ใช่แล้วครับทุกคนอ่านถูกแล้ว วันนี้เราจะมาเล่าเรื่องการท่องเที่ยวครั้งล่าสุด และระทึกที่สุดที่เราเคยเจอจากประสบการณ์ที่เราเจอมาเอง และในคำว่าตายนี่ ขอย้ำว่าตายจริงๆ คือรู้ได้ว่าคนก่อนตายมันรู้สึกยังไง เพื่อไม่ให้เสียเวลา เริ่มเลยละกัน
พวกเราเป็นเพื่อนคณะเดียวกันในมหาวิทยาลัยรัฐชื่อดังแห่งหนึ่ง พวกเราตัดสินใจว่าจะไปเที่ยวที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน พวกเรามีทั้งหมด 5 คน ขอใช้นามแฝงเรียกแทนว่า อ,จ,พ,ต และ ป(เราเอง)
พวกเราก็ได้ไปตั้งเต้นท์ตรงบริเวณที่กางเต้นท์แห่งหนึ่งในจังหวัดแม่ฮ่องสอน และกินหมูกะทะเป็นข้าวเย็น เนื่องจากว่าทุกคนหิวมากก็เลยแย่งกันกินกันอย่างเร็วมากๆ แล้วหมูที่เอามาปิ้งนั้น มีมันติดมาเยอะมาก บางชิ้นนี่แทบจะเป็นมันทั้งชิ้น สุกยากhereๆ
แต่ตอนนั้นเราแคร์มั้ยว่ามันไม่สุก คำตอบที่เราจะมาเสียใจภายหลังคือ "ไม่" เพราะหิว รีบปิ้งรีบกิน ไม่งั้นอดแดรกแน่ๆ เพื่อนแต่ละคนกินจุhereๆ ถ้าเราไม่รีบ เราก็จะไม่ได้กิน ระหว่างกินผมก็รู้สึกว่าบางชิ้นนี้ไม่สุกเลย เหนียวมากๆแต่ก็ยังคงกิน พอกินเสร็จแล้วเราก็ต่อด้วยเหล้าทันที พวกเราก็กินเหล้า นั่งชิว เล่นกีต้าร์ ฟังเพลง กลางหุบเขา บรรยากาศแบบชิวhereๆ และเราก็ตบท้ายด้วยเบียร์ ซึ่งสำหรับคอเหล้าทั้งหลาย รวมถึงผมก็รู้ดีว่า การดื่มเหล้ากับเบียร์ผสมกันไม่ใช่ไอเดียที่ดีขนาดนั้น แต่ก็ยังดื่มอยู่ดี และดื่มเข้าไปเยอะด้วย เสร็จแล้วพวกเราก็เข้านอนในเต้นท์ โดยที่แบ่งกันนอน 2 เต้นท์ จ พ และ ต นอนด้วยกัน ส่วนเรานอนกับ อ ด้วยความที่เราเหนื่อยมาก เราก็หลับลงไปเลย ทั้งที่ยังไม่เมา หลับไปได้ไม่ถึงชั่วโมง ก็ได้เข้าสู่สิ่งที่เราจะเรียกว่า "12 ชั่วโมงนรกที่สุดในชีวิต"
โดยที่เริ่มจากเราตื่นมาในสภาพเมามากๆ เราก็ออกไปจากเต้นท์ออกไปไอแบบจะอ้วก เพื่อนอีกเต้นท์ก็ถามว่าเป็นอะไร เราก็บอกว่าไม่เป็นไร และระหว่างที่เราไออยู่เราก็ไม่ค่อยรู้สึกตัวเพราะเมามาก แต่เพื่อนเล่าให้ฟังว่า ตอนเราไออยู่ เราก็เตะเต้นท์เพื่อนจนหลังคาข้างหน้าล้มแล้วก็ไอ โดยที่เราเพ้อเรียกแม่ 2 รอบ แล้วก็เดินวนรอบเต้นท์ ตอนแรกเพื่อนจะออกมาช่วยเราเห็นเราไม่ตอบอะไร แต่เพื่อนไม่ออกมาช่วยเพราะฟังเดอะช็อกอยู่แล้วกลัว แถมยังฟังตอนที่เกี่ยวกับแม่น้ำที่มีเสียงจ๋อม พวกเรากางเต้นท์แทบจะติดตรงบ่อน้ำ เพื่อนเลยไม่ออกมาช่วย (ไอ้here ขอด่าหน่อย 555555 ล้อเล้นน่ะ รักพวก)
