22/12/59 : ตัดสินใจทำประกันภัยรถยนต์ชั้น1 กับบริษัทพ่อค้าคนกลางออนไลน์แห่งหนึ่ง หลังจากไม่สะดวกใจรับสาย จากการเชิญชวนอย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอ พนง.มีการให้ข้อมูลทางโทรศัพท์อยู่นานพอสมควร พร้อมรายละเอียดเบี้ยประกัน ความคุ้มครอง และค่าใช้จ่าย
พนง.แจ้งว่าค่าเบี้ยประกันชั้น1 ราคา15,xxx บาท
มีส่วนลดให้ 5 % และเรามีโค้ดส่วนลดเพิ่มอีก4,000 บาท
(ได้รับจากแคมเปญถ่ายรูปประชาสัมพันธ์ออนไลน์ให้บริษัทตั้งแต่ช่วงกลางปีที่ผ่านมา) ซึ่งพนง.ได้สรุปยอดทั้งหมดที่ต้องจ่าย พร้อมแจ้งว่าสามารถตัดจ่ายผ่านบัตรเครดิตได้ วิธีการคือแจ้งเลขหน้าบัตรและวันหมดอายุ/ถ่ายรูปหน้าบัตรส่งให้พนง.ทางLINE@ โดยส่วนตัวไม่เคยใช้บัตรเครดิตในการชำระสินค้าลักษณะนี้ ถามว่าไว้ใจได้แค่ไหนในการให้เลขบัตรเครดิตกับพนง.ซึ่งเป็นใครก็ไม่รู้ แต่จากการสอบถามอย่างละเอียด(ย้ำว่าอย่างละเอียดโดยเฉพาะเรื่องตัวเลขเงินที่ต้องตัดผ่านบัตร)เพื่อที่เราจะได้มีหลักฐานยืนยันในการชำระเงิน และคำพูดของพนง.ที่น่าเชื่อถือ เป็นมิตร และที่สำคัญก่อนตัดสินใจให้ตัดบัตรด้วยวงเงิน11,xxx เราได้คุยกับพนง.ที่แจ้งว่าเป็นหัวหน้า ทุกอย่างดูง่ายดูดีไม่มีปัญหาอะไร หลังจากนั้นไม่นานมีSMSแจ้งยอดตัดบัตรซึ่งก็ตรงกับการแจ้งของพนง.เมื่อสักครู่ พร้อมแจ้งว่าให้ส่งเอกสารส่วนตัวทางLINE@ในช่วงเย็นเพื่อคุ้มครองชั้น3+ไว้ก่อนในทันที ระหว่างรอตรวจสภาพรถ แต่หลักจากนั้นไม่นานประมาณ4โมงก็ได้แจ้งกลับมาว่าหากวันนี้ส่งเอกสารไม่ทัน ทางบ.ต้องทำการคืนเงินที่ตัดบัตรไว้ก่อนแล้วหากพรุ่งนี้(คือวันนี้)มีการส่งเอกสารเข้าไปทางบ.จะทำการตัดบัตรใหม่อีกครั้ง
23/12/59 : ได้รับการติดต่อกลับมาว่ายอดตัดบัตรในวันนี้สำหรับเบี้ยประกันคือ12,xxx เดี๋ยวนะนี่ราคาเบี้ยประกันหรือราคาหุ้นคะ ทำไมแค่วันเดียวราคามันถึงได้ผันผวนขนาดนี้ล่ะ!!!!!! หัวหน้าคนเมื่อวานได้โทรกลับมาแจ้งว่าต้องขอโทษขออภัยเป็นอย่างสูงบลาบลาาา ในความผิดพลาดที่เกิดขึ้นเนื่องจากพนง.