สวัสดีค่ะ เราผู้ยืมกระทู้พันธ์ทิพย์เพื่อนมาอีกแล้วค่ะ 5555
เนื่องจากว่าทั้งเราและเพื่อนที่เป็นเจ้าของรหัสกระทู้นี้ต่างก็เป็นโรคซึมเศร้าค่ะ เราเลยอยากให้คนที่เป็นมาแบ่งปันความเศร้าเผื่อจะดีขึ้นแล้วก็มาแนะนำวิธีแก้เครียดซึ่งกันและกันนะคะ เดี๋ยวมาที่เรื่องของเราก่อนเลยนะคะ ถ้าเกิดเรียบเรียงยังไงผิดก็ขออภัยด้วยนะคะ
คือเราเคยเป็นโรคซึมเศร้าตอนป.3 เนื่องจากพ่อกับแม่เราแยกทางกัน แม่เราจึงพาเราไปรักษาแล้วก็หาย จนกระทั่งเมื่อประมาณหนึ่งเดือนที่ผ่านมามันก็กลับมาอีกค่ะ โดยปกติแล้วเราเป็นคนที่คิดมากง่าย คิดมากเรื่องยิบๆย่อยๆแล้วจะเป็นคนที่เครียดโดยที่ไม่รู้ตัวค่ะ จะมารู้ตัวอีกทีคือ เครียดแบบสุดๆไปแล้วจนระเบิดลงแล้วถึงจะรู้และมานั่งไล่ว่าเราเครียดเรื่องอะไรบ้าง นู่นนี่ๆ แล้วก็ย้ำคิดย้ำทำอยู่บ่อยๆ โอเค เข้าเรื่องค่ะ
เราคิดมาตลอดว่าคนเราเนี่ยมันได้อย่างเสียอย่างเนอะ ยกตัวอย่างตัวเราเอง ถึงพ่อกับแม่เราจะเลิกกันตั้งแต่เด็กๆ แต่เรามีแม่ที่ดี ดูแลเรารักและแคร์เราอยู่เสมอต่อให้แต่งงานใหม่แล้วก็ยังแคร์เราอยู่ ครอบครัวฝ่ายแม่ก็ดี เพื่อนสนิทเราก็ดีค่ะ พาเรียนพาเล่นบลาๆตามประสาเวลามีปัญหาก็อยู่ข้างกันตลอด แต่เรารู้สึกเราเสียอยู่อย่างเดียวก็คือ เรื่องความรักค่ะ
เรามีแฟนมาเยอะมาก(เยอะมากจริงๆมากกว่า 10 คนภายใน 5 ปี) แต่เราไม่ได้คบซ้อนหรือไม่ได้อะไร ตอนนั้นเรายังเด็กเลยคิดว่าน่าจะเป็นเพราะความเร็ว แล้วก็เป็นรักผ่านสื่อออนไลน์ความจริงจังเลยหาไม่เจอ แต่เรากลับเป็นคนที่ชอบใครง่ายและรักนาน มันจึงทำให้เรามักจะเจ็บปวดกับเรื่องพวกนี้บ่อย
เพราะบางทีมันเร็วเกินไปจนทำให้อีกฝ่ายไม่แน่ใจว่านี่คือความรักหรือแค่รู้สึกดี จนเพื่อนพูดว่าเรามี "อาถรรพ์ 3 เดือน" เพราะคบใครไม่เกินสามเดือนก็เลิก ไม่เราเลิกก่อน(ซึ่งเหตุผลสุดๆจริงๆ...) ก็เขาบอกเลิกจนมาคนล่าสุด เขาบอกเลิก เลิก ทำใจ แล้วก็ตั้งต้นใหม่ มันเป็นแบบนี้ทุกครั้งแต่กับคนนี้ไม่ใช่...