ต่อเลยและกัน ผมจำได้อีกทีผมก็วนกลับมาหน้าเต้นท์ตัวเอง แล้วก็ล้มตัวไปกองกับพื้น แล้วก็อ้วกออกมาตรงหญ้าตรงนั้นเลย อ้วกออกมารอบแรก จะกลับเข้าเต้นท์ก็อ้วกใหม่ ที่เดิมอีก 2 ครั้ง แล้วก็กลับเข้าเต้นท์พยายามนอนให้ได้ ตอนนั้นงงมากๆเพราะช่วงนี้กินเหล้าเยอะมากๆ กินเยอะจนชิน ไม่น่าอ้วกง่ายขนาดนั้น และทันใดนั้น ยังคิดไม่ทันจบก็จะอ้วกอีกครั้ง ทีนี้ผมก็เปิดแค่ซิปเต้นท์ และพยายามโปรเจกไทล์อ้วกตัวเองให้ไกลจากเต้นท์ที่สุด และพอเดินออกมาก็อ้วกที่เดิมอีกครั้ง รวมทั้งหมดแล้วเป็น 5 รอบ ตอนนั้นผมก็ยังเมาไม่ได้สติ ก็เลยเดินคนเดียว แบบไม่มีไฟฉาย รอบค่าย งงมากว่าไม่เตะเต้นท์คนอื่นได้ไง ไปถึงห้องน้ำห่างประมาณ 300 เมตรจากเต้นท์ จำได้ว่านาฬิกาตรงเต้นท์มันน่าจะสักตีหนึ่งครึ่ง แล้วก็เดินเซๆกลับเข้าเต้นท์ ตอนนั้นเริ่มรู้สึกหายเมาแล้ว พอกลับเข้าไปนอนไม่ถึง 10 นาที ก็ต้องเปิดเต้นท์อ้วกออกมาอีกครั้ง (และนี่เพิ่งจะเข้าชั่วโมงที่ 2 ) แล้วไม่ใช่อ้วกธรรมดาแล้ว ครั้งแรกๆ ออกมาเป็นน้ำเหมือนเหล้า แต่ครั้งที่ 6 นี่คือหมูกระทะทั้งเซ็ตเลยจร้า ทั้งผัก วุ้นเส้น มันหมู ออกมาหมด ตอนนั้นเลยรู้ตัวว่า เป็นหมูกระทะด้วยแน่ๆ และครั้งนี้เป็นครั้งที่โหดที่สุดเพราะอ้วกออกมาอีก 5 ครั้งเป็นเนื้อๆหมดเลย ออกมาทีละนิดๆ กองอยู่ตรงหญ้าที่หน้าเต้นท์ ประมาณครึ่งชั่วโมง ให้มันออกมาให้หมด ตอนนั้นตั้งใจอ้วกมากกว่าสอบไฟนอลอีก คือมุ่งมั่นมากว่านี่จะเป็นครั้งสุดท้าย
พอเสร็จหมดแล้วเราก็ยังปวดท้องอยู่ ปวดมากๆ ก็เลยเข้าไปปลุก อ ในเต้นท์ ตอนนั้นไม่มีแรงเหลือแล้ว จำได้ว่าเขย่าขา ตบท้อง ตีตูด ดึงผมมันมันก็ยังตอบสนองแค่ อือๆ ตอนนั้นสิ้นหวังมาก โอกาสสุดท้ายของเราคือเพื่อนเราอีกเต้นท์หนึ่ง เราเดินออกไปอีกเต้นท์และทันใดนั้น เราก็สะดุดเต้นท์ล้มลงไปกองกับพื้น จำได้ว่าล้มแรงและเจ็บมากๆ ล้มนอนลงไปเลย หันไปหาเต้นท์เพื่อนพยายามจะลุกขึ้นแต่ตอนนั้นหมดแรง กองอยู่กับพื้นแบบทรมานมากแต่ยังไงก็ต้องเรียกพวกนั้น เราก็เลยเรียกชื่อทั้ง 3 คน ไม่ตอบสนองเลยสักคน และตอนนั้นเราก็คิดว่า เชี่ย กูจะปลุกเพื่อนมาทำไมว่ะ

