อยากขอความกรุณาผู้มีประสบการณ์เรียนต่อต่างประเทศค่ะ อยากให้ช่วยเล่าประสบการณ์ดีๆ หรีอร้ายๆ ที่เจอกันมาค่ะ
สืบเนื่องมาจากว่าตอนนี้มีหลานสาวอยู่ชั้น ม. 5 ค่ะ และแน่นอนว่าต่อไปก็คือเตรียมตัวเข้ามหาวิทยาลัย ซึ่งน้องก็เป็นเด็กทั่วๆ ไปไม่ได้เก่งเวอร์วัง หรือเรียนอ่อนจนน่ากังวล แต่ทางบ้านก็มีความเห็นเป็นหลายทาง ทางนึงบอกว่าเรียน ป. ตรีที่นี่ก่อนแล้วไปต่อ ป. โท ที่ต่างประเทศ เนื่องจากน้าทำงานอยู่ที่เยอรมัน อีกทางก็ว่า ไปเรียนตั้งแต่ ป. ตรีเลย ภาษาจะได้แน่นๆ เด็กๆ น่ะภาษามันรับง่ายกว่าไปตอนโต ความเห็นแตกเป็นสองฝั่งเพราะแต่ละทางก็มีประสบการณ์ต่างกัน ส่วนตัวน้องเอง ยังไงก็ได้ เค้าว่างั้น เลยอยากจะขอฟังประสบการณ์ตรงจากทุกๆ ท่านค่ะ
ทางเราก็เข้าใจว่ามันเป็นเรื่องของแต่ละบุคคล กับเลเวลความอึดและอดทนและความสามารถในการจัดการปัญหานะคะ แต่แค่อยากรู้ความรู้สึกและเรื่องเด็ดๆ ที่ผ่านมากันน่ะค่ะ
อันนี้คือตัวอย่างที่เจอมาจากเพื่อนและคนรู้จักค่ะ
เคสแรก เรียน ป. ตรีจากไทย ไปต่อโทที่เยอรมัน มาตอนโตแล้ว เรียนก็ไม่ค่อยสนุกเท่าไรเพราะเจอเพื่อนกรุ๊ปปากีสถาน อินเดียไป เค้าค่อนข้างจะกั๊กๆ หวงๆ ข้อสอบเก่าจากรุ่นพี่ ขนาดการทำงานพิเศษที่โรงงานแพคของยังกั๊ก แต่ก็จบมาได้ด้วยดี ได้งานทำเลย ตอนนี้ก็มีความสุขดี แต่ข้อเสียคือเรียนหลักสูตรอินเตอร์เวลาออกมาทำงานภาษาเยอรมันเลยค่อนข้างอ่อน
เคสที่สอง มาเรียน ป. ตรีเยอรมัน ผ่านครอสเรียนภาษา 1 ปี studienkolleg อีก 1 ปี ตามปกติ เรียนไปเรียนมาขอย้ายสาขา (เรียนสายวิศวะ) บอกว่าไม่ไหว พอย้ายได้สักพักสงสัยทำงานพิเศษเยอะไปหรือยังไงไม่รู้ จะโดนไล่ออกเพราะสอบไม่ผ่าน สรุปอยู่เยอรมัน 6 ปี กลับมาเรียนจบ ป. ตรี ที่ไทย จริงๆ ที่บ้านคือก็ไม่ได้ลำบากต้องให้ทำงานส่งตัวเองเรียน แต่เค้าบอกว่าเห็นเพื่อนทำอยากทำ เหมือนว่าจากบ้านมาตั้งแต่เด็กเลยเหงา จากคุณหนูสวยๆ ใสๆ ก็หันมาสู่สายดาร์กติดเพื่อนที่ทำงานในผับ สงสัยเครียดจัดเห็นสูบบุหรี่รัวๆ
