ขอแชร์ประสบการณ์ "กว่าจะได้มาซึ่ง DV20xx"

คำเตือนก่อนอ่าน...

         - สำหรับท่านใดที่สนใจในโครงการวีซ่าล็อตเตอรี่ในปีถัดๆ ไปแล้วอยากทราบข้อมูลเพิ่มเติม ท่านสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ครับ ถ้าผมทราบผมตอบทันที แต่ถ้าผมไม่ทราบเดี๋ยวหาข้อมูลมาเพิ่มเติมให้ครับ แฮร่ๆ...
         - สำหรับท่านใดที่มีโควต้าอ่านตัวหนังสือไม่ครบ 8 บรรทัดต่อปีแล้วคิดว่ากระทู้นี้ไร้สาระ, ไม่ตอบโจทย์ของท่าน หรือมีอคติ ขอแนะนำให้ท่านปิดกระทู้นี้ลงไปซะนะครับ ด้วยความเคารพ

         ผมขอเข้ามาแชร์ประสบการณ์การสมัครโครงการวีซ่าล็อตเตอรี่ 20xx (DV20xx) หรือที่หลายๆ ท่านเรียกกันติดปากว่า "Lotto Green Card" นั่นแหละครับผม (คุยกันภาษาง่ายๆ นะครับเพื่อความเข้าใจที่ง่ายขึ้น)


- วิธีการสมัคร สมัครได้ช่วงเวลาไหนในแต่ละปี?

         โดยวิธีการสมัครก็เข้าไปสมัครได้ที่ https://www.dvlottery.state.gov/ โดยจะเปิดให้ทุกท่านเข้าไปสมัครกันได้ตั้งแต่ประมาณต้นเดือนตุลาคมไปจนถึงประมาณต้นเดือนพฤศจิกายน (เปิดให้สมัครประมาณ 1 เดือนครับ) ของทุกปีโดยประมาณ
         *ข้อมูลวิธีสมัครโครงการวีซ่าล็อตเตอรี่ 20xx (DV20xx) ผมไม่ขอพูดถึงนะครับ เพราะท่านสามารถหาอ่านได้เยอะแยะไปหมดเลยครับ ขออนุญาตไม่อธิบายในส่วนนี้ก็แล้วกันครับผม


- เข้าไปตรวจรายชื่อผู้โชคดีได้อย่างไร และช่วงเวลาไหน?

         การประกาศผลว่าตัวท่านเองได้ถูกรับเลือกในโครงการวีซ่าล็อตเตอรี่หรือไม่นั้น ครั้งแรกนั้นจะประกาศผล ในเดือนพฤษภาคมของปีถัดไป และครั้งที่ 2 ในเดือนตุลาคมครับ (ผู้สมัครทุกท่านคงจะทราบดีว่าท่านสามารถเข้าไปเช็คผลได้อย่างไร)
         ตัวผมเองกับภรรยาทดลองเสี่ยงดวงสมัครโครงการวีซ่าล็อตเตอรี่ไว้เมื่อปี 2014 แต่ปรากฏว่ากินแห้วกันทั้งคู่ แฮร่ๆ ยังไม่ลดความพยายามครับสมัครกันใหม่อีกในปื 2015 พอถึงต้นเดือนพฤษภาคม (ถ้าจำไม่ผิดน่าจะประมาณเที่ยงคืนของวันที่ 2 พฤษภาคม) ผมล็อกอินเข้าไปเช็คอีกทีปรากฏว่ากินแห้วอีกตามเคย ปิดคอมพิวเตอร์นอนซิครับรออะไร 555+ วันรุ่งขึ้นภรรยาผมเข้าไปเช็คบ้าง อ้าว...เฮ้ย มีชื่อเป็นผู้โชคดีขึ้นมาซะงั้น ผมถามย้ำกับภรรยาว่าดูไม่ผิดนะ จนภรรยาแค๊ปหน้าจอมาให้ดูนั่นแหละครับผมถึงจะยอมเชื่อว่ามันเป็นความจริงไม่ใช่ความฝัน


- ได้รับเลือกในโครงการวีซ่าล็อตเตอรี่ 20xx (DV20xx) แล้วต้องทำอย่างไร?

