เกริ่นนำกันก่อนเลยครับว่าเราเจอ "พี่เรย์ แมคโดนัล"

สำหรับเพื่อนที่พลาดตอนที่ 1 และ 2 นะครับ

อากาศที่นี่ตอนนี้ ดีมากๆ 20'-25' เหมาะแก่การนอน มากๆ ม่ายยยยยยยย ตื่นๆ
จขกท ตั้งเป้า ต้องไปตลาดเช้ากับร้านครัวซองที่เค้าว่ากันว่าต้องไปกิน “Le Banneton Cafe French Bakery”
เพื่อนอีกคนบอกต้องไปร้านกาแฟ ที่ชื่อ “๋Joma(โจมา)” โอเคจัดไป
วันนี้เราตั้งใจจะเอาไปใช้แค่สองคัน โดยซ้อนกันไปเพื่อประหยัดค่าน้ำมันกับค่าที่จอด และที่สำคัญเพื่อการถ่ายรูประหว่างเดินทางในหลวงพระบาง
เริ่มต้นที่ตลาดสด อืมมมม ของที่นี่ขายกันสดๆ จริงๆ ปลาสดๆ นกสดๆ เรียกว่าไม่เหมือนบ้านเราพอสมควร
ทางเข้าตลาดดูเล็กๆ เหมือนบ้านเรา แบบนี้นะครับ
เดินชมเอาบรรยากาศกันพอสมควร ก็ไปต่อครับ
ร้าน Le Banneton Cafe French Bakery จะเลยขึ้นไปจากตลาดสดประมาณ 400 เมตรได้
ไปถึงร้านครัวซอง โชคดีมากๆ ไฟดับ เมนูเกินกว่าครึ่งทำไม่ได้ จบเลย -*- กินได้แต่ครัวซองที่เป็นไฮไลท์ของร้าน
โอเค แต่ก็ไม่เป็นไร ก็ดี จะได้ไปกินกาแฟกับขนมที่ร้าน”Joma(โจมา)“ แทน
ร้านกาแฟ “Joma(โจมา)” จะอยู่ถนนตรงข้ามกับฝั่งตลาด ซึ่งตอนนี้เราอยู่คนละฝั่งกับร้าน Joma ถนนจะเป็น One way เราเลยต้องวนรถไปถนนเลียบแม่น้ำโขง
ขี่ไปได้นิดนึง พี่ในกลุ่มคนนึง อยู่ๆ ก็ตะโกนว่า "เห้ยๆ พี่เรย์ " ทุกคนก็งง ใครวะพี่เรย์ ไหนวะ
เลยจอด หันไปดู แล้วก็เจอพี่คนนึงที่เป็น แรงบันดาลใจในหลายเรื่องราวของการเดินทาง รวมถึงการที่ทำให้มีทริปลาว ในครั้งนี้
เท่านั้นแหละครับ วิ่งครับ เพราะทุกคนอยากเจอพี่เค้ามาก
“
พี่เรย์ แมคโดนัล” Idol and Icon ในการเดินทางของพวกเราครับ
ตัวจริงหล่อเท่ห์ มากๆ พูดคุยกับพี่เค้าเรื่องการเดินทาง
ที่พวกเราพยายามตามรอย รายการ TT RIDER รายการของพี่เค้า
เราขอถ่ายรูปกับพี่เรย์ เป็นความประทับใจ(สุดๆ แล้ว)
ตื่นเต้นกับการเจอพี่เรย์ เราก็ไปต่อตามเป้าหมายที่วางไว้คือ
ร้านกาแฟ “Joma(โจมา)”
อากาศเย็นๆ ในตอนสายๆ กับกาแฟ ร้อนๆ สักแก้ว บรรยากาศในเมืองหลวงพระบาง เอาใจเราไปแล้ว
กาแฟรสชาติดี ครับ เบเกอรี่ไม่ได้ลอง เพราะมัวแต่นั่งเม้ามอย กับ การเดินทางที่กำลังจะต้องเดินทางต่อ
ตอนแรกเราตั้งเป้าว่าจะไป เมืองงอย “หนองเขียว(Nong Khiaw)” Google Map บอกระยะทางประมาณ 141 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง ซึ่งด้วยการไปแบบไม่คุ้นทางอาจจะต้องบวกเวลาเพิ่มเข้าไป