ก็ต้องมาทรมานดมกลิ่นอ้วกเรา คงช่วยเราอะไรไม่ได้มาก และเราไม่อยากเป็นภาระเพื่อนด้วย เราเลยตัดสินใจไม่เรียกต่อ และค่อยๆกลับเข้าเต้นท์ หลังจากนั้นอีก 3 ชั่วโมงกว่าๆ เราก็ไม่ได้นอนเลย อ้วกออกมาเรื่อยๆ ตอนนั้นร้องไห้แล้ว พอต้องรู้ว่าต้องอยู่กับตัวเอง

เป็น 3 ชั่วโมงที่ทรมานมากที่สุดในชีวิต บนนั้นอุณหภูมิ 10 ต้นๆ ยิ่งอ้วกก็ยิ่งหนาวขึ้นเรื่อยๆ ยิ่งปวดท้องขึ้นเรื่อยๆ คืออ้วกจากตอนแรกๆที่เป็นอาหาร ก็ค่อยๆเป็นน้ำย่อยและก็พอดื่มน้ำเข้าไปก็อ้วกออกมาหมด เราก็พยายามนอน สุดท้ายนอนไม่ได้เลย พอจะหลับก็ต้องฝืนลุก เปิดซิบ อ้วก ปิดซิบ บ้วนปาก ทำซ้ำไปเรื่อยๆ จำได้กว่าน่าจะทำอย่างงี้ไป 20 ครั้งได้ บางทีก็อ้วก บางทีก็เสียเที่ยว ออกไปได้แต่ไอ
ตอนหลังๆนี่เราล้วงคออย่างเดียว เอามือที่สกปรก ที่โดนหญ้าเอาเข้าคอ เพื่อให้มันออกมาให้หมด มืดก็มืด มีหญ้าหรือใบไม้เข้าคอกุหรือเปล่าก็ไม่รู้ ตอนนั้นไม่แคร์แล้วว่ามือจะสกปรกขนาดไหน และเราก็งงมากๆว่าคนพักบนนั้นประมาณ 300 คน ไม่มีใครได้ยินเสียงกุเลยหรอ คือแบบอ้วกที ได้ยินเสียงตัวเองทุกครั้งดังมากๆ ทั้งคืน และในที่สุดหลังจากที่เราอ้วกครั้งสุดท้าย กำลังนั่งอยู่ปลายเต้นท์ เสียงนาฬิกาปลุก อ ก็ดังขึ้น ตอนนั้นรู้สึกดีใจมากๆ ไอ้

เราทำสำเร็จแล้ว เรื่องคืนนี้ เราจะเล่าให้ทุกคนฟัง ต้องบันเทิงมากแน่ๆ เพื่อนอีกเต้นท์ก็เล่าให้ฟัง เรื่องที่เดินรอบๆ แล้วก็ขำกันอย่างมีความสุข ตอนนั้นคิดแล้วว่าเรื่องคืนนั้นจะต้องปังมากแน่ๆ จะเอามาเขียนลงพันทิพ เล่าให้เพื่อนในคณะฟังทุกคนตอนเปิดเทอม แต่ทว่า...นี่เป็นแค่ช่วงเริ่มต้นเท่านั้น
ผ่านไปแล้ว 5 ชั่วโมง ตอนนั้นเวลา 6 โมงเช้า เรา อ กับ พ ออกไปแปรงฟัน ล้างหน้า และเราก็ขอนอนเพราะเราเหนื่อยมาก อ กับ พ ก็เลยลาก จ ไปถ่ายรูป ขี่จักรยาน ส่วนเราย้ายมานอนที่เต้นท์กับ ต เราก็นอนตื่นมา 9 โมงครึ่งเปิดเต้นท์มารู้สึกสบายโคตรๆ วิวทิวทัศน์สวยงามมาก แล้วเราก็ขึ้นรถเป็นรถยี่ห้อหนึ่งที่เหมาะสำหรับการขึ้นภูเขามากของเพื่อน และพวกเราก็มีคนขับรถให้เราทั้งทริปชื่อพี่ น