         หลังจากที่ท่านได้รับเลือกในโครงการวีซ่าล็อตเตอรี่ 20xx (DV20xx) แล้วจะมีขั้นตอนแจ้งเข้ามาในบัญชีที่ท่านไปลงทะเบียนไว้นั่นแหละครับว่าต้องทำอย่างไรบ้าง มาเรามาดูกัน...(ผมเข้าไปกรอกข้อมูลส่วนนี้ประมาณเดือนมิถุนายน เพราะเข้าใจผิดหลายๆ เรื่อง...เดี๋ยวอธิบายครับ)

         ก่อนอื่นเลยท่านต้องเข้าไปกรอกข้อมูลในส่วนของ DS260 ให้เสร็จครับ (กรอกข้อมูลที่เป็นความจริงทั้งหมด) โดยเข้าไปกรอกข้อมูลต่างๆ ด้วยการใช้เคสนัมเบอร์เพื่อล็อคอินเข้าไปในส่วนนี้ครับ กรอกไปเรื่อยๆ ครับจนกว่าจะเสร็จทีละขั้นตอน (ระบบก็เด้งออกตลอด ต้องกรอกไปเซฟไปด้วย ต้องล็อคอินกันหลายครั้งมากกว่าจะเสร็จสมบูรณ์) เมื่อกรอกข้อมูลเสร็จก็รีวิวความถูกต้องอีกทีแล้วก็กดส่งไปเลยครับเมื่อตรวจสอบความถูกต้องแล้วเรียบร้อยแล้ว
         *ข้อมูลที่กรอกก็เป็นข้อมูลส่วนตัวทั่วไปครับ รวมไปถึงคู่สมรสและครอบครัวด้วย


- รอนานไหมหลังจากที่กรอกข้อมูลในส่วนของ DS260 แล้วส่งออกไปเรียบร้อย?

         ขอบอกก่อนนะครับว่าเคสนัมเบอร์ของภรรยาผมได้ลำดับต้นๆ คือ 5xx ของทางฝั่งเอเซียเลย (เกี่ยวหรือไม่เกี่ยวกับการตอบกลับจาก USCIS ให้เข้าไปสัมภาษณ์อย่างรวดเร็วไปด้วยหรือเปล่าผมไม่แน่ใจ) รอกันไปครับ 3 เดือนหลังจากนั้นประมาณกลางเดือนตุลาคมจะได้รับเอกสารให้เราเข้าไปยื่นเอกสารตัวจริงและสัมภาษณ์ที่สถานทูตที่ท่านเลือกเอาไว้ในตอนที่ท่านยื่นเรื่องสมัครเอาไว้ครับ (เมืองไทยก็แน่อยู่แล้วครับว่าต้องเป็นสถานทูตอเมริกาประจำประเทศไทยจะที่กรุงเทพฯ หรือที่เชียงใหม่ก็มาว่ากันอีกที แต่ส่วนของผมกับภรรยาเข้าไปยื่นและสัมภาษณ์ที่สถานทูตอเมริกาประจำประจำประเทศสิงคโปร์ เนื่องด้วยตัวผมเองและภรรยาทำงานและอาศัยอยู่ที่นี่จะครบ 10 ปีแล้วครับ) โดยเอกสารจะแจ้งวันที่และเวลานัดให้เข้าไปยื่นและสัมภาษณ์มาให้โดยละเอียด (ต้องปริ้นท์เอกสารส่วนนี้ออกมาด้วยนะครับ เพื่อไปเป็นหลักฐานว่าเรามีนัดให้เข้าไปสัมภาษณ์ที่สถานทูตจริงๆ)


- เกริ่นนำ...เรื่องเอกสารละใช้อะไรบ้างที่ต้องเอาเข้าไปยื่นในวันนัดสัมภาษณ์?

