วันนี้กระแสเปลี่ยนโค้ช ดุเดือดเต็มห้องศุภฯ
ผมเลยอยากลองให้หลายๆท่าน มาคิด มามองในอีกแง่มุมนึง ถึงเหตุและผล
ว่าทำไมสมาคมจึงมอบสัญญาให้โค้ชซิโก้ 1 ปี ( ก.พ. 59 - ก.พ. 60 )
วันเวลาคัดบอลโลก
ปี 2016 เตะ 5 นัด ( 1 ก.ย. - 15 พ.ย. )
ปี 2017 เตะ 5 นัด (23 มี.ค. - 5 ก.ย. )
จากช่วงเวลาที่เห็นสมาคมได้วางแผนทุกอย่างไว้แล้ว และรอดูผลงานแค่ใน 5 นัดแรกของปี 2016
โค้ชซิโก้เอง ก็รู้ตัวแน่นอนอยู่แล้วว่า ตนเองมีเวลาโชว์ผลงานแค่ภายในปีนี้เท่านั้น
ผลงานดี อยู่ต่อจนจบคัดบอลโลก หรือเซ็นต์ต่ออีกปีก็ว่ากันไป
ผลงานแย่ ก็ใส่คอนเวิส ทางใครทางมัน หาโค้ชใหม่มาลุยต่อ เพื่อดูความแตกต่างในอีก 5 นัดที่เหลือ
นั่นหล่ะครับคือที่มาของ
สัญญา 1 ปี แทนที่จะเป็น ปีครึ่ง (จบคัดบอลโลก) - สองปี
แล้วเราลองมาดูผลงานที่ผ่านมา 5 นัดแรก ว่าสมาคมจะให้ไฟเขียว ไฟเหลือง หรือไฟแดง
- ซาอุฯ 1 : 0 ไทย ..... ผมให้ไฟเหลือง แพ้แบบน่าเสมอ สู้ได้สนุก (สมาคม ..... ???)
- ไทย 0 : 2 ญี่ปุ่น ..... โฮ้ โฮ้ โฮ้ ให้ไฟแดงแจ๋เลย ดับอนาถ ถ้ายุ่นไม่ป๊อกแป๊กเองนี่มีเฉี่ยวครึ่งโหล (สมาคม ..... ???)
- ยูเออี 3 : 1 ไทย ..... เอาไปไฟเหลือง ได้สวน ได้โต้ ได้ลุ้น แม้จะแพ้ก็ตาม (สมาคม ..... ???)
- อิรัค 4 : 0 ไทย ..... นัดนี้ผมได้ดูแต่ไฮไลท์ แต่จากผลถึงสี่ตุง ผมให้ไฟแดง (สมาคม ..... ???)
- ไทย 2 : 2 ออส ..... ไม่ต้องถามเขียวปี๋ไปเลย เกือบชนะด้วยซ้ำ (สมาคม ..... ???)
รวมแล้ว 2 เหลือง 2 แดง 1 เขียว
ตอนนี้ก็เหมือนเริ่มงานกับเจ้านายคนใหม่ ที่จะให้ความสำคัญกับผลงานในปัจจุบัน
ก็อยู่ที่สมาคมแล้วหล่ะครับ ว่าจะให้โค้ชซิโก้นั่งรถไปด้วยต่อ หรือจะทิ้งกันไว้กลางซอย
ซูซูกิคัพปีนี้ มีผลต่อตัวโค้ชซิโก้ที่สุด ได้แชมป์ ก็แค่เสมอตัว แต่ถ้าชวด สมาคมน่าจะไม่ต่อสัญญาแน่นอน
เผลอๆ โค้ชชิงลาออกเองอีกต่างหาก
ส่วนเรื่องผลงานต่างๆที่ผ่านมา จะเป็นเกียรติประวัติ แก่โค้ชซิโก้ตลอดไป และอยู่ในใจคนไทยหลายคนไม่มีวันลืม
ความรู้สึกของผมตอนนี้ ใจนึงก็รัก อีกใจนึงก็อยาก......