สำหรับคนนี้เรารู้สึกเราทำใจไม่ได้จริงๆ เพราะเรารู้สึกว่าเขาใช่สำหรับเราเกือบทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการง้อเวลาเรางอน เขาจะเคลียร์ตรงๆเลยค่ะ เราเป็นไรเขารู้หมด ถ้าเราผิดปกติเขาจะพูดง้อ ไม่สนว่าเขาผิดหรือไม่ผิดแต่เขาจะง้อก่อน แล้วเวลาก่อนนอน เขาก็จะมาคอลจนเราหลับไป เขาอายุน้อยกว่าเรา แต่เรากลับรู้สึกว่าเขาเป็นเหมือนทุกอย่าง เป็นทั้งเพื่อน เป็นทั้งน้อง เป็นทั้งพี่ แล้วก็เป็นคนรัก เรารู้สึกโอเคกับรักครั้งนี้พอสมควร แต่ก็ต้องฝันสลายเพราะเขาบอกเลิกเราก่อน เราไม่ได้ผิดอะไร เราผิดที่แทนคนเก่าไม่ได้แค่นั้น.. (ที่จริงความรักเรามีความผิดหวังเข้ามาในชีวิตเยอะมาก ไม่ว่าจะโดนบอกเลิกในวันวาเลนไทน์ วันก่อนสอบ แฟนเป็นกิ๊กกับน้อง เพื่อนแย่งแฟน เป็นแค่คนคั่นเวลา ลืมคนเก่าไม่ได้ เยอะมากค่ะ)
หลังจากเลิกไป เรารู้สึกว่าอะไรๆก็ดูแย่ไปหมดเลย อะไรๆก็ไม่มีความสุข ทุกอย่างมันแย่ไปหมด จนเพื่อน(เจ้าของรหัสนี้)ยังสังเกตได้ว่าเราแย่มาก
แย่กว่าคนก่อนๆเสียอีก แล้วเราก็เริ่มเบลอ เริ่มไม่มีสติ ขี้ลืมมากขึ้น ไม่มีอารมณ์ทำอะไร มีแต่สิ่งผิดหวังเข้ามาในชีวิต อย่างเช่น คะแนนเกรดเราขาดอีกแค่ 0.01 ก็จะสามารถเข้าเรียนมหาลัยที่เราต้องการได้แล้ว ประกวดร้องเพลงไม่ผ่าน อยากเลี้ยงแมวแต่แมวตายก่อน ถ้าก่อนเลิกกับแฟนเราก็คงจะไม่อะไรมาก
แต่หลังจากเลิกกับแฟนเก่าคนนี้เรากลับรู้สึกว่า ทำไมอะไรๆก็ดูผิดหวังไปหมด แล้วเราก็เริ่มเครียดง่ายขึ้น คิดมากมากขึ้น เพื่อนจะเริ่มทักว่าเป็นอะไรทำไมถึงหน้าเครียด สุขภาพเริ่มแย่ เริ่มไม่อยากทำอะไร ขาดเรียนบ่อยมาก จนกระทั่งเหมือนความรู้สึกความกดดันทุกอย่างมันเริ่มล้นในวันนึง ในวันนั้นเราต้องทำงานกลุ่มแต่เราก็ได้รู้ข่าวนึงจากครูคือเพื่อนเราคนนึงไปประกวดร้องเพลงซึ่งเราอยากทำมาก เพราะเคยเสนอตัวกับครูไปแล้วแต่เครูเค้าปฏิเสธมาสุดท้ายเค้าก็เอาเพื่อนเราไป เราไม่ได้จะว่าเพื่อนเราว่าเขาไม่มีความสามารถ แต่เราแค่กำลังคิดว่าทำไมไม่เป็นเรา(เรามั่นใจว่าเราร้องเพลงเพราะ เสียงคือสิ่งนึงในร่างกายที่เรามั่นใจทั้งๆที่ปกติเราไม่ใช่คนที่มีความมั่นใจ) แล้วคนที่เขาเอาไปคือเด็กกิจกรรม เราเลยรู้สึกเฟลและแย่กับอาจารย์คนนั้นอยากร้องไห้ รู้สึกผิดหวังมาก