เรามานั่งคิดกันจริงๆ ว่าเราสามารถไปได้นะ แต่เราอาจจะเหนื่อยไป ไม่ได้ท่องเที่ยวพักผ่อนเลย
กลายเป็นทริปขี่ไปนอน ตื่นก็ต้องออกเดินทางต่อ และก็คิดว่าเวลาอาจจะไม่พอ
เราเลยเลือกที่จะนอนต่อที่หลวงพระบางอีกหนึ่งคืน น่าจะดีกว่า
สรุปได้แบบนั้น ช่วงเที่ยงๆ เราจะไปกินข้าวกับเล่นน้ำ ที่น้ำตกที่ “ตาดกวงสี” กัน
เค้าว่ากันว่าน้ำตกสวยมาก “Must see”
สรุปวันนี้เราจะเอารถไปแค่ 2 คัน เพื่อจะได้เก็บภาพจากมุมคนซ้อนบ้าง พร้อมเราก็ออกเดินทางไปน้ำตก ตอนสัก 11 โมง
ได้ถ่ายรูปวัดกับอาคารมาแค่นิดหน่อยครับ เค้าอนุรักษ์ไว้ได้อย่างดีครับ ส่วนนึงก็เพราะ ยูเนสโก้ จะเข้ามาดูแลจัดการ เพราะเป็นเมืองมรดกโลก
ระยะทางประมาณ 20 กิโลกว่าๆ จากในเมืองหลวงพระบาง ก็ประมาณ 30-40 นาที ขี่ไปเพลินๆ ถนนดีครับ มีหลุมบ้าง แต่เรียกว่าดีใช้ได้เลย ทางจะผ่านหมูบ้านชาวเขา สามารถแวะซื้อของเดินช๊อปปิ้ง ในหมู่บ้านได้เลยครับ

คลิปการเดินทางตอนไปน้ำตกครับ
มาถึงน้ำตกต้องเสียค่าเข้าด้วยนะครับ สำหรับอาหาร จะซื้อเข้าไปหรือจะนั่งกินที่ร้านเลยก็ได้ครับ
กลุ่มเราเลือกซื้อเข้าไปกิน จริงๆ อยากให้ไปส่งแต่ของเราเป็นซิม ดาต้า ไม่มีเบอร์ เลยต้องรอ
**ร้านเค้ามีบริการส่งนะครับ กรณีเราไม่อยากรอเค้าทำอาหาร เดินเข้าไปได้เลยเพียงแต่ ต้องนัดหรือให้เบอร์โทรเค้าไป**
น้ำตกที่นี่เดินง่ายๆ ทางไม่ชัน เดินสบายๆ น้ำเขียวๆ มรกต สไตล์ บลูลากูน มีจุดให้เล่นน้ำอยู่จุดเดียว ครับ
หาจุดนั่งกินได้ก็นั่งกินข้าวชมน้ำตกกันไปเพลินๆ กินเสร็จสักพัก ก็ขอลงเล่นน้ำสักนิดนึง ถึงแม้จะน้ำจะเย็นพอสมควรก็เถอะ

พักเล่นน้ำกันประมาณ 1 ชั่วโมงก็ออกจากน้ำตก
พอเป็นคนซ้อนมันก็สนุกไปอีกแบบนะครับ
ขากลับเราจะขึ้นไปดูวิวเมืองหลวงพระบาง ที่ "พระธาตุจอมสี" ซึ่งอยู่กลางใจเมืองหลวงพระบาง(เป็นเนินภูเขา) จะเห็นวิวโดยรอบของเมือง โดยต้องเดินขึ้นไปทางขึ้นที่เป็นบันได ค่อนข้างจะชันพอสมควร กว่าจะตะเกียกตะกายขึ้นไปได้ ก็คุ้มค่ากับวิวตอนช่วงพระอาทิตย์กำลังตกไปแล้ว พอดี
**บันไดทางเดินขึ้นลงไม่มีไฟนะครับ ต้องระวังด้วย**
กลับที่พักเปลี่ยนชุด พร้อมไปเดินตลาดมึด(ตลาดนัดกลางคืน)
ที่นี่จอดรถมีค่าจอดเกือบทุกจุดนะครับ (3,000 กีบ)
