นี่เป็นกระทู้แรกในเรื่องความรักของเจ้าของกระทู้นะคะ ผิดพลาดประการใดขออภัยด้วยน๊าา
เรื่องของเราเป็นความสัมพันธ์บนข้อตกลงระหว่างคนเหงา 2 คน โดยมีข้อตกลงระหว่างกันว่า เราทั้งคู่จะอยู่ในสถานะไม่ผูกมัดกัน และข้อตกลงนี้จะจบลงก็ต่อเมื่อคนใดคนหนึ่งมีอีกคนเข้ามา โดยเราสัญญากันไว้ว่าเราจะไม่โกหกกัน มีอะไรให้บอกกันตรงๆ เปิดใจคุยกันได้ทุกเรื่อง หลังจากที่เราได้ตกลงกันทั้ง 2 ฝ่ายแล้ว ความสัมพันธ์ของเราทั้งคู่ก็เริ่มต้นขึ้นคะ เริ่มมีการแลกไลน์ มีการเจอกัน วันแรกที่เราได้เจอเขาต้องบอกเลยว่าเป็นวันที่ใจเราเต้นแรงมาก ใจสั่นมากตอนนั้น มันเป็นความรู้สึกที่บอกไม่ถูกเลยจริงๆ ทำไมเราถึงรู้สึกดีกะผู้ชายคนนี้ตั้งแต่แรกเจอก็ไม่รู้ เค้าเป็นผู้ชายที่ดูนิ่งๆ พูดน้อย ยิ้มยากนิดนึง แต่เวลายิ้มที เหมือนมีมนต์สะกดให้เราต้องหยุดมอง (อร๊ายยเขินจุง มันดีต่อใจมากคร้า 5555) เค้าตัวสูงๆ หน้าตาก็ไม่ได้หล่ออะไรมากมายแต่มีความคมซ่อนอยู่ (สเปคเราเลยยยนะเนี่ย 5555) ต้องบอกว่าวันนั้นสติเรากระเจิงมากคร้า ใจเราสั่น ประหม่าไปหมด มือโคตรเย็นเลยตอนนั้น แปลกดีเหมือนกันกะความรู้สึกนี้ ไม่เคยเกิดกะใครเลยตั้งแต่เกิดมา หลังจากวันแรกที่เราได้เจอกัน ความสัมพันธ์ของเราทั้งสองก็เริ่มต้นขึ้น เราคุยกันได้ทุกเรื่อง เป็นที่ปรึกษา เป็นกำลังใจให้กัน มีคุยเล่น มีแซว เฮฮาปาจิ้งโก๋ตามประสาความบ้าบอของเรา เออลืมเล่าส่วนเราจะเป็นผู้หญิงโก๊ะๆ คนหนึ่ง ความสูงไซด์มินิมากเมื่อเทียบกะเค้า บ้าๆบอๆ อาวุธของเรา คือ รอยยิ้ม 555 ชอบอิสระ ไปไหนมาไหนคนเดียวได้ กินข้าว ดูหนัง คนเดียวได้สบายๆ ชอบอะไรที่มันชัดเจน ตรงๆ ประมาณนี้
เราคุยกันมาเรื่อยๆ แต่ด้วยความที่เราอยู่ในความสัมพันธ์ที่ไม่ได้ผูกมัดกัน เราทั้งคู่เลยต่างมีอิสระต่อกัน ไม่ได้มีการไปเที่ยวไหนด้วยกันเหมือนคนเป็นแฟน มีเจอกันบ้างแต่ก็ไม่บ่อยหนัก เน้นพูดคุยกันซะมากกว่า ด้วยความที่เราจะออกแนวใส่ใจ ห่วงใยคนรอบข้าง ก็จะตามประสาเราอะเน๊อะ จะคอยเป็นห่วงเป็นใยเค้าเสมอ มีให้กำลังใจกันเวลาที่เจอเรื่องไม่สบายใจ ชีวิตเจอปัญหา หรือทำงานหนัก เหนื่อยๆ เราก็จะมาแนวส่งกำลังใจ เป็นกำลังใจ คอยห่วงใยเสมอ ส่วนเค้าจะออกแนวนิ่งๆ พูดน้อยๆ ชอบขำเวลาเราพูด เราก็งงเหมือนกันว่านี่ช้านตลกขนาดนั้นเลยหรอคะคุณณ 555 มีเกรียนๆ กวนๆ บ้างตามประสาผู้ชายอะเน๊อะ พอเราได้คุยกันมากขึ้นได้เห็นแง่มุมของกันและกัน อาจจะมีบางเวลาที่คุยกันน้อยลง