สอบถามวิธีรับมือกับลูกค้าที่ไม่พอใจ ซื้อของแล้วจะนำมาคืนแต่ทางร้านติดป้ายแล้วไม่รับคืน (เขาถ่ายรูปหน้าร้านไปด้วย)

ขอเล่ารายละเอียดก่อนแล้วกันนะคะ
เนื่องจากเราเปิดกิจการร้านขายผลิตภัณฑ์สุขภาพค่ะ ต้องมีการสอบถามข้อมูลลูกค้าด้วย แล้วเราก็เจอเหตุการณ์กับลูกค้าคนนี้ คนที่มาซื้อกับเราน่าจะเป็นแฟนค่ะ ส่วนคนที่ทำให้เกิดเหตุการณ์เป็นคือผู้ชายค่ะ แต่เขาไม่ลงซื้อเอง เราก็สอบถามคุณผู้หญิงแล้วก็ปิดการขายไปโดยปกติค่ะ

แล้วเหตุการณ์ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นค่ะ ลูกค้าคุณผู้หญิงจะนำของมาคืนเพราะบอกว่า ผู้ชายเขาบอกมาว่าไม่จำเป็นต้องใช้ตัวนี้ เราก็เลยบอกว่า ทางร้านมีกฏว่าซื้อของแล้วไม่รับเปลี่ยนหรือคืนน่ะค่ะ พร้อมกับชึ้ป้ายให้คุณผู้หญิงดูว่าทางร้านได้ติดป้ายไว้แล้ว (เพราะตอนคุยกัน เราก็รู้สึกว่าคุณผู้หญิงก็ยอมรับทุกอย่างที่เราอธิบายนะคะ ไม่ได้มีท่าทีที่จะมีเหตุการณ์นี้เกิดขึ้น) เราก็เลยประนีประนอมไปค่ะว่า ให้เปลี่ยนเป็นสินค้าอย่างอื่นแทนที่แล้วกันค่ะ ที่มีมูลค่าเท่ากันแล้วเราจะรับสินค้าตัวนั้นกลับ แล้วคุณผู้หญิงก็เลยบอกว่า เดี๋ยวให้ผู้ชายลงมาคุยเองค่ะ พอคุณผู้ชายเดินลงมา เขาจะคืนสินค้าทั้งหมดเลย แล้วจะเอาเงินคืน เราเลยบอกว่า ทางร้านมีกฏว่าไม่รับคืนหรือเปลี่ยน แต่เอาเป็นว่าให้เปลี่ยนเป็นของที่มีมูลค่าเท่ากันได้ แล้วรับคืนของอันที่เขาต้องการคืน เพราะเห็นว่าเพิ่งทำการซื้อขายกันไป

แต่แล้วผู้ชายคนนั้นเขาก็ไม่พอใจ ประชดโดยการโยนสินค้าแล้วบอกเราว่า "งั้นผมไม่เอาอะไรเลย ทั้งเงินและของ (สินค้ามูลค่ารวม 120 บาท)" เราก็อึ้งไปเลยค่ะ แล้วเขาก็เดินออกไปโดยท่าทีที่โกรธมาก (ตอนนั้นอยู่คนเดียวด้วย น่ากลัวมากจริงๆค่ะ)  เราก็ทำอะไรไม่ถูก ทั้งรู้สึกกลัวแล้วก็รู้สึกอารมณ์เสีย ปนๆ กันไปค่ะ เราคาดการณ์แล้วเคสนี้น่าจะไม่จบแบบดีเท่าไร เลยยังไม่ได้เก็บของยังตั้งไว้แบบที่เขาโยนไว้เลยค่ะ พอผ่านไปสักประมาณ 5 นาที คุณผู้หญิงก็เดินเข้ามาใหม่ค่ะ ตัวคุณผู้หญิงเขาก็บอกว่าเอาของมาก็ได้ ไม่เป็นไร เราก็อธิบายว่าเราทำตามกฏของร้านนะคะ คือไม่รับเปลี่ยนและไม่รับคืน แต่ทางร้านเห็นว่าเพิ่งซื้อไปเลยอนุโลมให้เปลี่ยนได้ค่ะ

