มีคนถามมากมายว่าทำไมไม่ค่อยมีคนทำละครไทยที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับอาชีพเหมือนของญี่ปุ่น บางคนก็ว่าถ้าเมืองไทยทำอาจทำออกมาได้ไม่ดีเท่าญี่ปุ่น หรือบางคนก็ว่าสภาพสังคมไทยกับญี่ปุ่นไม่เหมือนกัน คือคนไทยชอบดูละครอะไรที่มันง่าย ๆ ไม่ต้องคิดเยอะหรือมีสาระเท่าไรนัก ส่วนตัวผมคิดว่าบางทีคนสร้างหนังหรือละครของไทยเรามักไม่ค่อยใส่ใจในการที่จะศึกษาหรือเรียนรู้เกี่ยวกับอาชีพที่ปรากฏในละคร บางครั้งสร้างขึ้นมาก็อาจจะไม่สมจริง ผิดหลักการของอาชีพนั้น ๆ อย่างหลักทางการแพทย์ที่เราเห็นบ่อย ๆ ในละครหลายเรื่อง
ถ้าให้ผมคิดพล็อตขึ้นมา ผมก็จะเอาอาชีพที่ผมทำอยู่ตอนนี้นี่แหละ คือ "ล่ามภาษาญี่ปุ่นในโรงพยาบาล" ซึ่งเหตุการณ์ส่วนใหญ่ก็จะเอามาจากประสบการณ์ที่ผมเจอนั่นแหละ แต่อาจจะแทรกในเรื่องของความรักเข้าไป (ที่ผมยังไม่มี)
เนื้อเรื่องก็อาจจะประมาณว่า มีการเท้าความไปในอดีตนิดหน่อยว่าพระเอกเป็นเด็กจบใหม่ จากสาขาวิชาภาษาญี่ปุ่นของมหาวิทยาลัยเล็ก ๆ แห่งหนึ่งที่คนทั่วไปมักคิดว่าคุณภาพการสอนไม่ค่อยดี ซึ่งมันก็มีความเป็นจริงอยู่บ้าง เพราะความรู้ของพระเอกถ้าเทียบกับเด็กจากมหา'ลัยดัง ๆ ก็ถือว่ายังด้อยกว่าหลายขุมเหมือนกัน หลังเรียนจบ พระเอกก็ไปทำงานเป็นล่ามที่โรงงานแห่งหนึ่ง (โดยที่พระเอกไม่เคยคิดเป็นล่ามมาก่อนเลยในชีวิตนี้ เพราะคิดว่าความสามารถและความหัวไวของตัวเองยังมีไม่มากพอกับงานประเภทนี้ แม้ตอนเรียนพระเอกจะเป็นคนเก่งที่สุดในห้องก็ตาม) แต่ต้องประสบปัญหาหลายอย่างในการทำงานที่โรงงานนั้น โดยเฉพาะกับเจ้านายญี่ปุ่น ทำให้พระเอกคิดอยากจะลาออกตลอดเวลา ก็ไปเจอประกาศในเว็บไซต์ของโรงพยาบาลเอกชนชื่อดังระดับประเทศแห่งหนึ่งว่ากำลังรับสมัครล่ามภาษาญี่ปุ่นในโรงพยาบาล ทั้ง ๆ ที่รู้ว่าตัวเองอาจจะมีความสามารถไม่ถึง แต่คิดว่าการแปลในโรงพยาบาลน่าจะเหมาะกับตัวเองมากกว่าในโรงงาน จึงตัดสินใจเบนเข็มไปสมัคร
เมื่อสัมภาษณ์ พระเอกก็คิดว่าตัวเองทำได้ไม่ดีนัก และคิดว่าคงไม่ได้ แต่กลับกลายเป็นว่าพระเอกผ่านการสัมภาษณ์ ซึ่งแท้จริงแล้วเป็นเพราะทางโรงพยาบาลกำลังขาดแคลนคน สุดท้ายพระเอกก็ลาออกจากโรงงานเพื่อมาทำเป็นล่ามที่นี่ ในเวลาต่อมา ก็ถึงเวลาที่พระเอกจะต้องตามดูรุ่นพี่ในการแปลคนไข้ญี่ปุ่นเคสต่าง ๆ และมาถึงจุดหนึ่งรุ่นพี่ก็เริ่มที่จะให้พระเอกลองแปลดูเองบ้าง แต่ด้วยความสามารถที่อาจจะน้อยไปสำหรับโรงพยาบาลแห่งนี้ ทำให้พระเอกทำได้ไม่ค่อยดี โดนรุ่นพี่ที่เป็นหัวหน้าวิจารณ์บ่อย ๆ จนสัญญาณที่จะไม่ผ่านโปรมันชัดขึ้นเรื่อย ๆ