แล้วเราก็มีคำถามว่าเพราะเราไม่สวยเหรอ? พอตกเย็นเราทำงานกลุ่มกัน แล้วเพื่อนเรามาทำเอาวันสุดท้ายพอดี เราต้องเป็นคนตัดต่อคลิป แล้วส่งก่อนเที่ยงคืนซึ่งกว่าจะถ่ายทำเสร็จ กว่าจะถึงบ้านก็ปาไปสองทุ่มแล้ว แล้วก่อนหน้านั้นเรารู้สึกเหนื่อยค้างกับการตัดต่อคลิปของอีกวิชานึง จึงทำให้เราทั้งเหนื่อยและเครียด
และกดดันจนในที่สุดมันก็ระเบิดออกมาเป็นเสียงกรี๊ดและร้องไห้ ตอนนั้นเรารู้สึกเราสติแตก ปวดหัว เหมือนมีอยู่สองคนในคนนึง
คนนึงกำลังบอกว่า ให้รีบทำงานซะ ได้เสร็จๆไป กับอีกคนกำลังบอกว่าเราทำมันไม่ได้หรอก เรามันไร้ค่า เรามันอ่อนแอ เราลืมหายใจไปเป็นระยะๆ ความรู้สึกอยากตายอยากไปให้พ้นจากโลกนี้เข้ามา แต่อีกคนนึงก็บอกเราให้คิดถึงงาน คิดถึงแม่ ไหนบอกจะพาแม่ไปญี่ปุ่นล่ะ ถ้าตายตอนนี้แล้วแม่จะเป็นยังไง
เรายังไม่ได้สติ แต่อย่างน้อยมันก็ช่วยให้เราหายใจ จนเราตัดสินใจอัดเสียงไประบายกับน้องที่สนิท แล้วก็เพื่อน ว่าเราไม่ไหวแล้ว เราขอส่งงานเลท แล้วก็ระบายอะไรหลายๆอย่างไป ระหว่างที่พูดระบาย อีกคนนึงก็จะคอยบอกเตือนเราว่า คนนั้นเค้าเกลียดเราแล้ว เค้าไม่ชอบเราแล้ว เค้าเมินเรา ใครๆก็ทอดทิ้งเราเพราะเรามันไม่มี เรามันไม่เก่ง เรามันไม่สวย ทุกๆอย่าง วันนั้นเหมือนจะตายซะให้ได้ จนน้องเราพูดมาประโยคนึงซึ่งทำให้เราดีขึ้นได้ "ฟังนะพี่ ยังไงหนูก็ไม่ทิ้งพี่หรอก" มันจึงทำให้เรารู้สึกดีขึ้น ส่วนเพื่อนก็พยายามช่วยเคลียร์งานในบางอย่างของเรา จนเรารู้สึกโอเคขึ้น แล้วเริ่มหาอะไรทำแก้เครียดได้
สักพักแม่ก็กลับบ้านแล้วเอายาแก้เครียดมาให้เรากิน(แม่เราก็เป็นโรคเครียดค่ะ ก่อนหน้าที่แม่กลับเราโทรไปขอยาแม่มา แม่เลยเอามาให้ค่ะ) แล้วก็ถามเราว่า เป็นอะไร มีปัญหาอะไรเล่าให้แม่ฟังได้ไหม แต่เราไม่ได้พูดอะไร นอกจาก ขอไปหาหมอนะ แล้วแม่ก็ไม่พูดอะไรนอกจากเดี๋ยวจะจัดการให้
แต่กินยาไปแล้วมันก็ไม่ดีขึ้น ตอนนั้นเราเริ่มหาแรงจูงใจในการทำงาน ซึ่งมีทั้งเพื่อนเราที่ช่วยเราทำอีกวิชานึง น้องที่ช่วยเราทำหน้าปกติอีกวิชานึง แล้วเราก็ทำงานตัดต่อ แต่โปรแกรมก็มีปัญหา ทำให้เราต้องรีเครื่องบ่อยมาก จนกว่าเราจะได้นอนก็ตี 4 พอดีแล้วตื่นมาเราก็ต้องไปเรียนตามปกติ
