เภสัชกรชำแหละ.....ธุรกิจเครือข่าย

ผมมีโอกาสอ่านกระทู้เกี่ยวกับธุรกิจเครือข่าย  แล้วรู้สึกเห็นใจคนจำนวนมากที่มีประสบการณ์ที่ไม่ดีกับธุรกิจขายตรงหรือเครือข่าย  ผมจึงอาสามาชำแหละธุรกิจเครือข่าย  
                  ผมเป็นเภสัชกรลาออกจากงานในต่ำแหน่ง ผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อกลางเครือรพ.เอกชนระดับต้นๆของประเทศไทยในปีพ.ศ.๒๕๔๔    เหตุผลคือเครียดจนนอนไม่หลับเบื่อหน่ายกับเรื่องการเมืองภายในองค์กร  หลังจากออกจากงาน
                  ช่วงสามปีแรกเข้าไปเป็นที่ปรึกษาบริษัทเครือข่ายของคนไทยแห่งหนึ่งด้านสุขภาพ(ปัจจุบันบริษัทนี้ปิดตัวเองไปแล้วหลังเปิดดำเนินการได้สิบปี)  ผมไม่ทำธุรกิจแต่ให้คำปรึกษาด้านผลิตภัณฑ์ ทำให้ผมต้องหันมาศึกษาหาความรู้ด้านสารอาหาร ศาสตร์ด้านธรรมชาติบำบัด(มีประโยชน์มากในการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม สามารถเพิ่มขีดความสามารถของการแพทย์แผนปัจจุบันได้ถ้านำมาใช้ผสมผสานในการรักษาโรคและในเชิงป้องกันการเจ็บป่วย) พร้อมกับศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับธุรกิจเครือข่าย...
                  ประเด็นสำคัญที่สุดจากประสบการณ์ของผมคือคนทั่วไปไม่สามารถแยกแยะระหว่างธุรกิจเครือข่ายกับแชร์ลูกโช่........ซึ่งเป็นธุรกิจผิดกฏหมาย
                  หลักการสังเกตุแชร์ลูกโซ่...
                  ๑ ไม่มีสินค้าและบริการจริงเป็นการระดมเงิน.. หรือมีสินค้าแต่ราคาสินค้าแพงไม่สามารถแข่งขันได้ในตลาดและไม่มีผู้บริโภครองรับ  ตั้งราคาแพงๆเพื่อระดมเงินเป็นหลัก ใช้หลักการแก็งตกทองจะมีนักต้มตุ๋นมาพูด.....พูด...จนท่านเคลิ้มว่าจะรวยได้อย่างง่ายดาย....  โชว์ตัวอย่างความสำเร็จ(อวดความร่ำรวย)กระตุ้นให้ท่านเกิดความโลภ (เห็นข่าวถูกหวยแจ๊คพอตอยากรวยแบบเขาบ้าง)  หลังจากนั้นเขาก็จะให้ท่านล่วงเงินหรือบัตรเครดิตจากกระเป๋ามักจะให้ท่านซื้อสินค้าเรือนหมื่นหรือหลายหมื่น ยิ่งซื้อมากยิ่งรวยมาก...หลายแห่งซื้อเพียงครั้งเดียวก็พอ...เขาหลอกคนได้แค่หลักพันคนผู้ก่อการก็รวยมากแล้ว กฏข้อที่๑อย่าให้ความโลภเข้าครอบงำ ใครโลภจะโดนก่อน....อย่าโลภ...อย่าโลภคาถาป้องกันแชร์ลูกโซ่
                  ๒ แผนการตลาดหรือกฏการจ่ายผลตอบแทน เป็นลักษณะกินหัวคิว...เกิดการเอารัดเอาเปรียบ...จ่ายเกินจริง(over pay)บริษัทจะต้องปิดตัวในระยะไม่เกินสิบปี(ปัจจุบันแชร์ลูกโซ่ถูกพัฒนาให้เนียนขึ้นมาก)  เจ้าของบริษัทมักวางแผนปิดตัวเองเมื่อระดมเงินได้ตามเป้าหมาย....
                  ๓ พวกหากินกับการขายสื่อต่างๆและการอบรมสัมนาระดมเงิน...จากความไม่รู้ของผู้คน...
                  ๔ แชร์ลูกโซ่ไม่ยั้งยืนและไม่เคยมีตัวอย่างความสำเร็จที่ถูกต้อง
                  ๕ ดูตามข้อกฏหมายบริษัทจดทะเบียนถูกต้องหรือไม่ ผ่าน สคบ.หรือเปล่ามีสำนักงานที่มีหลักแหล่งประวัติผู้บริหารและผู้นำในธุรกิจมีความน่าเชื่อถือหรือไม่   ผู้นำมีการย้ายค่ายตลอดเหมือนเจ้าไม่มีศาลหลอกหลอนคนไปทั่วหรือไม่...ต้องพิจารณา ผมให้หลักการพอสังเขป....
