[CR] ทริปตามล่าหาแสงเหนือ เที่ยวสบายสไตล์คุณเคท

กระทู้รีวิว
เมื่อปลายปีที่ผ่านมาคุณเคทมีความคิดอยากจัดทริปในฝันขึ้นสักทริปนึงก่อนสิ้นปี  เพื่อให้ทริปนี้เป็นทริปพิเศษเก็บไว้ในความประทับใจของผู้ร่วมเดินทางตราบนานเท่านาน    จึงได้ประกาศออกตามหาผู้ร่วมทริปโดยจุดหมายสำคัญในทริปนี้  นอกเหนือจากการล่าแสงเหนือที่ต้องอาศัยโชคร่วมกับเวลาที่พอเหมาะพอเจาะด้วย    แล้วที่ไหนล่ะที่เป็นที่เหมาะสมที่สุดสำหรับทริปนี้

รัสเซียเป็นประเทศที่มั่งคั่งด้วยความสวยงามของแหล่งท่องเที่ยวเก่าแก่ อากาศหนาวเย็น หิมะโปรยปรายสวยงาม เรดสแควร์ที่เลื่องชื่อว่ามีความสวยงามอลังการ  อาหารการกินยังอุดมสมบูรณ์ ความมั่งคั่งของสถาปัตยกรรม  และธรรมชาติตระกานตา นอกเหนือจากนี้ความพิเศษสุดที่รัสเซียมีคือแสงเหนือ หรือออโรร่าที่สวยงามไม่แพ้อีก 9 ประเทศในยุโรปและแคนาดาเลย แถมในประเทศนี้พวกเราคนไทยยังจะได้รับการต้อนรับเป็นพิเศษ เพราะไม่ต้องขอวีซ่าและสามารถพำนักได้ยาวถึง 30 วันอีก   เรื่องสำคัญอีกเรื่องที่ดี๊ ดีของเราคนไทย คือ ค่าเงินของรัสเซียถูกกว่าเมืองไทยเกือบครึ่งเชียวน้า  เปรียบเทียบให้เห็นภาพง่ายๆ ก็คือ 1 รูเบิ้ล = 0.57 บาททีเดียวเชียวนะคะ   และเรื่องนี้แหละที่ทำให้คุณเคทตัดสินใจเลือกรัสเซียเป็น destination หลักสำหรับทริปสำคัญทริปนี้ของพวกเรา

คุณเคทจึงได้ประกาศหาเพื่อนร่วมทริปช่วงกลาง พ.ย. เพื่อเดินทางไป 24-31 ธ.ค. 2559 ที่ผ่านมา

รัสเซีย..เป็นหนึ่งในประเทศมหาอำนาจที่มีความสวยงาม เก็บซ่อนเร้นศิลปะวิทยาการอันวิจิตรไว้ยาวนานตั้งแต่ยุคสหภาพโซเวียต  จากการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองครั้งใหญ่ของรัสเซีย โดยนายกอบาชอฟ  ทำให้รัสเซียเพิ่งจะมาเปิดประตูอ้าแขนได้ต้อนรับนักท่องเที่ยวให้ไปเยี่ยมเยือนเมื่อปี 1990 นี้เอง  การเที่ยวรัสเซียด้วยตัวเองนั้นในช่วงเวลาที่ผ่านมาเป็นเรื่องที่ยากมากแต่มาถึงยุคดิจิตอลในศตวรรษ 2000 นี้  เปลี่ยนแปลงความน่ากังขาแบบเดิมๆ ของนักท่องเที่ยวเป็นความเย้ายวนใจให้ไปรู้จักและทักทาย

การเดินทางไปรัสเซียง่ายมากๆ ตั้งแต่การเดินทางระหว่างประเทศ ในประเทศ แม้แต่การจองตั๋วรถไฟในประเทศรัสเซียเองก็ตาม แค่คลิ้กหาข้อมูล www.mydiytrip.com ก็สามารถจองตั๋ว จองที่พัก แม้แต่รถเช่าขับในรัสเซียได้เลย 24 ชั่วโมง   เพียงแต่เราต้องมีการเตรียมตัวและการวางแผนที่ดีเท่านั้น  (ยินดีรับปรึกษาหากติดขัดเรื่องไหนตอนวางแผนนะคะ)
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ

เราคนไทยได้รับข้อยกเว้นไม่ต้องขอวีซ่าเข้าประเทศรัสเซีย แถมพำนักอยู่ได้ถึง 30 วัน รู้ไหมคะว่าอภิสิทธิ์ที่เราชาวไทยได้รับนี้สืบเนื่องมาจากความสัมพันธ์อันดีระหว่างไทยและรัสเซียที่มีมาอย่างยาวนานตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 กับพระเจ้าซาร์นิโคลัสที่ 2 แห่งรัสเซีย ตั้งแต่ครั้งทรงเสด็จไปเยือนรัสเซีย 100 กว่าปีที่แล้วเลยนะคะ   อีกทั้งพระเจ้าซาร์นิโคลัสที่ 2 ซึ่งในเวลานั้นทรงดำรงฐานะพระราชโอรสก็ได้เคยเสด็จมาพำนักในสยามตามคำเชิญของพระองค์ล้นเกล้ารัชกาลที่ 5 แล้วพระเจ้าชาร์นิโคลัสที่ 2 ก็ได้รับการปฏิบัติดูแลอย่างสมพระเกียรติ น่าภูมิใจในพระปรีชาสามารถของพระมหากษัตริย์ของไทยทุกพระองค์เลยนะคะ

หลังจากได้ประกาศหาผู้ร่วมเดินทาง สรุปแล้วคุณเคทมีผู้ร่วมเดินทาง 13 ท่านค่ะ  รวมตัวของคุณเคทกับเจ้าลูกชายตัวดีผู้เดินทางทั้งหมดคือ 15 คน ทีนี้ก็นั่งนับวันรอให้ถึงวันเดินทางสักที  กว่าอะไรๆจะลงตัวก็เหนื่อยน่าดู เพราะทั้งต้องจองตั๋วเครื่องบิน ที่พัก ทัวร์ต่างๆมากมาย  


สรุปแผนเดินทางตามนี้เลย ทั้งหมดนี้ใช้งบประมาณ 40,700 บาทต่อคนเท่านั้น แถมไม่ต้องขอวีซ่า พร้อมการเดินทางที่สะดวกสบายมากๆ
วันที่1 กรุงเทพ-มอสโก ถึงมอสโกในเวลา 9.30 น. เที่ยวชมสถาปัตยกรรมที่สวยงามของสถานีรถไฟสวยที่สุดในโลกของมอสโก
วันที่2 มอสโค-มูร์มังส์ก : เที่ยวชมจุดชมวิวสวยๆในมูร์มังส์ก ชมเรือตัดน้ำแข็งพลังงานนิวเคลียรส์ลำแรกของโลก
วันที่3 มูร์มังส์ก : เช้าเที่ยวฟาร์มสุนัขไซบีเรียน ฮัสกี้ บ่าย เที่ยวหมู่บ้านซามิ สัมผัสชีวิตของชนเผ่าโบราณในขั้วโลกเหนือของรัสเซีย
วันที่4 มูร์มังส์ก : เที่ยวสกีรีสอร์ท ขับสโนว์โมบิล ตกปลาน้ำแข็งเต็มวัน
วันที่5 มูร์มังส์ก - มอสโก
วันที่6 มอสโก  ชมพระราชวังเคลมลิน เดินเที่ยวจตุรัสแดง ช้อปปิ้งห้างกุม ชมสถาปัตยกรรมมากมายที่น่าหลงไหลของกรุงมอสโก
วันที่7 มอสโก - กรุงเทพ

เอาล่ะเรามาเริ่มกันเลยนะคะ  อนุญาตให้ตามรอยได้ตามสบายเลยนะคะ  ลองมาติดตามดูกันค่ะ

