REVIEW ระบบ NCT .........“ระบบ ซูชิจานเวียน”
จาก ผู้ที่มองจากวงนอก
ชี้แจงก่อนอ่านรีวิว : ผู้เขียนไม่ได้ตาม NCT เป็นวงหลัก ตามอยู่แบบห่างๆ ดูแลแบบห่วงๆ เป็นเพียงแค่บทความรีวิว ที่ไม่ใช่บทวิเคราะห์ อาจจะเรียกได้ว่าเป็นความคิดเห็นส่วนบุคคล ดังนั้นขอ Highlight ตรงนี้ว่า
“เป็นความคิดเห็นส่วนบุคคล (ของตัวผู้เขียนเองเท่านั้น)” ซึ่งเกิดจากการสังเกตของผู้เขียน
หากผิดพลาดอะไรก็ต้องขออภัยด้วยนะคะ T[]T
ระบบ NCT เป็นระบบที่ค่ายออกแบบมาให้มีแต่ละกรุ๊ป แต่ละยูนิตแตกต่างกันไป เหมือนกับพ่อครัวซูชิจานเวียนที่จะเลือกทำอะไรออกมาก็ได้ตามใจพ่อครัว หรือ เจ้าของร้าน ซึ่งแน่นอนว่า ไม่สามารถตอบโจทย์ของลูกค้าทุกคนได้ตามความชอบทั้งหมดเพราะมันไม่ใช่เมนูอาหารประจำ ที่หากใครชอบบแล้วจะชอบเลย แต่มันกลับเป็นเมนูหลากหลายที่แตกต่างกันไม่ซ้ำ ซึ่งมีทั้งข้อดีและข้อด้อยที่ทำให้เกิดขึ้น
ข้อดีคือ.....ลูกค้าจะได้เจอสิ่งที่หลากหลายไม่ซ้ำเดิม ได้ชิมอาหารหลากรสชาติ โดยที่เหมาะกับคนที่ไม่ชอบอะไรที่ซ้ำจำเจ ซึ่งแน่นอนว่าหากร้านค้าทำอาหารได้ไม่ซ้ำแบบขนาดนี้...มันต้องมีสักจานหรือซูชิสักเซ็ตที่ต้องโดนใจคนที่เข้ามาชิม และสำหรับบางคนที่ชอบกินเมนูที่ตรงกับใจของพ่อค้าก็สบายใจ พร้อมเปย์ เพราะถือได้ว่าร้านได้ตอบสนองความต้องการอย่างครบถ้วน นอกจากนี้ระบบนี้ยังมีข้อดีอีกอย่างนั่นคืออย่างที่บอกว่าร้านสามารถทำได้หลากแบบขนาดนี้....ก็ต้องเกิดกลุ่มลูกค้าใหม่เข้ามาแวะชิมเรื่อยๆ เพราะต้องมีสักจาน...อาหารสักเซ็ตที่สามารถเต๊ะตาคนที่เดินผ่านไปผ่านมา จากแต่ก่อนที่พอเปิดร้านอาหารไปแล้วกลุ่มลูกค้าที่เข้ามาจะเข้ามาเยอะๆ แค่ช่วงที่ร้านเปิด หลังจากนั้นจะลดลง ระบบนี้ หรือ ร้านซูชิร้านนี้กลับจะสร้างกลุ่มลูกค้าและเชิญลูกค้าได้เข้ามาใหม่เรื่อยๆ เพราะ ลุครวมถึงเมนูอาหารที่หลากหลายนี่เอง
ซึ่งนอกจากจะดีต่อลูกค้ายังดีทั้งต่อตัวพ่อครัวที่ได้ขายหลายเมนูมากขึ้น แต่เสียเวลาในการทำแบรนด์ดิ้ง แค่รอบเดียว ไม่ต้องเสียค่าโปรโมทร้านค้าบ่อยๆ เสียแค่ค่าวัตุดิบเท่านั้น แตกต่างจากครั้งก่อนหรือร้านก่อนๆ ที่เวลาจะนำเสนอเมนูใหม่ที่ต้องเสียค่าเปิดร้าน ค่าโปรโมท ค่าที ค่านู้นนี่นั่นเยอะแยะ สารพัด แต่จากนี้ร้านนี้เสียค่าโปรโมทร้านแค่รอบเดียว หลังจากนี้เหรอ...ก็โปรโมทเมนูก็เพียงพอ คุ้มในการลงทุนแบบระยะยาว