เราก็จะพยายามถามตลอดว่าเค้ายังโอเคกะสถานะที่เราเป็นอยู่ตอนนี้ไหม คำตอบของเค้าก็ยังเหมือนเดิมตลอดมา แต่ด้วยความที่ตัวเราเคยเจอรักที่มันแย่ๆ มาอะเน๊อะ เรามีแอบกลัวว่าเค้าจะหลอกเราไหม โกหกเราไหม เราก็แอบๆ ไปส่องดูโลกออนไลน์เค้าบ้างนะ 5555 อันนี้ยอมรับว่าเป็นนิสัยไม่ดีของเราเอง แต่ตลอดระยะเวลาที่เราได้คุยกันมา คำพูดและการกระทำของเค้าไม่เคยทำให้เราแคลงใจอะไรเลย เค้าก็ไม่ได้ปิดบัง หรือโกหกเราเหมือนที่เค้าบอกไว้จริงๆ แหละ
การคุยกันของเราก็ดำเนินมาเรื่อยๆ ไม่ได้หวือหวา มีแต่ความห่วงใย คอยเป็นกำลังใจให้กันเสมอ ยิ่งนานวันความรู้สึกเรากะผู้ชายคนนี้มันก็เพิ่มขึ้นๆ ในส่วนของเราก็ไม่ได้มีใครเข้ามาตลอดระยะเวลาที่คุยกะเค้า ส่วนเค้าก็ไม่ได้มีใครเข้ามาเช่นกัน อีกข้อหนึ่งที่ทำให้เราประทับใจในตัวเค้า คือ เค้าเป็นคนรักครอบครัวมาก และเหมือนพ่อเราเองจริงๆ 555 (ความฝันของผู้หญิงที่อยากเจอผู้ชายดีๆ เหมือนพ่อตัวเอง วันนี้เราเจอเค้าแล้ว 55555)
ตอนที่เราคุยกันได้ 5 เดือนแรก ตอนนั้นเรารู้สึกดีนะที่ได้คุยกัน ด้วยความที่ค่อนข้างจะชัดเจนในความรู้สึกตัวเองมากก ผู้หญิงบ้าๆ อย่างเรามีแอบเผลอบอกเค้าไปครั้งนึง 555 คำตอบเค้าตอนนั้นคือ ดีแล้วๆ รู้สึกอะไรยังไงก็บอก ถ้าเค้ามีอะไรเปลี่ยนแปลงเค้าก็จาบอกเช่นกัน
ทุกอย่างเดินทางมาเป็นเวลา 1 ปี ครึ่ง จนเราเริ่มรู้สึกว่าเราเผลอใจรักผู้ชายคนนี้เข้าแล้วสิ แต่เรายังรู้สึกสับสนในความรู้สึกของเค้า ว่าเค้ารู้สึกยังไงกะเรากันแน่ จากพฤติกรรมช่วงหลังๆ เค้าดูเหมือนใส่ใจ ดูแคร์ความรู้สึกเราขึ้นกว่าตอนแรกๆ ที่เราได้คุยกัน มันจะมีวิธีไหนกันนะที่เราจะได้รู้ว่าเค้ารู้สึกยังไงกันแน่ ถ้ามันไม่ใช่อย่างที่เรารู้สึก เราต้องรีบตัดใจก่อนที่อะไรๆ มันจะสายไป เราเลยแอบลองถามเค้าผ่านทางไลน์ คำถามที่เราทิ้งไว้ คือ ตั้งแต่คุยกันมารู้สึกยังไงกะเราหรอ? แล้วทำไมถึงยังคุยกะเราเหมือนเดิม? เราทิ้งคำถามนี้ไว้ ผ่านไป 2 วัน สถานะมีการอ่านแต่ไม่มีเสียงตอบใดๆกลับมา และแล้วความคิดบ้าๆ ของเราก็เกิดขึ้น ตอนนั้นเราคิดว่า 2 คำถามนั้นบางทีอาจจะทำให้เค้าไม่สบายใจที่จะตอบมัน และมันอาจจะเป็นสิ่งที่ทำให้เราอาจห่างกันไป ถ้าเราต้องห่างกันไปจริงๆ มันคงใจหายน่าดู และสิ่งหนึ่งที่เราอยากทำ ก่อนที่ทุกอย่างจะไม่เหมือนเดิม เราจะบอกเค้ายังไงดีนะว่า "เราเริ่มรักเค้าเข้าแล้วสิ" แต่เราเป็นผู้หญิงทำแบบนี้มันจาดีหรอ? เราเลยใช้คุณแม่พันทิปเนี่ยแหละคร้า 