วันที่ 1 กรุงเทพ-มอสโก พวกเราที่จะเดินทางไปพร้อมกันมีทั้งหมด 8 ท่าน  ที่เหลือเรานัดเจอกันที่มูร์มังส์ก  สายการบินที่เราเลือกใช้ คือ Uzbekistan Airways เที่ยวบิน HY534 เวลา 20:40 น. ซึ่งต้นทุนค่าตั๋วคนละ 20,500 บาท ใช้เวลาในการเดินทาง 13 ชม. จริงๆบินแค่ 7 ชั่วโมงแต่ต้องรอต่อเครื่อง 6 ชั่วโมงที่ทาชเคนต์ อุซเบกิสถาน ก็เป็นอะไรที่รอได้นะคะ  เพราะเมื่อเปรียบเทียบค่าตั๋วบินตรงแล้วก็รอได้ค่ะ แถมยังได้ทานอาหาร 2 มื้อหลักของสายการบิน  ได้แวะพักผ่อนเท้า รับสัมผัสบรรยากาศอุซเบกิสถานก็รู้สึกว่าไม่เลวเลยทีเดียวล่ะค่ะ  ใช่ไหมคะ  ใครเห็นด้วยยกมือขึ้น 555  มาถึงตรงนี้อยากเม้าส์การบินแห่งชาติของเราที่โฆษณานัก โฆษณาหนาว่าราคาพิเศษบินตรงสู่มอสโก  พอเคทเข้าไปดูนะคะ  ราคาก็ไม่ได้ดี แถมเวลาไม่ได้เรื่องอีกด้วย  ถ้าจะเลือกเวลาดีๆที่เครื่องออกตอนเที่ยงคืน ก็ราคาแม่เจ้า 40,000-60,000 บาท  ส่วนตัวเคทก็ไม่ชอบพวกพี่แอร์ สจ๊วตที่ส่วนใหญ่ดูแลฝรั่งซะดีมากๆๆๆ   แต่สำหรับพวกเราคนไทยพอไปใช้บริการกลับดูแลเราซะเป็นชนชั้น 2 ของเครื่องบินเลย    พูดมาถึงตรงนี้พาลให้นึกถึงประสบการณ์แย่ๆจากบริการสายการบินแห่งชาติของเราแล้วก็เดือดปุดๆ หลังๆขอบอกเลยว่าแทบไม่ค่อยได้ใช้บริการ จริงๆต้องดูแลพวกเราคนไทยให้ดีมากกว่าฝรั่งมังค่า  ฝากไปบอกผู้บริหารให้ด้วยแล้วกันถ้าใครรู้จัก  นักเที่ยวมืออาชีพอย่างเคทก็พร้อมจะกลับตัวกลับใจมาอุดหนุนเพื่อช่วยธุรกิจแห่งชาติของเรา  เอ้า ไม่เชื่อเอาข้อมูลมาให้ดูว่าถ้าอยากได้ราคาถูกๆต้องเลือกเวลาแบบนี้ค่ะ  เที่ยวไม่เต็มที่ แล้วราคาก็ไม่ตรงกับที่โฆษณาอ่ะนะ  บอกว่าเริ่มต้นที่ 19,xxx บาท แต่พอจริงๆก็ไม่ใช่


เอ้านอกเรื่องกันไปมากเลยนะคะ  ขอกลับเข้าเรื่องทริปคุณเคทเลยแระกันค่ะ  หลังจากที่เราผ่าน ตม. ของไทยแล้วก็เดินทางกันไปขึ้นเครื่องกันต่อเลยค่า


บรรยากาศ Duty Free ที่คาชเคนต์ อุซเบกิสถาน  คุณเคทรู้สึกว่าแพงเพราะขายเป็นเงินยูโรค่ะ  แต่ก็มีของให้เดินดูเล่นแก้เบื่อระหว่างรอเครื่องบ้างค่ะ  
ระหว่างรอก็มีบริการชาร์ทแบตเตอรี่ให้กับผู้โดยสาร เจ๋งมากๆเลยใช่ไหมคะ

ให้ดูภาพเยอะนิดนึงเพราะน่าจะไม่ค่อยมีใครเคยไปเห็นค่ะ

หลังจากที่นั่งรอ นอนรอกันสัก 6 ชั่วโมงก็ถึงเวลาขึ้นเครื่องแล้วค่ะ  ต้องเปลี่ยนเครื่องแต่งตัวกันแล้วนะคะ  เพราะอุณหภูมิเริ่มเย็น 1 องศา ที่คาชเคนต์นี้ก็มีหิมะตกด้วยค่า  