ปกติเราคิดว่าถ้าเราตื่นมาเราจะโอเคขึ้น แต่เรากลับรู้สึกเหมือนมีอะไรอยู่ในหัวตลอดเวลา อาบน้ำแต่งตัวเสร็จก็ทั้งเพลียทั้งเครียด จนเราลงรถมา ก็เห็นพ่อเลี้ยง แม่กำลังเหมือนจะไปส่งน้องที่โรงเรียน ดูมีความสุขดี แล้วความคิดนึงมันก็แว่บเข้ามาว่า ถ้าไม่มีเราซะก็ดี เป็นครั้งแรกที่ความคิดนี้เข้าหัวมาเพราะแม่เราแคร์เราตลอด ให้ความสำคัญกับเราและน้องเท่าๆกันและเราเองก็รักน้องมาก มันจึงทำให้เรารู้สึกได่วาเราแย่จริงๆ
หลังจากวันนั้นเราก็กินข้าวไม่ได้ นอนไม่ได้ ทำงานไม่ได้อีกเลย เราอยากจะเล่นเกมตลอดเวลาเพราะมันคือสิ่งเดียวที่ทำให้เรามีสมาฺธิและไม่ฟุ้งซ่าน
เรากินข้าวไม่ได้จนเพื่อนเป็นห่วง รู้สึกมีอะไรในหัวและในใจที่ทำให้อยากร้องไห้ตลอดเวลา มันทรมานมากเพราะไม่รู้จะทำยังไงให้มันหายไป
แล้วพอไปโรงเรียนแล้วต้องมาเจอกับอาจารย์ที่เรารู้สึกผิดหวังก็ยิ่งทำให้ไม่อยากเรียน เรื่องแฟนเก่าก็ยังมาวนเวียนทำให้เจ็บปวดใจเล่นๆ มันรู้สึกอะไรก็ไม่รู้เยอะแยะไปหมด จนเราเริ่มจะคุมไม่ไหวแล้ว แล้วในที่สุดแม่ก็พาเราไปหาหมอ ในครั้งแรกเราไม่ได้เล่าอะไรให้หมอฟังมากนักเพราะว่าแม่อยู่ข้างๆเราไม่อยากให้แม่รู้ว่าเราเป็นโรคซึมเศร้าเพราะผู้ชาย 555555 แต่ยาที่ให้มาเป็นยาตัวเดียวกับแม่แล้วก็ไม่ได้ผลมันไม่ค่อยช่วยเท่าไหร่ เราจึงกลับไปหาอีกครั้งเมื่อ..ประมาณอังคารที่ผ่านมา(ตอนนี้วันพฤ.) เราก็เล่าทุกอย่างให้ฟังแล้วแม่ก็ปรับยาให้เป็นยาตัวเดิมเพิ่มเติมคือจำนวนครั้งที่เพิ่มขึ้น
ตอนนี้เรื่องแฟนเก่าเราดีขึ้นแล้วเพราะเพิ่งเคลียร์ความรู้สึกไปเมื่อวันพุธที่ผ่านมา บวกกับการสอบที่เผชิญอยู่ข้างหน้า มันบังคับให้เราต้องตั้งสติ และมันทำให้เรารู้สึกว่าเราต้องรักตัวเองให้มากขึ้นกว่านี้เพื่อผ่านจุดๆนี้ไป วิธีการแก้เครียดของเราก็เหมือนเดิมค่ะ เล่นแอล แต่เราจะมีเพื่อนคนนึงที่คอยฟังเราบ่นตลอด แล้วเราตอนนี้ก็เริ่มโอเคขึ้น จึงพยายามปลอบใจตัวเองบ้าง ถึงแม้ว่าจะยังรู้สึกเครียดอะไรก้อม่ายรู้ อยู่ทุกๆวัน แต่หลังจากช่วงนั้นมามันทำให้เราเซ้นซิทีฟเกี่ยวกับเรื่องรักๆใคร่ๆมากขึ้น ถ้าเราได้ฟังเรื่องใครที่ผิดหวังเพราะความรัก มันจะทำให้เราอินและเครียดมากเพราะเข้าใจ แต่ก่อนเราก็ไม่เข้าใจหรอก แต่ตอนนี้เข้าใจละ 555 มันจึงเป็นอีกสาเหตุนึงที่ทำให้เราเครียดมาก แล้วเรื่องตายๆก้มีแว่บอยู่ในหัวเป็นครั้งคราว