5555 ในการรวบรวมความกล้าของเราบ้าไหมละ จากการนั่งอ่านคุณแม่พันทิปมาพอสมควร คำตอบจากประสบการณ์ที่ผู้คนเคยผ่านความรู้สึกนี้มา คือ ถ้าเค้ารู้สึกตรงกะเรา ทุกอย่างมันก็โอเค แต่ถ้าเค้าไม่ได้รู้สึกอะไรด้วย ก็เตรียมตัวรับความเสียใจ รับความห่างที่จะต้องมาเยือนได้เลยยย ตัดสินใจอยู่นานตอนนั้นว่าจะลองเสี่ยงดูไหม สุดท้ายเสียงเพลงเล่นของสูงก็ลอยมา 5555 “รู้ว่าเสี่ยงแต่คงต้องขอลอง” เป็นผู้หญิงที่โคตรบ้าเลยยยช้านน
และนี่คือสิ่งที่เราได้บอกเค้าวันนั้น และมันก็เป็นความรู้สึกที่เรารู้สึกว่าเราทำมันดีที่สุดแล้ว ความในใจเล็กๆ ของผู้หญิงบ้าบอๆ คนหนึ่งก่อนที่ทุกอย่างจะไม่เหมือนเดิมเพราะคำว่า "ฉันเพิ่งรู้ว่ารักเธอ จริงๆๆ 555"
"เธอ ก่อนที่คำถาม 2 ข้อนั้นจะทำให้เราอาจห่างกันไป ถ้าเธอไม่สบายใจที่จะตอบก็ไม่เป็นไรนะ และก่อนที่ทุกอย่างมันอาจจะไม่เหมือนเดิมเราขอสารภาพความในใจก่อนที่อาจจะไม่มีโอกาสอีก
ข้อตกลงระหว่างกันเราขอยอมแพ้ ยิ่งนับวันเรายิ่งรู้สึกกะเธอมากขึ้นๆ เรามาทบทวน คิดตรองดูละเราว่า "เราถ้าจะรักเธอเข้าแล้วหละ" มันเกิดขึ้นตอนไหนก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่สารภาพว่าครั้งแรกตอนที่เจอกันใจเราโคตรสั่นเลยย ไม่เคยมีความรู้สึกนี้กะใครเหมือนกันแปลกดี 5555 ที่ตัดสินใจบอกวันนี้เราทบทวนดูแล้ว และยอมรับผลการตัดสินใจของเธอนะ การบอกของเราวันนี้อาจทำให้เราห่างกันไป หรืออะไรก็แล้วแต่
แต่เราอยากจะบอกว่าขอบคุณมากๆ ที่เดินเข้ามาในชีวิตเรา ไม่เคยคิดว่าจะได้เจอคนดีๆ แบบนี้ หลังจากที่โดนทำร้ายจิตใจจนแทบล้ม มันหนักมากสำหรับเราตอนนั้นไม่เหลือความศรัทธาในรักอีกเลย ไม่ได้หวังให้เธอมารู้สึกเหมือนกัน เพราะทุกอย่างมันขึ้นอยู่ที่ใจเธอคนเดียวเรื่องแบบนี้มันบังคับกันไม่ได้หรอกเน๊อะ ขอบคุณมากๆ สำหรับช่วงเวลาดีๆ ความรู้สึกดีๆ ที่ได้เจอกัน ตัดสินใจอยู่นานว่าจะบอกดีไหม สุดท้ายเสียงในใจมันดังกว่า และมันคงจะเป็นทางออกที่ดีที่สุดแล้วสำหรับข้อตกลงที่เราสร้างมันขึ้นมาผูกกันไว้แบบนี้ หลังจากนี้เราก็ยังเหมือนเดิม ยังเป็นเราคนเดิม บ้าบอๆ ไร้สาระ เพ้อเจ้อแบบนี้แหละ 555 แต่ก็ยังมีความรู้สึกดีๆ ความปรารถนาดี ยังเป็นห่วง และจาคอยเป็นกำลังใจให้เธออยู่ตรงนี้เสมอนะ
(ปล. บ้าไหมละที่กล้าบอกแบบนี้ 555 ถ้าไม่บอกคงต้องไปนั่งร้องไห้ต่อ เพราะความเงียบของเธอแน่ๆ ไม่เคยจะเข้มแข็งเลยสักนิดปากเก่งไปงั้นแหละ ถ้ารอให้มีคนอื่นเข้ามา เราว่าเราคงแบกความรู้สึกนี้ไว้ไม่ไหวแน่ๆ เราขอยอมแพ้แต่โดยดี)