แจ้งข้อมูลผิดในส่วนของยอดชำระที่ตัดผ่านบัตรเมื่อวาน อ้างว่าเราได้ส่วนลด4,000บาทแล้วจะไม่ได้ส่วนลด5%อีก เพราะจะลดเกิน4,000ไม่ได้ งงสิคะที่นี้!!!!!!! เพราะเราติดต่อมาหาคุณ มาทำประกันรถยนต์กับคุณโดยความไม่รู้อะไรเลย ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะเลือกทำประกันกับบ.ไหนดี รู้แค่จะเอาส่วนลดที่ได้รับมาใช้ก่อนที่มันจะหมดอายุ31/12/59เท่านั้นเอง (และส่วนลดนี้ไม่ใช่ได้มาฟรี มันคือผลตอบแทนตามเงื่อนไขการช่วยโปรโมทเพจให้คุณ) เพราะเอาจริงแล้วหากคุณแจ้งเราว่า12,xxx ตั้งแต่แรกเราก้จ่ายตามปกติไม่ได้อะไร แต่นี่คุณอธิบายชี้แจงทุกสิ่งอย่างกับลูกค้า ทั้งหัวหน้าและลูกน้องให้ข้อมูลตรงกันว่าได้ส่วนลด4,000และส่วนลดอีก5%=11,xxx แต่วันนี้คุณกลับโทรมาแสดงความเสียใจ ขอโทษ และโบ้ยความผิดให้กับลูกน้องของคุณ ว่าเป็นความผิดของน้องพนง.ที่ให้ข้อมูลผิดพลาด ทำให้เกิดส่วนต่างที่ต้องเก็บเพิ่มจากลูกค้า และแน่นอนเราปฏิเสธ!!!!!!!!!!
หลังจากนั้นคือบทสนทนาที่อึมครึมพอสมควรระหว่างพนง.ที่อ้างว่าเป็นหัวหน้าของพนง.คนนั้น เจรจากันเกือบชั่วโมง *****แก่นสารมีอยู่ว่า..เกิดความผิดพลาดในการแจ้งยอดชำระ และหากลูกค้ายังยืนยันจะทำประกันนี้อยู่ล่ะก็ควรจะจ่ายส่วนเกินที่ผิดพลาดตรงนี้นะ เพราะหากเราไม่จ่ายเอง พนง.คนนั้นจะต้องเป็นคนจ่าย แต่จากการเจรจาเบื้องต้นน้องพนง.คนนั้นบ้านจนมากๆๆไม่มีเงินเหมือนกัน คงต้องใ้ห้ไปหาเงินมาชำระความผิดพลาดตรงนี้ จะกู้ธนาคารหรือทำยังไงก็ได้ให้ได้เงินมาจ่ายให้เรา (เฮ้ย! นี่มันส่วนต่าง7ร้อย หรือ 7ล้าน เอาดีดี!!!!) และตอนนี้พนง.คนนั้นเครียดมากจากความผิดพลาดที่ใหญ่หลวงในครั้งนี้ น้องพนง.คนนั้นอยากจะลาออก ซึ่งเท่ากับเราดูเลวมากเลยนะ เงินแค่นี้ออกเองไม่ได้หรอ ทำไมต้องทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่ จ่ายๆไปก็จบแล้ว เงินแค่ไม่ถึงพันแค่นี้ไม่มีปัญญาจ่ายหรอ*****