เราก็กินแค่ยาแก้เมารถเพื่อจะเดินทางไปปาย และก็แวะสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆระหว่างทาง เราถึงสถานที่ท่องเที่ยวแรกห่างจากที่กางเต้นท์ไป 30 กิโล ตอนขึ้นรถเราก็กลับมาคลื่นไส้ใหม่ จะอ้วก พอถึงก็รีบเปิดประตูลงไปอ้วกเลย แต่ไม่มีอะไรออกมา เพื่อนเราก็เลยบอกเราให้กินข้าวซะ เราก็เลยสั่งข้าวต้มหมูและ อ ก็สั่งให้เรากินสปอนเซอร์ 2 ขวด(ซึ่งตอนหลังมารู้ว่ามันไม่ได้ช่วยเพราะเกลือแร่คนละตัวกัน) และก็ให้เรากินยาอะไรสักอย่างให้เราฟื้นตัว ก่อนอื่นต้องขอบอกว่าพวกเราเป็นคณะสายศิลป์ ไม่รู้เรื่องอะไรเท่าไร แต่ อ ซิ่วมาจากหมอ อ ก็เลยดูแลเรา เราก็เที่ยวอยู่ตรงนั้นประมาณครึ่งชั่วโมง แล้วก็กลับขึ้นรถ แล้วตอนนั้นเราก็คลื่นไส้มากๆ ขอถุงพลาสติกจากเพื่อน และไม่ถึงนาทีเราก็อ้วกออกมา ทั้งข้าวต้มและสปอนเซอร์ และพี่ น ก็จอดข้างทางและเราก็ล้วงคอ และก็อ้วกอีกครั้งข้างทาง เสร็จแล้วก็กลับขึ้นรถ ขับไปไม่ถึง 3 นาทีก็ขอให้พี่ น จอดรถอีกครั้ง ครั้งนี้ลงไปก็ไม่อ้วกออกมา แล้ว จ ที่กำลังลูบหลังตอนเราอ้วกก็บอกเราว่า "แค่รู้สึกอยากอ้วกเฉยๆเว้ย ไม่อ้วกออกมาหรอก เพราะอ้วกออกมาหมดแล้ว" เราก็เลยกลับขึ้นรถ นั่งต่อไปแบบไม่มีถุงพลาสติก ต ผู้เมารถง่ายมาก ๆ สละให้เรานั่งข้างหน้า นั่งไปไม่ถึง 5 นาที เราก็อ้วกออกมาเป็นข้าวต้มกับสปอนเซอร์อีก เลอะรถ เลอะกางเกง และตอนนั้นความน่ากลัวคือเราพยายามจะเปิดหน้าต่างเพื่อไปอ้วก แต่ดันไปเปิดประตู ดีที่ประตูล็อดไม่อย่างงั้นเราคงหลุดออกไปจากรถ และตรงนั้นเป็นโค้งชัน ถ้าหลุดออกไปก็คงล้มเกือบตกเขา ตัวอักษรเกิน ต่อโพสถัดไป
(อุทาหรณ์)ที่เขาว่า กว่าจะถึงปายเกือบตายกลางทาง เป็นจริงเพราะ...หมูกระทะ
พวกเราเป็นเพื่อนคณะเดียวกันในมหาวิทยาลัยรัฐชื่อดังแห่งหนึ่ง พวกเราตัดสินใจว่าจะไปเที่ยวที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน พวกเรามีทั้งหมด 5 คน ขอใช้นามแฝงเรียกแทนว่า อ,จ,พ,ต และ ป(เราเอง)