สัญญาของโค้ชซิโก้ ทำไมต้อง 1 ปี มาดูกัน
ผมเลยอยากลองให้หลายๆท่าน มาคิด มามองในอีกแง่มุมนึง ถึงเหตุและผล
ว่าทำไมสมาคมจึงมอบสัญญาให้โค้ชซิโก้ 1 ปี ( ก.พ. 59 - ก.พ. 60 )
วันเวลาคัดบอลโลก
ปี 2016 เตะ 5 นัด ( 1 ก.ย. - 15 พ.ย. )
ปี 2017 เตะ 5 นัด (23 มี.ค. - 5 ก.ย. )
จากช่วงเวลาที่เห็นสมาคมได้วางแผนทุกอย่างไว้แล้ว และรอดูผลงานแค่ใน 5 นัดแรกของปี 2016
โค้ชซิโก้เอง ก็รู้ตัวแน่นอนอยู่แล้วว่า ตนเองมีเวลาโชว์ผลงานแค่ภายในปีนี้เท่านั้น
ผลงานดี อยู่ต่อจนจบคัดบอลโลก หรือเซ็นต์ต่ออีกปีก็ว่ากันไป
ผลงานแย่ ก็ใส่คอนเวิส ทางใครทางมัน หาโค้ชใหม่มาลุยต่อ เพื่อดูความแตกต่างในอีก 5 นัดที่เหลือ
นั่นหล่ะครับคือที่มาของสัญญา 1 ปี แทนที่จะเป็น ปีครึ่ง (จบคัดบอลโลก) - สองปี
แล้วเราลองมาดูผลงานที่ผ่านมา 5 นัดแรก ว่าสมาคมจะให้ไฟเขียว ไฟเหลือง หรือไฟแดง
- ซาอุฯ 1 : 0 ไทย ..... ผมให้ไฟเหลือง แพ้แบบน่าเสมอ สู้ได้สนุก (สมาคม ..... ???)
- ไทย 0 : 2 ญี่ปุ่น ..... โฮ้ โฮ้ โฮ้ ให้ไฟแดงแจ๋เลย ดับอนาถ ถ้ายุ่นไม่ป๊อกแป๊กเองนี่มีเฉี่ยวครึ่งโหล (สมาคม ..... ???)
- ยูเออี 3 : 1 ไทย ..... เอาไปไฟเหลือง ได้สวน ได้โต้ ได้ลุ้น แม้จะแพ้ก็ตาม (สมาคม ..... ???)
- อิรัค 4 : 0 ไทย ..... นัดนี้ผมได้ดูแต่ไฮไลท์ แต่จากผลถึงสี่ตุง ผมให้ไฟแดง (สมาคม ..... ???)
- ไทย 2 : 2 ออส ..... ไม่ต้องถามเขียวปี๋ไปเลย เกือบชนะด้วยซ้ำ (สมาคม ..... ???)
รวมแล้ว 2 เหลือง 2 แดง 1 เขียว
ตอนนี้ก็เหมือนเริ่มงานกับเจ้านายคนใหม่ ที่จะให้ความสำคัญกับผลงานในปัจจุบัน
ก็อยู่ที่สมาคมแล้วหล่ะครับ ว่าจะให้โค้ชซิโก้นั่งรถไปด้วยต่อ หรือจะทิ้งกันไว้กลางซอย
ซูซูกิคัพปีนี้ มีผลต่อตัวโค้ชซิโก้ที่สุด ได้แชมป์ ก็แค่เสมอตัว แต่ถ้าชวด สมาคมน่าจะไม่ต่อสัญญาแน่นอน
เผลอๆ โค้ชชิงลาออกเองอีกต่างหาก
ส่วนเรื่องผลงานต่างๆที่ผ่านมา จะเป็นเกียรติประวัติ แก่โค้ชซิโก้ตลอดไป และอยู่ในใจคนไทยหลายคนไม่มีวันลืม
ความรู้สึกของผมตอนนี้ ใจนึงก็รัก อีกใจนึงก็อยาก......