ซึ่งแน่นอนค่ะ แก่นสารอ้อมโลกด้านบนมาในรูปแบบคำพูดสวยหรู วกไปวนมาอยู่ในอ่าว แพทเทิ่ลเดิมๆที่ใครๆเขาก็ใช้กัน จิตวิทยาเบื้องต้นกดดันให้รู้สึกผิดแล้วยอมๆไป จบปัญหาตัดความรำคาญ ซึ่งก็เกือบได้ผลนะ.. แต่ในฐานะที่ทำงานด้านนี้ ด้านที่ต้องดูแลลูกค้า ดูแลความรู้สึกของลูกค้าให้เกิดความพึงพอใจสูงสุด ภายใต้การรักษาภาพลักษณ์ที่ดีของบริษัทเช่นกัน ดิฉันเข้าใจดีค่ะว่าความผิดพลาดเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา กรณีนี้ไม่ใช่ความผิดร้ายแรงหรือสามารถทำให้คุณล้มละลายได้ แต่เหตุใดบ.ไม่เลือกรักษาความรู้สึกลูกค้า ไม่คิดจะมองในมุมลูกค้าสักหน่อยหรอคะ ว่าเงินก็จำนวนไม่มากเท่าไหร่ แต่ทำไมลูกค้าถึงเลือกยืนกรานที่จะไม่จ่าย!!!!! และคดีจะพลิกทันทีหากคุณเลือกที่จะโทรแจ้งลูกค้าถึงความผิดพลาดที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งแสดงความรับผิดชอบโดยการชำระส่วนต่างจากความผิดพลาดตรงนี้ให้เพื่อเป็นการขอโทษที่ให้ข้อมูลผิด ตัดบัตรพลาด ไม่ใช่มาแถถามหาความรับผิดชอบจากผู้เสียหายเช่นนี้
และหากคำกล่าวอ้างของหัวหน้าพนง.คนนั้นสามารถเชื่อถือได้ ดิฉันเกรงว่าระบบภายในของบ.คุณน่าจะมีปัญหาแล้วล่ะคะ เพราะหากปัญหาภายในเพียงเล็กน้อยที่เกิดขึ้นจากพนง.ของคุณเอง คุณยังไม่สามารถบริหารจัดการได้ต้องคอยโทรมารายงานลูกค้าเพื่อให้ลูกค้าตัดสินใจให้ว่าควรทำอย่างไรดี แต่ไม่ว่ายังไงลูกค้าต้องเป็นคนแบกรับความผิดพลาดที่เกิดขึ้นจากพนง.ของเรานะคะ เพราะทางบริษัทไม่มีนโยบายตรงนี้ค่ะ อย่างงั้นสินะ!!!!!!!!!!
หยุดเอาเปรียบลูกค้า หยุดให้ค่าการตลาดปลอมๆเถอะค่ะ
/มองบน ขี่เกวียนวนๆไป
#บริษัทที่สร้างความน่าเชื่อถือด้วยโฆษณาออนไลน์อย่างกว้างขวางอยู่ในขณะนี้
#คดียังไม่จบค่ะคุณตำรวจ
#แชร์ไปให้ถึงSilkspan
เตือนภัยบริษัทนายหน้าประกันภัยรถยนต์ออนไลน์!!!!!!
พนง.แจ้งว่าค่าเบี้ยประกันชั้น1 ราคา15,xxx บาท
มีส่วนลดให้ 5 % และเรามีโค้ดส่วนลดเพิ่มอีก4,000 บาท
(ได้รับจากแคมเปญถ่ายรูปประชาสัมพันธ์ออนไลน์ให้บริษัทตั้งแต่ช่วงกลางปีที่ผ่านมา) ซึ่งพนง.ได้สรุปยอดทั้งหมดที่ต้องจ่าย พร้อมแจ้งว่าสามารถตัดจ่ายผ่านบัตรเครดิตได้ วิธีการคือแจ้งเลขหน้าบัตรและวันหมดอายุ/ถ่ายรูปหน้าบัตรส่งให้พนง.ทางLINE@ โดยส่วนตัวไม่เคยใช้บัตรเครดิตในการชำระสินค้าลักษณะนี้ ถามว่าไว้ใจได้แค่ไหนในการให้เลขบัตรเครดิตกับพนง.