ะ
ส่วนภรรยาคุณนั้น
ถามตรงๆ...ขุดมาจากขุมไหนคะ?
(ถ้าลูกๆมีหลานแล้วไม่มีปัญญาเลี้ยงดิฉันบอกเลยว่าจะส่งค่าเนอร์สเซอร์รี่ให้แต่จะไม่ยอมเลี้ยงให้แบบเต็มเวลาแน่ๆ
ยินดีรับฝากแค่ชั่วครั้งชั่วคราวตอนเด็กไม่สบายหรือแม่เด็กไม่สบายเท่านั้น นอกนั้นไม่รับเด็ดขาด)
แม่คุณยอมเลี้ยงลูกให้เต็มเวลาตลอดสัปดาห์แลกกับเศษเงินจากพวกคุณนี่ ถือว่า เป็นแม่ที่สุดประเสริฐยากจะหาได้ในโลกนี้แล้วล่ะค่ะ
ส่วนภรรยาคุณนั้น
ถามตรงๆ...ขุดมาจากขุมไหนคะ?
แสดงความคิดเห็น
ภรรยาผมนับวันยิ่งจะหมดความอดทนกับแม่ผมแล้วครับ ขอปรึกษาหน่อยครับ
แต่งงานแล้ว มีลูก 9 เดือนแล้วครับ ตอนนี้ จ-ศ ก็แม่ผมเลี้ยง (06.00-19.00) จากนั้นผมกับแฟนกลับไปเลี้ยงเอง
ส่วนเสาร์-อาทิตย์ ก็ให้ยาย(แม่แฟน)ช่วยเลี้ยง
ที่ให้แม่ยายเลี้ยงน้อยเพราะท่านต้องทำงานส่งลูกคนที่สาม(คนสุดท้อง) ยังเรียนไม่จบ ส่วนลูกสาวคนโตสองคนทำงานกันแล้ว ส่วนสามีแกเสียไป 20 ปีเศษแล้วครับ
ส่วนแม่ผมป็นแม่บ้าน มีผมเป็นลูกคนเดียว ได้รายได้จากผมและพ่อนิดๆหน่อยๆ พอผ่านไปได้ครับ
เรื่องเกิดที่ว่า ด้วยนิสัยแม่ของผมเป็นคนชอบถามครับ แต่เรื่องที่ถามก็เป็นเรื่องของลูกผมทั้งนั้น เช่น เสื้อผ้าของลูกผมตัวนั้นหายไปไหน? หรือว่าจะเป็นเรื่องผลไม้ที่ให้ลูกกิน เช่น ซื้อส้มมา มันจะมีของเก่า อาทิดนึงได้แล้ว ทำกินไม่หมด แล้วอีกถุงเพิ่งซื้อมาใหม่ แม่ผมก็เอาลูกเก่าไว้นอกถุง แฟนผมคิดว่ามันหล่นออกมาจากถุงใหม่ ก็จับใส่เข้าไป แม่ก็บอกว่า "สองลูกนั้นเป็นของเก่านะ แม่จะไว้กินเอง จำได้มั้ยว่าลูกไหนที่ใส่เข้าไป" ก็เลยเป็นเรื่องครับ แฟนก็มาบอกผมว่า "จะไปรู้ได้ไงว่าลูกไหนเป็นลูกเก่า แม่แกไม่ได้บอกนิ เห็นวางข้างๆกันก็จับใส่รวมไป คิดว่ากลิ้งออกมานอกถุง" คือก็ถูกของเขานะครับ แต่แฟนพูดด้วยน้ำเสียงเหมือนกับว่า ไม่พอใจแม่ผมมากๆ
ก็มีอีกหลายเรื่องครับ เช่น เวลาแฟนไปทำงานต่างจังหวัด หรือออกทริปครั้งนึงก็อาทิตย์นึง ทุกครั้งที่กลับมาก็จะมีของมาฝากบ้านของเขาเสมอ แต่บ้านผมไม่มี จริงๆแล้ว พ่อกับแม่ผมไม่ซีเรียสอะไรหรอกครับ แต่ผมคิดว่า ถ้าซื้อมาฝากบ้าง มันจะเป็นการแสดงน้ำใจกันได้นะ ก็เลยถามแฟน แฟนก็บอกว่าเคยซื้อมาครั้งแรกที่ออกต่างจังหวัด แม่ก็บอกให้แฟนผมเก็บไว้กินเถอะลูก ขอบใจมาก
