ทำไมผมถึงรู้สึกว่าผู้หญิงสมัยนี้ เปิดใจให้คนเลวๆเข้ามาในชีวิตง่ายกว่าคนดีๆ

ก่อนอื่นต้องขอบอกไว้ก่อนว่าผมเข้าใจนะว่าไม่ว่าใครก็อยากให้คนดีๆเข้ามาในชีวิตแหละ แต่เท่าที่สังเกตดูจากคนรอบตัว คนที่เคยคบหากันมา รวมถึงจากการอ่านกระทู้ต่างๆในเน็ท มันทำให้ผมรู้สึกว่าผู้หญิงสมัยนี้มีปัญหาในการเปิดใจให้คนดีๆ แต่กลับเปิดใจง่ายเหลือเกินให้คนผู้ชายเลวๆ ทั้งๆที่จริงๆแล้วผู้หญิงไทยนี่แทบจะเรียกได้ว่าเลือกมากที่สุดในโลกแล้วมั้ง อันนี้ผมเทียบเอาจากการพูดคุยกับผู้หญิงต่างชาติ และคุยกับคนต่างชาติที่เคยได้จีบสาวไทย คือผู้หญิงไทยจะสร้างกำแพงเก่งมาก เข้าหายากมาก แต่ถ้าคนที่รู้วิธีเข้า เข้าได้แล้วก็สบาย จะทำอะไรก็ได้ทั้งนั้น ต่างกับหญิงต่างชาติหลายๆชาติที่เขาเข้าถึงง่าย แต่พอเข้าไปแล้วเขาจะค่อนข้างละเอียดกว่าเราในการเลือกคนเป็นแฟน คือถ้าคุณเลือกตัดสินคนแค่จากโมเมนต์แรกที่คุยกัน มันก็ตัดสินคนได้แค่เปลือกนอก แต่ถ้าคุณปล่อยให้เขามีโอกาสแสดงตัวตนออกมาให้คุณเห็นบ้าง มันจะทำให้คุณได้เห็นอะไรหลายๆอย่างในตัวเขามากขึ้น อัตราความสำเร็จในการเลือกคนที่ดีเหมาะกับใจของคุณก็จะมากขึ้นตามไปด้วย คือการที่คนเขาจะเข้ามาในชีวิตเราให้เราได้เรียนรู้ได้นั้น ไม่จำเป็นต้องเป็นแฟนกันก่อนนะครับ เป็นเพื่อนเป็นอะไรกันไปก่อนก็ได้ ลองทำกิจกรรมต่างๆร่วมกันบ้าง ไม่ใช่คุยผ่านแชทอย่างเดียวก็มาตัดสินว่าชอบไม่ชอบ ดีไม่ดี แบบนี้ทำให้คนเจ็บมาหลายคนแล้ว