เริ่มต้นมือเย็น ด้วยเฝอ ที่อยู่ตรง สี่แยกไฟแดงทางเข้าตลาด รสชาติดีครับ แนะนำๆ 15,000 กีบ ต่อชาม ครับ
อิ่มท้องเสร็จก็ได้เวลาเดิน ช่วงแรกๆ เป็นร้านอาหาร ช่วงหลังๆ ก็เป็นร้านขายของทั่วๆ ไป ครับ(คล้ายๆ ถนนคนเดินที่เชียงใหม๋เลยครับ)
เราเดินกันได้พักนึง เลือกไปขี่รถชมวิวเมือง ตอนกลางคืนดีกว่า(อีกแล้ว) อยากรู้ว่าคนที่นี่กลางคืนเค้าไปไหนทำอะไรกัน
ได้ชื่อร้านมา 2-3 ร้าน เมืองซวง , ดาวฟ้า , ยูโทเปีย สองร้านแรกเป็นคนที่นี่ไปกัน ร้านสุดท้ายส่วนใหญ่จะเป็นฝรั่งที่จะไปกัน
ร้านอื่นๆ ก็มีนะครับ แต่อยากไปแค่ดูๆมากกว่า เพราะพรุ่งนี้ต้องเดินทางกลับ วังเวียง ขอพักหน่อยดีกว่า เลยเลือกแค่นี้พอ
ขอเล่าแค่บรรยากาศที่ "ร้านเมืองซวง" นะครับ เพราะรู้สึกชอบ เป็นวัฒนธรรมของประเทศลาว คือการรำวง น่ารักดีครับ ไม่เคยเห็นมาก่อน
รู้สึกหิวๆ เลยแวะไปหาอะไรกินสักหน่อย ไปที่เดิมครับ แถวๆ สี่แยกตรงตลาดมึด เหลืออยู่แค่ 2 ร้าน
วาปกลับมาที่พักตอนตี1 ไปได้แค่สองร้าน ยูโทเปีย ปิดเร็วไปไม่ทัน แล้วก็จบไปอีกหนึ่งวัน
พบกันใหม่ Part4 นะครับ
Part4 หลวงพระบาง-ภูคูน-กาสี-วังเวียง-เวียงจันทร์ จะเป็นตอนจบละครับ
****************
Plan is No Plan ไปเช่ามอเตอร์ไซค์ขี่ที่ลาว 6คืน5วัน Part3
https://pantip.com/topic/35961915
Part2
https://pantip.com/topic/35964655
และทาง FB : https://www.facebook.com/WWGthailand/
อากาศที่นี่ตอนนี้ ดีมากๆ 20'-25' เหมาะแก่การนอน มากๆ ม่ายยยยยยยย ตื่นๆ
จขกท ตั้งเป้า ต้องไปตลาดเช้ากับร้านครัวซองที่เค้าว่ากันว่าต้องไปกิน “Le Banneton Cafe French Bakery”
เพื่อนอีกคนบอกต้องไปร้านกาแฟ ที่ชื่อ “๋Joma(โจมา)” โอเคจัดไป
วันนี้เราตั้งใจจะเอาไปใช้แค่สองคัน โดยซ้อนกันไปเพื่อประหยัดค่าน้ำมันกับค่าที่จอด และที่สำคัญเพื่อการถ่ายรูประหว่างเดินทางในหลวงพระบาง
เริ่มต้นที่ตลาดสด อืมมมม ของที่นี่ขายกันสดๆ จริงๆ ปลาสดๆ นกสดๆ เรียกว่าไม่เหมือนบ้านเราพอสมควร
ทางเข้าตลาดดูเล็กๆ เหมือนบ้านเรา แบบนี้นะครับ
เดินชมเอาบรรยากาศกันพอสมควร ก็ไปต่อครับ
ร้าน Le Banneton Cafe French Bakery จะเลยขึ้นไปจากตลาดสดประมาณ 400 เมตรได้
ไปถึงร้านครัวซอง โชคดีมากๆ ไฟดับ เมนูเกินกว่าครึ่งทำไม่ได้ จบเลย -*- กินได้แต่ครัวซองที่เป็นไฮไลท์ของร้าน