แค่นี้เองครับ แฟนก็รู้สึกเสียดายมั้งครับ ก็เลยไม่ซื้อมาให้อีกเลย และที่แฟนซื้อมา มันก็พอประมาณที่คนสองคนกินไม่หมดในสองสามวันได้ เพราะแม่ผมท่านเป็นคนที่ไม่ค่อยชอบเก็บอะไรไว้หลายวัน ผมกับแฟนถึงต้องมาช่วยกันกิน จนแฟนก็ไม่อยากซื้อมาละครับ
สิ่งสำคัญคือ แฟนบอกว่า เขาเครียดกับงานของเขาอยู่แล้ว พอกลับบ้านต้องมานั่งตอบคำถามแม่ของผมนู่นนี่นั่น ซึ่งเขาบอกกับผมว่า บางอย่างเขาก็จำไม่ได้ ขนาดเรื่องของตัวเองบางเรื่องยังจำไม่ได้เลย
แฟนก็ไม่ได้แสดงสีหน้าหรืออะไรใส่แม่ผม แต่เลือกที่จะอดทนและเก็บไว้ หลายเรื่อง นานวันเข้าจนวันนี้ก็ระเบิดให้ผมฟังบนรถขณะไปทำงาน แล้วบอกว่าต่อไปนี้มีอะไรเกี่ยวกับลูก ให้ผมตอบคำถามแม่ไปเลยนะ เขาขี้เกียจตอบ ปวดหัวจากงาน ต้องมาปวดหัวกับคำถามของแม่..เฮ๊อ
ที่คุยโทรศัพท์กันล่าสุดเมื่อเที่ยงคือ เขาอยากให้ผมสลับไปอยู่บ้านของเขาบ้าง สลับคนละอาทิตย์ จะได้รู้สึกเวลาอยู่บ้านของเขา อยู่กับแม่ของเขา เพราะเขาคิดว่า ผมคงอดทนอยู่บ้านเขาไม่ได้เหมือนที่เขาอดทนอยู่บ้านผมไม่ได้ หรือมีทางเลือกที่สองคือ ก็เหมือนเดิม จ-ศ แม่ผมเลี้ยง และ ส-อา แม่แฟนแลี้ยง แต่แฟนจะนอนบ้านแม่ทุกวัน ผมก็ไม่ยอมอ่ะครับ อยากให้ลูกอยู่กับผม แฟนบอกว่า ถ้าไม่โอเคตามเงื่อนไข จะฟ้องร้องเอาลูกกันก็ได้นะ แล้วดูว่าใครจะได้ (ผมกับแฟนไม่ได้จดทะเบียนกัน)
แฟนมักจะบ่นเสมอๆว่า ตั้งแต่มีลูก งานก็ทำไม่ไม่ทัน นอนก็น้อย ปวดหัวเป็นไมเกรนไปหมดแล้ว ผมก็เลยบอกว่าก็ไปอยู่บ้านแกสิ จะได้นอนให้พอ ลูกไม่ต้องห่วง เดี๋ยวดูเอง
เฮ้อ ผมนี่เครียดกับชีวิตเลยครับ ไม่รู้จะจัดการอย่างไร ให้ทุกฝ่ายสบายใจ ก็เข้าใจว่าต่างมาจากคนละครอบครัว อาจถูกเลี้ยงดูมาไม่เหมือนกัน
บ้านแฟนมีแต่แม่ที่เลี้ยงลูกทั้งสามคนมา สอนให้คิดเอง หาทางดิ้นรนเอง
ส่วนบ้านผมเป็นลูกคนเดียว อาจดูแล ให้คำปรึกษาได้ใกล้ชิด
บอกตรงๆว่าผมไม่อยากให้ลูกผมมีชีวิตเหมือนแฟนผมตอนเด็กๆเลย เด็กจะรู้สึกขาดส่วนนึงของชีวิตไป
เคยมีความคิดซื้อบ้านเป็นของตัวเองนะครับ แต่ลำพัง เงินเดือนผมของกับแฟนรวมกัน ยังไม่แตะ 35,000 เลยครับ
เพื่อนๆมีคำแนะนำมั้ยครับ ขอร้องครับ ช่วยด้วยครับ