นี่คือสาเหตุของเรา เราไม่ได้คิดว่าของเราคือเคสที่แย่ที่สุด และเราก็สงสัยว่าคนที่ต้องเผชิญหน้ากับ โรคซึมเศร้า มีวิธีการรักษาหรืออะไรอย่างไรบ้าหรอคะ แล้วทำไมถึงเป็น ลองมาแชร์กันค่ะ แล้วก็เผื่อว่าคนอื่นจะได้เข้าใจโรคนี้มากขึ้น
(แชร์ประสบการณ์ + ชวนคุย) คนเป็นโรคซึมเศร้าจัดการกับความเศร้าของตัวเองยังไง
เนื่องจากว่าทั้งเราและเพื่อนที่เป็นเจ้าของรหัสกระทู้นี้ต่างก็เป็นโรคซึมเศร้าค่ะ เราเลยอยากให้คนที่เป็นมาแบ่งปันความเศร้าเผื่อจะดีขึ้นแล้วก็มาแนะนำวิธีแก้เครียดซึ่งกันและกันนะคะ เดี๋ยวมาที่เรื่องของเราก่อนเลยนะคะ ถ้าเกิดเรียบเรียงยังไงผิดก็ขออภัยด้วยนะคะ
คือเราเคยเป็นโรคซึมเศร้าตอนป.3 เนื่องจากพ่อกับแม่เราแยกทางกัน แม่เราจึงพาเราไปรักษาแล้วก็หาย จนกระทั่งเมื่อประมาณหนึ่งเดือนที่ผ่านมามันก็กลับมาอีกค่ะ โดยปกติแล้วเราเป็นคนที่คิดมากง่าย คิดมากเรื่องยิบๆย่อยๆแล้วจะเป็นคนที่เครียดโดยที่ไม่รู้ตัวค่ะ จะมารู้ตัวอีกทีคือ เครียดแบบสุดๆไปแล้วจนระเบิดลงแล้วถึงจะรู้และมานั่งไล่ว่าเราเครียดเรื่องอะไรบ้าง นู่นนี่ๆ แล้วก็ย้ำคิดย้ำทำอยู่บ่อยๆ โอเค เข้าเรื่องค่ะ
เราคิดมาตลอดว่าคนเราเนี่ยมันได้อย่างเสียอย่างเนอะ ยกตัวอย่างตัวเราเอง ถึงพ่อกับแม่เราจะเลิกกันตั้งแต่เด็กๆ แต่เรามีแม่ที่ดี ดูแลเรารักและแคร์เราอยู่เสมอต่อให้แต่งงานใหม่แล้วก็ยังแคร์เราอยู่ ครอบครัวฝ่ายแม่ก็ดี เพื่อนสนิทเราก็ดีค่ะ พาเรียนพาเล่นบลาๆตามประสาเวลามีปัญหาก็อยู่ข้างกันตลอด แต่เรารู้สึกเราเสียอยู่อย่างเดียวก็คือ เรื่องความรักค่ะ
เรามีแฟนมาเยอะมาก(เยอะมากจริงๆมากกว่า 10 คนภายใน 5 ปี) แต่เราไม่ได้คบซ้อนหรือไม่ได้อะไร ตอนนั้นเรายังเด็กเลยคิดว่าน่าจะเป็นเพราะความเร็ว แล้วก็เป็นรักผ่านสื่อออนไลน์ความจริงจังเลยหาไม่เจอ แต่เรากลับเป็นคนที่ชอบใครง่ายและรักนาน มันจึงทำให้เรามักจะเจ็บปวดกับเรื่องพวกนี้บ่อย
เพราะบางทีมันเร็วเกินไปจนทำให้อีกฝ่ายไม่แน่ใจว่านี่คือความรักหรือแค่รู้สึกดี จนเพื่อนพูดว่าเรามี "อาถรรพ์ 3 เดือน" เพราะคบใครไม่เกินสามเดือนก็เลิก ไม่เราเลิกก่อน(ซึ่งเหตุผลสุดๆจริงๆ...) ก็เขาบอกเลิกจนมาคนล่าสุด เขาบอกเลิก เลิก ทำใจ แล้วก็ตั้งต้นใหม่ มันเป็นแบบนี้ทุกครั้งแต่กับคนนี้ไม่ใช่...