พวกเราก็ได้ไปตั้งเต้นท์ตรงบริเวณที่กางเต้นท์แห่งหนึ่งในจังหวัดแม่ฮ่องสอน และกินหมูกะทะเป็นข้าวเย็น เนื่องจากว่าทุกคนหิวมากก็เลยแย่งกันกินกันอย่างเร็วมากๆ แล้วหมูที่เอามาปิ้งนั้น มีมันติดมาเยอะมาก บางชิ้นนี่แทบจะเป็นมันทั้งชิ้น สุกยากhereๆ
แต่ตอนนั้นเราแคร์มั้ยว่ามันไม่สุก คำตอบที่เราจะมาเสียใจภายหลังคือ "ไม่" เพราะหิว รีบปิ้งรีบกิน ไม่งั้นอดแดรกแน่ๆ เพื่อนแต่ละคนกินจุhereๆ ถ้าเราไม่รีบ เราก็จะไม่ได้กิน ระหว่างกินผมก็รู้สึกว่าบางชิ้นนี้ไม่สุกเลย เหนียวมากๆแต่ก็ยังคงกิน พอกินเสร็จแล้วเราก็ต่อด้วยเหล้าทันที พวกเราก็กินเหล้า นั่งชิว เล่นกีต้าร์ ฟังเพลง กลางหุบเขา บรรยากาศแบบชิวhereๆ และเราก็ตบท้ายด้วยเบียร์ ซึ่งสำหรับคอเหล้าทั้งหลาย รวมถึงผมก็รู้ดีว่า การดื่มเหล้ากับเบียร์ผสมกันไม่ใช่ไอเดียที่ดีขนาดนั้น แต่ก็ยังดื่มอยู่ดี และดื่มเข้าไปเยอะด้วย เสร็จแล้วพวกเราก็เข้านอนในเต้นท์ โดยที่แบ่งกันนอน 2 เต้นท์ จ พ และ ต นอนด้วยกัน ส่วนเรานอนกับ อ ด้วยความที่เราเหนื่อยมาก เราก็หลับลงไปเลย ทั้งที่ยังไม่เมา หลับไปได้ไม่ถึงชั่วโมง ก็ได้เข้าสู่สิ่งที่เราจะเรียกว่า "12 ชั่วโมงนรกที่สุดในชีวิต"
โดยที่เริ่มจากเราตื่นมาในสภาพเมามากๆ เราก็ออกไปจากเต้นท์ออกไปไอแบบจะอ้วก เพื่อนอีกเต้นท์ก็ถามว่าเป็นอะไร เราก็บอกว่าไม่เป็นไร และระหว่างที่เราไออยู่เราก็ไม่ค่อยรู้สึกตัวเพราะเมามาก แต่เพื่อนเล่าให้ฟังว่า ตอนเราไออยู่ เราก็เตะเต้นท์เพื่อนจนหลังคาข้างหน้าล้มแล้วก็ไอ โดยที่เราเพ้อเรียกแม่ 2 รอบ แล้วก็เดินวนรอบเต้นท์ ตอนแรกเพื่อนจะออกมาช่วยเราเห็นเราไม่ตอบอะไร แต่เพื่อนไม่ออกมาช่วยเพราะฟังเดอะช็อกอยู่แล้วกลัว แถมยังฟังตอนที่เกี่ยวกับแม่น้ำที่มีเสียงจ๋อม พวกเรากางเต้นท์แทบจะติดตรงบ่อน้ำ เพื่อนเลยไม่ออกมาช่วย (ไอ้here ขอด่าหน่อย 555555 ล้อเล้นน่ะ รักพวก)
ต่อเลยและกัน ผมจำได้อีกทีผมก็วนกลับมาหน้าเต้นท์ตัวเอง แล้วก็ล้มตัวไปกองกับพื้น แล้วก็อ้วกออกมาตรงหญ้าตรงนั้นเลย อ้วกออกมารอบแรก จะกลับเข้าเต้นท์ก็อ้วกใหม่ ที่เดิมอีก 2 ครั้ง แล้วก็กลับเข้าเต้นท์พยายามนอนให้ได้ ตอนนั้นงงมากๆเพราะช่วงนี้กินเหล้าเยอะมากๆ กินเยอะจนชิน ไม่น่าอ้วกง่ายขนาดนั้น และทันใดนั้น