บอกเล่าประสบการณ์การวิ่ง ตั้งแต่เริ่มวิ่งจนจบมาราธอนใน 1 ปี

สวัสดีครับ ขอเล่าเรื่องราวของตัวเอง จากคนที่เคยลองวิ่งมาหลายครั้ง ล้มเลิกไปก็หลายที จนกระทั่งหาแรงบันดาลใจเจอ และเริ่มวิ่งอย่างจริงจัง จนจบมาราธอนใน 1 ปีครับ

อยากที่จะวิ่ง
ชื่อ เอก อายุ 39 ปีครับ ก่อนหน้าที่จะมาวิ่งชอบปั่นจักรยานมาก หลงใหลในจักรยานมาตั้งแต่ยังเด็ก ส่วนการวิ่งก็เคยมีแว๊บๆ เข้ามาในหัวอยู่เหมือนกัน เคยทดลองที่จะวิ่งในหลายๆครั้ง แต่ได้อย่างมากก็ 1-2 กิโลเมตร ทำติดกันไม่เกิน 3 วันก็ล้มเลิกไป เหตุผลเดียว คือการวิ่งมันไม่สนุก เหนื่อย ไม่เพลินเหมือนกับการปั่นจักรยาน ที่แม้ว่าเหนื่อยก็ยังฟรีขาหยุดปั่นได้ แต่การวิ่งมันไม่ใช่

นานนะแต่ไม่รู้ว่าแค่ไหน รู้จักกรุ๊ป 42.195K Club เราจะไปมาราธอนด้วยกัน หลังจากเข้ามาเป็นสมาชิกกรุ๊ป ก็ได้ฟังคำบอกเล่าของเพื่อนๆสมาชิกที่ไปวิ่งจบมาราธอน ก็เกิดแรงที่จะฮึดสู้อีกหลายๆครั้ง จับรองเท้าออกไปวิ่ง พอไม่สนุกก็หยุด อยู่ในวังวนนี้มาตลอด จนไม่อยากจะนับแล้วว่ากี่ครั้ง

เมื่อสองปีที่แล้ว ได้อ่านกระทู้พันทิป ของน้องอุ๊บอิ๊บ เรื่อง ฉันเป็นผู้หญิงที่วิ่ง 112.5 Km http://pantip.com/topic/32221236 พออ่านจบเป็นปลื้มน้องอุ๊บอิ๊บมาก ติดตามเพจ i’m Oopaib จากนั้นก็คว้ารองเท้าออกไปวิ่งอีก ผลก็เหมือนเดิมครับ 555 วิ่งได้ 2-3 ครั้ง แล้วก็เลิก แต่ก็ตามเพจน้องเขามาตลอดนะ เพราะน้องเขาชอบมีข้อคิดดีๆ วิววิ่งในป่าสวยๆมาฝากบ่อยๆ เล่ามาตั้งนานก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะวิ่งได้เลยนะเนี่ย ^_^

จุดเปลี่ยน
จุดเปลี่ยนจริงๆ คือตรงนี้ครับ 31 ตุลาคม ปีที่แล้ว น้องอุ๊บอิ๊บได้เขียนหนังสือชื่อ happy running มาวิ่งกันเถอะ และมีงานเปิดตัวในงานสัปดาห์หนังสือ มีแจกขอลายเซ็นด้วย ยอมรับว่าตื่นเต้นมาก ที่จะได้เจอไอดอลคนที่เราปลื้ม ระหว่างเซ็นชื่อน้องอุ๊บอิ๊บถามว่าเริ่มวิ่งหรือยังคะ ผมตอบไปว่ายังไม่ได้เริ่มเลย ภรรยาผมที่เป็นคนถ่ายรูปให้ บอกน้องอุ๊บอิ๊บว่าชวนให้ออกไปวิ่งหน่อยซิ หลังจากงานวันนั้น ชีวิตเปลี่ยนเลยครับ บอกตัวเองว่า “เอาน่ะ!...ลองดูอีกซักที”

จากที่วิ่งรอบสวนเบญจกิติแค่รอบเดียวก็เหนื่อยแทบจะไม่อยากวิ่งต่อ กลายเป็นสองรอบ และสามรอบใน 1 เดือนถัดมา ความคิดก็ตีกันในหัวถามตัวเองว่าอยากไปต่อไหม หูด้านซ้ายก็แว่วมาว่าล้มเลิกก็ได้นะทำมามาหลายครั้งแล้วนี่ อีกทีจะเป็นไรไป หูด้านขวาก็อะไรกัน แค่นี้จะล้มเลิกแล้ว จักรยานปั่นจบมาเป็น 200-300 โล นี่วิ่งได้แค่ 5 โล จะเลิกแล้ว ในวันนั้นความคิดบวกผมชนะ ผมตัดสินใจวิ่งต่อในรอบที่ 4 ซึ่งก็วิ่งจบจนได้ พร้อมกับอาการปวดไปทั้งตัวในวันรุ่งขึ้น 555 วันถัดมานั่งคิดถ้าไม่ทำอะไรซักอย่างคงจะต้องเลิกอีกแน่ๆเลย ทางเดียวที่จะบังคับตัวเองให้วิ่งได้ต่อไป คือสมัครวิ่ง เดือนธันวาคมปีที่แล้ว ผมสมัครวิ่ง 26 โล งานวิ่งรอบกว๊านพะเยาในเดือนพฤษภาคมไว้ ทั้งๆ ที่ผมยังวิ่งไม่ถึง 10 โลด้วยซ้ำ