ข้อเสีย....ของระบบนี้อย่างที่บอกว่าร้านนี้สามารถก่อให้เกิดลูกค้าใหม่ได้เรื่อยๆ แต่เพราะเมนูอาหารหลากหลายไม่ซ้ำนี่แหละ จึงทำให้เกิดบางสิ่งเกิดขึ้น นั่นก็คือ...กลุ่มลูกค้าที่เข้ามาเพราะเจอเมนูที่ถูกใจในครั้งแรก...เขาก็ต้องรอคอยที่จะได้ชิมอีกในครั้งถัดไป....ซึ่งกว่าที่เขาจะได้เจอหรือกินเมนูนั้นซ้ำอีกครั้ง...หากมันนานเกินไป...จะทำอย่างไร...บางคนอาจจะรอคอยมากขึ้น คือรอเลยว่าถ้าพ่อครัวทำเมนูนี้เมื่อไหร่ ฉันจะซื้อแบบไม่อั้น...แต่บางคนก็อาจจะเดินจากไป...แล้วเอ่อถ้าเมนูนี้วนกลับมาเมื่อไหร่ฉันค่อยเข้ามาทาน....หรืออีกกลุ่มคือรอไม่ไหวเจอเมนูที่ถูกใจมากกว่ากก็ไม่กลับมาอีกแล้ว....?
หากลูกค้าชื่นชอบเมนูหลากหลาย...กินได้ง่าย...รับกับกฎของร้านที่จะทำเมนูตามใจพ่อค้าแน่นอนว่าลูกค้ากลุ่มนี้อยู่ได้ยาว เป็นลูกค้าขาประจำแน่นอน....แต่หากเป็นคนที่ชื่นชอบแค่เมนูเดียวรอคอยแค่เมนูนี้...ลูกค้าที่รอก็ต้องรออย่างเดียว....มีสองทางเท่านั้น คือ รอต่อไป...กับ....ไปร้านอื่น
ร้านซูชิก็ทราบถึงข้อจำกัดนี้....ร้านจึงคอยปั้นออกมาเรื่อยๆ อาจจะไม่ใช่เมนูเซ็ตแนะนำของร้าน...แต่ก็คอยปั้นออกมาเรื่อยๆ เพราะไม่งั้นลูกค้าที่เบื่อรอก็จะหายไปด้วย...ซึ่งตอนนี้เมนูของร้านยังมีแค่หลักสิบ...ก็ยังสามารถบริหารและจัดทำออกมาเรื่อยๆ พยายามตอบโจทย์ทุกความชอบของลูกค้า...แต่หากวันหนึ่งร้านมีเมนูเข้าสู่หลักร้อยละ...ร้านจะยังสามารถบริหารความชอบออกมาเพื่อตอบโจทย์ทุกความชอบของลูกค้าได้ครบจริงหรือ....? อาจจะครบ....แต่แน่นอนว่า....ไม่สามารถทำออกมาในอัตราส่วนที่เท่ากันได้แน่นอน...ต้องมีซูชิบางหน้าที่ต้องรอนาน...บางหน้ารอแป๊บเดียว.....
ซึ่งหากเป็นแบบนี้ต่อไปน่าสงสัยและน่าติดตามว่า ซูชิร้านนี้จะทำอย่างไร....เพราะที่ผ่านมาเปิดกี่ร้านก็ดังทุกร้าน ประสบความสำเร็จมากน้อย....แล้วแต่กันไป...แต่ประสบความสำเร็จแน่นอน....แล้วกับร้านซูชิจานเวียนนี่ละ....แน่นอนว่าระดับนี้แล้วน่าจะมีแผนที่มาคอยรับมือ...แต่มันก็ยังมีปัจจัยอื่นๆ อีกมากที่ควบคุมไม่ได้ หรือ ควบคุมได้ยากอยู่
ที่ผ่านมาร้านอื่นๆ ลูกค้าติดแล้วคือติดเลยอาจจะเป็นลูกค้าหน้าเดิม แต่เป็นลูกค้าที่มีความรักร้านและเป็นลูกค้าที่ภักดีเกือบ 80% ...แต่ลูกค้าร้านซูชินี้....มีทั้งลูกค้าที่ภักดี ลูกค้าขาจร ลูกค้าที่มาชิมบ้างไม่ชิมบ้างในอัตราส่วนที่ไม่แตกต่าง…เป็นโจทย์ที่ทางร้านคงต้องคิดคำนวณให้ดีว่า สุดท้ายแล้วรายได้แบบเดิมจากลูกค้าฐานเดิมกับรายได้แบบใหม่ที่ได้มาจากลูกค้าหลาย แบบไหนที่ดีกว่ากัน ....?
