คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 1
เรายกตัวอย่างเราได้มั้ยคะ น่าจะคล้ายๆกัน
เราเป็นเจ้าของบ้าน แต่ไม่มีชื่อลงในทะเบียนบ้านเพราะไม่สามารถลงได้เนื่องจากเป็นเจ้าบ้านหลังอื่นอยู่
เราเปิดบริษัท โดยจดทะเบียนใช้บ้านหลังนี้เป็นที่ทำการ
เราทำสัญญาเช่า โดยกรรมการบริษัทเป็นผู้เช่า กับเจ้าของบ้าน คือเราเอง (เซนต์ทั้งผู้เช่าและผู้ให้เช่า)
ค่าน้ำค่าไฟ เป็นชื่อเราซึ่งเป็นเจ้าของบ้าน แต่ผู้จ่ายคือ บริษัท (ตรงนี้เอาหนังสือรับรองบริษัท พร้อมบัตรประชาชน
ซึ่งกรรมการมีอำนาจ กับเจ้าบ้าน คือใบเดียวกัน) ไปที่ทำการไฟฟ้า และน้ำประปา เค้าจะลงในใบกำกับภาษีและใบเสร็จรับเงิน
ซึ่งสามารถมาลงเป็นค่าใช้จ่ายบริษัทได้ค่ะ
อ้างอิงจากของเรานะคะ เพื่อเป็นแนวทาง
เราเป็นเจ้าของบ้าน แต่ไม่มีชื่อลงในทะเบียนบ้านเพราะไม่สามารถลงได้เนื่องจากเป็นเจ้าบ้านหลังอื่นอยู่
เราเปิดบริษัท โดยจดทะเบียนใช้บ้านหลังนี้เป็นที่ทำการ
เราทำสัญญาเช่า โดยกรรมการบริษัทเป็นผู้เช่า กับเจ้าของบ้าน คือเราเอง (เซนต์ทั้งผู้เช่าและผู้ให้เช่า)
ค่าน้ำค่าไฟ เป็นชื่อเราซึ่งเป็นเจ้าของบ้าน แต่ผู้จ่ายคือ บริษัท (ตรงนี้เอาหนังสือรับรองบริษัท พร้อมบัตรประชาชน
ซึ่งกรรมการมีอำนาจ กับเจ้าบ้าน คือใบเดียวกัน) ไปที่ทำการไฟฟ้า และน้ำประปา เค้าจะลงในใบกำกับภาษีและใบเสร็จรับเงิน
ซึ่งสามารถมาลงเป็นค่าใช้จ่ายบริษัทได้ค่ะ
อ้างอิงจากของเรานะคะ เพื่อเป็นแนวทาง
แสดงความคิดเห็น
กรณีแบ่งบ้านให้เช่า ขอปรึกษาเกี่ยวกับการคิดค่าน้ำค่า ค่าไฟ และภาษีค่ะ
นาย ก. มีชื่อเป็นเจ้าของบ้าน (แต่ไม่ได้มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน) มิเตอร์น้ำและไฟของบ้านเป็นเชื่อ นาย ก. ทั้งหมด จากนั้นได้ร่วมหุ้นกับน้องชาย เปิดบริษัทที่บ้าน (โดยมี นาย ก. และน้องชายเป็นกรรมการ ซึ่งน้องชายมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน และได้ใช้บ้านหลังนี้ เป็นที่อยู่อาศัยด้วย) ถ้ามีการทำสัญญาเช่าแบ่งพื้นที่ในบ้านบางส่วนจดทะเบียนบริษัท โดยไม่ได้ติดมิเตอร์น้ำไฟแยก รบกวนสอบถามว่า
กรณี 1 คิดค่าเช่ารวมค่าน้ำไฟอยู่ด้วย ตอนที่ นาย ก. ยื่นเสียภาษีรายได้บุคคลธรรมดาจากค่าเช่า จะสามารถนำบิลค่าน้ำไฟมาคิดเป็นค่าใช้จ่ายตามจริงได้หรือไม่ (เป็นค่าน้ำไฟทั้งหมด จากที่น้องชายใช้เอง และจากบริษัทใช้)
กรณี 2 บริษัท สามารถนำสัญญาเช่าไปขอเปลี่ยนชื่อผู้ใช้ไฟฟ้า เป็นชื่อบริษัท เพื่อที่จะเสียค่าไฟเองทั้งหมดได้หรือไม่
หรือมีวิธีคิดค่าน้ำไฟ อย่างไรได้บ้างคะ
ขอบคุณมากค่ะ