สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 48
เราหมดเงินกับความลำเอียง ความรักลูกไม่เท่ากัน
ของครอบครัวเราไม่รู้กี่แสน เรากลายเป็นคนเกลียดตัวเอง
เกลียดโลกใบนี้ เกลียดที่เกิดมาบนโลกนี้ มีค่าเป็นเพียงตู้เอทีเอ็ม
อยู่มาวันหนึ่ง เราป่วยหนักเจียนตาย ไร้ญาติอยู่โรงบาล
เขาถามคล้ายๆ ว่า ถ้าตายจะส่งศพไปไหน เราถามตัวเองว่า
ถ้าฉันตาย ศพฉันควรไปไหน ฉันไร้บ้าน ไร้คนที่รักที่ห่วงใยฉัน
ตอนเราป่วยหนัก ครอบครัวไม่เคยถามสักคำ
ว่าเป็นไง สิ่งเดียวที่เขาถามหา คือ เงิน เงิน เงิน เขากังวลแค่ว่า
เราไม่สบาย หาเงินไม่ได้ เขาห่วงแค่ตัวเอง ว่าเราจะไม่มีเงินให้เขา
หลังจากรอดตายครั้งนั้น เราหันหลังให้ทุกคนในครอบครัว
ตัดขาด ไม่ติดต่อ ไม่กลับบ้านนานกว่าสองปี ไม่ส่งเงินด้วย
แล้วหันกลับมารักตัวเอง
ตอนนั้นพอตัดขาดครอบครัว เริ่มมองเห็นความงดงามของชีวิต
ใช้เงินที่หาได้ โอบกอดตัวเอง ไปเที่ยว ซื้อของที่อยากได้
ได้ยิ้ม ได้หัวเราะ ได้มีความสุข กินของอร่อย เริ่มดีใจนิดๆ ที่ได้เกิดมา
เราเกลียดตัวเองน้อยลง เป็นมิตรกับโลกและผู้คนมากขึ้น
แรกๆ คนที่บ้านเราตกใจมาก ที่เราเปลี่ยนเป็นคนละคน ไม่สนใจดร่าม่าในบ้าน
ปล่อยทุกอย่างไปตามยถากรรม สุดท้าย เขาก็ไม่เห็นจะตัดเราจากครอบครัวนี่คะ
โทรมาตามกลับบ้านบ้างไรบ้าง พอป่วยก็ถามไถห่วงใยบ้าง แปลกนะ ตอนเรารักเขาดีกับเขา
ุทุ่มเทให้พวกเขา พวกเขากลับทำกับเราเหมือนพรมเช็ดเท้า
แต่พอเราเป็นลูกที่เห็นแก่ตัวบ้าง เกเรบ้าง นิสัยเสียบ้าง
อาละวาดบ่นบ้างไรบ้าง เขากลับดูรักเราห่วงเรา มากกว่าตอนที่เรา
เป็นเครื่องเอทีเอ็มอีกค่ะ
ตอนนี้เรามีเงินก็ให้นะ ดูแลครอบครัวตามกำลังที่มี แต่จะมาดราม่าเอาเงินทอง
ไปช่วยลูกรัก ลูกเหลวไหลคนอื่นๆ หรือช่วยญาติคนไหน เราไม่สนไม่แคร์ ไม่ฟัง
ชีวิตเราก็ขึ้น ครอบครัวเรา ก็เรียนรู้ที่จะพึ่งพาตัวเองมากขึ้น
ของครอบครัวเราไม่รู้กี่แสน เรากลายเป็นคนเกลียดตัวเอง
เกลียดโลกใบนี้ เกลียดที่เกิดมาบนโลกนี้ มีค่าเป็นเพียงตู้เอทีเอ็ม
อยู่มาวันหนึ่ง เราป่วยหนักเจียนตาย ไร้ญาติอยู่โรงบาล
เขาถามคล้ายๆ ว่า ถ้าตายจะส่งศพไปไหน เราถามตัวเองว่า
ถ้าฉันตาย ศพฉันควรไปไหน ฉันไร้บ้าน ไร้คนที่รักที่ห่วงใยฉัน
ตอนเราป่วยหนัก ครอบครัวไม่เคยถามสักคำ
ว่าเป็นไง สิ่งเดียวที่เขาถามหา คือ เงิน เงิน เงิน เขากังวลแค่ว่า
เราไม่สบาย หาเงินไม่ได้ เขาห่วงแค่ตัวเอง ว่าเราจะไม่มีเงินให้เขา
หลังจากรอดตายครั้งนั้น เราหันหลังให้ทุกคนในครอบครัว
ตัดขาด ไม่ติดต่อ ไม่กลับบ้านนานกว่าสองปี ไม่ส่งเงินด้วย
แล้วหันกลับมารักตัวเอง
ตอนนั้นพอตัดขาดครอบครัว เริ่มมองเห็นความงดงามของชีวิต