น่าลุ้นว่า.....สุดท้ายแล้วอีกสัก 2 ปี จากนี้ ร้าน ซูชิจานเวีนนร้านใหม่ รูปแบบใหม่ กับการทำการตลาดแบบใหม่จะมาเหนือพุ่งแบบฉุดไม่อยู่เหมือนร้านก่อนๆ ...หรือ...จะดิ่ง....จนทำให้สุดท้ายต้องเปลี่ยนเป็นการตลาดแบบเดิม....แต่ก็ยังมีความหวังและเชื่อเสมอว่า การตลาดของ SM ไม่เคยทำให้ผิดหวัง
TALK อ่านจบแล้วงงกันไหม พอมาอ่านเองก็งงเหมือนกัน 55+ อย่างที่บอกไปอันนี้คือการรีวิว จากคนมุมคนนอกของเราที่มองต่อระบบ NCT ซึ่งมันถือได้ว่าเป็นความคิดเห็น อาจจะไม่ใช่ FACT ที่แท้จริง...ก็ได้ ก็ถือได้ว่าอ่านกันสนุกๆ อ่านกันผ่านๆ อย่าไปซีเรียสกับมัยแล้วกันเนอะ
ขอบคุณทุกท่านที่อ่านกันจนจบค่ะ
REVIEW ระบบ NCT .........“ระบบ ซูชิจานเวียน” จาก ร้านเมืองใหญ่
จาก ผู้ที่มองจากวงนอก
ชี้แจงก่อนอ่านรีวิว : ผู้เขียนไม่ได้ตาม NCT เป็นวงหลัก ตามอยู่แบบห่างๆ ดูแลแบบห่วงๆ เป็นเพียงแค่บทความรีวิว ที่ไม่ใช่บทวิเคราะห์ อาจจะเรียกได้ว่าเป็นความคิดเห็นส่วนบุคคล ดังนั้นขอ Highlight ตรงนี้ว่า “เป็นความคิดเห็นส่วนบุคคล (ของตัวผู้เขียนเองเท่านั้น)” ซึ่งเกิดจากการสังเกตของผู้เขียน
หากผิดพลาดอะไรก็ต้องขออภัยด้วยนะคะ T[]T
ระบบ NCT เป็นระบบที่ค่ายออกแบบมาให้มีแต่ละกรุ๊ป แต่ละยูนิตแตกต่างกันไป เหมือนกับพ่อครัวซูชิจานเวียนที่จะเลือกทำอะไรออกมาก็ได้ตามใจพ่อครัว หรือ เจ้าของร้าน ซึ่งแน่นอนว่า ไม่สามารถตอบโจทย์ของลูกค้าทุกคนได้ตามความชอบทั้งหมดเพราะมันไม่ใช่เมนูอาหารประจำ ที่หากใครชอบบแล้วจะชอบเลย แต่มันกลับเป็นเมนูหลากหลายที่แตกต่างกันไม่ซ้ำ ซึ่งมีทั้งข้อดีและข้อด้อยที่ทำให้เกิดขึ้น