                  ข้อเสียของธุรกิจเครือข่าย
                   ๑ มีแชร์ลูกโซ่แฝงตัวเข้ามากและทำความเสียหายให้กับคนจำนวนมากเจ้ากน้าที่ภาครัฐมีน้อยดูแลไม่ทั่วถึง เกิดกรณีวัวหายล้อมคอกเป็นประจำเกิดซ้ำซาก   สร้างความเสียหายให้กับคนจำนวนมากเนื่องจากไม่รู้เท่าทันพวกมิจฉาชีพทางเศรษฐกิจ
                   ๒ ไม่มีการคัดเลือกคนที่เข้ามาในธุรกิจนี้ให้ทำธุรกิจอย่างมืออาชีพ คนหลายไม่ยอมเรียนรู้พัฒนา  บางคนเอาแต่ตื้อ ง้อ ละเมิดความเป็นส่วนตัวของผู้อื่น กดดันเพื่อนจนทำให้เสียสายสัมพันธ์ และเกิดความไม่สบายใจในหมู่ญาติและเพื่อน  ทำให้คนขยาดเมื่อพูดถึงเครือข่าย
                   ๓ มีการผลักดันตลาดให้เกิดการบริโภคสินค้าเกินความจำเป็น
                   ๔ คนจำนวนมากไม่เข้าใจและเกิดทัศนคติเชิงลบต่อธุรกิจนี้ ปัจจุบันธุรกิจออนไลน์หลายๆอย่าง ก็เอาหลักการLeverageของธุรกิจเครือข่ายไปใช้
              ข้อดีของธุรกิจเครือข่ายที่ถูกต้อง
               ๑ เป็นโอกาสที่จะสร้างผู้ประกอบการรายเล็กรายน้อยและคนที่อยากจะเริ่มต้นโดยมีความเสี่ยงน้อย อย่างเท่าเทียม ไม่จำกัดวุฒิการศึกษา ไม่มีเส้นสายไม่มีการเมือง   ความสำเร็จขึ้นกับผลงานเป็นเกณฑ์
               ๒ ไม่ต้องมีทุนมากๆ ผมเริ่มต้นธุรกิจด้วยเงินทุนหมุนเวียนเพียง๕พันบาท
               ๓ ไม่ต้องมีความรู้รู้หรือประสบการณ์มาก่อน   แต่ท่านต้องมาเรียนรู้พัฒนาตนเองให้เป็นมืออาชีพถ้าต้องการสำเร็จ โดยเฉพาะการพัฒนาด้านความคิด
               ๔ มีผู้ประสบความสำเร็จมาแบ่งปันให้คำปรึกษาในการทำธุรกิจ
               ๕ เป็นระบบธุรกิจหุ้นส่วนที่ยุติธรรมไม่ต้องทะเลาะกันเรื่องผลประโยชน์ ทุกคนจะได้ผลตอบแทนตามผลงานภายใต้กติกาเดียวกัน
               ๖ ถ้าประสบความสำเร็จในระดับสูง รายได้สูงมาก มีเวลามาก  รายได้ไม่มีเพดานขึ้นกับผลงาน และส่งต่อเป็นมรดกได้
               ๗ หากมหาชนมีความเข้าใจในธุรกิจเครือข่ายอย่างถูกต้อง  จะมีการขยายตัวของระบบนี้โดยตัดระบบพ่อค้าคนกลางออกและจะเป็นธุรกิจแห่งศตวรรษที่๒๑
              หลักการเลือกธุรกิจเครือข่ายตามมุมมองของผม
                  ๑ สินค้าและบริการมีตลาดรองรับ มีความจำเป็นด้วยยิ่งดี คุณภาพกับราคาสามารถแข่งขันในตลาดหมวดนั้นๆได้ เพราะธุรกิจเครือข่ายเป็นการเคลื่อนสินค้าและบริการเข้าสู่ตลาดโดยตัดระบบพ่อค้าคนกลางออกแต่จ่ายผลประโยชน์ให้นักการตลาดเครือข่ายแทน
                  ๒ผู้บริหารต้องมีคุณธรรมเป็นมืออาชีพจะมีผลต่อความมั่นคงของธุรกิจ มีพันธะสัญญา ไม่เปลี่ยนแปลงแผนการตลาดบ่อยๆ ไม่เอาเปรียบนักการตลาด
                  ๓ แผนการตลาดเป็นไปได้ในการสร้าง ไม่ยากจนเกินไปเป็นธรรมไม่กินหัวคิว มีตัวอย่างความสำเร็จ
                  ๔ มีระบบสนับสนุนในการทำธุรกิจ มีการอบรมสัมนาที่ไม่เก็บค่าใช้จ่ายสูงเกินไป
                  
                
               ในโลกของความเป็นจริงไม่มีอะไรได้มาง่ายๆ ทุกความสำเร็จเกิดจากการเรียนรู้ ลงมือทำ ฝ่าฟันอุปสรรค ปรับปรุงพัฒนาตนเอง จนมีสติปัญญา เกิดผลสำเร็จ ผมได้สัมผัสในธุรกิจเครือข่ายที่คลุกคลีมา ๑๕ปี อยากแบ่งปันมุมมองของธุรกิจเครือข่ายจากคนที่ประสบผลสำเร็จจำนวนไม่มาก ซึ่งก็ไม่แตกต่างจากธุรกิจอื่นๆที่มีผู้ประผลสำเร็จไม่เกิน20%(จากประประสบการณ์ผมคนส่วนใหญ่80%ขาดวินัย  ขาดความอดทน  ไม่มีความพยายามที่จะเรียนรู้ในการแก้ปัญหา)และสำเร็จมากไม่เกิน4% ซึ่งเป็นไปตามกฏ 80:20 ครับ ยินดีรับฟังและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเป็นกระทู้แรกในพันทิป มีผิดพลาดประการใดขออภัยมาณ.โอกาสนี้
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่