ทำให้พระเอกเครียดมากในช่วงนั้น คิดมากมายหลายอย่าง ทั้งคิดว่าถ้าตอนนี้ยังอยู่ที่โรงงานเดิม แม้จะไม่มีความสุขก็คงจะยังมีงานทำต่อไป ไม่ต้องมาเจอสภาพแบบนี้ แล้วถ้าเกิดไม่ผ่านโปรขึ้นมาจริง ๆ จะทำยังไง จะไปหางานที่ไหนทำ หรือถ้าเกิดมันว่างไปนานโดยหางานไม่ได้ล่ะ ในช่วงนั้นพระเอกจึงพัฒนาตัวเองเต็มที่ ทั้งดูซีรีส์ การ์ตูนญี่ปุ่น ฝึกการฟังเยอะ ๆ เพื่อที่จะผ่านโปร
นอกจากนี้ยังมีอีกหนึ่งกำลังใจที่ทำให้พระเอกฮึดสู้เพื่อที่จะผ่านโปรและจะได้อยู่ที่นี่ต่อ นั่นเพราะเขามีความรักกับ "สาวคนหนึ่ง" ที่ได้พบในระหว่างการอบรมพนักงาน เธอสวยถูกตาและถูกใจพระเอกเป็นอย่างมาก ทำให้พระเอกคิดว่าจะต้องผ่านโปรให้ได้เพื่อจะได้อยู่ใกล้ ๆ เธอ และพัฒนาความสัมพันธ์กับเธอต่อไป
เนื้อหาหลัก ๆ ก็จะเน้นเกี่ยวกับการเป็นล่ามมากกว่าครับ ว่าล่ามญี่ปุ่นในโรงพยาบาลเขามีการทำงานยังไง มีหลักสำคัญอะไรในการปฏิบัติหรือไม่ รองลงมาก็จะเป็นความพยายามของพระเอกในการที่จะผ่านโปร ท้ายที่สุดก็เป็นเรื่องของความรัก ซึ่ง "สาวคนหนึ่ง" นั้นผมยังไม่ได้ระบุชัดเจนว่าจะเป็นใคร อาจจะเป็นพยาบาลสาวสวยที่เข้าพร้อมกัน หรืออาจจะเป็นสาวเภสัช สาวจากแผนกไหนก็ได้ ถ้าเป็นหมอสาว ๆ สวย ๆ อาจจะมีประเด็นในเรื่องของรักต่างวัย (เพราะยังไงหมอก็ต้องอายุมากว่าเด็กจบใหม่อยู่แล้ว) รวมไปถึงในเรื่องของฐานะด้วยที่คนน่าจะยกย่องหมอมากกว่าล่าม
ถ้าให้คิดพล็อตละครเกี่ยวกับอาชีพได้ คุณจะคิดเกี่ยวกับอาชีพอะไร และเนื้อเรื่องยังไง
ถ้าให้ผมคิดพล็อตขึ้นมา ผมก็จะเอาอาชีพที่ผมทำอยู่ตอนนี้นี่แหละ คือ "ล่ามภาษาญี่ปุ่นในโรงพยาบาล" ซึ่งเหตุการณ์ส่วนใหญ่ก็จะเอามาจากประสบการณ์ที่ผมเจอนั่นแหละ แต่อาจจะแทรกในเรื่องของความรักเข้าไป (ที่ผมยังไม่มี)
เนื้อเรื่องก็อาจจะประมาณว่า มีการเท้าความไปในอดีตนิดหน่อยว่าพระเอกเป็นเด็กจบใหม่ จากสาขาวิชาภาษาญี่ปุ่นของมหาวิทยาลัยเล็ก ๆ แห่งหนึ่งที่คนทั่วไปมักคิดว่าคุณภาพการสอนไม่ค่อยดี ซึ่งมันก็มีความเป็นจริงอยู่บ้าง เพราะความรู้ของพระเอกถ้าเทียบกับเด็กจากมหา'ลัยดัง ๆ ก็ถือว่ายังด้อยกว่าหลายขุมเหมือนกัน หลังเรียนจบ พระเอกก็ไปทำงานเป็นล่ามที่โรงงานแห่งหนึ่ง (โดยที่พระเอกไม่เคยคิดเป็นล่ามมาก่อนเลยในชีวิตนี้ เพราะคิดว่าความสามารถและความหัวไวของตัวเองยังมีไม่มากพอกับงานประเภทนี้ แม้ตอนเรียนพระเอกจะเป็นคนเก่งที่สุดในห้องก็ตาม) แต่ต้องประสบปัญหาหลายอย่างในการทำงานที่โรงงานนั้น โดยเฉพาะกับเจ้านายญี่ปุ่น ทำให้พระเอกคิดอยากจะลาออกตลอดเวลา ก็ไปเจอประกาศในเว็บไซต์ของโรงพยาบาลเอกชนชื่อดังระดับประเทศแห่งหนึ่งว่ากำลังรับสมัครล่ามภาษาญี่ปุ่นในโรงพยาบาล ทั้ง ๆ ที่รู้ว่าตัวเองอาจจะมีความสามารถไม่ถึง แต่คิดว่าการแปลในโรงพยาบาลน่าจะเหมาะกับตัวเองมากกว่าในโรงงาน จึงตัดสินใจเบนเข็มไปสมัคร
เมื่อสัมภาษณ์ พระเอกก็คิดว่าตัวเองทำได้ไม่ดีนัก และคิดว่าคงไม่ได้ แต่กลับกลายเป็นว่าพระเอกผ่านการสัมภาษณ์ ซึ่งแท้จริงแล้วเป็นเพราะทางโรงพยาบาลกำลังขาดแคลนคน สุดท้ายพระเอกก็ลาออกจากโรงงานเพื่อมาทำเป็นล่ามที่นี่ ในเวลาต่อมา ก็ถึงเวลาที่พระเอกจะต้องตามดูรุ่นพี่ในการแปลคนไข้ญี่ปุ่นเคสต่าง ๆ และมาถึงจุดหนึ่งรุ่นพี่ก็เริ่มที่จะให้พระเอกลองแปลดูเองบ้าง แต่ด้วยความสามารถที่อาจจะน้อยไปสำหรับโรงพยาบาลแห่งนี้ ทำให้พระเอกทำได้ไม่ค่อยดี โดนรุ่นพี่ที่เป็นหัวหน้าวิจารณ์บ่อย ๆ จนสัญญาณที่จะไม่ผ่านโปรมันชัดขึ้นเรื่อย ๆ
ทำให้พระเอกเครียดมากในช่วงนั้น คิดมากมายหลายอย่าง ทั้งคิดว่าถ้าตอนนี้ยังอยู่ที่โรงงานเดิม แม้จะไม่มีความสุขก็คงจะยังมีงานทำต่อไป ไม่ต้องมาเจอสภาพแบบนี้ แล้วถ้าเกิดไม่ผ่านโปรขึ้นมาจริง ๆ จะทำยังไง จะไปหางานที่ไหนทำ หรือถ้าเกิดมันว่างไปนานโดยหางานไม่ได้ล่ะ ในช่วงนั้นพระเอกจึงพัฒนาตัวเองเต็มที่ ทั้งดูซีรีส์ การ์ตูนญี่ปุ่น ฝึกการฟังเยอะ ๆ เพื่อที่จะผ่านโปร
นอกจากนี้ยังมีอีกหนึ่งกำลังใจที่ทำให้พระเอกฮึดสู้เพื่อที่จะผ่านโปรและจะได้อยู่ที่นี่ต่อ นั่นเพราะเขามีความรักกับ "สาวคนหนึ่ง" ที่ได้พบในระหว่างการอบรมพนักงาน เธอสวยถูกตาและถูกใจพระเอกเป็นอย่างมาก ทำให้พระเอกคิดว่าจะต้องผ่านโปรให้ได้เพื่อจะได้อยู่ใกล้ ๆ เธอ และพัฒนาความสัมพันธ์กับเธอต่อไป
เนื้อหาหลัก ๆ ก็จะเน้นเกี่ยวกับการเป็นล่ามมากกว่าครับ ว่าล่ามญี่ปุ่นในโรงพยาบาลเขามีการทำงานยังไง มีหลักสำคัญอะไรในการปฏิบัติหรือไม่ รองลงมาก็จะเป็นความพยายามของพระเอกในการที่จะผ่านโปร ท้ายที่สุดก็เป็นเรื่องของความรัก ซึ่ง "สาวคนหนึ่ง" นั้นผมยังไม่ได้ระบุชัดเจนว่าจะเป็นใคร อาจจะเป็นพยาบาลสาวสวยที่เข้าพร้อมกัน หรืออาจจะเป็นสาวเภสัช สาวจากแผนกไหนก็ได้ ถ้าเป็นหมอสาว ๆ สวย ๆ อาจจะมีประเด็นในเรื่องของรักต่างวัย (เพราะยังไงหมอก็ต้องอายุมากว่าเด็กจบใหม่อยู่แล้ว) รวมไปถึงในเรื่องของฐานะด้วยที่คนน่าจะยกย่องหมอมากกว่าล่าม