* ส่วนตัวไม่ได้มีความแค้นใดใดและไม่ได้ต้องการจะก้าวล่วงกับบุคคลที่อ้างอิง
ก่อนอื่นที่ต้องวงเล็บคำว่าวัฒนธรรมเพราะคิดว่าในความหมายของคนในยุคปัจจุบันน่าจะใช้คำนี้ แต่ในความรู้สึกส่วนตนบอกว่าไม่ใช่ เพราะวัฒนธรรมน่าจะหมายถึงธรรมอันทำให้เกิดความเจริญหรือที่เกี่ยวข้องกับความเจริญ (วัฒน/พัฒน + ธรรม) เลยแทนที่ด้วยคำว่าวิถีประชาด้วยเหตุที่ว่าจขกท.ได้เห็นหลายเอกชนปฏิบัติ ซึ่งอาจจะใช้คำผิดหรือไม่ประการใด ก็คงต้องให้อาจารย์ทางรัฐศาสตร์ สังคมศาสตร์ช่วยแนะนำครับ
การแต่งตั้งบุคคลมาทำหน้าที่ “ที่ปรึกษา” ตามที่เข้าใจนั้น เข้าใจว่าเอกชนคงมีเรื่องที่ต้องการปรึกษา ไม่ว่าจะเป็นกฎหมาย การบริหารงาน การเงิน การตลาด หากแต่งตั้งผู้ที่มีความรู้ความสามารถในเชิงหลักวิชาการ หรือผู้มีประสบการณ์การทำธุรกิจเป็นที่ปรึกษานั้นก็คงจะดูไม่ค่อยค้านสายตานัก แต่ได้อ่านข่าวนี้แล้วมันรู้สึกแปลกๆ และรู้สึกว่า เฮ้ย อย่างนี้ก็ได้เหรอ ด้วยความที่ตามข่าวบอกว่าไม่ผิดกฎหมาย เลยมานั่งเรียบเรียงความรู้/ความรู้สึกของตนเองตั้งกระทู้เพื่อลองถามคนหมู่มากว่ารู้สึกเหมือนกันไหม
ข่าวนี้ครับ
https://www.khaosod.co.th/breaking-news/news_142330
http://www.manager.co.th/Crime/ViewNews.aspx?NewsID=9590000124318
สิ่งที่อยากรู้คือ ทางบริษัทปรึกษาอะไรท่าน? แต่งตั้งมาเป็นที่ปรึกษาทำไม? Job description คือ?
และคำถามที่อยากรู้มากๆ คือท่านเอาเวลาไหนไปทำงานให้เขา! ตรงนี้สำคัญ เพราะข้าราชการมีเวลางานที่แน่นอน และท่านเป็นข้าราชการระดับสูง และมีหน้าที่ที่สำคัญมากถึงสองตำแหน่งคือ ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล และสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ
*อาจจะไม่สามารถนำมาคิดประกอบตรรกะได้ แต่อยากตั้งข้อสังเกตว่า นายกคนนึงเคยต้องถูกจากตำแหน่งเพราะไปทำรายการทำอาหาร โปรดอย่าเถียงเรื่องนี้ในกระทู้นะครับ มันจะคนละประเด็นที่จขกท.จะสื่อ
แล้วมันเหมาะสมไหม? วิถีประชา+รัฐ?! เฮ้ยย ถ้าต่อไปบริษัททำอสังหาริมทรัพย์ตั้งเจ้าหน้าที่ภาครัฐในกรมที่ดินมาเป็นที่ปรึกษา, บริษัทยาตั้งคนในอย.มาเป็นที่ปรึกษา ผับบาร์ อาบอบนวด ตั้งตำรวจหรือเจ้าหน้าที่รัฐกระทรวงวัฒนธรรม หรือกรมศาสนาเป็นที่ปรึกษา แบบนี้สนุกเลย แล้วจะปรึกษาอะไรมันไม่ใช่บริการของภาครัฐอยู่แล้วหรือ?