ขอบคุณมากๆ จากใจ"
และนี่คือคำตอบที่เราได้กลับมาจากเค้าวันนั้น
"ถ้าเป็นแบบนั้น เราก็ควรจะหยุดนะ แต่เรายังเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันได้ครับ คุยกันได้เหมือนเดิมนะ ความสัมพันธ์แบบนั้นก็คงต้องหยุด เราไม่อยากทำร้าย... (ชื่อเราเอง) ขอโทษนะ ละก็ขอบคุณมากจิงๆ"
ความรู้สึกตอนนั้นบอกตามตรงมันก็ทั้งโล่งที่ได้รู้ความรู้สึกจริงๆของเค้า ว่าเค้ารู้สึกยังไงกะเรา ผสมกับความเสียใจอย่างบอกไม่ถูกทั้งๆ ที่เราก็เตรียมใจมานานพอสมควรว่าถ้าวันหนึ่งข้อตกลงระหว่างเราต้องจบลงความรู้สึกแบบนี้ก็ต้องมาถึง ในใจเราตอนนี้กลับรู้สึกว่าไม่อยากให้เค้าหายไปจากชีวิตเราเลย ไม่อยากหลุดจากวงโคจรของกัน อยากให้เค้าเป็นกำลังใจ เป็นแรงบันดาลใจสำหรับเราไปเรื่อยๆ แต่สุดท้ายเราก็ต้องยอมรับความจริงอะเน๊อะ
คำขอบคุณสุดท้ายจากใจเรา
"ขอบคุณเธอมากเช่นกัน จริงๆ ก็รู้อยู่แล้วแหละว่าเธอไม่ได้คิดอะไร แต่เพื่อความแน่ใจและสบายใจ มันโล่งมากวันนี้ที่ได้บอกในสิ่งที่อยากจะบอกแล้ว เวลา 1 ปี ครึ่ง ที่ได้รู้จักกันมามันดีมากๆ สำหรับเรา เราจะมีโอกาสเจอคนแบบเธออีกไหมนะ นิสัยเหมือนพ่อเรามากเลย 555 ขอบคุณมากๆ เราก็ยังเป็นคนเดิมสำหรับเธอเสมอนะ จนกว่าจะได้เจอกันใหม่ ใจหายเหมือนกันเน๊อะ ที่มันต้องเป็นแบบนี้"
ผู้หญิงยังไงก็ยังเป็นผู้หญิง เสียใจอกหัก งานน้ำตามันก็ยังมาตามเคย ตัดสินใจบอกเค้าเองต้องมานั่งร้องไห้เอง และยังต้องมานอนไม่หลับเองอีกนะเออ 555 มันไม่มีอีกแล้วใช่ไหมกะช่วงเวลาดีๆ เหมือนเคย เหมือนโดนกระชากใจยังไงไม่รู้เน๊อะ แต่เสียใจยังไงสุดท้ายชีวิตเราก็ต้องดำเนินต่อไป เราจะพยายามกลับมาสดใสอีกครั้งให้ได้ บอกใจให้สู้ๆๆ อยู่ทุกวัน วันนี้เป็นวันที่ 3 แล้วที่เรามานั่งพิมพ์แชร์ความรู้สึกให้ทุกคนฟังแบบนี้ และอยากจะเป็นกำลังใจให้อีกหลายๆ คนที่กำลังตกอยู่ในสถานะนี้อยู่นะคะ บางทีจุดจบมันอาจจะไม่ได้สมหวังอย่างที่ใจเราอยากให้เป็น แต่ความรู้สึกดีๆ ความปรารถนาดีต่อกัน มิตรภาพดีๆ มันยังคงอยู่กะเราตลอดไปคะ จากความรักของเราครั้งนี้ทำให้เราเข้าใจถึงคำว่า "รัก" คือการให้จริงๆ ถึงแม้ว่ามันอาจจะไม่สมหวัง แต่มันก็ยังเป็นความทรงจำดีๆ ที่ได้แอบมองดูเค้าอยู่ตรงนี้ตลอดไป

คำถามของเราตอนนี้คือ ทุกคนคิดว่าเราทำถูกไหมที่ตัดสินใจพูดความรู้สึกของตัวเองออกไป?
แล้วเราควรจะกลับไปคุยกันแบบเพื่อนดีไหมคะ? 