         นี่แหละครับเป็นเรื่องที่วุ่นวายที่สุดละ สำหรับภรรยาผมชิลๆ ครับเพราะเอกสารต่างๆ อยู่ในมือเธออยู่แล้วและยังเป็นภาษาอังกฤษทั้งหมดอีกด้วย ส่วนเอกสารของผมนั่นนะหรือ...เรื่องมันยาวครับมาฟังกัน ผมเป็นคนที่เข้ามาอยู่สิงคโปร์ด้วยวุฒิการศึกษาเพียงใบเดียวจริงๆ เอกสารส่วนอื่นบางส่วนหาย บางส่วนต้องเอามาแปลเป็นภาษาอังกฤษทั้งหมด แล้วเอาไปยื่นที่สถานทูตไทยประจำประเทศสิงคโปร์รับรองให้อีกทีครับ เอกสารที่ผมทำหายไปมีตามนี้เลย ใบเกิด, ใบ สด.9, ใบ สด.43 เอกสารข้างต้นผมต้องบินไปกลับสิงคโปร์-เมืองไทยอยู่หลายครั้งในช่วงเดือนพฤษภาคมและต้นเดือนมิถุนายนหลังจากที่ทราบเรื่องว่าภรรยาถูกรับเลือกในโครงการวีซ่าล็อตเตอรี่ 20xx (DV20xx) สรุปก็คือได้มาครับแต่เสียค่าใช้จ่ายเยอะนิดนึง และที่สำคัญอย่าลืมใบรับรองความประพฤติจากกรมตำรวจของไทยเราด้วยนะครับ (ถ้าท่านเองสะดวกและพอจะมีเวลาก็เข้าไปขอเองจ่ายไม่กี่ตังค์ แต่ถ้าอยู่ต่างประเทศแบบผมก็ทำผ่านเอเจนซี่ครับก็จ่ายหลายตังค์อยู่ครับ) หลังจากได้เอกสารทุกอย่างมาทั้งหมดก็เอาไปแปลให้เป็นภาษาอังกฤษทั้งหมดแล้วเอาเข้าไปให้สถานทูตไทยประจำประเทศสิงคโปร์รับรองให้เรียบร้อยครับ (ใบเกิด, ทะเบียนบ้าน, ใบ สด.9, ใบ สด.43 ส่วนวุฒิการศึกษากับใบรับรองความประพฤติเป็นภาษาอังกฤษอยู่แล้ว)
         *นี่แหละครับที่ทำให้ผมเสียเวลาไม่เข้าไปกรอกในส่วนของ DS260 ซะทีเพราะรอเอกสารทั้งหมดกว่าจะได้มาครบและเสร็จเรียบร้อยก็ปาไปเป็นช่วงเดือนมิถุนายนแล้ว เพราะเข้าใจผิดว่าเมื่อเข้าไปกรอกในส่วนของ DS260 จะต้องใช้เอกสารทั้งหมดที่กล่าวมาข้างต้นเลย ณ.เวลานั้น (อย่าพลาดเหมือนผมนะครับ เพราะหาข้อมูลต่างๆ ได้น้อยนั่นเองในตอนนั้น)


- เอกสารต่างๆ ที่ต้องใช้จริงในวันนัดสัมภาษณ์

         จะเห็นได้ว่าเอกสารต่างๆ จะเยอะมากๆ แต่ไม่ต้องกลัวครับ ทาง USCIS จะมีเช็คลิสต์มาให้อยู่แล้วละครับ (ไม่ต้องกลัว)