ซึ่งเป็นใครก็ไม่รู้ แต่จากการสอบถามอย่างละเอียด(ย้ำว่าอย่างละเอียดโดยเฉพาะเรื่องตัวเลขเงินที่ต้องตัดผ่านบัตร)เพื่อที่เราจะได้มีหลักฐานยืนยันในการชำระเงิน และคำพูดของพนง.ที่น่าเชื่อถือ เป็นมิตร และที่สำคัญก่อนตัดสินใจให้ตัดบัตรด้วยวงเงิน11,xxx เราได้คุยกับพนง.ที่แจ้งว่าเป็นหัวหน้า ทุกอย่างดูง่ายดูดีไม่มีปัญหาอะไร หลังจากนั้นไม่นานมีSMSแจ้งยอดตัดบัตรซึ่งก็ตรงกับการแจ้งของพนง.เมื่อสักครู่ พร้อมแจ้งว่าให้ส่งเอกสารส่วนตัวทางLINE@ในช่วงเย็นเพื่อคุ้มครองชั้น3+ไว้ก่อนในทันที ระหว่างรอตรวจสภาพรถ แต่หลักจากนั้นไม่นานประมาณ4โมงก็ได้แจ้งกลับมาว่าหากวันนี้ส่งเอกสารไม่ทัน ทางบ.ต้องทำการคืนเงินที่ตัดบัตรไว้ก่อนแล้วหากพรุ่งนี้(คือวันนี้)มีการส่งเอกสารเข้าไปทางบ.จะทำการตัดบัตรใหม่อีกครั้ง
23/12/59 : ได้รับการติดต่อกลับมาว่ายอดตัดบัตรในวันนี้สำหรับเบี้ยประกันคือ12,xxx เดี๋ยวนะนี่ราคาเบี้ยประกันหรือราคาหุ้นคะ ทำไมแค่วันเดียวราคามันถึงได้ผันผวนขนาดนี้ล่ะ!!!!!! หัวหน้าคนเมื่อวานได้โทรกลับมาแจ้งว่าต้องขอโทษขออภัยเป็นอย่างสูงบลาบลาาา ในความผิดพลาดที่เกิดขึ้นเนื่องจากพนง.แจ้งข้อมูลผิดในส่วนของยอดชำระที่ตัดผ่านบัตรเมื่อวาน อ้างว่าเราได้ส่วนลด4,000บาทแล้วจะไม่ได้ส่วนลด5%อีก เพราะจะลดเกิน4,000ไม่ได้ งงสิคะที่นี้!!!!!!! เพราะเราติดต่อมาหาคุณ มาทำประกันรถยนต์กับคุณโดยความไม่รู้อะไรเลย ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะเลือกทำประกันกับบ.ไหนดี รู้แค่จะเอาส่วนลดที่ได้รับมาใช้ก่อนที่มันจะหมดอายุ31/12/59เท่านั้นเอง (และส่วนลดนี้ไม่ใช่ได้มาฟรี มันคือผลตอบแทนตามเงื่อนไขการช่วยโปรโมทเพจให้คุณ) เพราะเอาจริงแล้วหากคุณแจ้งเราว่า12,xxx ตั้งแต่แรกเราก้จ่ายตามปกติไม่ได้อะไร แต่นี่คุณอธิบายชี้แจงทุกสิ่งอย่างกับลูกค้า ทั้งหัวหน้าและลูกน้องให้ข้อมูลตรงกันว่าได้ส่วนลด4,000และส่วนลดอีก5%=11,xxx แต่วันนี้คุณกลับโทรมาแสดงความเสียใจ ขอโทษ และโบ้ยความผิดให้กับลูกน้องของคุณ ว่าเป็นความผิดของน้องพนง.ที่ให้ข้อมูลผิดพลาด ทำให้เกิดส่วนต่างที่ต้องเก็บเพิ่มจากลูกค้า และแน่นอนเราปฏิเสธ!!!!!!!!!!
