สวัสดีปีใหม่คะทุกท่านที่เข้ามาอ่าน
ปีใหม่ทั้งทีกำลังคิดอยู่ว่าจะตั้งกระทู้เรื่องอะไร
ก็เลยนึกขึ้นได้ว่ามองย้อนกลับไปแล้ว มีอะไรที่ตัวเองได้พัฒนาขึ้นบ้าง
สิ่งหนึ่งที่เห็นได้ชัดคือ ตัวของเราเองได้พัฒนาด้านการใช้ภาษาขึ้นมาก
ด้วยหน้าที่การงานที่มีภาษาเป็นส่วนเกี่ยวข้อง
หลังจากเรียนจบมาเราไม่ได้ทำงานออฟฟิท
เราหันย้อนกระแสสังคมเพื่อนๆที่จบปริญญาตรี
เรามาเป็นพนักงานนวดแผนโบราณ
เรียกง่ายๆหมอนวดทั่วไปนี่แหล่ะ
หลังจากเรียนจบป.ตรีเราท้อมากกับความที่เราต้องไปสมัครงานต่างๆ เพื่อให้เค้าเรียกเรา จนเกิดอาการไม่อยากออกจากบ้านกันเลย
อายที่ใครต้องมาถามว่าได้งานยัง
เราเลยหนีปัญหาจึงไปเรียนนวดแผนไปได้ใบ150ชั่วโมง ทีนี้ก้อวิ้งเข้าร้านต่างๆ ไปเทสมือ
จนได้ร้านแรก ร้านแรกทำในห้างอยู่กะเค้ามา10เดือน ในระหว่าง10เดือนก้อวิ่งโล่สองราชการ อ่านหนังสือบ้างไม่อ่านบ้าง สอบจนหน่อย ในช่วงปีแรกที่ทำงานนวดไปด้วย
.
หลังจากอิ่มตัวกับร้านแรก ส่วนมากจะเป็นลูกค้าคนไทย การใช้ภาษาจึงไม่ไปไหนเลย ฟังไม่เข้าใจ อ่านไม่ได้
ต่อมามีโอกาสได้ไปเที่ยวสถานที่หนึ่ง นักท่องเที่ยวเยอะมาก เราเลยลองเข้าไปขอสมัคร เทสมือผ่านก้อได้เป็นพนักงานเลย
จึงเป็นโอกาสที่เราใช้ภาษาเต็มที่
และไม่อายที่จะทักทายก่อน สทนาเรื่อยๆ
เราเริ่มฟังอออก อ่านออก และทำความเข้าใจกับภาษาต่างๆมากขึ้น
.
เราบรรยายเรื่องไม่เก่ง แต่จะสรุปสั้นๆคือ
ถ้าเราได้อยู่กับร่วมสังคมที่เค้าใช้ภาษาแบบไม่อาย กล้าที่จะออกเสียงกล้าจะพูด เราจะภูมิใจและเกิดการอยากที่จะพัฒนา เพราะที่ร้านคนแก่ หนุ่มสาว สำเนียงไม่ได้เหมือนเจ้าของภาษา แต่ทุกคนก้อเข้าใจและสนุกกับการใช้ภาษาในการสื่อสารค่ะ ถามว่าทุกวันนี้ขั้นเทพยัง ขอบอกเลยว่าเปอร์เซนต์การใช้ภาษาของเราจาก25%จนวันนี้50%และจะอัพ%ไปเรื่อยๆคะ ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่านคะ
ประสบการณ์การใช้ภาษาอังกฤษ
ปีใหม่ทั้งทีกำลังคิดอยู่ว่าจะตั้งกระทู้เรื่องอะไร
ก็เลยนึกขึ้นได้ว่ามองย้อนกลับไปแล้ว มีอะไรที่ตัวเองได้พัฒนาขึ้นบ้าง
สิ่งหนึ่งที่เห็นได้ชัดคือ ตัวของเราเองได้พัฒนาด้านการใช้ภาษาขึ้นมาก
ด้วยหน้าที่การงานที่มีภาษาเป็นส่วนเกี่ยวข้อง
หลังจากเรียนจบมาเราไม่ได้ทำงานออฟฟิท
เราหันย้อนกระแสสังคมเพื่อนๆที่จบปริญญาตรี
เรามาเป็นพนักงานนวดแผนโบราณ
เรียกง่ายๆหมอนวดทั่วไปนี่แหล่ะ
หลังจากเรียนจบป.ตรีเราท้อมากกับความที่เราต้องไปสมัครงานต่างๆ เพื่อให้เค้าเรียกเรา จนเกิดอาการไม่อยากออกจากบ้านกันเลย
อายที่ใครต้องมาถามว่าได้งานยัง
เราเลยหนีปัญหาจึงไปเรียนนวดแผนไปได้ใบ150ชั่วโมง ทีนี้ก้อวิ้งเข้าร้านต่างๆ ไปเทสมือ
จนได้ร้านแรก ร้านแรกทำในห้างอยู่กะเค้ามา10เดือน ในระหว่าง10เดือนก้อวิ่งโล่สองราชการ อ่านหนังสือบ้างไม่อ่านบ้าง สอบจนหน่อย ในช่วงปีแรกที่ทำงานนวดไปด้วย
.
หลังจากอิ่มตัวกับร้านแรก ส่วนมากจะเป็นลูกค้าคนไทย การใช้ภาษาจึงไม่ไปไหนเลย ฟังไม่เข้าใจ อ่านไม่ได้
ต่อมามีโอกาสได้ไปเที่ยวสถานที่หนึ่ง นักท่องเที่ยวเยอะมาก เราเลยลองเข้าไปขอสมัคร เทสมือผ่านก้อได้เป็นพนักงานเลย
จึงเป็นโอกาสที่เราใช้ภาษาเต็มที่
และไม่อายที่จะทักทายก่อน สทนาเรื่อยๆ
เราเริ่มฟังอออก อ่านออก และทำความเข้าใจกับภาษาต่างๆมากขึ้น
.
เราบรรยายเรื่องไม่เก่ง แต่จะสรุปสั้นๆคือ
ถ้าเราได้อยู่กับร่วมสังคมที่เค้าใช้ภาษาแบบไม่อาย กล้าที่จะออกเสียงกล้าจะพูด เราจะภูมิใจและเกิดการอยากที่จะพัฒนา เพราะที่ร้านคนแก่ หนุ่มสาว สำเนียงไม่ได้เหมือนเจ้าของภาษา แต่ทุกคนก้อเข้าใจและสนุกกับการใช้ภาษาในการสื่อสารค่ะ ถามว่าทุกวันนี้ขั้นเทพยัง ขอบอกเลยว่าเปอร์เซนต์การใช้ภาษาของเราจาก25%จนวันนี้50%และจะอัพ%ไปเรื่อยๆคะ ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่านคะ