ส่วนของผู้ได้รับเลือก Diversity Visa Program (DV-20xx) หลัก (ภรรยาผม)
         1. เอกสารนัดหมายที่ได้จาก USCIS (1 ชุด)
         2. เอกสารยืนยันจาก DS260 (1 ชุด) *2nd NL - Confirmation Notice from KCC
         3. ปริ้นท์เอกสารชุด DS260 ทั้งหมดออกมาแล้วถือไปด้วยครับ (1 ชุด) *จริงๆ ไม่ต้องปริ้นท์ออกมาก็ได้ครับ เพราะเจ้าหน้าที่สามารถเข้าถึงข้อมูล           ของเราส่วนนี้ได้อยู่แล้ว (เว็บไซต์หลักก็บอกว่าไม่จำเป็นต้องปริ้นท์ออกมา)
         4. พาสปอร์ต (ฉบับจริง + ถ่ายสำเนา 1 ชุด)
         5. วุฒิการศึกษา (ตั้งแต่ประถมศึกษาจนมหาวิทยาลัยฉบับจริง + ถ่ายสำเนา 1 ชุด)
         6. หนังสือรับรองการทำงานจากบริษัทที่เราทำงานอยู่ พร้อมระบุตำแหน่งงาน, รายได้ต่อเดือนและระยะเวลาที่เริ่มทำงานจนถึงปัจจุบัน (ฉบับจริง + ถ่ายสำเนา 1 ชุด)
         7. ใบเกิด (ฉบับจริง + ถ่ายสำเนา 1 ชุด)
         8. ทะเบียนสมรส (ฉบับจริง + ถ่ายสำเนา 1 ชุด) *ถ้าท่านแต่งงานแล้วและยื่นขอให้คู่สมรสด้วย
         9. หนังสือรับรองความประพฤติที่สิงคโปร์ *ในกรณีของผมต้องขอจากเมืองไทยด้วย (ฉบับจริง + ถ่ายสำเนา 1 ชุด)
         10. สเตรทเม้นท์หรือหลักทรัพย์ของผู้ยื่นขอหลัก (เท่านั้น) เงินเก็บ, พอร์ตหุ้น, หลักทรัพย์หรือโฉนดที่ดิน (ฉบับจริง + ถ่ายสำเนา 1 ชุด)
         11. ผลการตรวจร่างกายจากสถานพยาบาลหรือคลีนิคที่อยู่ในลิสท์ของทางสถานทูตอเมริกาเอง ท่านไม่สามารถเดินเข้าไปตรวจร่างกายที่ไหนก็ได้นะครับ ต้องตามลิสท์ของทางสถานทูตอเมริกาให้ไว้เพียงเท่านั้น (ทางสถานพยาบาลหรือคลีนิคจะส่งผลตรวจร่างกายโดยตรงไปยังสถานทูตอเมริกา และส่งสำเนา 1 ชุดกลับมาให้เรา)
         12. ทะเบียนบ้าน (ฉบับจริง + ถ่ายสำเนา 1 ชุด)
         13. บัตรประชาชน, บัตรผู้อยู่อาศัยถาวรหรือใบอนุญาติทำงานในประเทศนั้นๆ (ฉบับจริง + ถ่ายสำเนา 1 ชุด)
         14. รายละเอียดเกี่ยวกับสมาชิกในครอบครัวทั้งหมด ชื่อ-สกุล, วันเดือนปีเกิด และอาชีพปัจจุบัน (1 ชุด)
         15.ที่อยู่ในอเมริกาเมื่อท่านจะเดินทางเข้าไปยังอเมริกาเพื่อรอรับ Green Card ครับ (สามารถเปลี่ยนแปลงในภายหลังได้)
         16. รูปถ่ายหน้าตรงขนาด 2"x2" จำนวน 2 ใบ (เข้าไปดูคุณสมบัติได้ในเว็บไซต์หลักนะครับ จะมีรายละเอียดแจ้งไว้อยู่)
         17. อื่นๆ...ถ้าผู้ยื่นขอหลักเป็นเพศชายจะต้องยื่นเอกสารผ่านการเกณฑ์ทหาร สด.9 กับ สด.43 พร้อมสำเนาด้วยครับ

ส่วนของคู่สมรสหรือผู้ติดตาม (ตัวผมเอง)
         1. ใบเกิด (ฉบับจริง + ถ่ายสำเนา 1 ชุด)
         2.  หนังสือรับรองความประพฤติทั้งที่สิงคโปร์ และที่เมืองไทยด้วยครับ (ฉบับจริง + ถ่ายสำเนา 1 ชุด)
         *ครับ...ท่านดูไม่ผิด ทางสถานทูตอเมริกาต้องการเพียง 2 สิ่งนี้จริงๆ ไอ้ที่บินไปกลับสิงคโปร์-เมืองไทยยังกับนั่งรถเมล์นี่เพื่อ? 555+ (แต่ถ้าเป็นผู้ยื่นขอหลักคงจะต้องใช้เอกสารทั้งหมดที่กล่าวไปข้างต้นนะครับ แฮร่ๆ)


- วันนัดสัมภาษณ์ละ ต้องทำอย่างไรบ้าง?