ข้อดีคือ.....ลูกค้าจะได้เจอสิ่งที่หลากหลายไม่ซ้ำเดิม ได้ชิมอาหารหลากรสชาติ โดยที่เหมาะกับคนที่ไม่ชอบอะไรที่ซ้ำจำเจ ซึ่งแน่นอนว่าหากร้านค้าทำอาหารได้ไม่ซ้ำแบบขนาดนี้...มันต้องมีสักจานหรือซูชิสักเซ็ตที่ต้องโดนใจคนที่เข้ามาชิม และสำหรับบางคนที่ชอบกินเมนูที่ตรงกับใจของพ่อค้าก็สบายใจ พร้อมเปย์ เพราะถือได้ว่าร้านได้ตอบสนองความต้องการอย่างครบถ้วน นอกจากนี้ระบบนี้ยังมีข้อดีอีกอย่างนั่นคืออย่างที่บอกว่าร้านสามารถทำได้หลากแบบขนาดนี้....ก็ต้องเกิดกลุ่มลูกค้าใหม่เข้ามาแวะชิมเรื่อยๆ เพราะต้องมีสักจาน...อาหารสักเซ็ตที่สามารถเต๊ะตาคนที่เดินผ่านไปผ่านมา จากแต่ก่อนที่พอเปิดร้านอาหารไปแล้วกลุ่มลูกค้าที่เข้ามาจะเข้ามาเยอะๆ แค่ช่วงที่ร้านเปิด หลังจากนั้นจะลดลง ระบบนี้ หรือ ร้านซูชิร้านนี้กลับจะสร้างกลุ่มลูกค้าและเชิญลูกค้าได้เข้ามาใหม่เรื่อยๆ เพราะ ลุครวมถึงเมนูอาหารที่หลากหลายนี่เอง
ซึ่งนอกจากจะดีต่อลูกค้ายังดีทั้งต่อตัวพ่อครัวที่ได้ขายหลายเมนูมากขึ้น แต่เสียเวลาในการทำแบรนด์ดิ้ง แค่รอบเดียว ไม่ต้องเสียค่าโปรโมทร้านค้าบ่อยๆ เสียแค่ค่าวัตุดิบเท่านั้น แตกต่างจากครั้งก่อนหรือร้านก่อนๆ ที่เวลาจะนำเสนอเมนูใหม่ที่ต้องเสียค่าเปิดร้าน ค่าโปรโมท ค่าที ค่านู้นนี่นั่นเยอะแยะ สารพัด แต่จากนี้ร้านนี้เสียค่าโปรโมทร้านแค่รอบเดียว หลังจากนี้เหรอ...ก็โปรโมทเมนูก็เพียงพอ คุ้มในการลงทุนแบบระยะยาว
ข้อเสีย....ของระบบนี้อย่างที่บอกว่าร้านนี้สามารถก่อให้เกิดลูกค้าใหม่ได้เรื่อยๆ แต่เพราะเมนูอาหารหลากหลายไม่ซ้ำนี่แหละ จึงทำให้เกิดบางสิ่งเกิดขึ้น นั่นก็คือ...กลุ่มลูกค้าที่เข้ามาเพราะเจอเมนูที่ถูกใจในครั้งแรก...เขาก็ต้องรอคอยที่จะได้ชิมอีกในครั้งถัดไป....ซึ่งกว่าที่เขาจะได้เจอหรือกินเมนูนั้นซ้ำอีกครั้ง...หากมันนานเกินไป...จะทำอย่างไร...บางคนอาจจะรอคอยมากขึ้น คือรอเลยว่าถ้าพ่อครัวทำเมนูนี้เมื่อไหร่ ฉันจะซื้อแบบไม่อั้น...แต่บางคนก็อาจจะเดินจากไป...แล้วเอ่อถ้าเมนูนี้วนกลับมาเมื่อไหร่ฉันค่อยเข้ามาทาน....หรืออีกกลุ่มคือรอไม่ไหวเจอเมนูที่ถูกใจมากกว่ากก็ไม่กลับมาอีกแล้ว....?