(เรารู้สึกว่าเรายังอยากเป็นกำลังใจ อยากคอยให้กำลังใจเค้าอยู่ตรงนี้ต่อไป แม้จะในสถานะเพื่อนก็ตาม)
คำถามสุดท้ายที่อยากให้ทุกคนมาแชร์กัน
ขอบคุณทุกคนที่อ่านมาถึงตรงนี้นะคะ
ขอบคุณมากๆคร้า
ความสัมพันธ์ที่ไม่ชัดเจน สู่ ความชัดเจนในฐานะเพื่อนที่ดีต่อกัน ในวันที่เพิ่งรู้ตัวว่ารัก เราจะคุยกันแบบเพื่อนได้จริงไหม?
เรื่องของเราเป็นความสัมพันธ์บนข้อตกลงระหว่างคนเหงา 2 คน โดยมีข้อตกลงระหว่างกันว่า เราทั้งคู่จะอยู่ในสถานะไม่ผูกมัดกัน และข้อตกลงนี้จะจบลงก็ต่อเมื่อคนใดคนหนึ่งมีอีกคนเข้ามา โดยเราสัญญากันไว้ว่าเราจะไม่โกหกกัน มีอะไรให้บอกกันตรงๆ เปิดใจคุยกันได้ทุกเรื่อง หลังจากที่เราได้ตกลงกันทั้ง 2 ฝ่ายแล้ว ความสัมพันธ์ของเราทั้งคู่ก็เริ่มต้นขึ้นคะ เริ่มมีการแลกไลน์ มีการเจอกัน วันแรกที่เราได้เจอเขาต้องบอกเลยว่าเป็นวันที่ใจเราเต้นแรงมาก ใจสั่นมากตอนนั้น มันเป็นความรู้สึกที่บอกไม่ถูกเลยจริงๆ ทำไมเราถึงรู้สึกดีกะผู้ชายคนนี้ตั้งแต่แรกเจอก็ไม่รู้ เค้าเป็นผู้ชายที่ดูนิ่งๆ พูดน้อย ยิ้มยากนิดนึง แต่เวลายิ้มที เหมือนมีมนต์สะกดให้เราต้องหยุดมอง (อร๊ายยเขินจุง มันดีต่อใจมากคร้า 5555) เค้าตัวสูงๆ หน้าตาก็ไม่ได้หล่ออะไรมากมายแต่มีความคมซ่อนอยู่ (สเปคเราเลยยยนะเนี่ย 5555) ต้องบอกว่าวันนั้นสติเรากระเจิงมากคร้า ใจเราสั่น ประหม่าไปหมด มือโคตรเย็นเลยตอนนั้น แปลกดีเหมือนกันกะความรู้สึกนี้ ไม่เคยเกิดกะใครเลยตั้งแต่เกิดมา หลังจากวันแรกที่เราได้เจอกัน ความสัมพันธ์ของเราทั้งสองก็เริ่มต้นขึ้น เราคุยกันได้ทุกเรื่อง เป็นที่ปรึกษา เป็นกำลังใจให้กัน มีคุยเล่น มีแซว เฮฮาปาจิ้งโก๋ตามประสาความบ้าบอของเรา เออลืมเล่าส่วนเราจะเป็นผู้หญิงโก๊ะๆ คนหนึ่ง ความสูงไซด์มินิมากเมื่อเทียบกะเค้า บ้าๆบอๆ อาวุธของเรา คือ รอยยิ้ม 555 ชอบอิสระ ไปไหนมาไหนคนเดียวได้ กินข้าว ดูหนัง คนเดียวได้สบายๆ ชอบอะไรที่มันชัดเจน ตรงๆ ประมาณนี้
เราคุยกันมาเรื่อยๆ แต่ด้วยความที่เราอยู่ในความสัมพันธ์ที่ไม่ได้ผูกมัดกัน เราทั้งคู่เลยต่างมีอิสระต่อกัน ไม่ได้มีการไปเที่ยวไหนด้วยกันเหมือนคนเป็นแฟน มีเจอกันบ้างแต่ก็ไม่บ่อยหนัก เน้นพูดคุยกันซะมากกว่า ด้วยความที่เราจะออกแนวใส่ใจ ห่วงใยคนรอบข้าง ก็จะตามประสาเราอะเน๊อะ จะคอยเป็นห่วงเป็นใยเค้าเสมอ มีให้กำลังใจกันเวลาที่เจอเรื่องไม่สบายใจ ชีวิตเจอปัญหา หรือทำงานหนัก เหนื่อยๆ เราก็จะมาแนวส่งกำลังใจ เป็นกำลังใจ คอยห่วงใยเสมอ ส่วนเค้าจะออกแนวนิ่งๆ พูดน้อยๆ ชอบขำเวลาเราพูด เราก็งงเหมือนกันว่านี่ช้านตลกขนาดนั้นเลยหรอคะคุณณ 