มินิมาราธอนแรก
หลังจากที่สมัคร 26 โลไป ผมข้ามขั้นไปเปล่าเนี่ย 55 ก็เลยมองหางาน 10 โล เล็งไว้ที่งานไทยคม ก็โอเคนะ เวลาเหมาะสมปลายเดือนมกราคมน่าจะซ้อมทัน เพราะมินิแรกมีครั้งเดียวอยากจะวิ่งตลอด แต่แล้วงานมินิแรกก็ไม่ใช่งานไทยคม แต่เป็นงาน ภปร ที่สามพรานในกลางเดือนมกราคมแทน ตอนนั้นคือใจมันเต็มที่แล้ว อยากวิ่ง อยากรู้ว่ามันจะทำได้ไหม เอาวะ ตัดสินใจขับรถไปสามพรานในวันเสาร์เพื่อสมัครวิ่ง และวิ่งวันอาทิตย์รุ่งขึ้นเลย ผลออกมาก็คือทำได้ และสามารถวิ่งได้ตลอดโดยไม่หยุดเดินด้วย พร้อมกับเสียงในใจ เราทำได้

ฮาฟมาราธอนแรก
หลังจากนั้นก็ลงมินิมาอีกหลายงาน ตอนแรกก็กะว่าวิ่งรอบกว๊านจะเป็นฮาฟแรกไปเลย แต่ก็กลัวว่าจะไม่รอด เพราะฮาฟจริงๆก็ยังไม่เคยวิ่ง นี่ดันจะทะลึ่งไปซุปเปอร์ฮาฟซะแล้ว ผมเลยสมัครงานวิ่งที่พระราม 3 คั่น เพื่อจะดูอาการก่อนว่าเป็นไง มาคิดอีกที มันก็ใกล้กันเลยนะ แค่ 2 อาทิตย์ ถ้าฮาฟที่พระราม 3 อาการไม่ดี ที่กว๊านจะรอดไหม งั้นทดลองวิ่งฮาฟแบบซิตี้รัน วิ่งๆหยุดๆ ในวันเกิดตัวเองเดือนเมษายนนี่แหล่ะ เพื่อเป็นของขวัญให้กับตัวเองด้วย การวิ่งซิตี้รันครั้งนี้เป็นครั้งแรกในชีวิต ด้วยการวิ่งๆ เดินๆ ประครองไปเรื่อยก็จบ 21 โลครับ แต่ก็ไม่สวยเท่าไหร่ เพราะกิโลที่ 21 โล ผมวนกลับมาถึงหน้าบ้านพอดี ร่วงทั้งยืนพร้อมกับตะคริว นั่งหน้าบ้านอยู่ตั้งนาน น้ำตาไหลทั้งเจ็บตะคริวและดีใจที่ทำได้ แต่ช่วงบ่ายผมก็ไปบริจาคเลือดนะ ^_^ ไม่ได้บาดเจ็บอะไร หลังจากนั้นผมก็ไปฮาฟในเดือนพฤษภาคมทั้งสองงาน และก็จบแบบไม่เจ็บ แฮปปี้มาก

ฟูลมาราธอนแรก
หลังจากที่จบซุปเปอร์ฮาฟแรก ผมก็มีลิสต์งานวิ่งฮาฟในมืออีกหลายงาน เริ่มคิดต่อ ไปมาราธอนไหม ไหนๆก็มาถึงตรงนี้แล้ว ถ้าเป็นไปได้ ดูภายในปีนี้ซิมีไหม จะได้ครบ 1 ปี จากที่วิ่งด้วย ผมเลยก็สมัครเมืองไทยเชียงใหม่มาราธอน จะได้พาที่บ้านไปเที่ยวด้วยเลย มีเวลาซ้อมอีก 6 เดือนทันน่ะ

เอาเข้าจริง 6 เดือน ผมก็ไม่ค่อยมีวินัยซ้อมตามตารางเป๊ะๆ อาศัยงานวิ่งที่สมัครรายทางเป็นการซ้อมซะส่วนมาก เคยวิ่งยาวก่อนจะถึงวิ่งฟูลจริงอยู่ 2 ครั้ง คือ วิ่งซิตี้รันไป-กลับถวายความอาลัยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพล ประมาณ 30 กว่ากิโล แต่ก็ไม่ได้ต่อเนื่อง ยังมีการพักครึ่งทาง ถึงยังไงตอนนี้ก็ถอยกลับไม่ได้แล้ว