หากลูกค้าชื่นชอบเมนูหลากหลาย...กินได้ง่าย...รับกับกฎของร้านที่จะทำเมนูตามใจพ่อค้าแน่นอนว่าลูกค้ากลุ่มนี้อยู่ได้ยาว เป็นลูกค้าขาประจำแน่นอน....แต่หากเป็นคนที่ชื่นชอบแค่เมนูเดียวรอคอยแค่เมนูนี้...ลูกค้าที่รอก็ต้องรออย่างเดียว....มีสองทางเท่านั้น คือ รอต่อไป...กับ....ไปร้านอื่น
ร้านซูชิก็ทราบถึงข้อจำกัดนี้....ร้านจึงคอยปั้นออกมาเรื่อยๆ อาจจะไม่ใช่เมนูเซ็ตแนะนำของร้าน...แต่ก็คอยปั้นออกมาเรื่อยๆ เพราะไม่งั้นลูกค้าที่เบื่อรอก็จะหายไปด้วย...ซึ่งตอนนี้เมนูของร้านยังมีแค่หลักสิบ...ก็ยังสามารถบริหารและจัดทำออกมาเรื่อยๆ พยายามตอบโจทย์ทุกความชอบของลูกค้า...แต่หากวันหนึ่งร้านมีเมนูเข้าสู่หลักร้อยละ...ร้านจะยังสามารถบริหารความชอบออกมาเพื่อตอบโจทย์ทุกความชอบของลูกค้าได้ครบจริงหรือ....? อาจจะครบ....แต่แน่นอนว่า....ไม่สามารถทำออกมาในอัตราส่วนที่เท่ากันได้แน่นอน...ต้องมีซูชิบางหน้าที่ต้องรอนาน...บางหน้ารอแป๊บเดียว.....
ซึ่งหากเป็นแบบนี้ต่อไปน่าสงสัยและน่าติดตามว่า ซูชิร้านนี้จะทำอย่างไร....เพราะที่ผ่านมาเปิดกี่ร้านก็ดังทุกร้าน ประสบความสำเร็จมากน้อย....แล้วแต่กันไป...แต่ประสบความสำเร็จแน่นอน....แล้วกับร้านซูชิจานเวียนนี่ละ....แน่นอนว่าระดับนี้แล้วน่าจะมีแผนที่มาคอยรับมือ...แต่มันก็ยังมีปัจจัยอื่นๆ อีกมากที่ควบคุมไม่ได้ หรือ ควบคุมได้ยากอยู่
ที่ผ่านมาร้านอื่นๆ ลูกค้าติดแล้วคือติดเลยอาจจะเป็นลูกค้าหน้าเดิม แต่เป็นลูกค้าที่มีความรักร้านและเป็นลูกค้าที่ภักดีเกือบ 80% ...แต่ลูกค้าร้านซูชินี้....มีทั้งลูกค้าที่ภักดี ลูกค้าขาจร ลูกค้าที่มาชิมบ้างไม่ชิมบ้างในอัตราส่วนที่ไม่แตกต่าง…เป็นโจทย์ที่ทางร้านคงต้องคิดคำนวณให้ดีว่า สุดท้ายแล้วรายได้แบบเดิมจากลูกค้าฐานเดิมกับรายได้แบบใหม่ที่ได้มาจากลูกค้าหลาย แบบไหนที่ดีกว่ากัน ....?
น่าลุ้นว่า.....สุดท้ายแล้วอีกสัก 2 ปี จากนี้ ร้าน ซูชิจานเวีนนร้านใหม่ รูปแบบใหม่ กับการทำการตลาดแบบใหม่จะมาเหนือพุ่งแบบฉุดไม่อยู่เหมือนร้านก่อนๆ ...หรือ...จะดิ่ง....จนทำให้สุดท้ายต้องเปลี่ยนเป็นการตลาดแบบเดิม....แต่ก็ยังมีความหวังและเชื่อเสมอว่า การตลาดของ SM ไม่เคยทำให้ผิดหวัง
TALK อ่านจบแล้วงงกันไหม พอมาอ่านเองก็งงเหมือนกัน 55+ อย่างที่บอกไปอันนี้คือการรีวิว จากคนมุมคนนอกของเราที่มองต่อระบบ NCT ซึ่งมันถือได้ว่าเป็นความคิดเห็น อาจจะไม่ใช่ FACT ที่แท้จริง...ก็ได้ ก็ถือได้ว่าอ่านกันสนุกๆ อ่านกันผ่านๆ อย่าไปซีเรียสกับมัยแล้วกันเนอะ
ขอบคุณทุกท่านที่อ่านกันจนจบค่ะ