สวัสดีครับ จขกท.อายุ 18 เกิดในครอบครัวฐานะค่อนข้างดี(ตอนเกิดน่ะนะ) ปัจจุบันค่อนข้างไม่ดีแล้วครับ
ตอนผมเด็กๆพ่อของผมเคยประสบความสำเร็จและมีจุดนึงที่สูงสุดในชีวิตครับ แต่นั่นก็แลกมากับหลายๆอย่างก่อนหน้านั้นทั้งมิตรภาพ ความไว้ใจ ความเชื่อใจ หลายๆอย่างที่เป็นนามธรรม (ฟังจากน้องของพ่อเล่ามา)
แต่วันนี้มันตรงข้ามกันครับ เค้าไม่เหลืออะไรเลย เพราะแต่งงานใหม่กับผู้หญิงคนนึง ลงทุนกับเค้าไปมาก (ระดับ7หลัก) และมันตามพล็อตละครมากครับ พ่อของผมป่วยเป็นโรคเกี่ยวกับสมอง เป็นอัมพาตราวๆ 1 ปี เค้าก็หย่าร้างกันครับ
ซึ่งก่อนหน้านั้นเค้าก็ไม่ค่อยสนใจใยดีทางผมมากนักหรอกครับ (ผมอยู่กับน้องของพ่อครับ เป็นผู้ปกครองส่งเสียเลี้ยงดูมา จะแทนว่าครอบครัวของผมนะครับ) เค้าซื้อรถเงินสดให้ผู้หญิงได้ ในขณะที่ฝั่งผมตกอับมากที่สุดจนต้องไปขอข้าววัดอยู่ไปวันๆ เค้าสามารถไปเยี่ยมญาติของฝ่ายหญิงได้ ในขณะที่ลูกแท้ๆป่วยจนหายก็ยังไม่มา ช่วงมัธยม ผมมีความจำเป็นต้องใช้คอมพ์ครับ เค้าก็ซื้อใหม่ แต่ซื้อให้ผู้หญิงของเค้านะครับ แล้วเอาเครื่องเก่าเท่าๆอายุผมมาให้ผมใช้ (น้ำตาจิไหล) มือถือรุ่นดีๆก็ไม่เคยได้ ได้มาแต่แบบใช้ปีเดียวพัง เรื่องมันมีเยอะครับ แต่เค้นความจำละเหนื่อย จะว่าผมเอาแต่ใจเป็นลูกคุณหนูอะไรก็ต้องได้ก็แล้วแต่นะครับ ผมคิดว่ารายได้ระดับนั้นลูกแค่คนเดียวควรจะได้สิ่งที่ดีกว่านี้อะ
หลังจากหย่าร้างกัน เค้าก็หมดตัวครับ (ทุกอย่างที่ทำมาไม่ได้อะไรเลย บ้านก็ซื้อบนที่ดินของฝ่ายหญิง รถก็ซื้อในชื่อของฝ่ายหญิง) เค้าก็ต้องมาอาศัยอยู่กับผมครับ แล้วผมกับครอบครัวก็ต้องเลี้ยงดูเค้าครับ แต่มันก็มองหน้ากันไม่ติดอะ ก็หาข้าวหาน้ำให้กินกับให้ที่นอนอะไรงี้อะครับ ครอบครัวก็มีภาระมากมายมหาศาล ทั้งค่าที่ดิน ค่ารถ หนี้สินนิดหน่อย รวมๆแล้วก็เยอะแหละครับ ผมก็ต้องออกไปทำงานช่วยแบ่งเบาครอบครัว แล้วก็สอบเข้ามหาลัยไปด้วย แต่ก็ไม่รู้จะได้เรียนมั้ยนะครับ ทุกวันนี้เหมือนสอบไปงั้นๆเอง ก็เหนื่อยครับ แต่ชีวิตเราคงไม่ได้อย่างใจหวังทุกอย่างหรอก ผมเข้าใจ
สุดท้ายนี่ก็จะไม่ถามหรอกครับว่าควรจะทำยังไงต่อ ผมแค่อยากบ่นๆให้สบายใจบ้างน่ะครับ ใครที่คิดว่าครอบครัวตัวเองไม่ดี ผมก็อยากลองแบ่งปันดูครับ เผื่อปัญหาของบางคนจะดูเล็กลงบ้าง