เท่าที่สังเกตมาผู้หญิงสมัยนี้จะกลัวมากกับการโดนจีบตรงๆ ไม่เข้าใจเหมือนกันทำไมต้องกลัวขนาดนั้น ชอบให้หยอด ชอบให้หว่าน ค่อยๆตีเนียนแทะโลมไปเรื่อย กลายเป็นการคบกันแบบไม่มีสถานะ ผู้ชายคนไหนคารมดี คอยหยอด คอยอ่อยสม่ำเสมอ มักจะจีบผู้หญิงติดได้สบายๆ จีบได้หลายๆคน แม้ว่าบางทีการที่มันอ่อยนั้นมันไม่ได้ทำกับผู้หญิงคนเดียวด้วยซ้ำ คือทำหลายคน สลับสับรางเวียนกันไป แต่ไม่ให้ผู้หญิงรู้ กลับกลายเป็นผู้ชายที่ดูไม่น่าเบื่อ ในขณะผู้ชายที่เข้าหาแบบตรงๆ เปิดเผย และจริงใจ ชอบก็บอกว่าชอบตรงๆ จะจีบก็ขอจีบตรงๆ ส่วนใหญ่เป็นได้แค่เพื่อนหรือพี่ชาย ทั้งที่จริงๆผมว่าพวกนี้เขาให้เกียรติ์ผู้หญิงที่เขาชอบมากนะ มีการขออนุญาตก่อน ถ้าจีบได้จะจีบคนเดียวไม่ต้องยุ่งกับคนอื่นอีก ถ้าจีบไม่ได้ก็แยกย้ายไปหาคนใหม่ต่อไป คือถ้าคุณเองก็ไม่ชัดเจนกับอีกฝ่าย ปล่อยตัวเองว่างให้คนอื่นเข้ามาจีบได้ แล้วทำไมไม่คิดบ้างว่าผู้ชายที่เขาเข้ามาอ่อยมาหยอดคุณอยู่นั้นเขาเองก็พร้อมที่จะปล่อยตัวเองให้ว่างสำหรับคนอื่นหลายๆคนเช่นกัน จะเห็นตัวอย่างได้บ่อยเลยพวกกระทู้ที่มาบ่นประมาณว่า "ทำไมผู้ชายมาหยอดแล้วไม่เอา" "ทำไมผู้ชายชอบเป็นแค่คนคุย" "ทำไมผู้ชายคบๆไปแล้วไม่ทำอย่างที่พูด" ที่หนักหน่อยคือคบเป็นแฟนกันยืดยาว จะแต่งงานกันอยู่แล้ว พึ่งจะมารู้สึกตัวว่าผู้ชายที่คบอยู่ไม่ได้เรื่อง ไม่เอาการเอางาน เป็นผู้นำครอบครัวไม่ได้ ทั้งๆทีมีโอกาสให้ดูใจกันตั้งนาน ทำไมพึ่งมารู้สึก ที่ผ่านมาวัดค่าของคนที่คำพูดมากกว่าการกระทำหรือ ?

สมัยก่อนผมเคยคิดนะว่าผู้หญิงไทยชอบคนที่หน้าตาหรือฐานะ แต่จากที่ดูจากคนรอบตัวทุกวันนี้ ผมว่ามีแต่ผู้หญิงเด็กๆเท่านั้นแหละที่หลงผู้ชายแบบนั้น ซึ่งต้องยอมรับว่าผู้หญิงที่มองหาผู้ชายแบบนั้นเขาก็วินๆของเขานะ ถ้าได้คนหล่อและรวยที่ดีด้วยก็โชคดีเลยแหละ แต่ที่เป็นปัญหาจริงๆที่เห็นกันได้บ่อย คือผู้ชายไม่ได้หล่อ ไม่ได้รวย นิสัยไม่ดี ไม่มีอะไรดีเลย มีแต่คารม แต่กลับมีผู้หญิงมาหลง ให้มันหลอกเป็นแมงดาได้ก็มี ถามว่าพวกนี้มีดีอะไรก็คารมล้วนๆ พูดเก่ง โม้เก่ง โกหกเก่ง ผู้หญิงชอบกว่าพวกที่พูดตรง พูดความจริง พูดมีสาระ

ส่วนตัวผมมองว่าผู้ชายที่เขารักใครรักจริง มันไม่ค่อยอยากเสียเวลามาคอยหยอด คอยจีบกันหรอก อย่าลืมนะครับ ไม่ว่าผู้ชายหรือผู้หญิงก็เหอะ ถ้ามันรักใครขึ้นมาจริงๆ มันจะคิดถึงแต่ว่าอยากจะทำให้อีกฝ่ายมีความสุข อยากดูแลห่วงใยในสวัสดิภาพของอีกฝ่าย ก็เหมือนตอนผู้หญิงรักใครแล้วคอยจู้จี้จ้ำไชจนผู้ชายรำคาญนั่นแหละครับ ไม่ใช่แค่คอยส่งข้อความเสี่ยวๆให้เขาตกหลุมรัก เพื่อหวังอะไรบางอย่างจากตัวเขา ผู้ชายเราไม่ได้มีสัญชาตญาณการเข้าใจผู้หญิงมาตั้งแต่เกิดหรอกครับ ไม่ใช่เกิดมาแล้วจีบสาวเป็นตั้งแต่เด็กเลย ทักษะพวกนี้มันเกิดมาจากการฝึกฝน ต้องซ้อม ทดลองจีบผู้หญิงหลายๆคนมาจนชำนาญ คือถ้าจะบอกว่ามันเป็นความผิดของผู้ชายดีๆที่จีบไม่เก่งเอง ถึงต้องกลายเป็น loser ไป มันก็น่าคิดเหมือนกันว่าจะให้ผู้ชายดีๆ ไปฝึกจีบผู้หญิงที่ไหนก่อนเหรอครับ ถึงจะได้สมหวังกับคนที่รัก ถ้าไปหยอดไปจีบคนที่ไม่รักแล้วดันติดขึ้นมาก็ต้องทิ้ง แล้วมันจะต่างอะไรกับผู้ชายแย่ๆที่ผ่านเข้าไปในชีวิตคนนึง