555 มีเกรียนๆ กวนๆ บ้างตามประสาผู้ชายอะเน๊อะ พอเราได้คุยกันมากขึ้นได้เห็นแง่มุมของกันและกัน อาจจะมีบางเวลาที่คุยกันน้อยลง เราก็จะพยายามถามตลอดว่าเค้ายังโอเคกะสถานะที่เราเป็นอยู่ตอนนี้ไหม คำตอบของเค้าก็ยังเหมือนเดิมตลอดมา แต่ด้วยความที่ตัวเราเคยเจอรักที่มันแย่ๆ มาอะเน๊อะ เรามีแอบกลัวว่าเค้าจะหลอกเราไหม โกหกเราไหม เราก็แอบๆ ไปส่องดูโลกออนไลน์เค้าบ้างนะ 5555 อันนี้ยอมรับว่าเป็นนิสัยไม่ดีของเราเอง แต่ตลอดระยะเวลาที่เราได้คุยกันมา คำพูดและการกระทำของเค้าไม่เคยทำให้เราแคลงใจอะไรเลย เค้าก็ไม่ได้ปิดบัง หรือโกหกเราเหมือนที่เค้าบอกไว้จริงๆ แหละ
การคุยกันของเราก็ดำเนินมาเรื่อยๆ ไม่ได้หวือหวา มีแต่ความห่วงใย คอยเป็นกำลังใจให้กันเสมอ ยิ่งนานวันความรู้สึกเรากะผู้ชายคนนี้มันก็เพิ่มขึ้นๆ ในส่วนของเราก็ไม่ได้มีใครเข้ามาตลอดระยะเวลาที่คุยกะเค้า ส่วนเค้าก็ไม่ได้มีใครเข้ามาเช่นกัน อีกข้อหนึ่งที่ทำให้เราประทับใจในตัวเค้า คือ เค้าเป็นคนรักครอบครัวมาก และเหมือนพ่อเราเองจริงๆ 555 (ความฝันของผู้หญิงที่อยากเจอผู้ชายดีๆ เหมือนพ่อตัวเอง วันนี้เราเจอเค้าแล้ว 55555)
ตอนที่เราคุยกันได้ 5 เดือนแรก ตอนนั้นเรารู้สึกดีนะที่ได้คุยกัน ด้วยความที่ค่อนข้างจะชัดเจนในความรู้สึกตัวเองมากก ผู้หญิงบ้าๆ อย่างเรามีแอบเผลอบอกเค้าไปครั้งนึง 555 คำตอบเค้าตอนนั้นคือ ดีแล้วๆ รู้สึกอะไรยังไงก็บอก ถ้าเค้ามีอะไรเปลี่ยนแปลงเค้าก็จาบอกเช่นกัน
ทุกอย่างเดินทางมาเป็นเวลา 1 ปี ครึ่ง จนเราเริ่มรู้สึกว่าเราเผลอใจรักผู้ชายคนนี้เข้าแล้วสิ แต่เรายังรู้สึกสับสนในความรู้สึกของเค้า ว่าเค้ารู้สึกยังไงกะเรากันแน่ จากพฤติกรรมช่วงหลังๆ เค้าดูเหมือนใส่ใจ ดูแคร์ความรู้สึกเราขึ้นกว่าตอนแรกๆ ที่เราได้คุยกัน มันจะมีวิธีไหนกันนะที่เราจะได้รู้ว่าเค้ารู้สึกยังไงกันแน่ ถ้ามันไม่ใช่อย่างที่เรารู้สึก เราต้องรีบตัดใจก่อนที่อะไรๆ มันจะสายไป เราเลยแอบลองถามเค้าผ่านทางไลน์ คำถามที่เราทิ้งไว้ คือ ตั้งแต่คุยกันมารู้สึกยังไงกะเราหรอ? แล้วทำไมถึงยังคุยกะเราเหมือนเดิม? เราทิ้งคำถามนี้ไว้ ผ่านไป 2 วัน สถานะมีการอ่านแต่ไม่มีเสียงตอบใดๆกลับมา และแล้วความคิดบ้าๆ ของเราก็เกิดขึ้น ตอนนั้นเราคิดว่า 2 คำถามนั้นบางทีอาจจะทำให้เค้าไม่สบายใจที่จะตอบมัน และมันอาจจะเป็นสิ่งที่ทำให้เราอาจห่างกันไป ถ้าเราต้องห่างกันไปจริงๆ มันคงใจหายน่าดู และสิ่งหนึ่งที่เราอยากทำ ก่อนที่ทุกอย่างจะไม่เหมือนเดิม เราจะบอกเค้ายังไงดีนะว่า "เราเริ่มรักเค้าเข้าแล้วสิ" แต่เราเป็นผู้หญิงทำแบบนี้มันจาดีหรอ? เราเลยใช้คุณแม่พันทิปเนี่ยแหละคร้า 5555 ในการรวบรวมความกล้าของเราบ้าไหมละ จากการนั่งอ่านคุณแม่พันทิปมาพอสมควร คำตอบจากประสบการณ์ที่ผู้คนเคยผ่านความรู้สึกนี้มา คือ ถ้าเค้ารู้สึกตรงกะเรา ทุกอย่างมันก็โอเค แต่ถ้าเค้าไม่ได้รู้สึกอะไรด้วย ก็เตรียมตัวรับความเสียใจ รับความห่างที่จะต้องมาเยือนได้เลยยย ตัดสินใจอยู่นานตอนนั้นว่าจะลองเสี่ยงดูไหม สุดท้ายเสียงเพลงเล่นของสูงก็ลอยมา 5555 “รู้ว่าเสี่ยงแต่คงต้องขอลอง” เป็นผู้หญิงที่โคตรบ้าเลยยยช้านน
และนี่คือสิ่งที่เราได้บอกเค้าวันนั้น และมันก็เป็นความรู้สึกที่เรารู้สึกว่าเราทำมันดีที่สุดแล้ว ความในใจเล็กๆ ของผู้หญิงบ้าบอๆ คนหนึ่งก่อนที่ทุกอย่างจะไม่เหมือนเดิมเพราะคำว่า "ฉันเพิ่งรู้ว่ารักเธอ จริงๆๆ 555"
"เธอ ก่อนที่คำถาม 2 ข้อนั้นจะทำให้เราอาจห่างกันไป ถ้าเธอไม่สบายใจที่จะตอบก็ไม่เป็นไรนะ และก่อนที่ทุกอย่างมันอาจจะไม่เหมือนเดิมเราขอสารภาพความในใจก่อนที่อาจจะไม่มีโอกาสอีก
ข้อตกลงระหว่างกันเราขอยอมแพ้ ยิ่งนับวันเรายิ่งรู้สึกกะเธอมากขึ้นๆ เรามาทบทวน คิดตรองดูละเราว่า "เราถ้าจะรักเธอเข้าแล้วหละ" มันเกิดขึ้นตอนไหนก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่สารภาพว่าครั้งแรกตอนที่เจอกันใจเราโคตรสั่นเลยย ไม่เคยมีความรู้สึกนี้กะใครเหมือนกันแปลกดี 5555 ที่ตัดสินใจบอกวันนี้เราทบทวนดูแล้ว และยอมรับผลการตัดสินใจของเธอนะ การบอกของเราวันนี้อาจทำให้เราห่างกันไป หรืออะไรก็แล้วแต่
แต่เราอยากจะบอกว่าขอบคุณมากๆ ที่เดินเข้ามาในชีวิตเรา ไม่เคยคิดว่าจะได้เจอคนดีๆ แบบนี้ หลังจากที่โดนทำร้ายจิตใจจนแทบล้ม มันหนักมากสำหรับเราตอนนั้นไม่เหลือความศรัทธาในรักอีกเลย ไม่ได้หวังให้เธอมารู้สึกเหมือนกัน เพราะทุกอย่างมันขึ้นอยู่ที่ใจเธอคนเดียวเรื่องแบบนี้มันบังคับกันไม่ได้หรอกเน๊อะ ขอบคุณมากๆ สำหรับช่วงเวลาดีๆ ความรู้สึกดีๆ ที่ได้เจอกัน ตัดสินใจอยู่นานว่าจะบอกดีไหม สุดท้ายเสียงในใจมันดังกว่า และมันคงจะเป็นทางออกที่ดีที่สุดแล้วสำหรับข้อตกลงที่เราสร้างมันขึ้นมาผูกกันไว้แบบนี้ หลังจากนี้เราก็ยังเหมือนเดิม ยังเป็นเราคนเดิม บ้าบอๆ ไร้สาระ เพ้อเจ้อแบบนี้แหละ 555 แต่ก็ยังมีความรู้สึกดีๆ ความปรารถนาดี ยังเป็นห่วง และจาคอยเป็นกำลังใจให้เธออยู่ตรงนี้เสมอนะ
(ปล. บ้าไหมละที่กล้าบอกแบบนี้ 555 ถ้าไม่บอกคงต้องไปนั่งร้องไห้ต่อ เพราะความเงียบของเธอแน่ๆ ไม่เคยจะเข้มแข็งเลยสักนิดปากเก่งไปงั้นแหละ ถ้ารอให้มีคนอื่นเข้ามา เราว่าเราคงแบกความรู้สึกนี้ไว้ไม่ไหวแน่ๆ เราขอยอมแพ้แต่โดยดี)