เคสที่สาม มาเรียน ป. ตรีเยอรมัน เหมือนเคสที่สอง เรียนวิศวะเครื่องกล แต่ติดฟิสิกส์มาสามรอบ และแน่นอนรอบสามคือ ไม่โดนไล่ออกก็ต้องย้ายสาขา แต่ปรากฏว่าอาจาร์ยประชุมกันแล้วเห็นว่าเป็นนักเรียนต่างชาติ อาจจะมีปัญหาเรื่องไม่เข้าใจในภาษาเท่าที่ควรเลยช่วยพิเศษให้สอบใหม่เลยผ่าน เจ้าตัวเค้าเล่ามาแค่นี้ คนนี้ดูสนุกสนานดีอาจจะเป็นเด็กผู้ชายด้วยรึเปล่า สบายๆ ไม่คิดเยอะ ทำงานหาเงินเที่ยว เงินพ่อแม่เอาไว้เรียน เงินเที่ยวหาเอง ภาษาก็เริ่มคล่องแล้วเพราะใช้เรียนทุกวัน เรียนจบว่าจะหางานทำเอาประสบการณ์สักพักแล้วค่อยกลับบ้าน
เคสที่สี่ เรียน ป. โทที่อังกฤษ ระยะเวลาสั้นแค่ปีเดียวจบ ภาษายังไม่เข้าที่จะเทอมสองซะแล้ว เค้าว่ามาแบบนั้นเรื่องจริงเป็นไงต้องรอผู้รู้มาเล่า ค่าเทอมกับค่าใช่จ่ายมหาศาล
เคสสุดท้าย เรียน ป. โท MBA ออสเตรเรีย ไม่เครียดมาก ไม่เหงาเพราะเข้ากับเพื่อนๆ ที่เรียนได้ดี คนไทยเยอะแยะ สนุกดีแต่เสียเงินเยอะเหมือนกันค่าเรียน
คร่าวๆ จากที่ถามเพื่อนฝูง น้องนุ่งมาได้ก็จะประมาณนี้ค่ะ
อยากให้ร่วมแชร์ประสบการณ์เรียนต่อต่างประเทศ ข้อดีข้อเสียที่เจอกันมาค่ะ
สืบเนื่องมาจากว่าตอนนี้มีหลานสาวอยู่ชั้น ม. 5 ค่ะ และแน่นอนว่าต่อไปก็คือเตรียมตัวเข้ามหาวิทยาลัย ซึ่งน้องก็เป็นเด็กทั่วๆ ไปไม่ได้เก่งเวอร์วัง หรือเรียนอ่อนจนน่ากังวล แต่ทางบ้านก็มีความเห็นเป็นหลายทาง ทางนึงบอกว่าเรียน ป. ตรีที่นี่ก่อนแล้วไปต่อ ป. โท ที่ต่างประเทศ เนื่องจากน้าทำงานอยู่ที่เยอรมัน อีกทางก็ว่า ไปเรียนตั้งแต่ ป. ตรีเลย ภาษาจะได้แน่นๆ เด็กๆ น่ะภาษามันรับง่ายกว่าไปตอนโต ความเห็นแตกเป็นสองฝั่งเพราะแต่ละทางก็มีประสบการณ์ต่างกัน ส่วนตัวน้องเอง ยังไงก็ได้ เค้าว่างั้น เลยอยากจะขอฟังประสบการณ์ตรงจากทุกๆ ท่านค่ะ
ทางเราก็เข้าใจว่ามันเป็นเรื่องของแต่ละบุคคล กับเลเวลความอึดและอดทนและความสามารถในการจัดการปัญหานะคะ แต่แค่อยากรู้ความรู้สึกและเรื่องเด็ดๆ ที่ผ่านมากันน่ะค่ะ
อันนี้คือตัวอย่างที่เจอมาจากเพื่อนและคนรู้จักค่ะ