แล้วเหตุการณ์ไม่คาดคิดเลยว่า ผู้ชายคนนั้นเขาถือมือถือขึ้นมา (ลักษณะคือถ่ายรูปแน่นอนค่ะ เพราะเขาถือมือถือแนวนอนค่ะ) เขาไม่ได้ถ่ายด้านในร้านนะคะ แต่ด้านนอกเราไม่แน่ใจ (แต่ในใจเราก็คิดว่าเขาคงถ่ายรูปไปแล้วแน่นอนค่ะ) เราก็ไม่รู้เขาถือมาขู่หรือยังไงหรือเปล่า ณ ตอนนั้นเราเลยตัดสินใจไม่ต่อความยาวสาวความยืด เลยตัดสินใจคืนเงินให้เขาค่ะ เราก็บอกว่าเราไม่อยากมีเรื่องแล้วนะ คืนเงินก็ได้ถ้าพี่ไม่พอใจขนาดนั้น แล้วเขาก็ตะโกนใส่เราค่ะว่า ใช่ไม่พอใจ ไม่พอใจมากด้วย ของยังไม่แกะเลยทำไมคืนไม่ได้ (ตอนนั้นรู้สึกทั้งโกรธและกลัวจริงๆ อารมณ์นอยด์มากพาลไม่อยากทำงานต่อเลย)

เลยอยากสอบถามค่ะว่าเพื่อนๆมีใครเคยเจอแบบนี้ไหม ทำอย่างไรกันบ้าง ในยุคสมัยนี้ที่ทุกอย่างมันง่ายรวดเร็วและทุกอย่างคิดอะไรก็อยู่บนปลายนิ้ว ตอนนี้เราก็ยังกังวลอยู่ แค่ถ้าเจอสิ่งที่เขาไปเขียนที่อาจก่อความเสียหาย เราก็กะจะแจ้งความตามกฏหมาย (เพราะเราก็ไม่รู้ว่าเขาจะไปเขียนอะไร ทำนองไหน แต่ความจริงคือมีแค่เรากะเขาสองคนเท่านั้น เพราะตอนนั้นไม่มีลูกค้าคนอื่นอยู่เลย เพราะเขารอให้เราเคลียร์ลูกค้าคนอื่นให้หมดก่อน) แต่มันไม่คุ้มกันเลยกับสิ่งที่อาจจะเสียไปกับคนประเภทนี้ เพื่อนๆก็ปลอบใจว่า เขาไม่น่าจะทำอะไรแล้ว เพราะเขาได้สิ่งที่เขาพอใจแล้วคือเงิน แล้วลูกค้าแบบนี้ก็มีไม่เยอะ แต่จากเหตุการณ์ที่เราประสบ เรารู้สึกเหมือนคนพาลเขาอาจไม่จบอย่างที่เพื่อนบอก

ใครมีวิธีดีๆ ช่วยแบ่งปันกันหน่อยนะคะ เราอยากป้องกันไม่อยากให้เกิดอีกซึ่งไม่รู้ทำได้หรือเปล่า เราก็ไม่คาดคิดว่าเหตุการณ์ดังกล่าวต้องถึงกับถ่ายรูปไว้เลยหรือคะ ทั้งๆที่เขาก็ไม่ได้ปฏิบัติตามกฏของร้าน เฮ้อ เหนื่อยใจ ซึ่งเดิมเราก็ไม่ได้ซีเรียสมากกับการคืนของ แต่เนื่องจากเป็นสินค้าที่มีลักษณะการเก็บที่ต้องรักษาอุณหภูมิด้วย การรับคืนโดยที่เราไม่สามารถตรวจสอบการเก็บได้ อาจมีผลต่อประสิทธิภาพของสินค้าได้ค่ะ

ขอบคุณสำหรับคำแนะนำค่ะ
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่