ขอบคุณมากๆ จากใจ"
และนี่คือคำตอบที่เราได้กลับมาจากเค้าวันนั้น
"ถ้าเป็นแบบนั้น เราก็ควรจะหยุดนะ แต่เรายังเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันได้ครับ คุยกันได้เหมือนเดิมนะ ความสัมพันธ์แบบนั้นก็คงต้องหยุด เราไม่อยากทำร้าย... (ชื่อเราเอง) ขอโทษนะ ละก็ขอบคุณมากจิงๆ"
ความรู้สึกตอนนั้นบอกตามตรงมันก็ทั้งโล่งที่ได้รู้ความรู้สึกจริงๆของเค้า ว่าเค้ารู้สึกยังไงกะเรา ผสมกับความเสียใจอย่างบอกไม่ถูกทั้งๆ ที่เราก็เตรียมใจมานานพอสมควรว่าถ้าวันหนึ่งข้อตกลงระหว่างเราต้องจบลงความรู้สึกแบบนี้ก็ต้องมาถึง ในใจเราตอนนี้กลับรู้สึกว่าไม่อยากให้เค้าหายไปจากชีวิตเราเลย ไม่อยากหลุดจากวงโคจรของกัน อยากให้เค้าเป็นกำลังใจ เป็นแรงบันดาลใจสำหรับเราไปเรื่อยๆ แต่สุดท้ายเราก็ต้องยอมรับความจริงอะเน๊อะ
คำขอบคุณสุดท้ายจากใจเรา
"ขอบคุณเธอมากเช่นกัน จริงๆ ก็รู้อยู่แล้วแหละว่าเธอไม่ได้คิดอะไร แต่เพื่อความแน่ใจและสบายใจ มันโล่งมากวันนี้ที่ได้บอกในสิ่งที่อยากจะบอกแล้ว เวลา 1 ปี ครึ่ง ที่ได้รู้จักกันมามันดีมากๆ สำหรับเรา เราจะมีโอกาสเจอคนแบบเธออีกไหมนะ นิสัยเหมือนพ่อเรามากเลย 555 ขอบคุณมากๆ เราก็ยังเป็นคนเดิมสำหรับเธอเสมอนะ จนกว่าจะได้เจอกันใหม่ ใจหายเหมือนกันเน๊อะ ที่มันต้องเป็นแบบนี้"
ผู้หญิงยังไงก็ยังเป็นผู้หญิง เสียใจอกหัก งานน้ำตามันก็ยังมาตามเคย ตัดสินใจบอกเค้าเองต้องมานั่งร้องไห้เอง และยังต้องมานอนไม่หลับเองอีกนะเออ 555 มันไม่มีอีกแล้วใช่ไหมกะช่วงเวลาดีๆ เหมือนเคย เหมือนโดนกระชากใจยังไงไม่รู้เน๊อะ แต่เสียใจยังไงสุดท้ายชีวิตเราก็ต้องดำเนินต่อไป เราจะพยายามกลับมาสดใสอีกครั้งให้ได้ บอกใจให้สู้ๆๆ อยู่ทุกวัน วันนี้เป็นวันที่ 3 แล้วที่เรามานั่งพิมพ์แชร์ความรู้สึกให้ทุกคนฟังแบบนี้ และอยากจะเป็นกำลังใจให้อีกหลายๆ คนที่กำลังตกอยู่ในสถานะนี้อยู่นะคะ บางทีจุดจบมันอาจจะไม่ได้สมหวังอย่างที่ใจเราอยากให้เป็น แต่ความรู้สึกดีๆ ความปรารถนาดีต่อกัน มิตรภาพดีๆ มันยังคงอยู่กะเราตลอดไปคะ จากความรักของเราครั้งนี้ทำให้เราเข้าใจถึงคำว่า "รัก" คือการให้จริงๆ ถึงแม้ว่ามันอาจจะไม่สมหวัง แต่มันก็ยังเป็นความทรงจำดีๆ ที่ได้แอบมองดูเค้าอยู่ตรงนี้ตลอดไป
(เรารู้สึกว่าเรายังอยากเป็นกำลังใจ อยากคอยให้กำลังใจเค้าอยู่ตรงนี้ต่อไป แม้จะในสถานะเพื่อนก็ตาม)
คำถามสุดท้ายที่อยากให้ทุกคนมาแชร์กัน
ขอบคุณทุกคนที่อ่านมาถึงตรงนี้นะคะ
ขอบคุณมากๆคร้า