โอเค แต่ก็ไม่เป็นไร ก็ดี จะได้ไปกินกาแฟกับขนมที่ร้าน”Joma(โจมา)“ แทน
ร้านกาแฟ “Joma(โจมา)” จะอยู่ถนนตรงข้ามกับฝั่งตลาด ซึ่งตอนนี้เราอยู่คนละฝั่งกับร้าน Joma ถนนจะเป็น One way เราเลยต้องวนรถไปถนนเลียบแม่น้ำโขง
ขี่ไปได้นิดนึง พี่ในกลุ่มคนนึง อยู่ๆ ก็ตะโกนว่า "เห้ยๆ พี่เรย์ " ทุกคนก็งง ใครวะพี่เรย์ ไหนวะ
เลยจอด หันไปดู แล้วก็เจอพี่คนนึงที่เป็น แรงบันดาลใจในหลายเรื่องราวของการเดินทาง รวมถึงการที่ทำให้มีทริปลาว ในครั้งนี้
เท่านั้นแหละครับ วิ่งครับ เพราะทุกคนอยากเจอพี่เค้ามาก
ตัวจริงหล่อเท่ห์ มากๆ พูดคุยกับพี่เค้าเรื่องการเดินทาง
ที่พวกเราพยายามตามรอย รายการ TT RIDER รายการของพี่เค้า
เราขอถ่ายรูปกับพี่เรย์ เป็นความประทับใจ(สุดๆ แล้ว)
ตื่นเต้นกับการเจอพี่เรย์ เราก็ไปต่อตามเป้าหมายที่วางไว้คือ
ร้านกาแฟ “Joma(โจมา)”
อากาศเย็นๆ ในตอนสายๆ กับกาแฟ ร้อนๆ สักแก้ว บรรยากาศในเมืองหลวงพระบาง เอาใจเราไปแล้ว
กาแฟรสชาติดี ครับ เบเกอรี่ไม่ได้ลอง เพราะมัวแต่นั่งเม้ามอย กับ การเดินทางที่กำลังจะต้องเดินทางต่อ
ตอนแรกเราตั้งเป้าว่าจะไป เมืองงอย “หนองเขียว(Nong Khiaw)” Google Map บอกระยะทางประมาณ 141 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง ซึ่งด้วยการไปแบบไม่คุ้นทางอาจจะต้องบวกเวลาเพิ่มเข้าไป
เรามานั่งคิดกันจริงๆ ว่าเราสามารถไปได้นะ แต่เราอาจจะเหนื่อยไป ไม่ได้ท่องเที่ยวพักผ่อนเลย
กลายเป็นทริปขี่ไปนอน ตื่นก็ต้องออกเดินทางต่อ และก็คิดว่าเวลาอาจจะไม่พอ
เราเลยเลือกที่จะนอนต่อที่หลวงพระบางอีกหนึ่งคืน น่าจะดีกว่า
สรุปได้แบบนั้น ช่วงเที่ยงๆ เราจะไปกินข้าวกับเล่นน้ำ ที่น้ำตกที่ “ตาดกวงสี” กัน
เค้าว่ากันว่าน้ำตกสวยมาก “Must see”
สรุปวันนี้เราจะเอารถไปแค่ 2 คัน เพื่อจะได้เก็บภาพจากมุมคนซ้อนบ้าง พร้อมเราก็ออกเดินทางไปน้ำตก ตอนสัก 11 โมง
ได้ถ่ายรูปวัดกับอาคารมาแค่นิดหน่อยครับ เค้าอนุรักษ์ไว้ได้อย่างดีครับ ส่วนนึงก็เพราะ ยูเนสโก้ จะเข้ามาดูแลจัดการ เพราะเป็นเมืองมรดกโลก
ระยะทางประมาณ 20 กิโลกว่าๆ จากในเมืองหลวงพระบาง ก็ประมาณ 30-40 นาที ขี่ไปเพลินๆ ถนนดีครับ มีหลุมบ้าง แต่เรียกว่าดีใช้ได้เลย ทางจะผ่านหมูบ้านชาวเขา สามารถแวะซื้อของเดินช๊อปปิ้ง ในหมู่บ้านได้เลยครับ