สำหรับคนนี้เรารู้สึกเราทำใจไม่ได้จริงๆ เพราะเรารู้สึกว่าเขาใช่สำหรับเราเกือบทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการง้อเวลาเรางอน เขาจะเคลียร์ตรงๆเลยค่ะ เราเป็นไรเขารู้หมด ถ้าเราผิดปกติเขาจะพูดง้อ ไม่สนว่าเขาผิดหรือไม่ผิดแต่เขาจะง้อก่อน แล้วเวลาก่อนนอน เขาก็จะมาคอลจนเราหลับไป เขาอายุน้อยกว่าเรา แต่เรากลับรู้สึกว่าเขาเป็นเหมือนทุกอย่าง เป็นทั้งเพื่อน เป็นทั้งน้อง เป็นทั้งพี่ แล้วก็เป็นคนรัก เรารู้สึกโอเคกับรักครั้งนี้พอสมควร แต่ก็ต้องฝันสลายเพราะเขาบอกเลิกเราก่อน เราไม่ได้ผิดอะไร เราผิดที่แทนคนเก่าไม่ได้แค่นั้น.. (ที่จริงความรักเรามีความผิดหวังเข้ามาในชีวิตเยอะมาก ไม่ว่าจะโดนบอกเลิกในวันวาเลนไทน์ วันก่อนสอบ แฟนเป็นกิ๊กกับน้อง เพื่อนแย่งแฟน เป็นแค่คนคั่นเวลา ลืมคนเก่าไม่ได้ เยอะมากค่ะ)
หลังจากเลิกไป เรารู้สึกว่าอะไรๆก็ดูแย่ไปหมดเลย อะไรๆก็ไม่มีความสุข ทุกอย่างมันแย่ไปหมด จนเพื่อน(เจ้าของรหัสนี้)ยังสังเกตได้ว่าเราแย่มาก
แย่กว่าคนก่อนๆเสียอีก แล้วเราก็เริ่มเบลอ เริ่มไม่มีสติ ขี้ลืมมากขึ้น ไม่มีอารมณ์ทำอะไร มีแต่สิ่งผิดหวังเข้ามาในชีวิต อย่างเช่น คะแนนเกรดเราขาดอีกแค่ 0.01 ก็จะสามารถเข้าเรียนมหาลัยที่เราต้องการได้แล้ว ประกวดร้องเพลงไม่ผ่าน อยากเลี้ยงแมวแต่แมวตายก่อน ถ้าก่อนเลิกกับแฟนเราก็คงจะไม่อะไรมาก
แต่หลังจากเลิกกับแฟนเก่าคนนี้เรากลับรู้สึกว่า ทำไมอะไรๆก็ดูผิดหวังไปหมด แล้วเราก็เริ่มเครียดง่ายขึ้น คิดมากมากขึ้น เพื่อนจะเริ่มทักว่าเป็นอะไรทำไมถึงหน้าเครียด สุขภาพเริ่มแย่ เริ่มไม่อยากทำอะไร ขาดเรียนบ่อยมาก จนกระทั่งเหมือนความรู้สึกความกดดันทุกอย่างมันเริ่มล้นในวันนึง ในวันนั้นเราต้องทำงานกลุ่มแต่เราก็ได้รู้ข่าวนึงจากครูคือเพื่อนเราคนนึงไปประกวดร้องเพลงซึ่งเราอยากทำมาก เพราะเคยเสนอตัวกับครูไปแล้วแต่เครูเค้าปฏิเสธมาสุดท้ายเค้าก็เอาเพื่อนเราไป เราไม่ได้จะว่าเพื่อนเราว่าเขาไม่มีความสามารถ แต่เราแค่กำลังคิดว่าทำไมไม่เป็นเรา(เรามั่นใจว่าเราร้องเพลงเพราะ เสียงคือสิ่งนึงในร่างกายที่เรามั่นใจทั้งๆที่ปกติเราไม่ใช่คนที่มีความมั่นใจ) แล้วคนที่เขาเอาไปคือเด็กกิจกรรม เราเลยรู้สึกเฟลและแย่กับอาจารย์คนนั้นอยากร้องไห้ รู้สึกผิดหวังมาก แล้วเราก็มีคำถามว่าเพราะเราไม่สวยเหรอ? พอตกเย็นเราทำงานกลุ่มกัน แล้วเพื่อนเรามาทำเอาวันสุดท้ายพอดี เราต้องเป็นคนตัดต่อคลิป แล้วส่งก่อนเที่ยงคืนซึ่งกว่าจะถ่ายทำเสร็จ กว่าจะถึงบ้านก็ปาไปสองทุ่มแล้ว แล้วก่อนหน้านั้นเรารู้สึกเหนื่อยค้างกับการตัดต่อคลิปของอีกวิชานึง จึงทำให้เราทั้งเหนื่อยและเครียด