ผู้หญิงบางคนก็มักจะโทษเหมารวมผู้ชายสมัยนี้ว่าเลว ไม่จริงใจ  ทั้งๆที่ผู้ชายดีๆจริงใจ และยังโสดก็มีเยอะแยะไป เพียงแต่เขาไม่มีโอกาสได้เข้าถึงจุดที่จะแสดงความดีความจริงใจให้คุณได้เห็นเท่านั้นเอง ส่วนผู้ชายแย่ๆบางคน มีโอกาสพิสูจน์ตัวเองกับผู้หญิงมากี่คนต่อกี่คนก็ไม่รู้ แต่กลับมาโอกาสได้พิสูจน์ตัวเองต่อไปเรื่อย มันน่าตลกดีนะที่ผู้ชายดีๆจะต้องมาโดนเหมารวมไปด้วย ทั้งๆที่บางคนเขายังไม่เคยคิดจะทำให้ผู้หญิงคนไหนเสียใจเลยสักนิด คือเอาจริงๆแล้วผู้ชายสมัยนี้ไม่ได้เลวลงหรอกครับ คนดีคนเลวมันก็มีจำนวนเท่าๆเดิม นั่นแหละ เพียงแต่เป็นผู้หญิงเองต่างหากที่เปิดโอกาสให้ผู้ชายเลวๆเข้าถึงได้ง่ายกว่า คือต่อให้ผู้ชายเลวมันเยอะจริง ถ้าคุณไม่เปิดโอกาสให้มันเข้ามา มันก็ทำอะไรคุณไม่ได้หรอก เช่นเดียวกันกับคนดีๆ ถ้าคุณไม่เปิดโอกาสให้เขาเข้ามา เขาก็ไม่มีทางได้มอบสิ่งดีๆในตัวเขาให้คุณได้เห็นได้เช่นกัน จริงไหมครับ

สิ่งที่ผมพูดไปอาจจะใช้ไม่ได้กับผู้หญิงทุกคนนะ คนที่โชคดี เจอคนที่จีบเก่งและดีด้วยก็มี หรือบางคนโชคดีกว่าคือได้เจอผู้ชายเจ้าชู้กลับใจได้ก็ยินดีด้วยครับ แต่ผมว่าตราบใดก็ตามที่ยังเห็นผู้หญิงรอบตัว ยังมีดราม่าความรักประมาณนี้ให้เห็นอีกมันก็ปฏิเสธได้ไม่เต็มปากหรอกครับว่าสิ่งที่ผมพูดไปไม่เป็นจริง หากใครที่คิดว่าชีวิต ณ ตอนนี้ หรือที่ผ่านมาไม่เคยได้เจอคนดีๆสักที อยากให้ลองเปลี่ยนความคิดกันดูบ้างครับ ลองเปิดโอกาสให้คนที่คุณมองข้ามไปได้ลองเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตคุณบ้าง ไม่จำเป็นต้องรีบเป็นแฟนก็ได้ แค่ให้เขาอยู่ในจุดที่คุณสามารถมองเห็นสิ่งดีๆในตัวเขาได้มากขึ้น ไม่ใช้อคติวัดคนตั้งแต่ต้น มันอาจจะช่วยให้คุณได้พบรักแท้ที่มองข้ามมาตลอดก็ได้ครับ เรื่องความรักมันเป็นเรื่องของใจ แต่รักที่ดี มันต้องใช้สมองไปคู่กันด้วย
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่