ประเทศอุซเบกิสถานนี้เคยเป็นหนึ่งในอาณานิคมของสหภาพโซเวียตเช่นกัน อยู่ในโซนเอเซียกลาง เป็นประเทศยากจน และนับถือมุสลิม อุซเบกิสถานมีจุดแข็งที่สำคัญคือเป็นตลาดขนาดใหญ่เป็นลำดับ 3 ของประเทศ CIS และมีความอุดมสมบูรณ์ทางการเกษตรโดยเฉพาะพื้นที่ตอนกลางและตอนใต้ซึ่งเป็นที่ราบลุ่ม อีกทั้งมีแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญและน่าสนใจ ได้แก่ เมือง Samarkand , Bukara และ Khiva ซึ่งเป็นเมืองเก่าแก่ที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์และอารยธรรมบนเส้นทางสายไหมในอดีต  น่าเห็นใจที่กลุ่มการเมืองเป็นผู้ครอบครองเศรษฐกิจหลักๆทำให้คนทั่วไปมีความยากจน  สังเกตุการควบคุมดูแลที่ใช้ทหารควบคุมดูแลอย่างเข้มงวด  คุณเคทถูกทหารมาขอดูภาพถ่ายในโทรศัพท์ที่ถ่ายก่อนขึ้นเครื่องด้วย แต่โชคดีที่มือถือรวนๆจึงทำให้ภาพที่เพิ่งถ่ายหน้าเครื่องบินไม่แสดงให้ทหารเห็น ก็เลยถูกปล่อยไป ไม่งั้นถูกลบ  มีน้องคนไทยที่เจอกันระหว่างเดินทาง  ได้แวะเที่ยวเมืองอุซเบกิสถาน 1 วัน เล่าว่าสถานที่ท่องเที่ยวในอุซเบกิสถานสวยงามมาก  แต่ถูกห้ามไม่ให้ถ่ายภาพ  ขนาดสถานีรถไฟยังไม่ให้ถ่าย  น้องถูกทหารเรียกดูภาพในโทรศัพท์และสั่งให้ลบออกไปด้วย  เธอเสียดายมากๆ  ประเทศนี้คนตัวไม่ใหญ่นะคะ  แต่ดุมากๆ อาจเป็นประเทศที่ผ่านประสบการณ์ด้านสงครามมามากก็เป็นได้ ทำให้เค้ามีบุคลิกแบบนี้  ก็ต้องเข้าใจเค้ากันด้วยนะคะเราเป็นนักท่องเที่ยว

ภาพพวกนี้แหละที่เกือบถูกลบโดยทหารอุซเบกิสถาน  โชคดีรอดมาได้ต้องอวดหน่อย

บรรยากาศบนเครื่องบินค่ะ ใหญ่ โต กว้างขวาง นั่งสบายค่ะ พูดเลย
มีแจกถั่วให้ทานกับเครื่องดื่มแล้วแต่ชอบ  สำหรับเคทก็ไวน์ขาวค่ะ ไม่พลาดจะได้นอนหลับสบาย แฮ่ะๆๆ
ทิศทางที่เรากำลังเดินทางไปค่ะ
สักครู่อาหารหลักก็มาเสริฟให้รับประทานอีกมื้อ  แหมประหยัดไป 2 มื้อแล้วนะคะเนี่ย

เย้บินแค่ไม่ถึง 3 ชั่วโมงก็ถึงมอสโก รัสเซียแล้วค่า หนาวมากขึ้นอีก เห็นหิมะขาวโพลนเต็มพื้นที่ ดีใจมากๆค่ะ

ถึงกรุงมอสโก 9.30 น.ตรงเวลา หลังผ่าน ต.ม. มาแล้ว (ตรงนี้ขอบอกนิดส์เพื่อให้พวกเราทุกคนเตรียมตัวเตรียมใจไว้ดีๆ คือ ต.ม. ของรัสเซียทั้งชาย หญิง สุดยอดโหด (หน้า) เวลาตรวจพาสปอร์ตใช้เวลานานมากเพราะเปิดดูทุกหน้า และตรวจเช็คอย่างละเอียดยิบ แถมถามโน่นถามนี่ เป็นภาษาอังกฤษปนภาษารัสเซีย จนพอใจคุณท่าน คุณเธอแหล่ะ ถึงจะยอมปล่อยออกไป เคทใช้เวลาอยู่เกือบชั่วโมงค่ะ สงสัยหน้าตาไม่น่าไว้วางใจ 555)  หลังจากออกมาได้สิ่งแรกที่จำเป็นสำหรับพวกเราทุกคนในยุคนี้ คือ หาซื้อ SIM card ที่บูธขายซิมในสนามบิน ให้เค้าเปลี่ยนซิมให้เราไปเลยนะคะ  สะดวกดี ราคาซิมแบบ unlimited 4G โทรได้ 200 นาที ราคา 500 รูเบิ้ล
ชื่อสินค้า:   รัสเซีย มอสโก เมอร์มานสค์ แสงเหนือ
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่