[CR] Roam around France & Italy 15 Days : เที่ยวตาม(หัว)ใจ พี่ใหญ่กับหนูเล็ก (Day2-Paris#3)


จากตอนที่แล้วที่หนูเล็กพามาจนถึงโถงบันไดเอกของโรงอุปรากร Palais Garnier



ส่วนใครเพิ่งมาอ่าน ไปเริ่มเดินทางด้วยกันตั้งแต่แรกได้ค่ะ
Roam around France & Italy 15 Days : เที่ยวตาม(หัว)ใจ พี่ใหญ่กับหนูเล็ก (Day1-Paris)
http://pantip.com/topic/35915267
Roam around France & Italy 15 Days : เที่ยวตาม(หัว)ใจ พี่ใหญ่กับหนูเล็ก (Day2-Paris#2)
http://pantip.com/topic/35917399

ได้เวลาไปกันต่อแล้วค่ะ หนูเล็กจะขอพาไปต่อถ้าเตรียมอกเตรียมใจพร้อมแล้วเราไปชมอีกไฮไลต์หนึ่งที่พลาดไม่ได้ด้วยประการทั้งปวงและที่นี่เป็นสุดโปรดปรานของหนูเล็ก นั่นคือ ห้องโถงเอก (Grand Foyer)เมื่อก้าวเข้าไปจะรู้สึกได้ถึงความโอ่โถงกว้างขวางสุดลูกหูลูกตาของห้องนี้นั่นเป็นเพราะลูกเล่นของการติดกระจกและหน้าต่าง จึงทำให้ห้องดูกว้างใหญ่กว่าความเป็นจริงอย่าลืมที่จะแหงนหน้ามองภาพวาดบนเพดานซึ่งเป็นเรื่องราวประวัติศาสตร์เกี่ยวกับดนตรีที่วาดไว้อย่างวิจิตรบรรจงโคมไฟระย้ายิ่งทำให้ห้องทั้งห้องดูอลังการราวกับเดินอยู่บนแดนสวรรค์หนูเล็กเดินชื่นชมและแหงนมองมุมนั้นมุมนี้ของห้องอย่างไม่รู้เบื่อวนเวียนเดินดื่มด่ำไปมาเพื่อให้สมกับที่อยากมาเห็นด้วยตาตนเอง

นี่ละค่ะห้องโถงเอก งดงามสมคำร่ำลือ









ห้องถัดไปที่ยังคงมีการแสดงอยู่อย่างต่อเนื่องนั่นคือ The Auditorium การตกแต่งเป็นแบบ Italian-style
การจัดวางเก้าอี้นั่งไว้ถึง 1,979 ที่นั่ง มีห้องที่สามารถรองรับนักแสดงได้กว่า 450 คน การตกแต่งหรูหราตามสถาปัตยกรรม
Baroque เก้าอี้บุด้วยกำมะหยี่สีแดง ประดับด้วยสีทองและดรุณเทพ ยิ่งขับให้ห้องทั้งห้องดูเข้ม ขรึม บริเวณเพดาน
รอบโคมระย้าที่กลางห้องที่มีน้ำหนักกว่า 6 ตันนั้นมีภาพเขียนที่อาจดูขัดๆ ตากับห้องไปสักหน่อย
และห้องนี้เองเป็นที่มาของอุปรากรเก่าแก่ชื่อก้องโลก อย่าง "The Phantom of the Opera" ซึ่งมีที่มาจากวันหนึ่ง
ในปี ค.ศ.1896 ที่โคมไฟแชนเดอร์เลียกลางห้องที่เต็มไปด้วยน้ำหนักได้ร่วงหล่นลงมาและทำให้ผู้ชมเสียชีวิตหนึ่งคน
เหตุการณ์ดังกล่าวนำไปสู่บทประพันธ์แนว Gothic ของ Gaston Leroux

แค่ทางเข้าด้านหน้าก็งามแล้วค่ะ



ภาพวาดและโคมไฟที่เพดานกลางห้อง




เมื่อออกจากห้องนี้เราก็ไปชมห้องถัดไปคือ ห้องสมุดและพิพิธภัณฑ์ซึ่งเก็บรักษาเอกสารกว่า 600,000 ฉบับ
และหนังสือกว่า 100,000 เล่ม อีกทั้งยังมีจดหมาย ภาพถ่าย ภาพวาด และของเก็บสะสมต่างๆ อีกมากมายนับแสนชิ้น
ตามทางเดินยังมีชุดที่ใช้ในการแสดงอุปรากรจัดโชว์ไว้ให้เห็นด้วย


ประติมากรรมรูปริชาร์ด วากเนอร์ ศิลปินในดวงใจของพระเจ้าลุดวิกที่ 2 แห่งบาวาเรีย





ตัวอย่างชุดที่ใช้ในการแสดงอุปรากร

เมื่อเดินชมจนทั่วบริเวณเราจะต้องเดินสู่ทางออกซึ่งจะอยู่บริเวณโถงที่เรียกว่า Grand Vestibule ซึ่งเป็นจุดสุดท้าย
ก่อนที่เราจะออกสู่บริเวณร้านขายหนังสือและร้านของที่ระลึกซึ่งเต็มไปด้วยของที่ระลึกเกี่ยวกับการแสดงมากมาย
ทั้งตุ๊กตาตัวเล็กตัวน้อย ชุดบัลเล่ต์สวยๆ อุปกรณ์สำหรับใส่เล่นบัลเล่ต์ สมุดโน๊ต พวงกุญแจ ฯลฯ
เห็นแล้วก็ได้แต่เมียงมองและให้มันอยู่ของมันอย่างนั้นน่าจะสบายกระเป๋ากว่า

บริเวณ Grand Vestibule





เวลาที่หมดไปราวสองชั่วโมงเศษกับ Palais Garnier สำหรับหนูเล็กแล้วช่างคุ้มแสนคุ้มที่ได้มาเห็นด้วยตาครั้งหนึ่งในชีวิต
อีกทั้งการได้ทำการบ้านศึกษามาก่อนบ้างยิ่งทำให้การเดินชมได้รับสาระไปพร้อมๆ กับความเพลิดเพลินตระการตา
อำลาโรงอุปรากรอันแสนประทับใจไปด้วยภาพนี้


แต่นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของการเที่ยวปารีสของเราในวันนี้ที่เหลืออยู่ วันนี้หนูเล็กยังมีโปรแกรมพาเที่ยวปารีสอีกหลายแห่งค่ะ
ติดตามกันต่อว่าหนูเล็กและเหล่าสมาชิกจะไปไหนกันต่อกับเวลาที่เหลืออยู่ในปารีสกับเวลาที่นับถอยหลังไม่กี่ชั่วโมงนับจากนี้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ชื่อสินค้า:   ขับรถเที่ยว ฝรั่งเศส อิตาลี
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่