เคสแรก เรียน ป. ตรีจากไทย ไปต่อโทที่เยอรมัน มาตอนโตแล้ว เรียนก็ไม่ค่อยสนุกเท่าไรเพราะเจอเพื่อนกรุ๊ปปากีสถาน อินเดียไป เค้าค่อนข้างจะกั๊กๆ หวงๆ ข้อสอบเก่าจากรุ่นพี่ ขนาดการทำงานพิเศษที่โรงงานแพคของยังกั๊ก แต่ก็จบมาได้ด้วยดี ได้งานทำเลย ตอนนี้ก็มีความสุขดี แต่ข้อเสียคือเรียนหลักสูตรอินเตอร์เวลาออกมาทำงานภาษาเยอรมันเลยค่อนข้างอ่อน
เคสที่สอง มาเรียน ป. ตรีเยอรมัน ผ่านครอสเรียนภาษา 1 ปี studienkolleg อีก 1 ปี ตามปกติ เรียนไปเรียนมาขอย้ายสาขา (เรียนสายวิศวะ) บอกว่าไม่ไหว พอย้ายได้สักพักสงสัยทำงานพิเศษเยอะไปหรือยังไงไม่รู้ จะโดนไล่ออกเพราะสอบไม่ผ่าน สรุปอยู่เยอรมัน 6 ปี กลับมาเรียนจบ ป. ตรี ที่ไทย จริงๆ ที่บ้านคือก็ไม่ได้ลำบากต้องให้ทำงานส่งตัวเองเรียน แต่เค้าบอกว่าเห็นเพื่อนทำอยากทำ เหมือนว่าจากบ้านมาตั้งแต่เด็กเลยเหงา จากคุณหนูสวยๆ ใสๆ ก็หันมาสู่สายดาร์กติดเพื่อนที่ทำงานในผับ สงสัยเครียดจัดเห็นสูบบุหรี่รัวๆ
เคสที่สาม มาเรียน ป. ตรีเยอรมัน เหมือนเคสที่สอง เรียนวิศวะเครื่องกล แต่ติดฟิสิกส์มาสามรอบ และแน่นอนรอบสามคือ ไม่โดนไล่ออกก็ต้องย้ายสาขา แต่ปรากฏว่าอาจาร์ยประชุมกันแล้วเห็นว่าเป็นนักเรียนต่างชาติ อาจจะมีปัญหาเรื่องไม่เข้าใจในภาษาเท่าที่ควรเลยช่วยพิเศษให้สอบใหม่เลยผ่าน เจ้าตัวเค้าเล่ามาแค่นี้ คนนี้ดูสนุกสนานดีอาจจะเป็นเด็กผู้ชายด้วยรึเปล่า สบายๆ ไม่คิดเยอะ ทำงานหาเงินเที่ยว เงินพ่อแม่เอาไว้เรียน เงินเที่ยวหาเอง ภาษาก็เริ่มคล่องแล้วเพราะใช้เรียนทุกวัน เรียนจบว่าจะหางานทำเอาประสบการณ์สักพักแล้วค่อยกลับบ้าน
เคสที่สี่ เรียน ป. โทที่อังกฤษ ระยะเวลาสั้นแค่ปีเดียวจบ ภาษายังไม่เข้าที่จะเทอมสองซะแล้ว เค้าว่ามาแบบนั้นเรื่องจริงเป็นไงต้องรอผู้รู้มาเล่า ค่าเทอมกับค่าใช่จ่ายมหาศาล
เคสสุดท้าย เรียน ป. โท MBA ออสเตรเรีย ไม่เครียดมาก ไม่เหงาเพราะเข้ากับเพื่อนๆ ที่เรียนได้ดี คนไทยเยอะแยะ สนุกดีแต่เสียเงินเยอะเหมือนกันค่าเรียน
คร่าวๆ จากที่ถามเพื่อนฝูง น้องนุ่งมาได้ก็จะประมาณนี้ค่ะ