หลังจากนั้นคือบทสนทนาที่อึมครึมพอสมควรระหว่างพนง.ที่อ้างว่าเป็นหัวหน้าของพนง.คนนั้น เจรจากันเกือบชั่วโมง *****แก่นสารมีอยู่ว่า..เกิดความผิดพลาดในการแจ้งยอดชำระ และหากลูกค้ายังยืนยันจะทำประกันนี้อยู่ล่ะก็ควรจะจ่ายส่วนเกินที่ผิดพลาดตรงนี้นะ เพราะหากเราไม่จ่ายเอง พนง.คนนั้นจะต้องเป็นคนจ่าย แต่จากการเจรจาเบื้องต้นน้องพนง.คนนั้นบ้านจนมากๆๆไม่มีเงินเหมือนกัน คงต้องใ้ห้ไปหาเงินมาชำระความผิดพลาดตรงนี้ จะกู้ธนาคารหรือทำยังไงก็ได้ให้ได้เงินมาจ่ายให้เรา (เฮ้ย! นี่มันส่วนต่าง7ร้อย หรือ 7ล้าน เอาดีดี!!!!) และตอนนี้พนง.คนนั้นเครียดมากจากความผิดพลาดที่ใหญ่หลวงในครั้งนี้ น้องพนง.คนนั้นอยากจะลาออก ซึ่งเท่ากับเราดูเลวมากเลยนะ เงินแค่นี้ออกเองไม่ได้หรอ ทำไมต้องทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่ จ่ายๆไปก็จบแล้ว เงินแค่ไม่ถึงพันแค่นี้ไม่มีปัญญาจ่ายหรอ*****
ซึ่งแน่นอนค่ะ แก่นสารอ้อมโลกด้านบนมาในรูปแบบคำพูดสวยหรู วกไปวนมาอยู่ในอ่าว แพทเทิ่ลเดิมๆที่ใครๆเขาก็ใช้กัน จิตวิทยาเบื้องต้นกดดันให้รู้สึกผิดแล้วยอมๆไป จบปัญหาตัดความรำคาญ ซึ่งก็เกือบได้ผลนะ.. แต่ในฐานะที่ทำงานด้านนี้ ด้านที่ต้องดูแลลูกค้า ดูแลความรู้สึกของลูกค้าให้เกิดความพึงพอใจสูงสุด ภายใต้การรักษาภาพลักษณ์ที่ดีของบริษัทเช่นกัน ดิฉันเข้าใจดีค่ะว่าความผิดพลาดเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา กรณีนี้ไม่ใช่ความผิดร้ายแรงหรือสามารถทำให้คุณล้มละลายได้ แต่เหตุใดบ.ไม่เลือกรักษาความรู้สึกลูกค้า ไม่คิดจะมองในมุมลูกค้าสักหน่อยหรอคะ ว่าเงินก็จำนวนไม่มากเท่าไหร่ แต่ทำไมลูกค้าถึงเลือกยืนกรานที่จะไม่จ่าย!!!!! และคดีจะพลิกทันทีหากคุณเลือกที่จะโทรแจ้งลูกค้าถึงความผิดพลาดที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งแสดงความรับผิดชอบโดยการชำระส่วนต่างจากความผิดพลาดตรงนี้ให้เพื่อเป็นการขอโทษที่ให้ข้อมูลผิด ตัดบัตรพลาด ไม่ใช่มาแถถามหาความรับผิดชอบจากผู้เสียหายเช่นนี้
และหากคำกล่าวอ้างของหัวหน้าพนง.คนนั้นสามารถเชื่อถือได้ ดิฉันเกรงว่าระบบภายในของบ.คุณน่าจะมีปัญหาแล้วล่ะคะ เพราะหากปัญหาภายในเพียงเล็กน้อยที่เกิดขึ้นจากพนง.ของคุณเอง คุณยังไม่สามารถบริหารจัดการได้ต้องคอยโทรมารายงานลูกค้าเพื่อให้ลูกค้าตัดสินใจให้ว่าควรทำอย่างไรดี แต่ไม่ว่ายังไงลูกค้าต้องเป็นคนแบกรับความผิดพลาดที่เกิดขึ้นจากพนง.ของเรานะคะ เพราะทางบริษัทไม่มีนโยบายตรงนี้ค่ะ อย่างงั้นสินะ!!!!!!!!!!
หยุดเอาเปรียบลูกค้า หยุดให้ค่าการตลาดปลอมๆเถอะค่ะ
/มองบน ขี่เกวียนวนๆไป
#บริษัทที่สร้างความน่าเชื่อถือด้วยโฆษณาออนไลน์อย่างกว้างขวางอยู่ในขณะนี้
#คดียังไม่จบค่ะคุณตำรวจ
#แชร์ไปให้ถึงSilkspan