และกดดันจนในที่สุดมันก็ระเบิดออกมาเป็นเสียงกรี๊ดและร้องไห้ ตอนนั้นเรารู้สึกเราสติแตก ปวดหัว เหมือนมีอยู่สองคนในคนนึง
คนนึงกำลังบอกว่า ให้รีบทำงานซะ ได้เสร็จๆไป กับอีกคนกำลังบอกว่าเราทำมันไม่ได้หรอก เรามันไร้ค่า เรามันอ่อนแอ เราลืมหายใจไปเป็นระยะๆ ความรู้สึกอยากตายอยากไปให้พ้นจากโลกนี้เข้ามา แต่อีกคนนึงก็บอกเราให้คิดถึงงาน คิดถึงแม่ ไหนบอกจะพาแม่ไปญี่ปุ่นล่ะ ถ้าตายตอนนี้แล้วแม่จะเป็นยังไง
เรายังไม่ได้สติ แต่อย่างน้อยมันก็ช่วยให้เราหายใจ จนเราตัดสินใจอัดเสียงไประบายกับน้องที่สนิท แล้วก็เพื่อน ว่าเราไม่ไหวแล้ว เราขอส่งงานเลท แล้วก็ระบายอะไรหลายๆอย่างไป ระหว่างที่พูดระบาย อีกคนนึงก็จะคอยบอกเตือนเราว่า คนนั้นเค้าเกลียดเราแล้ว เค้าไม่ชอบเราแล้ว เค้าเมินเรา ใครๆก็ทอดทิ้งเราเพราะเรามันไม่มี เรามันไม่เก่ง เรามันไม่สวย ทุกๆอย่าง วันนั้นเหมือนจะตายซะให้ได้ จนน้องเราพูดมาประโยคนึงซึ่งทำให้เราดีขึ้นได้ "ฟังนะพี่ ยังไงหนูก็ไม่ทิ้งพี่หรอก" มันจึงทำให้เรารู้สึกดีขึ้น ส่วนเพื่อนก็พยายามช่วยเคลียร์งานในบางอย่างของเรา จนเรารู้สึกโอเคขึ้น แล้วเริ่มหาอะไรทำแก้เครียดได้
สักพักแม่ก็กลับบ้านแล้วเอายาแก้เครียดมาให้เรากิน(แม่เราก็เป็นโรคเครียดค่ะ ก่อนหน้าที่แม่กลับเราโทรไปขอยาแม่มา แม่เลยเอามาให้ค่ะ) แล้วก็ถามเราว่า เป็นอะไร มีปัญหาอะไรเล่าให้แม่ฟังได้ไหม แต่เราไม่ได้พูดอะไร นอกจาก ขอไปหาหมอนะ แล้วแม่ก็ไม่พูดอะไรนอกจากเดี๋ยวจะจัดการให้
แต่กินยาไปแล้วมันก็ไม่ดีขึ้น ตอนนั้นเราเริ่มหาแรงจูงใจในการทำงาน ซึ่งมีทั้งเพื่อนเราที่ช่วยเราทำอีกวิชานึง น้องที่ช่วยเราทำหน้าปกติอีกวิชานึง แล้วเราก็ทำงานตัดต่อ แต่โปรแกรมก็มีปัญหา ทำให้เราต้องรีเครื่องบ่อยมาก จนกว่าเราจะได้นอนก็ตี 4 พอดีแล้วตื่นมาเราก็ต้องไปเรียนตามปกติ
ปกติเราคิดว่าถ้าเราตื่นมาเราจะโอเคขึ้น แต่เรากลับรู้สึกเหมือนมีอะไรอยู่ในหัวตลอดเวลา อาบน้ำแต่งตัวเสร็จก็ทั้งเพลียทั้งเครียด จนเราลงรถมา ก็เห็นพ่อเลี้ยง แม่กำลังเหมือนจะไปส่งน้องที่โรงเรียน ดูมีความสุขดี แล้วความคิดนึงมันก็แว่บเข้ามาว่า ถ้าไม่มีเราซะก็ดี เป็นครั้งแรกที่ความคิดนี้เข้าหัวมาเพราะแม่เราแคร์เราตลอด ให้ความสำคัญกับเราและน้องเท่าๆกันและเราเองก็รักน้องมาก มันจึงทำให้เรารู้สึกได่วาเราแย่จริงๆ