ยังคิดไม่ทันจบก็จะอ้วกอีกครั้ง ทีนี้ผมก็เปิดแค่ซิปเต้นท์ และพยายามโปรเจกไทล์อ้วกตัวเองให้ไกลจากเต้นท์ที่สุด และพอเดินออกมาก็อ้วกที่เดิมอีกครั้ง รวมทั้งหมดแล้วเป็น 5 รอบ ตอนนั้นผมก็ยังเมาไม่ได้สติ ก็เลยเดินคนเดียว แบบไม่มีไฟฉาย รอบค่าย งงมากว่าไม่เตะเต้นท์คนอื่นได้ไง ไปถึงห้องน้ำห่างประมาณ 300 เมตรจากเต้นท์ จำได้ว่านาฬิกาตรงเต้นท์มันน่าจะสักตีหนึ่งครึ่ง แล้วก็เดินเซๆกลับเข้าเต้นท์ ตอนนั้นเริ่มรู้สึกหายเมาแล้ว พอกลับเข้าไปนอนไม่ถึง 10 นาที ก็ต้องเปิดเต้นท์อ้วกออกมาอีกครั้ง (และนี่เพิ่งจะเข้าชั่วโมงที่ 2 ) แล้วไม่ใช่อ้วกธรรมดาแล้ว ครั้งแรกๆ ออกมาเป็นน้ำเหมือนเหล้า แต่ครั้งที่ 6 นี่คือหมูกระทะทั้งเซ็ตเลยจร้า ทั้งผัก วุ้นเส้น มันหมู ออกมาหมด ตอนนั้นเลยรู้ตัวว่า เป็นหมูกระทะด้วยแน่ๆ และครั้งนี้เป็นครั้งที่โหดที่สุดเพราะอ้วกออกมาอีก 5 ครั้งเป็นเนื้อๆหมดเลย ออกมาทีละนิดๆ กองอยู่ตรงหญ้าที่หน้าเต้นท์ ประมาณครึ่งชั่วโมง ให้มันออกมาให้หมด ตอนนั้นตั้งใจอ้วกมากกว่าสอบไฟนอลอีก คือมุ่งมั่นมากว่านี่จะเป็นครั้งสุดท้าย
พอเสร็จหมดแล้วเราก็ยังปวดท้องอยู่ ปวดมากๆ ก็เลยเข้าไปปลุก อ ในเต้นท์ ตอนนั้นไม่มีแรงเหลือแล้ว จำได้ว่าเขย่าขา ตบท้อง ตีตูด ดึงผมมันมันก็ยังตอบสนองแค่ อือๆ ตอนนั้นสิ้นหวังมาก โอกาสสุดท้ายของเราคือเพื่อนเราอีกเต้นท์หนึ่ง เราเดินออกไปอีกเต้นท์และทันใดนั้น เราก็สะดุดเต้นท์ล้มลงไปกองกับพื้น จำได้ว่าล้มแรงและเจ็บมากๆ ล้มนอนลงไปเลย หันไปหาเต้นท์เพื่อนพยายามจะลุกขึ้นแต่ตอนนั้นหมดแรง กองอยู่กับพื้นแบบทรมานมากแต่ยังไงก็ต้องเรียกพวกนั้น เราก็เลยเรียกชื่อทั้ง 3 คน ไม่ตอบสนองเลยสักคน และตอนนั้นเราก็คิดว่า เชี่ย กูจะปลุกเพื่อนมาทำไมว่ะ
ตอนหลังๆนี่เราล้วงคออย่างเดียว เอามือที่สกปรก ที่โดนหญ้าเอาเข้าคอ เพื่อให้มันออกมาให้หมด มืดก็มืด มีหญ้าหรือใบไม้เข้าคอกุหรือเปล่าก็ไม่รู้ ตอนนั้นไม่แคร์แล้วว่ามือจะสกปรกขนาดไหน และเราก็งงมากๆว่าคนพักบนนั้นประมาณ 300 คน ไม่มีใครได้ยินเสียงกุเลยหรอ คือแบบอ้วกที ได้ยินเสียงตัวเองทุกครั้งดังมากๆ ทั้งคืน และในที่สุดหลังจากที่เราอ้วกครั้งสุดท้าย กำลังนั่งอยู่ปลายเต้นท์ เสียงนาฬิกาปลุก อ ก็ดังขึ้น ตอนนั้นรู้สึกดีใจมากๆ ไอ้