[ระบาย] เหนื่อยกับความเห็นแก่ตัวของคนในครอบครัวเหลือเกิน
ตอนผมเด็กๆพ่อของผมเคยประสบความสำเร็จและมีจุดนึงที่สูงสุดในชีวิตครับ แต่นั่นก็แลกมากับหลายๆอย่างก่อนหน้านั้นทั้งมิตรภาพ ความไว้ใจ ความเชื่อใจ หลายๆอย่างที่เป็นนามธรรม (ฟังจากน้องของพ่อเล่ามา)
แต่วันนี้มันตรงข้ามกันครับ เค้าไม่เหลืออะไรเลย เพราะแต่งงานใหม่กับผู้หญิงคนนึง ลงทุนกับเค้าไปมาก (ระดับ7หลัก) และมันตามพล็อตละครมากครับ พ่อของผมป่วยเป็นโรคเกี่ยวกับสมอง เป็นอัมพาตราวๆ 1 ปี เค้าก็หย่าร้างกันครับ
ซึ่งก่อนหน้านั้นเค้าก็ไม่ค่อยสนใจใยดีทางผมมากนักหรอกครับ (ผมอยู่กับน้องของพ่อครับ เป็นผู้ปกครองส่งเสียเลี้ยงดูมา จะแทนว่าครอบครัวของผมนะครับ) เค้าซื้อรถเงินสดให้ผู้หญิงได้ ในขณะที่ฝั่งผมตกอับมากที่สุดจนต้องไปขอข้าววัดอยู่ไปวันๆ เค้าสามารถไปเยี่ยมญาติของฝ่ายหญิงได้ ในขณะที่ลูกแท้ๆป่วยจนหายก็ยังไม่มา ช่วงมัธยม ผมมีความจำเป็นต้องใช้คอมพ์ครับ เค้าก็ซื้อใหม่ แต่ซื้อให้ผู้หญิงของเค้านะครับ แล้วเอาเครื่องเก่าเท่าๆอายุผมมาให้ผมใช้ (น้ำตาจิไหล) มือถือรุ่นดีๆก็ไม่เคยได้ ได้มาแต่แบบใช้ปีเดียวพัง เรื่องมันมีเยอะครับ แต่เค้นความจำละเหนื่อย จะว่าผมเอาแต่ใจเป็นลูกคุณหนูอะไรก็ต้องได้ก็แล้วแต่นะครับ ผมคิดว่ารายได้ระดับนั้นลูกแค่คนเดียวควรจะได้สิ่งที่ดีกว่านี้อะ
หลังจากหย่าร้างกัน เค้าก็หมดตัวครับ (ทุกอย่างที่ทำมาไม่ได้อะไรเลย บ้านก็ซื้อบนที่ดินของฝ่ายหญิง รถก็ซื้อในชื่อของฝ่ายหญิง) เค้าก็ต้องมาอาศัยอยู่กับผมครับ แล้วผมกับครอบครัวก็ต้องเลี้ยงดูเค้าครับ แต่มันก็มองหน้ากันไม่ติดอะ ก็หาข้าวหาน้ำให้กินกับให้ที่นอนอะไรงี้อะครับ ครอบครัวก็มีภาระมากมายมหาศาล ทั้งค่าที่ดิน ค่ารถ หนี้สินนิดหน่อย รวมๆแล้วก็เยอะแหละครับ ผมก็ต้องออกไปทำงานช่วยแบ่งเบาครอบครัว แล้วก็สอบเข้ามหาลัยไปด้วย แต่ก็ไม่รู้จะได้เรียนมั้ยนะครับ ทุกวันนี้เหมือนสอบไปงั้นๆเอง ก็เหนื่อยครับ แต่ชีวิตเราคงไม่ได้อย่างใจหวังทุกอย่างหรอก ผมเข้าใจ
สุดท้ายนี่ก็จะไม่ถามหรอกครับว่าควรจะทำยังไงต่อ ผมแค่อยากบ่นๆให้สบายใจบ้างน่ะครับ ใครที่คิดว่าครอบครัวตัวเองไม่ดี ผมก็อยากลองแบ่งปันดูครับ เผื่อปัญหาของบางคนจะดูเล็กลงบ้าง