สามีเราเป็นลูกคนเดียวค่ะ เราเองก็ลูกคนเดียวเช่นกัน แม่สามีจะค่อนข้างรักสามีมากกกก....ก่อนแต่งงานเราเองก็พอรู้ว่าแม่สามีไม่ค่อยชอบเราเท่าไหร่ เพราะบ้านเราฐานะปานกลาง แม่สามีชอบคนรวย คือเราสังเกตุเอาจากสีหน้า การพูดจา เช่น เพือนๆเธอเค้ามีอิจฉาเธอมั้ย (ประมาณว่ามีแฟนรวย) ซึ่งในความรู้สึกเราคือ เอิ่มมมม....คือก่อนหน้านี้แฟนเก่าเราคือมีฐานะกันทุกคน เราเลยเฉยๆกับเรื่องพวกนี้มาก ก็เลยยิ้มๆไป คืองงไง มาพูดอะไรแบบนี้ มาอีกทีก็พูดประมาณว่า เธอนี่เหมือนจะตกถังข้าวสารเลยน่ะ เราคิดในใจ คุณป้า(ก่อนแต่งงานเราเรียกแม่สามีว่าคุณป้า) คุณป้าแกคงไม่ปกติแล้วล่ะ คือคุณป้าไม่ได้รวยอภิมหาอะไรขนาดนั้นน่ะค่ะ คือค้าขายธรรมดา เราก็ปล่อยๆไป คือพยายามไม่คิดไร เพราะเวลามีอะไรจะไประบายกับเพื่อนมันเลยกลายเป็นเรื่องขำๆแบบเล่าสู่กันฟัง ....
ผ่านมาจากนั้นก็มีเรื่องราวเป็นระยะๆที่แกชอบพูดใส่ แต่เราก็ทำเมิน หูทวนลมแบบไม่ใส่ใจ แต่หลังจากแต่งงานพอมีลูกเริ่มหนักค่ะ เราก็ไม่ได้อะไรก็มีบ่นกับสามีบ้าง แต่เค้าก็ไม่ได้ว่าไงเพราะเค้ารักแม่เค้ามาก แม่สามีเริ่มเยอะขึ้นเรื่อย เราแยกบ้านกันอยุ่กับแม่สามีค่ะ ในบ้านบางครั้ง เสือผ้า ของใช้ แกจะเข้ามาจัดแจงทุกอย่าง เปลี่ยนที่เปลี่ยนทาง จากที่เป็นระเบียบ จนมันไม่เป็นระเบียบต้องมารื้อออกใหม่ ข้าวของบางอย่างที่มีค่าของเรา บางครั้งค้นแล้วเอาไปเก็บไว้เอง (เรานี่โคดงง) เราเริ่มมีอารมล่ะ คือนี่แยกบ้านแล้วน่ะ ยังไม่ส่วนตัวเลย ล่าสุดนี่สงสัยว่างมากหรืออะไรไม่รู้ เอาเราไปนินทาให้ญาติพี่น้องเค้าฟัง ว่าเราใช้เงินเก่ง แต่งตัว แต่งหน้าทาปาก อยากได้อะไรก็บอกให้ลูกเค้าซื้อให้ ทำตัวโอเวอร์ แล้วที่สำคัญว่าเราไปด่าเค้าจนตัวสั่น เห้ยย!! คือเราได้ยินมาแล้วแบบ ไหวมั้ยอ่า เราคิดล่ะ แม่สามีเราป่วยแน่!! คือทุกสิ่งที่ออกมาจากปากนี่ไม่ได้มีมูลอะไรเลย ครั้งแรกที่เราได้ยิน เรากลัว ผญ. คนนี้มากค่ะ กลัวมาก ว่าทำไมกล้าแต่งเรื่องพูดได้ขนาดนี้ แต่พอมาตอนนี้เราเปลี่ยนจากกลัวมาเป็นไม่ชอบ จะว่าเกลียดเลยก็ได้ ที่เรา ว่าเกลียดคือเราอยู่เฉยไงค่ะ คือไม่ได้ไปเข้าไปยุ่งวุ่นวายอะไรกับเค้าเลย แต่สิ่งหนึ่งที่เราพอจะเข้าใจคือ เวลาแม่สามีพูดอะไร ถ้าบางสิ่งบางอย่างเราไม่เห็นด้วย