ผ่านไปแล้ว 5 ชั่วโมง ตอนนั้นเวลา 6 โมงเช้า เรา อ กับ พ ออกไปแปรงฟัน ล้างหน้า และเราก็ขอนอนเพราะเราเหนื่อยมาก อ กับ พ ก็เลยลาก จ ไปถ่ายรูป ขี่จักรยาน ส่วนเราย้ายมานอนที่เต้นท์กับ ต เราก็นอนตื่นมา 9 โมงครึ่งเปิดเต้นท์มารู้สึกสบายโคตรๆ วิวทิวทัศน์สวยงามมาก แล้วเราก็ขึ้นรถเป็นรถยี่ห้อหนึ่งที่เหมาะสำหรับการขึ้นภูเขามากของเพื่อน และพวกเราก็มีคนขับรถให้เราทั้งทริปชื่อพี่ น
เราก็กินแค่ยาแก้เมารถเพื่อจะเดินทางไปปาย และก็แวะสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆระหว่างทาง เราถึงสถานที่ท่องเที่ยวแรกห่างจากที่กางเต้นท์ไป 30 กิโล ตอนขึ้นรถเราก็กลับมาคลื่นไส้ใหม่ จะอ้วก พอถึงก็รีบเปิดประตูลงไปอ้วกเลย แต่ไม่มีอะไรออกมา เพื่อนเราก็เลยบอกเราให้กินข้าวซะ เราก็เลยสั่งข้าวต้มหมูและ อ ก็สั่งให้เรากินสปอนเซอร์ 2 ขวด(ซึ่งตอนหลังมารู้ว่ามันไม่ได้ช่วยเพราะเกลือแร่คนละตัวกัน) และก็ให้เรากินยาอะไรสักอย่างให้เราฟื้นตัว ก่อนอื่นต้องขอบอกว่าพวกเราเป็นคณะสายศิลป์ ไม่รู้เรื่องอะไรเท่าไร แต่ อ ซิ่วมาจากหมอ อ ก็เลยดูแลเรา เราก็เที่ยวอยู่ตรงนั้นประมาณครึ่งชั่วโมง แล้วก็กลับขึ้นรถ แล้วตอนนั้นเราก็คลื่นไส้มากๆ ขอถุงพลาสติกจากเพื่อน และไม่ถึงนาทีเราก็อ้วกออกมา ทั้งข้าวต้มและสปอนเซอร์ และพี่ น ก็จอดข้างทางและเราก็ล้วงคอ และก็อ้วกอีกครั้งข้างทาง เสร็จแล้วก็กลับขึ้นรถ ขับไปไม่ถึง 3 นาทีก็ขอให้พี่ น จอดรถอีกครั้ง ครั้งนี้ลงไปก็ไม่อ้วกออกมา แล้ว จ ที่กำลังลูบหลังตอนเราอ้วกก็บอกเราว่า "แค่รู้สึกอยากอ้วกเฉยๆเว้ย ไม่อ้วกออกมาหรอก เพราะอ้วกออกมาหมดแล้ว" เราก็เลยกลับขึ้นรถ นั่งต่อไปแบบไม่มีถุงพลาสติก ต ผู้เมารถง่ายมาก ๆ สละให้เรานั่งข้างหน้า นั่งไปไม่ถึง 5 นาที เราก็อ้วกออกมาเป็นข้าวต้มกับสปอนเซอร์อีก เลอะรถ เลอะกางเกง และตอนนั้นความน่ากลัวคือเราพยายามจะเปิดหน้าต่างเพื่อไปอ้วก แต่ดันไปเปิดประตู ดีที่ประตูล็อดไม่อย่างงั้นเราคงหลุดออกไปจากรถ และตรงนั้นเป็นโค้งชัน ถ้าหลุดออกไปก็คงล้มเกือบตกเขา ตัวอักษรเกิน ต่อโพสถัดไป