เสียงของผมอาจจะไม่ดังพอ แต่ถ้าท่าน หรือบุคคลในครอบครัวหรือที่รู้จักท่านได้มาอ่าน ได้โปรดให้ท่านพิจารณาตำแหน่งดังกล่าวว่าเหมาะสมหรือไม่ประการใด คำขอของผมคืออย่าทำให้เรื่องนี้กลายเป็นบรรทัดฐานที่ไม่ดีของสังคมเลยครับ ด้วยความเคารพ
คิดเห็นอย่างไร? กับ วิถีประชา(วัฒนธรรม) ของเอกชนในการแต่งตั้งผู้มีอำนาจรัฐเป็นที่ปรึกษา
ก่อนอื่นที่ต้องวงเล็บคำว่าวัฒนธรรมเพราะคิดว่าในความหมายของคนในยุคปัจจุบันน่าจะใช้คำนี้ แต่ในความรู้สึกส่วนตนบอกว่าไม่ใช่ เพราะวัฒนธรรมน่าจะหมายถึงธรรมอันทำให้เกิดความเจริญหรือที่เกี่ยวข้องกับความเจริญ (วัฒน/พัฒน + ธรรม) เลยแทนที่ด้วยคำว่าวิถีประชาด้วยเหตุที่ว่าจขกท.ได้เห็นหลายเอกชนปฏิบัติ ซึ่งอาจจะใช้คำผิดหรือไม่ประการใด ก็คงต้องให้อาจารย์ทางรัฐศาสตร์ สังคมศาสตร์ช่วยแนะนำครับ
การแต่งตั้งบุคคลมาทำหน้าที่ “ที่ปรึกษา” ตามที่เข้าใจนั้น เข้าใจว่าเอกชนคงมีเรื่องที่ต้องการปรึกษา ไม่ว่าจะเป็นกฎหมาย การบริหารงาน การเงิน การตลาด หากแต่งตั้งผู้ที่มีความรู้ความสามารถในเชิงหลักวิชาการ หรือผู้มีประสบการณ์การทำธุรกิจเป็นที่ปรึกษานั้นก็คงจะดูไม่ค่อยค้านสายตานัก แต่ได้อ่านข่าวนี้แล้วมันรู้สึกแปลกๆ และรู้สึกว่า เฮ้ย อย่างนี้ก็ได้เหรอ ด้วยความที่ตามข่าวบอกว่าไม่ผิดกฎหมาย เลยมานั่งเรียบเรียงความรู้/ความรู้สึกของตนเองตั้งกระทู้เพื่อลองถามคนหมู่มากว่ารู้สึกเหมือนกันไหม
ข่าวนี้ครับ
https://www.khaosod.co.th/breaking-news/news_142330
http://www.manager.co.th/Crime/ViewNews.aspx?NewsID=9590000124318
สิ่งที่อยากรู้คือ ทางบริษัทปรึกษาอะไรท่าน? แต่งตั้งมาเป็นที่ปรึกษาทำไม? Job description คือ?
และคำถามที่อยากรู้มากๆ คือท่านเอาเวลาไหนไปทำงานให้เขา! ตรงนี้สำคัญ เพราะข้าราชการมีเวลางานที่แน่นอน และท่านเป็นข้าราชการระดับสูง และมีหน้าที่ที่สำคัญมากถึงสองตำแหน่งคือ ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล และสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ
*อาจจะไม่สามารถนำมาคิดประกอบตรรกะได้ แต่อยากตั้งข้อสังเกตว่า นายกคนนึงเคยต้องถูกจากตำแหน่งเพราะไปทำรายการทำอาหาร โปรดอย่าเถียงเรื่องนี้ในกระทู้นะครับ มันจะคนละประเด็นที่จขกท.จะสื่อ
แล้วมันเหมาะสมไหม? วิถีประชา+รัฐ?! เฮ้ยย ถ้าต่อไปบริษัททำอสังหาริมทรัพย์ตั้งเจ้าหน้าที่ภาครัฐในกรมที่ดินมาเป็นที่ปรึกษา, บริษัทยาตั้งคนในอย.มาเป็นที่ปรึกษา ผับบาร์ อาบอบนวด ตั้งตำรวจหรือเจ้าหน้าที่รัฐกระทรวงวัฒนธรรม หรือกรมศาสนาเป็นที่ปรึกษา แบบนี้สนุกเลย แล้วจะปรึกษาอะไรมันไม่ใช่บริการของภาครัฐอยู่แล้วหรือ?
เสียงของผมอาจจะไม่ดังพอ แต่ถ้าท่าน หรือบุคคลในครอบครัวหรือที่รู้จักท่านได้มาอ่าน ได้โปรดให้ท่านพิจารณาตำแหน่งดังกล่าวว่าเหมาะสมหรือไม่ประการใด คำขอของผมคืออย่าทำให้เรื่องนี้กลายเป็นบรรทัดฐานที่ไม่ดีของสังคมเลยครับ ด้วยความเคารพ