หลังจากวันนั้นเราก็กินข้าวไม่ได้ นอนไม่ได้ ทำงานไม่ได้อีกเลย เราอยากจะเล่นเกมตลอดเวลาเพราะมันคือสิ่งเดียวที่ทำให้เรามีสมาฺธิและไม่ฟุ้งซ่าน
เรากินข้าวไม่ได้จนเพื่อนเป็นห่วง รู้สึกมีอะไรในหัวและในใจที่ทำให้อยากร้องไห้ตลอดเวลา มันทรมานมากเพราะไม่รู้จะทำยังไงให้มันหายไป
แล้วพอไปโรงเรียนแล้วต้องมาเจอกับอาจารย์ที่เรารู้สึกผิดหวังก็ยิ่งทำให้ไม่อยากเรียน เรื่องแฟนเก่าก็ยังมาวนเวียนทำให้เจ็บปวดใจเล่นๆ มันรู้สึกอะไรก็ไม่รู้เยอะแยะไปหมด จนเราเริ่มจะคุมไม่ไหวแล้ว แล้วในที่สุดแม่ก็พาเราไปหาหมอ ในครั้งแรกเราไม่ได้เล่าอะไรให้หมอฟังมากนักเพราะว่าแม่อยู่ข้างๆเราไม่อยากให้แม่รู้ว่าเราเป็นโรคซึมเศร้าเพราะผู้ชาย 555555 แต่ยาที่ให้มาเป็นยาตัวเดียวกับแม่แล้วก็ไม่ได้ผลมันไม่ค่อยช่วยเท่าไหร่ เราจึงกลับไปหาอีกครั้งเมื่อ..ประมาณอังคารที่ผ่านมา(ตอนนี้วันพฤ.) เราก็เล่าทุกอย่างให้ฟังแล้วแม่ก็ปรับยาให้เป็นยาตัวเดิมเพิ่มเติมคือจำนวนครั้งที่เพิ่มขึ้น
ตอนนี้เรื่องแฟนเก่าเราดีขึ้นแล้วเพราะเพิ่งเคลียร์ความรู้สึกไปเมื่อวันพุธที่ผ่านมา บวกกับการสอบที่เผชิญอยู่ข้างหน้า มันบังคับให้เราต้องตั้งสติ และมันทำให้เรารู้สึกว่าเราต้องรักตัวเองให้มากขึ้นกว่านี้เพื่อผ่านจุดๆนี้ไป วิธีการแก้เครียดของเราก็เหมือนเดิมค่ะ เล่นแอล แต่เราจะมีเพื่อนคนนึงที่คอยฟังเราบ่นตลอด แล้วเราตอนนี้ก็เริ่มโอเคขึ้น จึงพยายามปลอบใจตัวเองบ้าง ถึงแม้ว่าจะยังรู้สึกเครียดอะไรก้อม่ายรู้ อยู่ทุกๆวัน แต่หลังจากช่วงนั้นมามันทำให้เราเซ้นซิทีฟเกี่ยวกับเรื่องรักๆใคร่ๆมากขึ้น ถ้าเราได้ฟังเรื่องใครที่ผิดหวังเพราะความรัก มันจะทำให้เราอินและเครียดมากเพราะเข้าใจ แต่ก่อนเราก็ไม่เข้าใจหรอก แต่ตอนนี้เข้าใจละ 555 มันจึงเป็นอีกสาเหตุนึงที่ทำให้เราเครียดมาก แล้วเรื่องตายๆก้มีแว่บอยู่ในหัวเป็นครั้งคราว
นี่คือสาเหตุของเรา เราไม่ได้คิดว่าของเราคือเคสที่แย่ที่สุด และเราก็สงสัยว่าคนที่ต้องเผชิญหน้ากับ โรคซึมเศร้า มีวิธีการรักษาหรืออะไรอย่างไรบ้าหรอคะ แล้วทำไมถึงเป็น ลองมาแชร์กันค่ะ แล้วก็เผื่อว่าคนอื่นจะได้เข้าใจโรคนี้มากขึ้น