ตอนตี 4 ของวันที่ 18 ธันวาคม ผมก็ไปยืนอยู่ที่จุดสตาร์ทในงานเมืองไทยเชียงใหม่มาราธอน วันที่ฝันมานานว่าจะมีวันนี้ กลองสะบัดชัยทำให้มีกำลังใจขึ้นมาก มาราธอนแรกสำหรับคนที่วิ่งไม่เร็วแบบผม หวังแค่จบและไม่เจ็บก็พอ เพราะต้องขับรถกลับกรุงเทพอีก ฉะนั้นเกาะเพซเซอร์ 6 ชั่วโมงเนี่ยแหล่ะ ปลอดภัยสุด แต่ก็ตามไปได้ซัก 21 กิโล อันเป็นระยะที่ร่างกายเคยชิน ร่างกายมันก็บอกว่าเอ้ยถึงแล้วนะ ยังไม่หยุดอีกเหรอ รองเท้าก็เริ่มบีบเรื่อยๆ จนกระทั่งเจ็บและวิ่งตามต่อไม่ไหว ก็ต้องปล่อย หลังจากนั้นก็วิ่งๆ เดินๆมา จนกระทั่งกิโลเมตรที่ 33 ที่หลายคนว่ามันคือขีดจำกัดของมนุษย์ ร่างกายจะเริ่มเจ็บปวด จะได้ยินเสียงปีศาจบอกว่าหยุดเถอะ เพื่อป้องกันความเสียหายที่จะเกิดกับร่างกายไปมากกว่านี้ แต่ผมกลับไม่ได้ยินเสียงให้หยุด ทั้งที่ร่างกายขาหนักไปหมดแล้ว มีแต่เสียงยังไหว สู้ต่อนะ กัดฟันไปต่อ หลังจากนั้น กม ที่ 35 สภาพที่เจ็บเหมือนโดนรีเซท อยู่ดีๆก็ไม่เจ็บซะงั้น ใจคิดเป็นไปได้ไงฟะ ลองกลับมาวิ่งต่อ อ้อ ยังเจ็บ 55 เดินประครองตัวดีกว่าเอาแค่ทันคัทออฟก็พอ จนกระทั่งหน้าเส้นชัย เห็นแม่มารอแสดงความยินดี ดีใจมาก รวบรวมแรงฮึดสุดท้ายที่มีในตอนนั้น เข้าเส้นชัย เฮ้!.... จบอย่างที่ตั้งใจและก่อนคัทออฟด้วย ดีใจและปลื้มใจแบบสุดๆ ลืมเหนื่อยไปเลย หลังจากก็ถ่ายรูปกับแม่และน้า


สำหรับมาราธอนแรกนี้ ผมพอใจแล้วครับ จบแบบไม่มีอาการบาดเจ็บหนัก มีปวดข้อเท้าบ้างแต่ก็ไม่หนักหนาอะไร ขับรถกลับกรุงเทพได้ มาทำงานได้ปกติ เดินได้ และไม่ทะเลาะกับบันได


วิ่งอีกไหม
ในปี 2559 นี้ผมลงไปทั้งสิ่น 16 งาน ประกอบด้วย 1 ฟันรัน 8 มินิ 4 ฮาฟ 2 เทรล 1 มาราธอน ในปีหน้านี้ผมจะไม่แน่ใจด้วยนิสัยแบบผมจะเข็ดกับมาราธอนไหม เพราะตอนนี้ผมมีฟูลของจอมบึงและบุรีรัมย์รออยู่ กับความคิดที่ว่าลองอัลตร้าดู 55 (แต่ต้องซ้อมนะ ไม่เอาเจ็บหน้างานแล้ว ^_^)

ขอบคุณพี่ป๊อกที่สร้างกรุ๊ป 42.195K Club เราจะไปมาราธอนด้วยกัน เป็นแรงผลักดันที่ทำให้ผมอยากจะวิ่ง
ทุกๆคน สมาชิกกรุ๊ป 42.195K Club ที่ช่วยแบ่งปันประสบการณ์ และให้รู้ว่ามันทำได้ ถ้าเราพยายาม
น้องอุ๊บอิ๊บ แรงบันดาลใจสุดๆ ที่ทำให้มีวันนี้ วันนั้นที่ถามว่าวิ่งหรือยัง วันนี้ขอตอบว่า วิ่งแล้ว และรักที่จะวิ่งต่อไป ขอบคุณครับ

สุดท้ายถึงเพื่อนๆ ทุกคน การที่เราจะทำอะไรสักอย่าง ความสำเร็จนั้นอาจไม่ได้มาในครั้งแรกที่ทำ อย่างผมเองก็ล้มเลิก เริ่มใหม่ไม่รู้ตั้งกี่ที ดังนั้นอย่าท้อถอยครับ มีความสุขกับการวิ่ง ขอบคุณครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่