ใช้เงินที่หาได้ โอบกอดตัวเอง ไปเที่ยว ซื้อของที่อยากได้
ได้ยิ้ม ได้หัวเราะ ได้มีความสุข กินของอร่อย เริ่มดีใจนิดๆ ที่ได้เกิดมา
เราเกลียดตัวเองน้อยลง เป็นมิตรกับโลกและผู้คนมากขึ้น
แรกๆ คนที่บ้านเราตกใจมาก ที่เราเปลี่ยนเป็นคนละคน ไม่สนใจดร่าม่าในบ้าน
ปล่อยทุกอย่างไปตามยถากรรม สุดท้าย เขาก็ไม่เห็นจะตัดเราจากครอบครัวนี่คะ
โทรมาตามกลับบ้านบ้างไรบ้าง พอป่วยก็ถามไถห่วงใยบ้าง แปลกนะ ตอนเรารักเขาดีกับเขา
ุทุ่มเทให้พวกเขา พวกเขากลับทำกับเราเหมือนพรมเช็ดเท้า
แต่พอเราเป็นลูกที่เห็นแก่ตัวบ้าง เกเรบ้าง นิสัยเสียบ้าง
อาละวาดบ่นบ้างไรบ้าง เขากลับดูรักเราห่วงเรา มากกว่าตอนที่เรา
เป็นเครื่องเอทีเอ็มอีกค่ะ
ตอนนี้เรามีเงินก็ให้นะ ดูแลครอบครัวตามกำลังที่มี แต่จะมาดราม่าเอาเงินทอง
ไปช่วยลูกรัก ลูกเหลวไหลคนอื่นๆ หรือช่วยญาติคนไหน เราไม่สนไม่แคร์ ไม่ฟัง
ชีวิตเราก็ขึ้น ครอบครัวเรา ก็เรียนรู้ที่จะพึ่งพาตัวเองมากขึ้น
ความคิดเห็นที่ 28
หยุดช่วยค่ะ
จากประสบการณ์ตรงในครอบครัวเราเองนี่แหละ
ครอบครัวเราพี่ชายคนโตเป็นหมอ รายได้เยอะ
เกษียณเมื่อปีที่แล้ว
แต่ไม่มีสมบัติเงินทองติดตัว มีแค่บ้าน 1 หลัง
ตอนหนุ่มๆ ส่งเสียน้องเรียน (น้องหลายคน)
วัยกลางๆ ค้ำประกันให้เพื่อนแล้วเพื่อนหนีหนี้ ต้องชดใช้แทนหลายล้าน
บวกกับน้องบางคนเริ่มมีครอบครัว ก็มาขอให้ช่วยโน่นๆ นี่ๆ เป็นเงินก้อนหลายครั้ง
วัยใกล้เกษียณ ส่งเสียแม่และน้องบางคนที่เอาตัวไม่รอด แถมเอาหลานมาให้ช่วยส่งเรียนหนังสืออีก
คนบางคน
เค้าไม่สามารถจัดการวางแผนชีวิต
ไม่สามารถบริหารเรื่องเงินทองของตัวเองได้ คิดแต่จะพี่งคนอื่นร่ำไป
เพราะรู้ว่าพึ่งได้
แล้วคุณจะต้องช่วยไปตลอดไม่จบสิ้น
ถ้ายังช่วยอยู่ เตรียมตัวส่งหลานเรียนได้เลย
จากประสบการณ์ตรงในครอบครัวเราเองนี่แหละ
ครอบครัวเราพี่ชายคนโตเป็นหมอ รายได้เยอะ
เกษียณเมื่อปีที่แล้ว
แต่ไม่มีสมบัติเงินทองติดตัว มีแค่บ้าน 1 หลัง
ตอนหนุ่มๆ ส่งเสียน้องเรียน (น้องหลายคน)
วัยกลางๆ ค้ำประกันให้เพื่อนแล้วเพื่อนหนีหนี้ ต้องชดใช้แทนหลายล้าน
บวกกับน้องบางคนเริ่มมีครอบครัว ก็มาขอให้ช่วยโน่นๆ นี่ๆ เป็นเงินก้อนหลายครั้ง
วัยใกล้เกษียณ ส่งเสียแม่และน้องบางคนที่เอาตัวไม่รอด แถมเอาหลานมาให้ช่วยส่งเรียนหนังสืออีก
คนบางคน
เค้าไม่สามารถจัดการวางแผนชีวิต
ไม่สามารถบริหารเรื่องเงินทองของตัวเองได้ คิดแต่จะพี่งคนอื่นร่ำไป
เพราะรู้ว่าพึ่งได้
แล้วคุณจะต้องช่วยไปตลอดไม่จบสิ้น
ถ้ายังช่วยอยู่ เตรียมตัวส่งหลานเรียนได้เลย
แสดงความคิดเห็น
เครียดเรื่องครอบครัวมาก ๆ เราตัดสินใจแบบนี้ใจดำมากมั้ยคะ