         พอถึงวันนัดสัมภาษณ์เราก็หอบเอกสารที่กล่าวไปข้างต้นทั้งหมดติดตัวไปเลยครับ ของผมนัด 8.45น. ผมไปล่วงหน้า 1 ชั่วโมงครับ พอถึงด้านหน้าสถานทูตอเมริกาประจำประเทศสิงคโปร์จะมีเจ้าหน้าที่เดินมาสอบถามเวลานัดและจัดให้เราไปนั่งยังที่นั่งพักคอยตามเวลานัดหมาย พอใกล้ถึงเวลานัดหมายเจ้าหน้าที่ก็จะบอกให้เราไปยังส่วนของการตรวจร่างกายและรักษาความปลอดภัยก่อนที่จะเข้าไปยังส่วนของพื้นที่ด้านในสถานทูตอเมริกา คือตรวจทั่วไปครับ สแกนทุกอย่าง โทรศัพท์และเครื่องมือสื่อสารต้องฝากไว้ที่ด้านนอก สามารถนำกระเป๋าถือติดตัวไปได้ พอไปถึงด้านในก็จะถูกตรวจสอบด้านความปลอดภัยกันอีกครั้ง พอผ่านไปได้ก็จะเดินไปสู่ห้องที่ต้องยื่นเอกสารและสอบสัมภาษณ์ แต่ก่อนอื่นจะมีเจ้าหน้าที่สอบถามว่าเรามาทำอะไรเพื่อออกบัตรคิวให้เราและรับเรื่องในขั้นแรก เราก็แจ้งเจ้าหน้าที่ไปว่าเรามาสัมภาษณ์ Diversity Visa (DV-20xx) เจ้าหน้าที่จะให้บัตรคิวมาซึ่งผมและภรรยาได้เป็นคิวแรกสุดสำหรับ Diversity Visa (สิงคโปร์คนคงสมัครกันไม่เยอะมั้ง) เราก็นั่งรอในส่วนของ Immigrant Visa (แต่ใช้พื้นที่เดียวกันกับบุคคลที่ยื่นขอวีซ่าท่องเที่ยวครับ) รอสักพักเจ้าหน้าที่ก็เรียกชื่อภรรยาผมและหมายเลขคิว ผมกับภรรยาก็เดินไปยังเคาน์เตอร์ตามเสียงประกาศเรียก กล่าวคำทักทายกับเจ้าหน้าที่นิดหน่อยก่อนที่เจ้าหน้าที่ที่เคาน์เตอร์นี้จะเรียกขอเอกสารทั้งหมดตามด้านบนที่ผมให้ข้อมูลไว้ด้านบนครับ (เรียกรับเอกสารตามลิสท์แยกทีละคนจนครบ พร้อมทั้งแสตมป์รับรองเอกสารในส่วนของที่ต้องถ่ายเอกสารทั้งหมดครับ) หลังจากที่เจ้าหน้าที่รับเอกสารเราไปทั้งหมดแล้ว เราก็ต้องไปจ่ายเงินเพื่อรอสัมภาษณ์ครับ
         *เอกสารของภรรยาผมไม่มีปัญหาอะไร แต่เอกสารผมมีปัญหาเพราะหนังสือรับรองความประพฤติของกรมตำรวจที่สิงคโปร์ไม่ตรงกับข้อมูลที่ผมกรอกไว้ในส่วนของ DS260 ดังนั้นเจ้าหน้าที่จึงทักท้วงเรื่องนี้ตั้งแต่แรกเลย ในส่วนนี้ผมพยายามอธิบายและยื่นหลักฐานประกอบแนบไปด้วยแต่ทางเจ้าหน้าที่ได้แต่ตอบว่าเข้าใจ แต่จะยึดหลักตามเอกสารหลักที่ยื่นเข้าไปเพียงเท่านั้นครับ (แต่มีวิธีแก้ไข...อ่านต่อด้านล่างนะครับ)

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่