มาถึงน้ำตกต้องเสียค่าเข้าด้วยนะครับ สำหรับอาหาร จะซื้อเข้าไปหรือจะนั่งกินที่ร้านเลยก็ได้ครับ
กลุ่มเราเลือกซื้อเข้าไปกิน จริงๆ อยากให้ไปส่งแต่ของเราเป็นซิม ดาต้า ไม่มีเบอร์ เลยต้องรอ
**ร้านเค้ามีบริการส่งนะครับ กรณีเราไม่อยากรอเค้าทำอาหาร เดินเข้าไปได้เลยเพียงแต่ ต้องนัดหรือให้เบอร์โทรเค้าไป**
น้ำตกที่นี่เดินง่ายๆ ทางไม่ชัน เดินสบายๆ น้ำเขียวๆ มรกต สไตล์ บลูลากูน มีจุดให้เล่นน้ำอยู่จุดเดียว ครับ
หาจุดนั่งกินได้ก็นั่งกินข้าวชมน้ำตกกันไปเพลินๆ กินเสร็จสักพัก ก็ขอลงเล่นน้ำสักนิดนึง ถึงแม้จะน้ำจะเย็นพอสมควรก็เถอะ
พักเล่นน้ำกันประมาณ 1 ชั่วโมงก็ออกจากน้ำตก
ขากลับเราจะขึ้นไปดูวิวเมืองหลวงพระบาง ที่ "พระธาตุจอมสี" ซึ่งอยู่กลางใจเมืองหลวงพระบาง(เป็นเนินภูเขา) จะเห็นวิวโดยรอบของเมือง โดยต้องเดินขึ้นไปทางขึ้นที่เป็นบันได ค่อนข้างจะชันพอสมควร กว่าจะตะเกียกตะกายขึ้นไปได้ ก็คุ้มค่ากับวิวตอนช่วงพระอาทิตย์กำลังตกไปแล้ว พอดี
กลับที่พักเปลี่ยนชุด พร้อมไปเดินตลาดมึด(ตลาดนัดกลางคืน)
ที่นี่จอดรถมีค่าจอดเกือบทุกจุดนะครับ (3,000 กีบ)
เริ่มต้นมือเย็น ด้วยเฝอ ที่อยู่ตรง สี่แยกไฟแดงทางเข้าตลาด รสชาติดีครับ แนะนำๆ 15,000 กีบ ต่อชาม ครับ
อิ่มท้องเสร็จก็ได้เวลาเดิน ช่วงแรกๆ เป็นร้านอาหาร ช่วงหลังๆ ก็เป็นร้านขายของทั่วๆ ไป ครับ(คล้ายๆ ถนนคนเดินที่เชียงใหม๋เลยครับ)
เราเดินกันได้พักนึง เลือกไปขี่รถชมวิวเมือง ตอนกลางคืนดีกว่า(อีกแล้ว) อยากรู้ว่าคนที่นี่กลางคืนเค้าไปไหนทำอะไรกัน
ได้ชื่อร้านมา 2-3 ร้าน เมืองซวง , ดาวฟ้า , ยูโทเปีย สองร้านแรกเป็นคนที่นี่ไปกัน ร้านสุดท้ายส่วนใหญ่จะเป็นฝรั่งที่จะไปกัน
ร้านอื่นๆ ก็มีนะครับ แต่อยากไปแค่ดูๆมากกว่า เพราะพรุ่งนี้ต้องเดินทางกลับ วังเวียง ขอพักหน่อยดีกว่า เลยเลือกแค่นี้พอ
ขอเล่าแค่บรรยากาศที่ "ร้านเมืองซวง" นะครับ เพราะรู้สึกชอบ เป็นวัฒนธรรมของประเทศลาว คือการรำวง น่ารักดีครับ ไม่เคยเห็นมาก่อน
รู้สึกหิวๆ เลยแวะไปหาอะไรกินสักหน่อย ไปที่เดิมครับ แถวๆ สี่แยกตรงตลาดมึด เหลืออยู่แค่ 2 ร้าน
วาปกลับมาที่พักตอนตี1 ไปได้แค่สองร้าน ยูโทเปีย ปิดเร็วไปไม่ทัน แล้วก็จบไปอีกหนึ่งวัน
Part4 หลวงพระบาง-ภูคูน-กาสี-วังเวียง-เวียงจันทร์ จะเป็นตอนจบละครับ