พอเราถามพ่อกับแม่ก็ไม่ยอมบอก บอกแต่ว่าช่วยบางครั้ง พ่อแม่เราเป็นแค่เกษตรกรธรรมดาหาเงินได้จากการปลูกผักขายเงินก็ไม่ได้เยอะ แต่หาได้มาเท่าไหร่พี่สาวเราก็มาเอาไปหมด เพราะหนี้มันเยอะ รถคันนี้ที่ซื้อก็เป็นเงินเราดาวน์ ตอนแรกพ่อกับแม่จะให้ซื้อเป็นชื่อเราเพราะชื่อพี่สาวติดแบล็กลิสต์ เราไม่ยอมเพราะรู้ว่ายังไงมันก็ไม่มีปัญญาผ่อนได้หรอก ที่สำคัญคำนวณจากเงินเดือนพี่สาวแล้วหลังจากหักค่าผ่อนบ้านและค่าอื่น ๆ แล้วเหลือเงินแค่ 2000 ต่อเดือนแล้วจะซื้อรถ มันเป็นไปไม่ได้ เราค้านพ่อกับแม่หัวชนฝาแต่ไม่มีใครฟังเราเลยบอกแต่ว่าสงสารหลานที่ต้องเดินทางไปโรงเรียนลำบาก แล้วก็ง้องแง้งใส่เราอีกว่าไม่ช่วยพี่ สุดท้ายเราตัดปัญหาให้เป็นเงินดาวน์ไป และพ่อก็ซื้อรถเป็นชื่อเค้า
มันเป็นชีวิตที่น่าเบื่อมาก ๆ เลยนะ เราทำงานได้เงินเดือนเยอะแต่ไม่เคยมีเงินเก็บเลยเพราะญาติพี่น้อง พอเรากำลังจะเก็บเงินได้ก็จำต้องมีเรื่องให้ที่บ้านมาเอาไปตลอด จนไม่เหลือ ไม่เหลือเลย
พี่สาวเรารับราชการตำแหน่งก็สูงด้วยนะแต่หนี้ท่วมหัว กู้เงินเต็มพิกัดที่ราชการจะกู้ได้แต่ไม่มีปัญญาผ่อน สามีมีดีแค่หน้าตาแต่ไม่มีงานทำ ปอกลอก หลอกให้กู้เงินมาลงทุนพอเจ๊งก็หายหัวไปอยู่กับ ผญ คนใหม่ และไม่ได้ทำแบบนี้แค่ครั้งเดียวนะ พอ ผช ไปซะพี่เราก็ฟูมฟายเสียใจ พอมันกลับมาก็อยู่กินกับมันอีก เป็นแบบนี้มาจะสิบครั้งแล้วมั้ง เราด่าพี่ว่าโง่ น่าจะคิดได้ตั้งแต่ครั้งที่สองแล้วทำไมยังปล่อยให้ชีวิตวนเวียนอยู่เหมือนเดิม ผช กลับมาแต่ละครั้งก็มาสร้างหนี้ แล้วก็หายไป ถ้าเป็น ผญ คนอื่นก็คงจะเลิกไปนานแล้วแต่นี่ !!!! นางยังรัก เป็นสิ่งที่เราไม่เข้าใจมาก ๆ และจะไม่มีวันเข้าใจ ผญ ที่รัก ผช แบบนี้ เราเข้าใจอย่างเดียวคือคุณเป็น ผญ โง่ จบนะ
และที่เจ็บปวดที่สุดคือพี่เรากำลังจะถูกศาลสั่งให้เป็นบุคคลล้มละลาย กำลังจะให้โดนออกจากราชการ สามีก็ทิ้ง คือแย่มาก ๆ แต่บางทีเราก็อยากให้มันออกให้จบ ๆ ไปเลยนะ ออกมารับกรรมที่เคยทำไว้แล้วจะได้สำนึกกับสิ่งที่ผ่านมาบ้าง พอครบสามปีพ้นล้มละลายค่อยไปสมัครรับราชการใหม่ พ่อแม่ก็ไม่รู้จะพึ่งใครก็คงเป็นเราอีก บอกว่าต้องผ่อนจ่ายให้เค้าเดือนละแปดพัน แต่!!! จะหาจากไหนลำพังค่าผ่อนรถมันก็หาไม่ได้ เงินเดือนก็เหลือเดือนละสองพันแล้วจะหามาให้เค้าจากไหนทุกเดือน จะให้เรามาส่งให้ทุกเดือนเราก็ไม่ไหวนะ ไม่ได้เกิดมาเพื่อรับผิดชอบชีวิตใคร เราก็ต้องมีชีวิตของเราไม่ใช่ทำงานทั้งชีวิตเพื่อใช้หนี้ให้คนอื่น
ครั้งนี้เราตัดสินใจไม่ช่วย ฟังดูใจดำมาก ๆ แต่เราคิดแล้ว ตอนนี้ยังนั่งร้องไห้อยู่เลยค่ะเครียดมากจริง ๆ