คือเราก้จะบอกแนะไปในทางอื่น เช่น หมู่บ้านบางหมู่บ้านเค้าจะดูถูกว่า สังคมพวกนี้มันไม่เหมาะกับชนชั้นอย่างเรา อันนี้คือเราไม่ชอบน่ะ คนเราจะยังไงก้ช่างก็ไม่ควรไปดูถูกคนอื่น และบางเรื่องเค้าจะพูดว่าพวกคนแกทีาเกษียณอยู่บ้านไม่ได้ทำงานเป็นพวกไร้ค่า ไม่รู้จักหาเงิน อันนี้เรามองว่าคือจะไปยุ่งกับเค้าทำไม เค้าก็ทำงานกันมาทั้งชีวิตก็ควรจะได้พักผ่อนมิใช่หรือ มันไร้ค่าตรงไหน แล้วอีกอย่างแกชอบดูถูกว่าพวกมนุษย์เงินเดือนใภาวะเศรษฐกิจแบบนี้คงตายกันหมด คือเราก็มองว่าถ้าเค้ารู้จักใช้จ่ายกันมันไม่มีใครตายหรอก ชีวิตแต่ละคนมัยก็ต้องเกินต่อไป คือถ้าแกพูดเรื่องพวกนี้เราจะเปฺนแบบสีหน้าเอือมๆไงเพราะมันจะทำให้สามีเราซึมซาบความคืดพฤติกรรมแบบนี้ บางทีก็พูดต่อหน้าสามีเราอีกอย่างพูดกับเราอีกอย่าง เช่น วันไหนมีแม่บ้านมาทำบ้าน เค้าจะมากระซิบกับเราว่า เธอจ่ายค่าแม่บ้านเองน่ะ เราก็ค่ะๆๆ พอสามีเราเดินมาเท่านั้นล่ะ พูดซะเสียงดัง เดียวแม่จ่ายค่าแม่บ้านให้เองละกัน เราก็... เอ๋อออไปสิค่ะ.... จนเราว่ามันไม่ใช่ล่ะ มันมีอีกหล่ยๆเรื่องอ่ะคะ แม่สามีแกล้งป่วยบ้าง พาไปหาหมอ คุณหมอก็บอกไม่เป็นอะไร...เห้อออ หลายเรื่องคะ จนตอนนี้คิดว่าไม่อยากเจอหน้าแม่สามีเลย เลี่ยงได้คืออยากเลี่ยงมาก คือมันไม่โอเค ทั้งๆที่เราออกาอยุ่กันก็ไม่ได้ไกลจากแม่สามีมาก สามีก็ต้องเข้าไปทำงานที่ร้านเจอหน้าคุณแม่เค้าทุกวัน เรางงอ่ะค่ะ เบื่อมากกกกกก แต่ก้พยายามปล่อยๆไผเพราะเราก้มีลูกที่ต้องดูแล ได้แต่บอกกับตัวเอง....อดทนค่ะ
มีใครในที่นี้ไม่ถูกกับแม่สามีบ้างค่ะ???
ผ่านมาจากนั้นก็มีเรื่องราวเป็นระยะๆที่แกชอบพูดใส่ แต่เราก็ทำเมิน หูทวนลมแบบไม่ใส่ใจ แต่หลังจากแต่งงานพอมีลูกเริ่มหนักค่ะ เราก็ไม่ได้อะไรก็มีบ่นกับสามีบ้าง แต่เค้าก็ไม่ได้ว่าไงเพราะเค้ารักแม่เค้ามาก แม่สามีเริ่มเยอะขึ้นเรื่อย เราแยกบ้านกันอยุ่กับแม่สามีค่ะ ในบ้านบางครั้ง เสือผ้า ของใช้ แกจะเข้ามาจัดแจงทุกอย่าง เปลี่ยนที่เปลี่ยนทาง จากที่เป็นระเบียบ จนมันไม่เป็นระเบียบต้องมารื้อออกใหม่ ข้าวของบางอย่างที่มีค่าของเรา บางครั้งค้นแล้วเอาไปเก็บไว้เอง (เรานี่โคดงง) เราเริ่มมีอารมล่ะ คือนี่แยกบ้านแล้วน่ะ ยังไม่ส่วนตัวเลย ล่าสุดนี่สงสัยว่างมากหรืออะไรไม่รู้ เอาเราไปนินทาให้ญาติพี่น้องเค้าฟัง ว่าเราใช้เงินเก่ง แต่งตัว แต่งหน้าทาปาก อยากได้อะไรก็บอกให้ลูกเค้าซื้อให้ ทำตัวโอเวอร์ แล้วที่สำคัญว่าเราไปด่าเค้าจนตัวสั่น เห้ยย!! คือเราได้ยินมาแล้วแบบ ไหวมั้ยอ่า เราคิดล่ะ แม่สามีเราป่วยแน่!! คือทุกสิ่งที่ออกมาจากปากนี่ไม่ได้มีมูลอะไรเลย ครั้งแรกที่เราได้ยิน เรากลัว ผญ. คนนี้มากค่ะ กลัวมาก ว่าทำไมกล้าแต่งเรื่องพูดได้ขนาดนี้ แต่พอมาตอนนี้เราเปลี่ยนจากกลัวมาเป็นไม่ชอบ จะว่าเกลียดเลยก็ได้ ที่เรา ว่าเกลียดคือเราอยู่เฉยไงค่ะ คือไม่ได้ไปเข้าไปยุ่งวุ่นวายอะไรกับเค้าเลย แต่สิ่งหนึ่งที่เราพอจะเข้าใจคือ เวลาแม่สามีพูดอะไร ถ้าบางสิ่งบางอย่างเราไม่เห็นด้วย คือเราก้จะบอกแนะไปในทางอื่น เช่น หมู่บ้านบางหมู่บ้านเค้าจะดูถูกว่า สังคมพวกนี้มันไม่เหมาะกับชนชั้นอย่างเรา อันนี้คือเราไม่ชอบน่ะ คนเราจะยังไงก้ช่างก็ไม่ควรไปดูถูกคนอื่น และบางเรื่องเค้าจะพูดว่าพวกคนแกทีาเกษียณอยู่บ้านไม่ได้ทำงานเป็นพวกไร้ค่า ไม่รู้จักหาเงิน อันนี้เรามองว่าคือจะไปยุ่งกับเค้าทำไม เค้าก็ทำงานกันมาทั้งชีวิตก็ควรจะได้พักผ่อนมิใช่หรือ มันไร้ค่าตรงไหน แล้วอีกอย่างแกชอบดูถูกว่าพวกมนุษย์เงินเดือนใภาวะเศรษฐกิจแบบนี้คงตายกันหมด คือเราก็มองว่าถ้าเค้ารู้จักใช้จ่ายกันมันไม่มีใครตายหรอก ชีวิตแต่ละคนมัยก็ต้องเกินต่อไป คือถ้าแกพูดเรื่องพวกนี้เราจะเปฺนแบบสีหน้าเอือมๆไงเพราะมันจะทำให้สามีเราซึมซาบความคืดพฤติกรรมแบบนี้ บางทีก็พูดต่อหน้าสามีเราอีกอย่างพูดกับเราอีกอย่าง เช่น วันไหนมีแม่บ้านมาทำบ้าน เค้าจะมากระซิบกับเราว่า เธอจ่ายค่าแม่บ้านเองน่ะ เราก็ค่ะๆๆ พอสามีเราเดินมาเท่านั้นล่ะ พูดซะเสียงดัง เดียวแม่จ่ายค่าแม่บ้านให้เองละกัน เราก็... เอ๋อออไปสิค่ะ.... จนเราว่ามันไม่ใช่ล่ะ มันมีอีกหล่ยๆเรื่องอ่ะคะ แม่สามีแกล้งป่วยบ้าง พาไปหาหมอ คุณหมอก็บอกไม่เป็นอะไร...เห้อออ หลายเรื่องคะ จนตอนนี้คิดว่าไม่อยากเจอหน้าแม่สามีเลย เลี่ยงได้คืออยากเลี่ยงมาก คือมันไม่โอเค ทั้งๆที่เราออกาอยุ่กันก็ไม่ได้ไกลจากแม่สามีมาก สามีก็ต้องเข้าไปทำงานที่ร้านเจอหน้าคุณแม่เค้าทุกวัน เรางงอ่ะค่ะ เบื่อมากกกกกก แต่ก้พยายามปล่อยๆไผเพราะเราก้มีลูกที่ต้องดูแล ได้แต่บอกกับตัวเอง....อดทนค่ะ